13 เรื่องประทับใจ ปฏิบัติการช่วย 13 ชีวิตทีมหมูป่า

เชียงราย 11 ก.ค.-ล้านภาพที่ควรแก่การจดจำและเป็นบทเรียนของปฏิบัติการกู้ชีพในถ้ำครั้งประวัติศาสตร์ของโลก ที่มีคนนับหมื่นคนร่วมกันทำงานภายในเวลา 17 วัน จนประสบความสำเร็จด้วยดี สำนักข่าวไทยรวบรวมล้านเรื่องราวมาอยู่ในประมวล 13 เรื่องน่าประทับใจในปฏิบัติการช่วย 13 ชีวิตหมูป่า ติดตามจากรายงาน


มีหลายเรื่องน่าประทับใจที่เกิดขึ้นในปฏิบัติการช่วย 13 ชีวิตทีมหมูป่าอคาเดมี ที่ติดอยู่ในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย ตั้งแต่นาทีแรกของการพบอุปสรรค ความพยายามแก้ปัญหา การระดมสมองจนก่อเกิดเป็นแผนงานและการปฏิบัติ และความสำเร็จในนาทีสุดท้ายที่ช่วยชีวิตทุกคนออกมาได้อย่างปลอดภัย


เรื่องน่าประทับใจแรก คือ บทบาทของนายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้บัญชาการเหตุการณ์ ศอร. บุคลิกผู้นำ ตัดสินใจเด็ดเดี่ยวกล้าหาญ ความเชี่ยวชาญหลายสาขา เช่น การปกครอง และวิศวกรรมโยธา และเครือข่ายที่เขาประสานขอความช่วยเหลือเข้ามายังพื้นที่ ทำให้ปฏิบัติการประสบผลสำเร็จ

อุปสรรคที่ต้องทำแข่งกับเวลาคือเรื่องน้ำในถ้ำ เรื่องน่าประทับใจจึงมีต่อทีมงานทุกชีวิตที่ช่วยกันเร่งระดมสูบน้ำในถ้ำ ท่อน้ำ ท่อซิ่ง ขุดบ่อบาดาล เบี่ยงทางน้ำ ผันน้ำและทุกวิถีทางเพื่อลดระดับน้ำในถ้ำ ให้เอื้อต่อการทำงานของนักดำน้ำและหน่วยซีล


ความประทับใจในความมุ่งมั่น ค้นหาปล่อง หรือโพรงด้านบนเขา ที่อาจมีช่องทางให้เจ้าหน้าที่โรยตัวลงไปช่วยทีมหมูป่า ทหาร ตำรวจ กู้ภัย ทีมเก็บรังนก อาสาสมัคร หลายชีวิต ปีนเขาสูงชันนำอุปกรณ์เครื่องจักรกลหนัก หาช่องทางความเป็นไปได้ในการเจาะผนัง หรือหาปล่องโพรงที่มีมากมาย

ความประทับใจต่อแรงศรัทธาที่มีต่อ “ครูบาบุญชุ่ม” ที่คนในพื้นที่เคารพบูชา ท่านมาประกอบพิธีกรรมที่ถ้ำหลวง อธิษฐานจิต และบอกว่า 13 ชีวิตยังปลอดภัย อีกสองวันจะพบตัว แล้วก็เป็นจริงตามนั้น สร้อยข้อมือสายสิญจน์ พระพิมพ์ครูบา สร้างกำลังใจยิ่งใหญ่

ความประทับใจต่อทีมงานด้านในถ้ำ กำลังพล และอาสาสมัคร ลุยน้ำสูง ลุยโคลน ปีนป่าย แบกถังอากาศน้ำหนักถังละ 10 กว่ากิโลกรัม ส่งต่อให้เจ้าหน้าที่หน่วยซีลดำน้ำเข้าไปวางเรียงไว้ตามผนังถ้ำทุก 25 เมตร และวางแนวเชือก เพื่อให้พร้อมใช้ในวันปฏิบัติภารกิจสำคัญ

ความประทับใจต่อทีมนักดำน้ำจากหลายชาติ โดยเฉพาะทีมกู้ภัยในถ้ำ นักดำน้ำจากอังกฤษ 2 คน ถือเป็นกองหน้าของทีมค้นหา จนในที่สุดเขาพบทีมหมูป่าอยู่ลึกจากหาดพัทยาเข้าไปตรงบริเวณที่เรียกเนินนมสาว การถามตอบสั้นๆ แต่ได้ใจความผ่านคลิป ช่วยยืนยันว่าทุกคนปลอดภัย สร้างความดีใจให้คนทั้งประเทศ

ความประทับใจต่อจิตอาสาที่พร้อมจะช่วยภารกิจ เมื่อมีการร้องขอสิ่งของจำเป็น ไม่นาน สิ่งของเหล่านั้นถูกส่งมาหน้าถ้ำ หน้ากากฟูลเฟซ เพื่อให้หายใจทางจมูกระหว่างดำน้ำ อาหารเหลวพลังงานสูง ของสำคัญหลายรายการ อาหารทีมงาน บริการการแพทย์ ไม่เว้นแม้ชาวนาเชียงรายที่ยอมเสียสละให้ระบายน้ำเข้าท่วมนาข้าว  เพื่อช่วยชีวิตลูกหลานของพวกเขา

จิตอาสาคนสำคัญ “จ่าแซม” จ.อ.สมาน กุนัน อดีตเจ้าหน้าที่หน่วยซีล ซึ่งทำงานประจำท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จ่าแซมลางาน มาที่ถ้ำหลวง เพราะมุ่งมั่นที่จะเข้าไปช่วยชีวิตทีมหมูป่า จ่าแซมหมดสติในน้ำขณะดำน้ำลำเลียงถังอากาศเข้าไปด้านใน เป็นความประทับใจต่อความเสียสละที่ยิ่งใหญ่

เมื่อ 13 ชีวิต หมูป่าติดถ้ำเป็นเรื่องที่พวกเขาประสบภัย เป็นปรากฎการณ์ครั้งสำคัญของโลก เพราะความยากลำบากในการกู้ภัยในถ้ำ เรื่องน่าประทับใจจึงเกิดขึ้น เมื่อทีมนักดำน้ำรวมดาวกู้ภัยระดับโลกมารวมตัวกันที่ถ้ำหลวง ผลัดเปลี่ยนกันดำน้ำแบบสหประชาชาติ ไปช่วยชีวิตทีมหมูป่า และทำงานร่วมกับทีมไทย

แม้ยังไม่เห็นตัวจริง แต่จดหมายน้อย ลายมือของทุกคนส่งฝากนักดำน้ำออกมา สร้างความประทับใจจากข้อความสั้นๆ ที่ว่าแต่ละคนสบายดี คิดถึงบ้าน ไม่ต้องเป็นห่วง อยากทานอาหารโปรด ส่วนโค้ชเอกขอโทษผู้ปกครองของเด็กๆ ขอบคุณทุกกำลังใจ สร้างรอยยิ้มให้กองเชียร์ทีมหมูป่า

ความประทับใจต่อความช่วยเหลือด้านเทคโนโลยีของหลายฝ่ายรวมทั้ง อีลอน มัสก์ มหาเศรษฐี เจ้าของเทคโนโลยีและความคิดสุดล้ำ โดยทีมงานสเปซ เอ็กซ์ สร้างเรือดำน้ำจิ๋วขึ้นมาเพื่อการณ์นี้ ตั้งชื่อว่า Wild Boar หรือหมูป่า เด็กๆ เพียงแค่นอนนิ่งๆ ให้นักดำน้ำหิ้วออกมา เพราะมันมีน้ำหนักเบามาก แม้นวัตกรรมนี้จะยังไม่ได้ใช้งาน แต่มันจะยังอยู่ในประเทศไทย

ความประทับใจต่อปฏิบัติการดำน้ำช่วยทีมหมูป่า เวลาดำน้ำไปและกลับประมาณ 11 ชั่วโมง นักดำน้ำ 2 คน ต่อหมูป่า 1 คน พวกเขาจะมีถังอากาศติดตัว พาน้องผ่านเส้นทางยาวไกล มีเจ้าหน้าที่เทคนิคประจำตำแหน่ง ซักซ้อมแผนกันก่อนหลายวัน และปิดช่องโหว่ จนทำให้ปฏิบัติการช่วยชีวิตทีมหมูป่า 3 วัน ประสบผลสำเร็จอย่างน่าทึ่ง โดยหมอภาคย์และทีมซีลรวม 4 คน ออกมาเป็นชุดสุดท้าย เสียงปรบมือชื่นชมดังทั่วโลก

ความประทับใจเรื่องที่ 13 เกิดขึ้นเมื่อ 13 ชีวิตได้รับการช่วยชีวิตออกมาจากถ้ำหลวงได้อย่างปลอดภัยทุกคน ขั้นตอนต่อไปคือ การฟื้นฟูร่างกายและจิตใจให้พวกเขากลับมาแข็งแรง มันคือบทเรียนและประสบการณ์นอกสนามสำหรับทีมหมูป่า คือ บทเรียนและประสบการณ์ล้ำค่าของทีมช่วยชีวิตทั้งในถ้ำและนอกถ้ำทุกคน ที่ได้ช่วยกัน ปฏิบัติการกู้ภัยในถ้ำที่ยากที่สุดครั้งหนึ่งของโลก.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

“ขัตติยา” ชี้ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก.

กทม. 10 ส.ค.-“ขัตติยา” สส.เพื่อไทย ชี้โพลฯ ประชาชนเชื่อมั่นกองทัพสูง แต่ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก. น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อและรองโฆษกพรรคเพื่อไทย โพสต์ X ถึงผลสำรวจล่าสุดของนิด้าโพล ที่ให้ความไว้วางใจกองทัพสูงกว่ารัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศ ว่าอยากชวนมองภาพให้ครบว่า ทุกหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง ล้วนทำงานร่วมเป็นทีมเดียวกัน ภายใต้ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ ศบ.ทก. ศูนย์นี้จัดตั้งขึ้นตั้งแต่เดือนมิถุนายน โดยรวมเอาหลายภาคส่วนเข้ามาทำงานร่วมกัน ทั้งกระทรวงกลาโหม สภาความมั่นคงแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงแรงงาน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักข่าวกรองแห่งชาติ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และผู้บัญชาการทหารบก ทุกฝ่าย คือทีมไทยแลนด์ ที่แบ่งบทบาทหน้าที่และประสานงาน เพื่อเป้าหมายเดียวกัน คือ การรักษาอธิปไตยของประเทศ และปกป้องความปลอดภัยของชีวิตประชาชน แม้กองทัพจะมีบทบาทสำคัญเป็นด่านหน้าในพื้นที่ชายแดน แต่ก็ไม่ได้ทำงานแยกเดี่ยวหรือเป็นอิสระจากภาคส่วนอื่นๆ หากทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับทุกหน่วยงานภายใต้ร่มของ ศบ.ทก. ในสถานการณ์ที่ท้าทายเช่นนี้ ไม่มีหน่วยงานใดสามารถทำงานบรรลุเป้าหมายได้เพียงลำพัง ความสำเร็จต้องเกิดจากการร่วมแรงร่วมใจของทุกภาคส่วน.-314.-สำนักข่าวไทย

วันแม่แห่งชาติ ขึ้นทางด่วนฟรี 𝟯 สายทาง

กทม. 9 ส.ค.-วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2568 กทพ. แจ้งยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษรวม 𝟯 สายทาง ดังนี้ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร จำนวน 𝟮𝟭 ด่าน ทางพิเศษศรีรัช จำนวน 𝟯𝟮 ด่าน และทางพิเศษอุดรรัถยา จำนวน 𝟭𝟬 ด่าน นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลประกาศให้วันจันทร์ ที่ 11 สิงหาคม 2568 เป็นวันหยุดพิเศษ ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่องกันรวม 4 วัน (9-12 สิงหาคม 2568) เพื่อให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์สถานการณ์ “คนไทย” เดินทาง “ท่องเที่ยวภายในประเทศ” วันหยุดยาวช่วงวันแม่แห่งชาติ ระหว่างวันที่ 9-12 สิงหาคม 2568 จะสร้างรายได้สะพัดทั่วประเทศ 13,750 ล้านบาท […]

“มาริษ” แจงโทรเคลียร์ รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ปมถูกบิดเบือนคำพูด

สุรินทร์ 9 ส.ค. – “มาริษ” แจงโทรเคลียร์ “วิเวียน” รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ถูกบิดเบือนคำพูด ย้ำไม่ได้วิจารณ์เชิงลบ แต่ห่วงภาวะผู้นำทำงานได้ไม่เต็มที่เพราะมีอุปสรรคขัดขวาง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีบางสื่อบิดเบือนคำพูดของนายวิเวียน บาลากริชนิน (Vivian Balakrishnan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ ซึ่งตนไม่สบายใจตั้งแต่ต้น และได้สะท้อนไปว่าการแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้มักจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และจะมีคนเอาคำพูดท่านไปใช้ประโยชน์ในการโจมตีทางการเมือง นายมาริษ เปิดเผยว่า ได้คุยโทรศัพท์กับนายวิเวียน เพื่อแสดงความห่วงกังวล เขายอมรับแล้วอนุญาตให้ช่วยชี้แจง อธิบายกับสื่อมวลชนที่เป็นสื่อหลัก เพราะข้อความที่แปลผิดได้แพร่สะพัดอยู่ในโซเชียลมีเดีย “นายวิเวียนไม่ได้มีความประสงค์ที่จะไปตั้งคำถามในเรื่องภาวะผู้นำของใครทั้งสิ้น เขาเพียงแต่พูดว่าอยากเห็นการทูตทำงานอย่างเต็มที่ เพราะการทูตจะแก้ไขปัญหาได้หากอยู่ในจุดที่สมดุล และเมื่อไรที่ภาวะผู้นำถูกขัดขวาง ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยอะไรก็ตาม มันจะมีผลกระทบให้การแก้ไขปัญหาซับซ้อนมากยิ่งขึ้น” นายมาริษ กล่าว นายมาริษ กล่าวย้ำว่า สิ่งที่นายวิเวียนพูด จะพยายามสื่อสารเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักว่าอยากเห็นผู้นำได้ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีอุปสรรคขัดขวาง ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาลุล่วงไปได้อย่างสมบูรณ์.-319-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดขณะลาดตระเวน สูญเสียขาอีก 1 นาย

12 ส.ค.- ทหารพรานเหยียบทุ่นระเบิด ขณะลาดตระเวนพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม หลังรั้วลวดหนามฝั่งไทย คาดทหารเขมรล่าถอยแล้วฝังทุ่นระเบิดไว้ เมื่อเวลา 09.10 น. รายงานข่าวจากกองทัพพื้นที่สองเปิดเผยว่า ได้เกิดเหตุทหารพราน 2610 เหยียบกับระเบิดขณะทำการลาดตระเวนบริเวณฐานจุ๊บตาโมก ฝั่งตะวันตกของปราสาทตาเมือนธม ซึ่งอยู่ในแนวรั้วลวดหนามของฝั่งประเทศไทย บริเวณพิกัด R51 มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 นาย ทราบชื่อ ส.อ.ธีรพล เพียขันที กรุ๊ปเลือด AB ได้รับบาดเจ็บขาซ้ายขาด ขณะนี้กำลังนำส่งโรงพยาบาล ทั้งนี้ คาดว่าหลังจากเหตุปะทะกันทางทหารกัมพูชาได้ล่าถอยและฝั่งทุ่นระเบิดไว้ก่อนออกนอกพื้นที่เขตประเทศไทย -สำนักข่าวไทย

“แพทองธาร” ปัดตอบกระแสข่าวชิงลาออก บอกสื่อ “คิดถึงนะคะ”

สนามหลวง 12 ส.ค.- “แพทองธาร” ยิ้ม ปัดตอบกระแสข่าวชิงลาออก ก่อนศาลรัฐธรรมนูญตัดสิน บอกสื่อฯ “คิดถึงนะคะ” ภายหลังนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม พร้อมคู่สมรส ร่วมพิธีเจริญพระพุทธมนต์ และทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 12 ส.ค.2568 ณ ท้องสนามหลวง ทันทีที่พบผู้สื่อข่าว นางสาวแพทองธาร หันมาพูดเพียงสั้น ๆ ว่า “คิดถึงนะ” ผู้สื่อข่าวจึงพยายามสอบถามเรื่องกระแสข่าวการลาออกจากตำแหน่ง ก่อนศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำตัดสิน คดีคลิปเสียงสนทนากับ สมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ซึ่งนางสาวแพทองธาร ยิ้มและไม่ตอบคำถาม ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่า มีความเป็นไปได้หรือไม่ หรือสุดท้ายจะอยู่ รวมถึงขอให้ยืนยันว่าจะลาออกหรือไม่ ซึ่งนางสาวแพทองธาร ไม่ได้ตอบคำถาม และเดินทางขึ้นรถทันที.-315 -สำนักข่าวไทย

“ภูมิธรรม” นำทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศล เนื่องในวันแม่แห่งชาติ

สนามหลวง 12 ส.ค.- “ภูมิธรรม” เป็นประธานพิธีเจริญพระพุทธมนต์ และทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา “พระพันปีหลวง” 12 สิงหาคม 2568 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิธีเจริญพระพุทธมนต์ และพิธีทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 12 สิงหาคม 2568 โดยมีประธานองคมนตรีและภริยา คณะองคมนตรีและภริยา ประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกา ประธานองค์กรตามรัฐธรรมนูญ หน่วยราชการในพระองค์ คณะรัฐมนตรีพร้อมคู่สมรส เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ผู้บัญชาการเหล่าทัพและภริยา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและภริยา ปลัดกระทรวงทุกกระทรวง และผู้แทนภาคเอกชน ร่วมพิธี โดยเมื่อนายภูมิธรรม เดินทางถึงปะรำพิธีท้องสนามหลวง สมเด็จพระราชาคณะ พระราชาคณะ จำนวน 10 รูป ขึ้นนั่งอาสน์สงฆ์ นายภูมิธรรม จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย ถวายคำนับและถวายธูปเทียนแพหน้าพระฉายาลักษณ์ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เจ้าหน้าที่อาราธนาศีล สมเด็จพระราชาคณะ พระราชาคณะ จำนวน […]

เตือนทั่วไทยฝนตกต่อเนื่อง ‘ตะวันออก’ หนักสุด

กทม. 12 ส.ค.- กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกต่อเนื่อง เตือนภาคตะวันออกรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย เนื่องจากมีร่องมรสุมพาดผ่านตอนบนของภาคเหนือ ประเทศลาวตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบน มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น “โพดุล” (PODUL) บริเวณมหาสมุทรแปซิฟิก คาดว่าจะเคลื่อนผ่านเกาะไต้หวัน และเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณด้านตะวันออกของประเทศจีนในช่วงวันที่ 13 – 14 ส.ค. โดยพายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย – สำนักข่าวไทย