ย้อนรอยคดีฆ่าหั่นศพสะเทือนขวัญคนไทย

สำนักข่าวไทย 23 มิ.ย.-สำหรับคดีฆ่าหั่นศพแยกชิ้นส่วนครั้งนี้ไม่ใช่เหตุการณ์แรก แต่ยังมีคดีฆ่าโหดในเมืองไทยรอบหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งแต่ละคดีพบว่าผู้ก่อเหตุหนีไม่รอดจากกระบวนการยุติธรรม

เริ่มที่คดีล่าสุดเป็นกรณีฆ่าหั่นศพ น.ส.วริศรา กลิ่นจุ้ย หรือ “แอ๋ม” สาวคาราโอเกะ มือสังหารคือ น.ส.ปรียานุช โนนวังชัย หรือ “เปรี้ยว” ร่วมกับพวกหั่นศพเป็น 2 ท่อน แล้วนำไปฝังไว้ที่ไร่อ้อยที่อำเภอเขาสวนกวาง จ.ขอนแก่น กระทั่งมีการสืบสวนขยายผล จนสามารถจับกุมผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีได้สำเร็จ โดยขณะนี้คดีอยู่ในการพิจารณาของศาล

อีกกรณีเกิดกับชาวต่างชาติ หลังตำรวจเข้าตรวจสอบอาคารพาณิชย์สูง 5 ชั้นในซอยสุขุมวิท 56 เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2559 เนื่องจากได้รับข้อมูลว่าเป็นแหล่งซุกซ่อนยาบ้าและแก๊งปลอมพาสปอร์ต ปรากฏว่าถูกกลุ่มคนร้ายยิงต่อสู้จนบาดเจ็บ เมื่อควบคุมสถานการณ์ได้ จึงตรวจค้นบ้าน แต่ต้องตะลึงที่ได้พบศพชายชาวต่างชาติถูกหั่นเป็น 6 ชิ้นแช่แข็งเอาไว้ในตู้แช่ เสียชีวิตมา 7-8 ปี ผู้ก่อเหตุคือ นายเฮอร์เบิร์ต เคร็ก ลาฟอง ส่วนผู้ตายคือ นายชาร์ลส์ เอ็ดเวิร์ด ดิตเลฟสัน ชาวสหรัฐฯ ปมสังหารมาจากความแค้นเรื่องหนี้สิน ก่อนผู้ก่อเหตุใช้วัสดุรัดคอจนเสียชีวิต ใช้เลื่อยหั่นศพ ก่อนแช่แข็งไว้ตั้งแต่ปี 2551

คดีที่ 3 เป็นกรณีฆ่าหั่นศพสาวเล็บแดงเมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2557 เจ้าหน้าที่พบศีรษะผู้หญิง ลอยอยู่ในคลองที่สมุทรปราการ ลักษณะถูกโกนผม สักคิ้วถาวร ก่อนพบชิ้นส่วนเพิ่มเติมอีกหลายจุด ลักษณะเด่นคือนิ้วมือทาเล็บสีแดง ผู้ตายคือ นางสมยศ นมัสการ กุ๊ก ผับย่านนวมินทร์ หายตัวขณะที่ไปหา “นายแอ้ม” หรือ นายธานี พ่อแก้ว แฟนเก่า เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบห้องพัก “นายแอ้ม” และพบเรื่องสยองขวัญเพราะคนร้ายวาดภาพผู้ตายและลำดับไว้ว่าจะหั่นศพชิ้นส่วนใดก่อน ปมสังหารมาจากผู้ตายตีจาก มือฆ่า

ย้อนกลับไปเมื่อปี 2544 เกิดเหตุฆ่าหั่นศพอันโด่งดังของ นายแพทย์วิสุทธิ์ บุญเกษมสันติ ที่ก่อเหตุกับ แพทย์หญิงผัสพร ภรรยา แล้วทำทีไปแจ้งความว่าภรรยาหายตัวไป แต่เมื่อสืบสวนพบว่าฆาตกรคือ นายแพทย์วิสุทธิ์เอง โดยได้นำผู้ตายไปกักขัง ก่อนฆ่าและหั่นศพทิ้งตามจุดต่างๆ ศาลตัดสินประหารชีวิตผู้ก่อเหตุ แต่ 16 ปีให้หลัง ได้รับพระราชทานอภัยโทษ ปัจจุบันนายแพทย์วิสุทธิ์ตัดสินใจหันหลังให้ทางโลก และบวชเป็นพระ

ปิดท้ายที่คดี “เสริม สาครราษฎร์” ฆ่าหั่นศพแฟนสาว คดีนี้โด่งดังและสร้างความสยองขวัญ สาเหตุที่ฆ่าเพราะโกรธแค้นที่ฝ่ายหญิงคิดตีตัวออกห่าง และคดีมีความซับซ้อนเพราะคนร้ายให้การเท็จ ก่อนพบว่าเสริมตั้งใจฆ่า ด้วยการใช้ปืนจ่อยิงที่ขมับซ้าย  แล้วลงมือชำแหละศพทิ้งลงชักโครก นำชิ้นส่วนที่เหลือไปทิ้งแม่น้ำบางปะกง แม้โดนโทษประหารชีวิตแต่ธันวาคม 2554 “เสริม สาครราษฎร์” ได้รับพระราชทานอภัยโทษ ถูกปล่อยตัวเป็นอิสระ.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง