กรุงเทพฯ 19 มิ.ย.- ก.อุตสาหกรรม แจ้งทุกโรงงานเร่งรายงานข้อมูลการจัดการสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุไม่ใช้แล้วตามกฎหมายฉบับใหม่ ภายใน 30 มิ.ย.นี้ หลังพบว่าโรงงานกว่า 27,000 แห่งผู้ก่อกำเนิดของเสียยังไม่รายงานข้อมูล ย้ำฝ่าฝืนปรับสูงสุด 20,000 บาท
นายวิษณุ ทับเที่ยง หัวหน้าผู้ตรวจกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า เมื่อเร็วๆนี้ กรมโรงงานอุตสาหกรรมได้ปรับปรุงกฎหมายฉบับล่าสุด คือ ประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่องการจัดการสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้ว พ.ศ. 2566” นำหลักการผู้ก่อมลพิษเป็นผู้จ่ายหรือเป็นผู้รับผิดชอบ (Polluter Pays Principle: PPP) มาใช้อย่างเต็มรูปแบบ โดยกำหนดความรับผิดตั้งแต่ต้นทางโรงงานผู้ก่อกำเนิด ไปจนกว่าสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้วจะได้รับการจัดการจนแล้วเสร็จ ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 1 พฤศจิกายน 2566 เป็นต้นไป
ทั้งนี้ ได้กำหนดให้โรงงานผู้ก่อกำเนิดของเสียทุกโรงงานต้องรายงานข้อมูลผ่านระบบการรายงานข้อมูลกลางของกระทรวงอุตสาหกรรม หรือ iSingle Form (https://isingleform.go.th/home) ภายใน 30 มิถุนายน 2566 หากฝ่าฝืนไม่รายงานหรือรายงานล่าช้ามีโทษปรับสุงสุด 20,000 บาท
“ขณะนี้ประเทศไทยมีโรงงานผู้ก่อกำเนิดของเสียจำนวน 60,638 โรงงานทั่วประเทศ แต่มีโรงงานที่ยังไม่ได้รายงานข้อมูลกว่า 27,000 แห่ง จึงได้กำชับให้สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดอุตสาหกรรมทั่วประเทศ เร่งประสาน ติดตาม และเน้นย้ำให้ผู้ประกอบกิจการโรงงานรายงานข้อมูลการจัดการสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุไม่ใช้แล้วผ่านระบบ หากไม่ปฏิบัติตามมีโทษปรับสูงสุด 20,000 บาท” นายวิษณุ
ทั้งนี้ กรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) จะจัดการอบรมให้แก่ผู้ประกอบกิจการโรงงานโดยไม่มีค่าใช้จ่ายในหัวข้อ “ประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง การจัดการสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้ว พ.ศ.2566” จำนวน 5 รอบ คือรอบที่ 1 วันที่ 19 มิถุนายน 2566 เวลา 09.00-12.00 น. รอบที่ 2 วันที่ 20 มิถุนายน 2566 เวลา 09.00-12.00 น. รอบที่ 3 วันที่ 21 มิถุนายน 2566 เวลา 13.00-16.00 น. รอบที่ 4 วันที่ 22 มิถุนายน 2566 เวลา 09.00-12.00 น. รอบที่ 5 วันที่ 23 มิถุนายน 2566 เวลา 13.00-16.00 น. โดยผู้สนใจสามารถเลือกเข้ารับการอบรมผ่านระบบออนไลน์ ได้ 2 ช่องทาง ระบบ ZOOM Meeting จำนวนรอบละ 500 ราย และทาง Live Facebook กรมโรงงานอุตสาหกรรม สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กองบริหารจัดการกากอุตสาหกรรม กรมโรงงานอุตสาหกรรม (กกอ.กรอ.) โทร. 0 2430 6307 ต่อ 1609 .-สำนักข่าวไทย