ทำเนียบฯ 10 ก.ค.- นายกฯ หวังการช่วยเหลือทีมหมูป่าอีก 5 คนที่เหลือ จะสำเร็จในวันนี้ ซึ่งการปฏิบัติการที่ผ่านมาถือเป็นความร่วมมือจากทุกฝ่าย ทั้งคนไทยและต่างชาติ แจงไม่มีการวางยาสลบทีมหมูป่าระหว่างช่วยออกจากถ้ำหลวงฯ เป็นเพียงการให้ยาคลายเครียด
ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงการช่วยเหลือทีมหมูป่า จากถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย ว่า ในวันนี้จะนำเด็ก ๆ และโค้ช ที่ยังเหลืออีก 5 คนออกจากถ้ำหลวงฯ เชื่อว่าจะสำเร็จเรียบร้อย และคาดว่าอาจใช้เวลาประมาณ 6 ชั่วโมง ซึ่งน้อยกว่าการปฏิบัติการที่ผ่านมา แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะต้องดูสภาพแวดล้อมภายในถ้ำ เพราะฝนยังตกลงมา และต้องดูปริมาณน้ำด้วย ซึ่งความสำเร็จในครั้งนี้เป็นความร่วมมือจากทุกคนทุกฝ่าย ทั้งคนไทยและต่างประเทศ
“เมื่อวานที่ผมไปเมื่อเจอคนออกมาแล้ว ผมจะต้องไปแสดงตัวเป็นพระเอก ไม่ใช่ ผมต้องการไปขอบคุณคนที่ทำงาน ผมมีโอกาสพบซีลทุกคนที่ออกมานอกถ้ำ และพบผู้ว่าฯ และทีมงาน ทุกคนได้ถ่ายรูปด้วยกัน แม้การทำงานจะไม่เสร็จสิ้น แต่คาดหวังว่าวันนี้จะเสร็จเรียบร้อยได้ จากที่เหลืออยู่ 5 คน บวกกับซีล 4 คนที่ต้องเป็นคนนำออกมา” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการถ่ายทอดองค์ความรู้ของนักดำน้ำชาวต่างชาติ ว่าได้ดำเนินการทุกวัน มีการประชุมร่วมกัน และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ความคิดเห็นตลอดเวลา และหาแนวทางปฏิบัติที่เหมาะสม มาปรับปรุงสอดคล้องกับสถานการณ์จริง และตามสภาพแวดล้อมภายในถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน ซึ่งถ้ำนี้มีความแตกต่างจากของต่างประเทศ เพราะเมื่อถึงฤดูฝน ถ้ำนี้จะเป็นทางผ่านของน้ำด้วย ซึ่งนักดำน้ำต่างชาติ ยอมรับว่าไม่เคยพบถ้ำในลักษณะนี้มาก่อน และมีช่องทางที่ยากลำบากพอสมควร นักดำน้ำต่างชาติชื่นชมนักดำน้ำไทยว่ามีประสิทธิภาพ หน่วยซีลของไทยมีความเข้มแข็ง และไม่อยากให้วิพากษ์วิจารณ์ ว่าใครพบเด็กเป็นกลุ่มแรก เพราะการทำงานในการค้นหาก็ทำงานร่วมกันทุกคน ไม่อยากให้มองว่าใครเก่งกว่าใครและต่างชาติยอมรับในฝีมือของไทย
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ได้ให้กระทรวงการต่างประเทศ ทำหนังสือขอบคุณในนามนายกรัฐมนตรี ไปยังผู้นำแต่ละประเทศ และมอบประกาศนียบัตรให้แต่ละบุคคลที่เข้ามาช่วยเหลือ และหลังเสร็จสิ้นภารกิจได้มอบหมายกระทรวงการต่างประเทศ อำนวยความสะดวกในการเดินทางและการท่องเที่ยวในประเทศด้วย เพราะทุกคนที่มาช่วยไม่ได้ต้องการเรื่องค่าตอบแทนใด ๆ
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การทำงานต่างๆ ตนไม่จำเป็นต้องลงไปสั่งการเอง เพราะไม่ใช่เป็นเรื่องใหญ่โตระดับประเทศ เช่นเหตุการณ์สึนามิ เพราะเป็นเคส ๆ หนึ่งเท่านั้น ซึ่งตนสามารถมอบหมายกระทรวงมหาดไทยดำเนินการได้ และมีอำนาจสามารถส่งเจ้าหน้าที่ลงไปช่วยเหลือได้
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงแนวทางการฟื้นฟูถ้ำหลวง ว่าจะต้องปรับปรุงถ้ำให้เกิดความปลอดภัย เพราะอนาคตถ้ำหลวงจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง จึงจำเป็นต้องหามาตรการ ทั้งเรื่องการเข้า ออก การแจ้งเตือนต่าง ๆ ต้องมีการติดตั้งระบบไฟฟ้า ระบบคบเพลิง การดูแลความปลอดภัยต่าง ๆ ได้ย้ำเตือนไปกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ส่วนการพบกับนายอีลอน มัสก์ ผู้ก่อตั้งและผู้บริหารบริษัทเทสลา ที่เข้ามาสนับสนุนอุปกรณ์การช่วยเหลือนั้น นายกรัฐมตรี กล่าว ชื่นชมและขอบคุณที่มีการเสนอตัวเข้ามาช่วยเหลือ ซึ่งนายอีลอน ถือเป็นคนหนุ่มที่ประสบความสำเร็จ ในด้านกิจการดาวเทียมและอวกาศ รวมถึงการขุดเจาะ และเมื่อคืนที่ผ่านมาได้พบกับนายอีลอน มัสก์ ที่สนามบินจ.เชียงราย ซึ่งตนได้เล่าถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยนายอีลอน มัสก์ ได้เข้าไปในพื้นที่จริงและยอมรับว่าไม่เคยพบเห็นถ้ำในลักษณะนี้มาก่อน และเรือดำน้ำจิ๋วที่นำมาสนับสนุน ถือว่ามีประโยชน์ที่จะช่วยเหลือคนที่ติดในถ้ำและลำน้ำต่าง ๆ ได้ ซึ่งเครื่องมือนี้เป็นประโยชน์กับไทยมาก เพราะต้องมองเรื่องภัยพิบัติที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตด้วย
พล.อ.ประยุทธ์ ได้ฝากให้นายอีรอน มัสก์ ช่วยคิดค้นเครื่องมือช่วยเหลือผู้ประสบภัยและการกู้ภัย ซึ่งอาจเป็นเครื่องมือที่นำไปช่วยเหลือในกลุ่มประเทศอาเซียนได้ด้วย พร้อมกันนี้ได้เชิญนายอีรอน มัสก์ มาลงทุนในไทย ซึ่งไทยพร้อมให้การสนับสนุน โดยเฉพาะการลงทุนในอีอีซี นวัตกรรมและดิจิทัล การพัฒนาด้านดาวเทียม เพราะไทยมีแนวคิดสร้างดาวเทียมในอนาคต และอยากให้นายอีรอน มัสก์ มองว่าไทยเป็นบ้านหลังที่สอง
ส่วนแนวคิดการทำบุญประเทศ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทุกส่วนราชการทำบุญมาโดยตลอด โดยเฉพาะการสวดมนต์ที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานให้มีการจัดงานสวดมนต์เป็นประจำทุกเดือน และส่วนตัวได้กราบสักการะพระพรหม สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบรัฐบาล ศาลหลักเมือง และวัดพระศรีรัตนศาสดาราม พระสยามเทวาธิราช ขอพรให้การทำงานครั้งนี้ประสบผลสำเร็จ และที่สำคัญคือพระบารมีปกเกล้าจากสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งพระองค์ได้ติดตามการทำงานต่าง ๆ และพระราชทานกำลังใจให้ผู้ปฏิบัติหน้าที่ นอกจากนี้ขอฝากให้ทุกคนทุ่มเทแรงกายแรงใจ แรงศรัทธา ให้ผู้ที่ทำหน้าที่ประสบผลสำเร็จ
นายกรัฐมนตรี ยังชี้แจงถึงการช่วยเหลือเด็กออกจากถ้ำว่า ไม่มีการใช้ยาสลบ ตามที่มีการแชร์ในโซเซียล เพราะทุกคนจะต้องเข้าใจว่า การทำงานในทางการแพทย์ ที่จะทำไม่ให้เด็กมีอาการวิตก กังวล หวาดกลัว หรืออาการ Panic จำเป็นต้องใช้ยาคลายเครียด ซึ่งเป็นยาที่หลายคนใช้อยู่ ซึ่งตามข้อเท็จจริงแล้ว หากมีการวางยาสลบ ไม่สามารถที่จะนำเด็กออกมาได้ ซึ่งทางทหารก็ใช้ในบางกรณี เช่นการยิงปืน ที่ไม่ทำให้ตื่นเต้น เป็นต้น
“ในการช่วยเหลือนั้น เด็กทุกคนมีสติสัมปชัญญะครบถ้วน และเมื่อคืนนี้ ผมได้เข้าเยี่ยมทั้ง 8 คน ซึ่ง 4 คนแรก สามารถเข้าพบได้ ขณะที่ 4 คนที่ออกมารอบสอง ยังอยู่ในขั้นตอนการดูแลของแพทย์ เด็กทุกคนยกมือทักทาย และรับปากกับผมว่าจะเป็นคนดี และเป็นนักฟุตบอลทีมชาติให้ได้ ขณะที่ผู้ปกครองต่างดีใจ ดังนั้นในวันนี้ต้องให้กำลังใจทุกคน อย่าจับผิดว่าใครดี ไม่ดี เก่งหรือไม่เก่ง แต่ควรเตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์ต่าง ๆ ในอนาคตดีกว่า” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว .-สำนักข่าวไทย