นายกฯ หวังช่วยทีมหมูป่าอีก 5 คน สำเร็จวันนี้

ทำเนียบฯ 10 ก.ค.- นายกฯ หวังการช่วยเหลือทีมหมูป่าอีก 5 คนที่เหลือ จะสำเร็จในวันนี้ ซึ่งการปฏิบัติการที่ผ่านมาถือเป็นความร่วมมือจากทุกฝ่าย ทั้งคนไทยและต่างชาติ แจงไม่มีการวางยาสลบทีมหมูป่าระหว่างช่วยออกจากถ้ำหลวงฯ  เป็นเพียงการให้ยาคลายเครียด 


ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงการช่วยเหลือทีมหมูป่า จากถ้ำหลวง  ขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย ว่า ในวันนี้จะนำเด็ก ๆ และโค้ช ที่ยังเหลืออีก 5 คนออกจากถ้ำหลวงฯ เชื่อว่าจะสำเร็จเรียบร้อย และคาดว่าอาจใช้เวลาประมาณ 6 ชั่วโมง ซึ่งน้อยกว่าการปฏิบัติการที่ผ่านมา แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะต้องดูสภาพแวดล้อมภายในถ้ำ เพราะฝนยังตกลงมา และต้องดูปริมาณน้ำด้วย ซึ่งความสำเร็จในครั้งนี้เป็นความร่วมมือจากทุกคนทุกฝ่าย ทั้งคนไทยและต่างประเทศ 

“เมื่อวานที่ผมไปเมื่อเจอคนออกมาแล้ว ผมจะต้องไปแสดงตัวเป็นพระเอก ไม่ใช่ ผมต้องการไปขอบคุณคนที่ทำงาน  ผมมีโอกาสพบซีลทุกคนที่ออกมานอกถ้ำ และพบผู้ว่าฯ และทีมงาน ทุกคนได้ถ่ายรูปด้วยกัน แม้การทำงานจะไม่เสร็จสิ้น แต่คาดหวังว่าวันนี้จะเสร็จเรียบร้อยได้ จากที่เหลืออยู่ 5 คน บวกกับซีล 4 คนที่ต้องเป็นคนนำออกมา” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว 


นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการถ่ายทอดองค์ความรู้ของนักดำน้ำชาวต่างชาติ ว่าได้ดำเนินการทุกวัน มีการประชุมร่วมกัน และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ความคิดเห็นตลอดเวลา และหาแนวทางปฏิบัติที่เหมาะสม มาปรับปรุงสอดคล้องกับสถานการณ์จริง และตามสภาพแวดล้อมภายในถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน  ซึ่งถ้ำนี้มีความแตกต่างจากของต่างประเทศ เพราะเมื่อถึงฤดูฝน ถ้ำนี้จะเป็นทางผ่านของน้ำด้วย ซึ่งนักดำน้ำต่างชาติ ยอมรับว่าไม่เคยพบถ้ำในลักษณะนี้มาก่อน และมีช่องทางที่ยากลำบากพอสมควร   นักดำน้ำต่างชาติชื่นชมนักดำน้ำไทยว่ามีประสิทธิภาพ หน่วยซีลของไทยมีความเข้มแข็ง และไม่อยากให้วิพากษ์วิจารณ์ ว่าใครพบเด็กเป็นกลุ่มแรก เพราะการทำงานในการค้นหาก็ทำงานร่วมกันทุกคน ไม่อยากให้มองว่าใครเก่งกว่าใครและต่างชาติยอมรับในฝีมือของไทย 

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ได้ให้กระทรวงการต่างประเทศ ทำหนังสือขอบคุณในนามนายกรัฐมนตรี ไปยังผู้นำแต่ละประเทศ และมอบประกาศนียบัตรให้แต่ละบุคคลที่เข้ามาช่วยเหลือ และหลังเสร็จสิ้นภารกิจได้มอบหมายกระทรวงการต่างประเทศ อำนวยความสะดวกในการเดินทางและการท่องเที่ยวในประเทศด้วย เพราะทุกคนที่มาช่วยไม่ได้ต้องการเรื่องค่าตอบแทนใด ๆ 

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การทำงานต่างๆ ตนไม่จำเป็นต้องลงไปสั่งการเอง เพราะไม่ใช่เป็นเรื่องใหญ่โตระดับประเทศ เช่นเหตุการณ์สึนามิ เพราะเป็นเคส ๆ หนึ่งเท่านั้น ซึ่งตนสามารถมอบหมายกระทรวงมหาดไทยดำเนินการได้ และมีอำนาจสามารถส่งเจ้าหน้าที่ลงไปช่วยเหลือได้ 


พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงแนวทางการฟื้นฟูถ้ำหลวง ว่าจะต้องปรับปรุงถ้ำให้เกิดความปลอดภัย เพราะอนาคตถ้ำหลวงจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง จึงจำเป็นต้องหามาตรการ ทั้งเรื่องการเข้า ออก การแจ้งเตือนต่าง ๆ ต้องมีการติดตั้งระบบไฟฟ้า ระบบคบเพลิง การดูแลความปลอดภัยต่าง ๆ ได้ย้ำเตือนไปกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง  

ส่วนการพบกับนายอีลอน มัสก์ ผู้ก่อตั้งและผู้บริหารบริษัทเทสลา ที่เข้ามาสนับสนุนอุปกรณ์การช่วยเหลือนั้น นายกรัฐมตรี กล่าว ชื่นชมและขอบคุณที่มีการเสนอตัวเข้ามาช่วยเหลือ ซึ่งนายอีลอน ถือเป็นคนหนุ่มที่ประสบความสำเร็จ ในด้านกิจการดาวเทียมและอวกาศ รวมถึงการขุดเจาะ และเมื่อคืนที่ผ่านมาได้พบกับนายอีลอน มัสก์ ที่สนามบินจ.เชียงราย ซึ่งตนได้เล่าถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยนายอีลอน มัสก์ ได้เข้าไปในพื้นที่จริงและยอมรับว่าไม่เคยพบเห็นถ้ำในลักษณะนี้มาก่อน และเรือดำน้ำจิ๋วที่นำมาสนับสนุน ถือว่ามีประโยชน์ที่จะช่วยเหลือคนที่ติดในถ้ำและลำน้ำต่าง ๆ ได้ ซึ่งเครื่องมือนี้เป็นประโยชน์กับไทยมาก เพราะต้องมองเรื่องภัยพิบัติที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตด้วย 

พล.อ.ประยุทธ์ ได้ฝากให้นายอีรอน มัสก์ ช่วยคิดค้นเครื่องมือช่วยเหลือผู้ประสบภัยและการกู้ภัย ซึ่งอาจเป็นเครื่องมือที่นำไปช่วยเหลือในกลุ่มประเทศอาเซียนได้ด้วย พร้อมกันนี้ได้เชิญนายอีรอน มัสก์ มาลงทุนในไทย ซึ่งไทยพร้อมให้การสนับสนุน โดยเฉพาะการลงทุนในอีอีซี นวัตกรรมและดิจิทัล การพัฒนาด้านดาวเทียม เพราะไทยมีแนวคิดสร้างดาวเทียมในอนาคต  และอยากให้นายอีรอน มัสก์ มองว่าไทยเป็นบ้านหลังที่สอง

ส่วนแนวคิดการทำบุญประเทศ  นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทุกส่วนราชการทำบุญมาโดยตลอด โดยเฉพาะการสวดมนต์ที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานให้มีการจัดงานสวดมนต์เป็นประจำทุกเดือน และส่วนตัวได้กราบสักการะพระพรหม สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบรัฐบาล ศาลหลักเมือง และวัดพระศรีรัตนศาสดาราม พระสยามเทวาธิราช  ขอพรให้การทำงานครั้งนี้ประสบผลสำเร็จ และที่สำคัญคือพระบารมีปกเกล้าจากสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  ซึ่งพระองค์ได้ติดตามการทำงานต่าง ๆ และพระราชทานกำลังใจให้ผู้ปฏิบัติหน้าที่ นอกจากนี้ขอฝากให้ทุกคนทุ่มเทแรงกายแรงใจ แรงศรัทธา ให้ผู้ที่ทำหน้าที่ประสบผลสำเร็จ

นายกรัฐมนตรี ยังชี้แจงถึงการช่วยเหลือเด็กออกจากถ้ำว่า ไม่มีการใช้ยาสลบ ตามที่มีการแชร์ในโซเซียล เพราะทุกคนจะต้องเข้าใจว่า การทำงานในทางการแพทย์ ที่จะทำไม่ให้เด็กมีอาการวิตก กังวล หวาดกลัว  หรืออาการ Panic จำเป็นต้องใช้ยาคลายเครียด ซึ่งเป็นยาที่หลายคนใช้อยู่ ซึ่งตามข้อเท็จจริงแล้ว หากมีการวางยาสลบ ไม่สามารถที่จะนำเด็กออกมาได้   ซึ่งทางทหารก็ใช้ในบางกรณี เช่นการยิงปืน ที่ไม่ทำให้ตื่นเต้น เป็นต้น  

“ในการช่วยเหลือนั้น เด็กทุกคนมีสติสัมปชัญญะครบถ้วน และเมื่อคืนนี้ ผมได้เข้าเยี่ยมทั้ง 8 คน ซึ่ง 4 คนแรก สามารถเข้าพบได้ ขณะที่ 4 คนที่ออกมารอบสอง  ยังอยู่ในขั้นตอนการดูแลของแพทย์ เด็กทุกคนยกมือทักทาย และรับปากกับผมว่าจะเป็นคนดี และเป็นนักฟุตบอลทีมชาติให้ได้  ขณะที่ผู้ปกครองต่างดีใจ  ดังนั้นในวันนี้ต้องให้กำลังใจทุกคน อย่าจับผิดว่าใครดี ไม่ดี เก่งหรือไม่เก่ง แต่ควรเตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์ต่าง ๆ ในอนาคตดีกว่า” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว .-สำนักข่าวไทย                  

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้ว่าฯ สงขลา จัดคิวนายอำเภอรับ-ส่ง “เดชอิศม์” ทุกสัปดาห์

กทม. 18 ส.ค.-ผู้ว่าฯ สงขลา ทำหนังสือด่วน จัดคิวนายอำเภอ เวียนต้อนรับ-ส่ง “เดชอิศม์” สนามบินหาดใหญ่ ทุกสัปดาห์ นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ทำหนังสือด่วนที่สุด ที่ สข 0017.3/17839 เรื่อง ขอความอนุเคราะห์อำนวยความสะดวก นายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เรียน นายอำเภอเมืองสงขลา ด้วยจังหวัดสงขลาได้รับแจ้งว่า นายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย มีกำหนดเดินทางมาราชการในพื้นที่จังหวัดสงขลา เพื่อตรวจราชการสำคัญตามนโยบายรัฐบาล และมีกำหนดเดินทางกลับไปปฏิบัติราชการ ณ กรุงเทพมหานคร ในวันที่ 18 สิงหาคม 2568 โดยสายการบินแอร์เอเชีย เที่ยวบินที่ FD 3103 เวลา 08.25-09.50 น. เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกแก่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย จังหวัดสงขลาจึงขอให้ท่านดำเนินการ ดังนี้ 1. เชิญนายอำเภอเมืองสงขลา ร่วมส่งนายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ณ ห้องรับรอง ท่าอากาศยานหาดใหญ่ […]

ดราม่า “ไข่เจียวปู 4,000” ถึงหูพาณิชย์

กรุงเทพฯ​ 18 ส.ค.​-“จตุพร” สั่งกรมการค้าภายในตรวจสอบประเด็น​ดราม่า​ “ไข่​เจียวปู” ร้าน​ Michelin Guide สูงถึง​จานละ 4,000 บาท​ จาก​ที่​แจ้งราคาในเมนู​ 1,500​ บาท ย้ำ​ไม่ตรงปกไม่ได้ กรณี “พีชชี่” ยูทูบเบอร์ชื่อดัง โพสต์เล่าประสบการณ์สั่งไข่เจียวปูร้านดังราคาเมนู 1,500 บาท แต่ถูกเก็บจริง 4,000 บาท กำลังเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในโลกออนไลน์ ล่าสุด นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ระบุว่า จะมอบหมายให้กรมการค้าภายใน ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ขณะนี้​ยังไม่ได้รับรายละเอียด​ แต่โดยหลักการแล้ว ราคาที่เรียกเก็บจากผู้บริโภคต้องตรงกับราคาที่ระบุในเมนู หาก “ไม่ตรงปก” จะบั่นทอนความเชื่อมั่นทางการค้า “การค้าขายจะยั่งยืนได้ต้องอาศัยความไว้เนื้อเชื่อใจ หากผู้บริโภครู้สึกว่า​ ราคาไม่ตรงกับที่เห็นในเมนู ย่อมเสียความรู้สึก” นายจตุพรกล่าว เรื่องนี้เริ่มจาก “พีชชี่” โพสต์ผ่าน X เมื่อวันที่ 15 ส.ค. ระบุว่าไปทานไข่เจียวปู ซึ่งเป็นร้านอาหารไทยเพียงไม่กี่แห่งที่ได้รับการบรรจุใน Michelin Guide โดยเมนูระบุราคา 1,500 […]

“บิ๊กต่าย” ถกบอร์ดกลั่นกรอง เลื่อน “สำราญ-อิทธิพล” ขึ้นรอง ผบ.ตร.

กรุงเทพฯ 17 ส.ค. – ผบ.ตร. นั่งหัวโต๊ะประชุมกลั่นกรองแต่งตั้งนายพลสีกากี เลื่อน “สำราญ-อิทธิพล” ขึ้นรอง ผบ.ตร. ที่ห้องประชุม 2 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เป็นประธานคณะกรรมการพิจารณาการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับ ตร. หรือ “บอร์ดกลั่นกรอง” พิจารณาแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับรอง ผบ.ตร.-ผบก. โดยมี พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.กรไชย คล้ายคลึง รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.นิรันดร เหลื่อมศรี รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จตช. และ พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง ผบช.สกพ. และเลขานุการ เข้าร่วมประชุม ทั้งนี้ […]

เสียงเรียกแห่งความอร่อย…ก๋วยเตี๋ยวแต้จิ๋วโบราณเชียงใหม่

เชียงใหม่ 17 ส.ค. – โดดเด่นไม่เหมือนใคร “ก๋วยเตี๋ยวแต้จิ๋วสูตรโบราณ” ของอาแปะตี๋อ้วน ที่แต่งกายแบบล้านนาโบราณ เดินหาบขายตามตลาดและย่านชุมชนใน จ.เชียงใหม่ มานานกว่า 10 ปีแล้ว โดยใช้การตีกังสดาล หรือระฆังวงเดือน เรียกลูกค้า สะดุดตาผู้พบเห็น หลายคนติดใจในรสชาติและราคาที่ย่อมเยา จนมีลูกค้ามากมาย .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

หลักฐานชัด! ทหารกัมพูชาลอบวางทุ่น PMN-2 ภูมะเขือ

19 ส.ค.- กองทัพเรือพบหลักฐานสำคัญ ยืนยันทหารกัมพูชาลักลอบใช้ทุ่นระเบิด PMN-2 บริเวณภูมะเขือ เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2568 ชุดเก็บกู้กวาดล้างที่ 1 หน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรมกองทัพเรือ (นปท.ทร.) ซึ่งสนับสนุนการปฏิบัติงานเก็บกู้และกวาดล้างทุ่นระเบิดในพื้นที่ภูมะเขือ จังหวัดศรีสะเกษ ร้อย ร.132 พัน.13 (ฐานเหนือเมฆ) ตรวจพบโทรศัพท์มือถือของทหารกัมพูชาที่ทิ้งไว้ในพื้นที่ดังกล่าว เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบภายในเครื่อง พบคลิปวิดีโอและภาพถ่ายที่แสดงให้เห็นชัดเจนว่า ทหารกัมพูชากำลังถือทุ่นระเบิดชนิด PMN-2 พร้อมทั้งมีการบันทึกเสียงเป็นภาษาเขมร คาดว่าเป็นการสาธิตวิธีการใช้งาน ก่อนนำไปลักลอบฝังในพื้นที่ชายแดนไทย หลักฐานจากโทรศัพท์ยังระบุวันเวลาที่ถ่ายภาพและวิดีโอไว้อย่างชัดเจน จึงนับเป็นพยานหลักฐานสำคัญที่ยืนยันพฤติกรรมการละเมิดข้อตกลง และการใช้ทุ่นระเบิด ซึ่งขัดต่ออนุสัญญาระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ นปท.ทร. ได้แสดงถึงความรอบคอบและไหวพริบในการตรวจสอบหลักฐานทันที ก่อนส่งมอบให้หน่วยกองทัพบกในพื้นที่ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป. – สำนักข่าวไทย

“มทภ.2” ชี้เขมรไว้ใจไม่ได้-ชายแดนยัง 50-50 หากปะทะพร้อมสู้

วปอ. 19 ส.ค.- “แม่ทัพภาค 2” ลั่นกลางวง วปอ. เหตุชายแดนยัง 50-50 ชี้ ‘เขมร’ ไว้ใจไม่ได้ หากปะทะพร้อมสู้ เตรียมคุย ‘อาร์บีซี’ ปลาย ส.ค.นี้ หวังคุยกันเข้าใจ ยึดผลประโยชน์ชาติ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวภายหลังพิธีมอบความช่วยเหลือทหารที่บาดเจ็บ รวมทั้งเสริมสร้างความมั่นคงของฐานที่มั่นในการปกป้องอธิปไตย จากเหตุการณ์ปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า รู้สึกชื่นชมและดีใจที่ประเทศชาติเราเป็นอย่างนี้ คนไทยไม่ทิ้งกัน เหตุการณ์ตลอดแนวชายแดนเกือบ 1,000 กิโลเมตร มีหลายเหตุการณ์ ลูกหลานทหารพยายามทำให้ดีที่สุด ทั้งนี้ การสูญเสียพวกเราป้องกันอย่างเข้มงวดทุกระดับชั้น แต่การเข้าตีบางอย่างเราเป็นฝ่ายรุกอาจมีเหตุที่พวกเราบาดเจ็บบ้าง “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงห่วงใยทหารทุกนายที่ได้รับผลกระทบ การปฏิบัติด้านยุทธการครั้งนี้ พระองค์ทรงรับเป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์ทั้งหมด” แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวอีกว่า ขอขอบคุณสิ่งของที่มอบให้ในวันนี้ จะนำไปใช้กับน้องๆ ที่อยู่หน้าแนวตามวัตถุประสงค์ ที่ทุกท่านได้มอบให้โดยด่วน ซึ่งบางครั้งงบประมาณราชการ กองบัญชาการกองทัพไทย กองทัพบก รัฐบาล ได้มอบให้เพียงพอ แต่บางรายการนั้นเร่งด่วน รอการจัดหาตามช่วงเวลาไม่ทัน […]

ผู้ว่าฯ สงขลา ตั้งกรรมการสอบปมหนังสือต้อนรับ “เดชอิศม์”

สงขลา 19 ส.ค. – ผู้ว่าฯ สงขลา สั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีหนังสือราชการมีลายเซ็นผู้ว่าฯ ลงนามถึงนายอำเภอเมืองสงขลา ขอความอนุเคราะห์อำนวยความสะดวก “เดชอิศม์” ขีดเส้นแล้วเสร็จใน 30 วัน นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ออกคำสั่งจังหวัดสงขลา เรื่องแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีสื่อโซเชียลมีการเผยแพร่ภาพหนังสือราชการที่มีลายเซ็นผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ลงนามถึงนายอำเภอเมืองสงขลา ขอความอนุเคราะห์อำนวยความสะดวกนายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในการเดินทางมาราชการในพื้นที่ จนก่อให้เกิดความเสียหาย มีการตั้งข้อสังเกตวิพากษ์วิจารณ์ไปในทางเสื่อมเสีย ส่งผลต่อภาพลักษณ์ของจังหวัดสงขลา คณะกรรมการดังกล่าวมีนายวิทยา จันทน์เสนะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ประธานกรรมการฯ ให้ตรวจสอบและรวบรวมพยานหลักฐานให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน ก่อนรายงานผล พร้อมเสนอความเห็นต่อผู้สั่งแต่งตั้ง เพื่อพิจารณาสั่งการ และหากปรากฏมีการกระทำความผิดจริงให้ดำเนินการทั้งทางวินัยและทางอาญาต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ครม.เคาะแต่งตั้งโยกย้ายบิ๊กมหาดไทย 25 ตำแหน่ง

ทำเนียบ 19 ส.ค. – ครม.เห็นชอบแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูงกระทรวงมหาดไทย 25 ตำแหน่ง ผู้ว่าฯ หนองบัวลำภู ผงาดขึ้นอธิบดี พช. โยก “สยาม” อธิบดี พช. นั่งพ่อเมืองปากน้ำ การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ (19 ส.ค. 68) กระทรวงมหาดไทย (มท.) เสนอแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำแหน่งบริหารระดับสูงให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 25 ตำแหน่ง ในที่ประชุมมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ เช่น ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป ยกเว้นนายทศพล เผื่อนอุดม ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ให้มีผลตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้ง เป็นต้นไป -สำนักข่าวไทย