กรุงเทพฯ 14 มิ.ย.-ก.อุตฯ สั่งกรมโรงงาน เร่งตรวจสอบ 2,265 โรงงานทั่วประเทศ ที่อาจมีการลักลอบขนกากอุตสาหกรรมอันตรายไปเก็บไว้ให้เสร็จภายใน 31 ส.ค.นี้
นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า จากกรณีปัญหาเรื่องกากอุตสาหกรรมนำเข้ามีการทำผิดกฎหมายนั้น ล่าสุดได้สั่งการให้กรมโรงงานอุตสาหกรรม(กรอ.) เร่งเดินหน้าออกตรวจโรงงานทั่วประเทศ ซึ่งกรอ.พิจารณาแล้ว พบว่า มี 2,265 โรงงาน ที่มีความเป็นไปได้ที่กากอุตสาหกรรมนำเข้าจะเคลื่อนย้ายไปอยู่ โดยในการตรวจสอบจะพิจารณา 2 เรื่องคือ ตรวจสอบว่า มีใบอนุญาตบริหารจัดการกากอุตสาหกรรมหรือไม่ และได้รับใบอนุญาตตั้งโรงงาน( รง.4) หรือไม่ โดยปัจจุบันกรอ.ดำเนินการตรวจเสร็จแล้ว 240 โรงงาน คาดว่า จะตรวจสอบเสร็จทั้งหมดภายใน 31 ส.ค.นี้
นอกจากนี้ ยังเดินหน้าคุมเข้มการนำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์จากต่างประเทศต่อ โดยมอบหมายให้นายสมชาย หาญหิรัญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นผู้ดูแล ซึ่งข้อมูลจากกรมโรงงานอุตสาหกรรมพบว่า ประเทศไทยมีการส่งออกกากอุตสาหกรรมไปยังต่างประเทศเช่นกัน โดยเป็นกากอุตสาหกรรมที่ประเทศไทยไม่มีศักยภาพบริหารจัดการได้เพียงพอ จึงส่งออกไปต่างประเทศปีละกว่า 300,000 ตัน ขณะที่มีการนำเข้าประมาณปีละ 30,000 ตัน
นายอุตตม กล่าวว่า ขณะนี้มีความจำเป็นต้องเร่งพิจารณานโยบายกากอุตสาหกรรมในทุกเรื่องอย่างรอบคอบทุกมิติ ตั้งแต่การนำเข้า การดูแลหลังการนำเข้า รวมถึงขีดความสามารถโดยรวมในการบริหารจัดการกากอุตสาหกรรมภายในประเทศและมองไปถึงในอนาคตด้วย
ด้านกรมโรงงานอุตสาหกรรม ระบุว่า บริษัทที่นำเข้ากากอุตสาหกรรมเข้ามาในประเทศไทย 7 บริษัทในปี 2561 นำเข้ามาแล้ว 37,000 ตัน จากการตรวจสอบพบว่า มี 5 บริษัท ที่ทำผิด เนื่องจากหลังนำกากอุตสาหกรรมแล้ว มีการเคลื่อนย้ายไปเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ตรงกับที่แจ้งไว้ เช่นนำไปไว้ในโรงงานอื่น ที่ยังไม่มีใบอนุญาตตั้งโรงงาน ( รง.4) จำนวน 14,000 ตัน จึงได้พัก ใบอนุญาตนำเข้าวัตถุอันตราย (วอ.4) เอาไว้ก่อน ทำให้ทั้ง 5 บริษัท ไม่สามารถนำเข้ากากอันตรายได้ แต่ยังคงเปิดโรงงานของตนเพื่อบริหารจัดการกากอุตสาหกรรมได้ตามที่ได้รับใบอนุญาต รง.4
สำหรับกากอุตสาหกรรมนำเข้าที่ 5 บริษัท มีการเคลื่อนย้ายไปในสถานที่ที่ไม่ได้แจ้งเอาไว้ ล่าสุดกรมโรงงานอุตสาหกรรม มีนโยบายที่จะผลักดันให้กากอุตสาหกรรมดังกล่าว กลับไปยังโรงงานทั้ง 5 บริษัทตามที่ได้แจ้งไว้ตอนนำเข้า และอีกแนวทางคือ ผลักดันกากอุตสาหกรรมเหล่านี้ออกไปต่างประเทศ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างหารือกับกรมศุลกากรและทางจังหวัดพื้นที่ที่มีปัญหากากอุตสาหกรรมอย่างใกล้ชิด ซึ่งการผลักดันกากอุตสาหกรรมกลับไปยังประเทศต้นทาง เป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยาก เพราะส่งออกดำเนินการมาอย่างถูกต้อง ดังนั้น แนวทางคือ จะพิจารณาผลักดันส่งออกไปยังประเทศอื่นในประเทศที่อยู่ในกลุ่มอนุสัญญาบาเซลว่าด้วยการควบคุมการเคลื่อนย้ายข้ามแดนและการกำจัดซึ่งของเสียอันตรายแทน-สำนักข่าวไทย