นายกฯ หวังช่วยทีมหมูป่าอีก 5 คน สำเร็จวันนี้

ทำเนียบฯ 10 ก.ค.- นายกฯ หวังการช่วยเหลือทีมหมูป่าอีก 5 คนที่เหลือ จะสำเร็จในวันนี้ ซึ่งการปฏิบัติการที่ผ่านมาถือเป็นความร่วมมือจากทุกฝ่าย ทั้งคนไทยและต่างชาติ แจงไม่มีการวางยาสลบทีมหมูป่าระหว่างช่วยออกจากถ้ำหลวงฯ  เป็นเพียงการให้ยาคลายเครียด 


ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงการช่วยเหลือทีมหมูป่า จากถ้ำหลวง  ขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย ว่า ในวันนี้จะนำเด็ก ๆ และโค้ช ที่ยังเหลืออีก 5 คนออกจากถ้ำหลวงฯ เชื่อว่าจะสำเร็จเรียบร้อย และคาดว่าอาจใช้เวลาประมาณ 6 ชั่วโมง ซึ่งน้อยกว่าการปฏิบัติการที่ผ่านมา แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะต้องดูสภาพแวดล้อมภายในถ้ำ เพราะฝนยังตกลงมา และต้องดูปริมาณน้ำด้วย ซึ่งความสำเร็จในครั้งนี้เป็นความร่วมมือจากทุกคนทุกฝ่าย ทั้งคนไทยและต่างประเทศ 

“เมื่อวานที่ผมไปเมื่อเจอคนออกมาแล้ว ผมจะต้องไปแสดงตัวเป็นพระเอก ไม่ใช่ ผมต้องการไปขอบคุณคนที่ทำงาน  ผมมีโอกาสพบซีลทุกคนที่ออกมานอกถ้ำ และพบผู้ว่าฯ และทีมงาน ทุกคนได้ถ่ายรูปด้วยกัน แม้การทำงานจะไม่เสร็จสิ้น แต่คาดหวังว่าวันนี้จะเสร็จเรียบร้อยได้ จากที่เหลืออยู่ 5 คน บวกกับซีล 4 คนที่ต้องเป็นคนนำออกมา” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว 


นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการถ่ายทอดองค์ความรู้ของนักดำน้ำชาวต่างชาติ ว่าได้ดำเนินการทุกวัน มีการประชุมร่วมกัน และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ความคิดเห็นตลอดเวลา และหาแนวทางปฏิบัติที่เหมาะสม มาปรับปรุงสอดคล้องกับสถานการณ์จริง และตามสภาพแวดล้อมภายในถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน  ซึ่งถ้ำนี้มีความแตกต่างจากของต่างประเทศ เพราะเมื่อถึงฤดูฝน ถ้ำนี้จะเป็นทางผ่านของน้ำด้วย ซึ่งนักดำน้ำต่างชาติ ยอมรับว่าไม่เคยพบถ้ำในลักษณะนี้มาก่อน และมีช่องทางที่ยากลำบากพอสมควร   นักดำน้ำต่างชาติชื่นชมนักดำน้ำไทยว่ามีประสิทธิภาพ หน่วยซีลของไทยมีความเข้มแข็ง และไม่อยากให้วิพากษ์วิจารณ์ ว่าใครพบเด็กเป็นกลุ่มแรก เพราะการทำงานในการค้นหาก็ทำงานร่วมกันทุกคน ไม่อยากให้มองว่าใครเก่งกว่าใครและต่างชาติยอมรับในฝีมือของไทย 

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ได้ให้กระทรวงการต่างประเทศ ทำหนังสือขอบคุณในนามนายกรัฐมนตรี ไปยังผู้นำแต่ละประเทศ และมอบประกาศนียบัตรให้แต่ละบุคคลที่เข้ามาช่วยเหลือ และหลังเสร็จสิ้นภารกิจได้มอบหมายกระทรวงการต่างประเทศ อำนวยความสะดวกในการเดินทางและการท่องเที่ยวในประเทศด้วย เพราะทุกคนที่มาช่วยไม่ได้ต้องการเรื่องค่าตอบแทนใด ๆ 

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การทำงานต่างๆ ตนไม่จำเป็นต้องลงไปสั่งการเอง เพราะไม่ใช่เป็นเรื่องใหญ่โตระดับประเทศ เช่นเหตุการณ์สึนามิ เพราะเป็นเคส ๆ หนึ่งเท่านั้น ซึ่งตนสามารถมอบหมายกระทรวงมหาดไทยดำเนินการได้ และมีอำนาจสามารถส่งเจ้าหน้าที่ลงไปช่วยเหลือได้ 


พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงแนวทางการฟื้นฟูถ้ำหลวง ว่าจะต้องปรับปรุงถ้ำให้เกิดความปลอดภัย เพราะอนาคตถ้ำหลวงจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง จึงจำเป็นต้องหามาตรการ ทั้งเรื่องการเข้า ออก การแจ้งเตือนต่าง ๆ ต้องมีการติดตั้งระบบไฟฟ้า ระบบคบเพลิง การดูแลความปลอดภัยต่าง ๆ ได้ย้ำเตือนไปกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง  

ส่วนการพบกับนายอีลอน มัสก์ ผู้ก่อตั้งและผู้บริหารบริษัทเทสลา ที่เข้ามาสนับสนุนอุปกรณ์การช่วยเหลือนั้น นายกรัฐมตรี กล่าว ชื่นชมและขอบคุณที่มีการเสนอตัวเข้ามาช่วยเหลือ ซึ่งนายอีลอน ถือเป็นคนหนุ่มที่ประสบความสำเร็จ ในด้านกิจการดาวเทียมและอวกาศ รวมถึงการขุดเจาะ และเมื่อคืนที่ผ่านมาได้พบกับนายอีลอน มัสก์ ที่สนามบินจ.เชียงราย ซึ่งตนได้เล่าถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยนายอีลอน มัสก์ ได้เข้าไปในพื้นที่จริงและยอมรับว่าไม่เคยพบเห็นถ้ำในลักษณะนี้มาก่อน และเรือดำน้ำจิ๋วที่นำมาสนับสนุน ถือว่ามีประโยชน์ที่จะช่วยเหลือคนที่ติดในถ้ำและลำน้ำต่าง ๆ ได้ ซึ่งเครื่องมือนี้เป็นประโยชน์กับไทยมาก เพราะต้องมองเรื่องภัยพิบัติที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตด้วย 

พล.อ.ประยุทธ์ ได้ฝากให้นายอีรอน มัสก์ ช่วยคิดค้นเครื่องมือช่วยเหลือผู้ประสบภัยและการกู้ภัย ซึ่งอาจเป็นเครื่องมือที่นำไปช่วยเหลือในกลุ่มประเทศอาเซียนได้ด้วย พร้อมกันนี้ได้เชิญนายอีรอน มัสก์ มาลงทุนในไทย ซึ่งไทยพร้อมให้การสนับสนุน โดยเฉพาะการลงทุนในอีอีซี นวัตกรรมและดิจิทัล การพัฒนาด้านดาวเทียม เพราะไทยมีแนวคิดสร้างดาวเทียมในอนาคต  และอยากให้นายอีรอน มัสก์ มองว่าไทยเป็นบ้านหลังที่สอง

ส่วนแนวคิดการทำบุญประเทศ  นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทุกส่วนราชการทำบุญมาโดยตลอด โดยเฉพาะการสวดมนต์ที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานให้มีการจัดงานสวดมนต์เป็นประจำทุกเดือน และส่วนตัวได้กราบสักการะพระพรหม สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบรัฐบาล ศาลหลักเมือง และวัดพระศรีรัตนศาสดาราม พระสยามเทวาธิราช  ขอพรให้การทำงานครั้งนี้ประสบผลสำเร็จ และที่สำคัญคือพระบารมีปกเกล้าจากสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  ซึ่งพระองค์ได้ติดตามการทำงานต่าง ๆ และพระราชทานกำลังใจให้ผู้ปฏิบัติหน้าที่ นอกจากนี้ขอฝากให้ทุกคนทุ่มเทแรงกายแรงใจ แรงศรัทธา ให้ผู้ที่ทำหน้าที่ประสบผลสำเร็จ

นายกรัฐมนตรี ยังชี้แจงถึงการช่วยเหลือเด็กออกจากถ้ำว่า ไม่มีการใช้ยาสลบ ตามที่มีการแชร์ในโซเซียล เพราะทุกคนจะต้องเข้าใจว่า การทำงานในทางการแพทย์ ที่จะทำไม่ให้เด็กมีอาการวิตก กังวล หวาดกลัว  หรืออาการ Panic จำเป็นต้องใช้ยาคลายเครียด ซึ่งเป็นยาที่หลายคนใช้อยู่ ซึ่งตามข้อเท็จจริงแล้ว หากมีการวางยาสลบ ไม่สามารถที่จะนำเด็กออกมาได้   ซึ่งทางทหารก็ใช้ในบางกรณี เช่นการยิงปืน ที่ไม่ทำให้ตื่นเต้น เป็นต้น  

“ในการช่วยเหลือนั้น เด็กทุกคนมีสติสัมปชัญญะครบถ้วน และเมื่อคืนนี้ ผมได้เข้าเยี่ยมทั้ง 8 คน ซึ่ง 4 คนแรก สามารถเข้าพบได้ ขณะที่ 4 คนที่ออกมารอบสอง  ยังอยู่ในขั้นตอนการดูแลของแพทย์ เด็กทุกคนยกมือทักทาย และรับปากกับผมว่าจะเป็นคนดี และเป็นนักฟุตบอลทีมชาติให้ได้  ขณะที่ผู้ปกครองต่างดีใจ  ดังนั้นในวันนี้ต้องให้กำลังใจทุกคน อย่าจับผิดว่าใครดี ไม่ดี เก่งหรือไม่เก่ง แต่ควรเตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์ต่าง ๆ ในอนาคตดีกว่า” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว .-สำนักข่าวไทย                  

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ปะทะแล้ว บริเวณปราสาทตาเมือน หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง

สุรินทร์ 24 ก.ค.-ทบ.รายงานเหตุการณ์ปะทะบริเวณพื้นที่ปราสาทตาเมือน อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง เมื่อเช้าวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 เวลา 07.35 น. หน่วยเฉพาะกิจที่ดูแลพื้นที่ปราสาทตาเมือนรายงานว่า ได้ยินเสียงอากาศยานไร้คนขับ (UAV) ของฝ่ายกัมพูชาบินวนอยู่บริเวณหน้าปราสาทตาเมือนธม แม้ไม่สามารถตรวจพบตัวอากาศยานได้ด้วยสายตา แต่สามารถได้ยินเสียงอย่างชัดเจน ต่อมาฝ่ายกัมพูชาได้นำอาวุธเข้าสู่ที่ตั้งบริเวณด้านหน้าแนวลวดหนาม และพบกำลังพลกัมพูชาจำนวน 6 นาย พร้อมอาวุธครบมือรวมทั้ง RPG เดินเข้ามาใกล้แนวลวดหนามบริเวณด้านหน้าฐานปฏิบัติการของไทย ฝ่ายไทยได้ใช้การตะโกนเจรจาเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งและยกระดับสถานการณ์ โดยฝ่ายไทยเฝ้าระวังตลอดแนวชายแดนเพื่อเตรียมรับสถานการณ์ อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาประมาณ 08.20 น. ฝ่ายกัมพูชาได้เปิดฉากยิงเข้ามาบริเวณตรงข้ามฐานปฏิบัติการทางทิศตะวันออกของปราสาทตาเมือน ในระยะประมาณ 200 เมตร ขณะนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกองทัพบกกำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากมีข้อมูลเพิ่มเติมจะรายงานความคืบหน้าให้ทราบต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ กำลังพลเจ็บ 2 นาย

กทม. 24 ก.ค.-ด่วน! เหตุปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ ทบ. เผยทหารกัมพูชา เปิดแนวรบเพิ่มที่ ผามออีแดง เขาพระวิหาร ส่วนทหารไทยงัดปืนใหญ่ตอบโต้ กำลังพลเจ็บ 2 นาย เมื่อวันที่ 24 ก.ค.68 ที่กองบัญชาการกองทัพบก พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก ระบุเพิ่มเติมว่า เวลา 0920 น. กองทัพบกพบการปะทะเพิ่มเติมตลอดแนวพื้นที่ผามออีแดง ปราสาทเขาพระวิหาร พบฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากใช้อาวุธทุกชนิดและ BM21 ส่วนฝ่ายไทยเข้าปะทะตามแผนพร้อมตอบโต้ปืนใหญ่สนาม 09.20 น. เจ้าหน้าที่ทหารบาดเจ็บ 2 นาย จากอาวุธยิงสนับสนุน ในพื้นที่บริเวณกลุ่มปราสาทตาเมือน จ.สุรินทร์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับพื้นที่ที่มีการปะทะจำนวน 6 พื้นที่ ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาควาย ช่องบก เขาพระวิหาร(ห้วยตามาเรีย/ภูมะเขือ) ช่องอ่านม้า ช่องจอม.-313.-สำนักข่าวไทย

ผบ.ทบ.นำคณะลงช่องอานม้า พรุ่งนี้ จ่อใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ

23 ก.ค.- “ผบ.ทบ.” สั่ง ทภ.2-ทภ.1 เตรียมพร้อม “แผนจักรพงษ์ภูวนาถ” รับมือชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมยกคณะลงพื้นที่บัญชาการ วันที่ 23 ก.ค.68 พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผข.ทบ.) ได้สั่งการไปยังกองทัพภาคที่ 2 และกองทัพภาคที่1 รับผิดชอบพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชา เตรียมใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ แก้ไขปัญหาพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชาหลัง กำลังพลของกองทัพบกไทยจากชุดลาดตระเวน พัน.ร.14 ประสบเหตุเหยียบกับระเบิดบริเวณห้วยบอน ช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี พิกัด VA 950911 ซึ่งเป็นพื้นที่ปฏิบัติการตามแนวชายแดน โดยส่งผลให้ จ่าสิบเอกพิชิตชัย บุญโคราช ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการสูญเสียขาขวา และอยู่ระหว่างการส่งตัวรักษาต่อ ณ โรงพยาบาลน้ำยืน โดยให้พร้อมปฏิบัติหน้าที่ทันที เมื่อสั่งการ ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (24 ก.ค.) พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พลโท ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ รองเสธ ทบ. พลโทบุญสินพาดกลาง มทภ.2 […]

“บิ๊กต่าย” อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็น ตร.

ตร. 23 ก.ค. – ผบ.ตร. อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็นตำรวจใต้บังคับบัญชาหลังเกิดเหตุ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ศาลมณฑลทหารบกที่ 12 จังหวัดปราจีนบุรี อ่านคำพิพากษากรณีที่ ภคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือ น้องเมย นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 เสียชีวิตปริศนา หลังจากถูกธำรงวินัยโดยรุ่นพี่ทหาร 2 นาย ภายในโรงเรียนเตรียมทหาร เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2560 ซึ่งหนึ่งในรุ่นพี่ที่เป็นจำเลย ปัจจุบันรับราชการตำรวจในภาคอีสาน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ระบุว่า ตนได้รับรายงานเรื่องนี้แล้ว สิ่งที่อยากจะสื่อสารในประเด็นที่ 1 ตนอยากพบพ่อและแม่ของน้องเมยเป็นการส่วนตัว เพื่อจะได้พูดคุยให้เข้าใจในการปฏิบัติของตำรวจ ซึ่งเป็นประเด็นที่ 2 กรณีที่คู่กรณีเป็นตำรวจ เราต้องมองย้อนไปในขณะที่เกิดเหตุ มองถอยหลังกลับไป คู่กรณีรายดังกล่าวไม่ได้อยู่ในสถานะตำรวจ ฉะนั้นแล้วตามกฎหมาย พ.ร.บ.ตำรวจ ปี 2565 การดำเนินการทางวินัยจะดำเนินได้เฉพาะกับผู้ที่อยู่ในสถานะตำรวจ ซึ่งขณะนั้นคู่กรณีถือว่าอยู่ภายใต้กองบัญชาการกองทัพไทย ส่วนการพิจารณาทางวินัยตำรวจของคู่กรณี ตนได้สั่งให้จเรตำรวจแห่งชาติ นำไปประกอบการพิจารณา เนื่องจากวินัยและอาญาจะสามารถเชื่อมกันได้ในข้อเท็จจริงบางส่วน […]

ข่าวแนะนำ

เข้าสู่วันที่ 2 กัมพูชาเปิดฉากตั้งแต่เช้ามืด ที่ปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 25 ก.ค.-เข้าสู่วันที่ 2 เหตุปะทะไทย-กัมพูชา เริ่มเปิดฉากยิงกันตั้งแต่เช้ามืด บริเวณปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควาย อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ขณะนี้เสียงยังดังต่อเนื่อง ก่อนขยายการสู้รบไปตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านอีสานใต้ อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เป็นพื้นที่แรกที่ฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิงก่อนด้านปราสาทตาเมือนครับ เช้ามืดวันนี้ ราวตี 5 ครึ่ง ก็เริ่มปะทะกันอีก ขณะนี้ก็มีเสียงดังอย่างต่อเนื่อง เส้นทางจากอำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ เข้าสู่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ แม้สายแล้ว ก็มีรถสัญจรไปมาค่อนข้างน้อย เนื่องจากเป็นพื้นที่เสี่ยงภัยการสู้รบ โดยอำเภอพนมดงรักเป็นหนึ่งใน 4 อำเภอ ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ประกาศให้ผู้ที่ไม่มีความจำเป็นเข้าพื้นที่ร่วมกับอำเภอกาบเชิง บัวเชดและสังขะ โดยตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมา ในพื้นที่ตามแนวชายแดนได้ยินเสียงการปะทะด้วยกระสุนปืนใหญ่ดังอย่างต่อเนื่อง ผู้นำหมู่บ้านบันทึกสถิติเฉพาะฝั่งไทยตอบโต้เกินกว่า 100 ลูกแล้ว บ้านหนองแรด ตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก ที่จรวดหลายลำกล้อง BM 21 ตกเยอะสุด 10 ลูก วานนี้โดยรอบหมู่บ้าน โชคดีไม่ลงบ้านเรือน มีกระจกแตกเล็กน้อยจากแรงอัดลูกจรวดเท่านั้น วันนี้ ยังมีชาวบ้านอยู่นับร้อยคนหลบอยู่ในหลุมหลบภัย จากทั้งหมด […]

เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวรองรับประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัยชายแดน

ศรีสะเกษ 24 ก.ค. – บรรยากาศคืนแรกที่ศูนย์อพยพฯ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ประชาชนต้องละทิ้งบ้านเรือนมาพักอาศัยชั่วคราว จากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา นี่เป็นบรรยากาศค่ำคืนแรกที่ประชาชนในเขต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ต้องออกมาพักอาศัยนอกบ้านเรือน ตั้งแต่เกิดเหตุกัมพูชายิงจรวดเข้าใส่เขตพักอาศัยของพลเรือน ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศ ทำให้ตลอดทั้งวัน อ.กันทรลักษ์ มีการอพยพประชาชนแล้วมากกว่า 41,000 คน กระจายไปตามจุดต่างๆ โดยจุดนี้เป็นจุดที่น่าจะมีผู้อพยพมากที่สุด เพราะใกล้แนวชายแดนที่อยู่ในระยะปลอดภัยมากที่สุด คือ ประมาณ 40 กิโลเมตร จากแนวชายแดน มีประชาชนเข้ามาพักอาศัย 4,865 คน และยังมีจุดอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกระจายกันไป ผลจากสถานการณ์ตึงเครียดและพลเรือนตกเป็นเป้าของการโจมตี ทำให้หลายคนอยู่ในอาการเครียดและกังวล เจ้าหน้าที่ต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้กำลังใจเป็นระยะ รวมทั้งให้บริการยาและอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นเบื้องต้น พร้อมกันนี้ได้ย้ำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ที่ได้ฝากแจ้งประชาชนที่ยังลังเลไม่ยอมอพยพออกจากพื้นที่ เนื่องจากเป็นห่วงทรัพย์สินหรือสัตว์เลี้ยง ว่า ขณะนี้มีชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ผู้ใหญ่บ้าน และกำนัน ดูแลพื้นที่อย่างใกล้ชิดทุกหมู่บ้าน จึงขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือ และออกมาจากพื้นที่เสี่ยงตามจุดนัดหมาย เพื่อความปลอดภัยของตนเองและครอบครัว. – สำนักข่าวไทย

น้ำท่วมน่านหนักสุดเป็นประวัติการณ์

น่าน 24 ก.ค. – ยังน่าห่วง น้ำท่วมเขตเศรษฐกิจและตัวเมืองน่าน หนักสุดเป็นประวัติการณ์ บางจุดท่วมสูงถึงชั้น 2 ของบ้าน ประชาชนติดอยู่ในบ้านกลางน้ำ ยิ่งค่ำยิ่งลำบาก .-สำนักข่าวไทย

ไทม์ไลน์เหตุปะทะเดือด “ไทย-กัมพูชา”

24 ก.ค. – ไล่เรียงไทม์ไลน์เหตุปะทะเดือดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ที่เกิดขึ้นในวันนี้ (24 ก.ค.) มีที่มาที่ไปอย่างไร พลันที่ชุดลาดตระเวน กองพันทหารราบที่ 14 เหยียบกับระเบิดที่ช่องอานม้า จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อเย็นวานนี้ (23 ก.ค.) ทำให้ทหาร 1 นาย บาดเจ็บสาหัสขาขาด อีก 4 นาย บาดเจ็บ ซ้ำรอยเหตุทหารไทยเหยียบกับระเบิดจนขาขาดในเวลาเพียง 1 สัปดาห์ ทำให้สถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ตึงเครียดถึงขีดสุด พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ยกระดับมาตรการตอบโต้สั่งปิดด่าน 4 แห่ง คือ ช่องอานม้า, ช่องสะงำ, ช่องจอม และช่องสายตะกู พร้อมปิดสถานที่ท่องเที่ยว 2 แห่ง คือ ปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควายทันที 07.35 น. วันนี้ (24 ก.ค.) ความรุนแรงเริ่มชัดเจนขึ้น เมื่อทหารหน่วยเฉพาะกิจที่ดูแลพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม รายงานว่าได้ยินเสียงอากาศยานไร้คนขับ […]