ก.แรงงาน 21 พ.ค.-กรมสวัสดิการฯ ระดมความเห็นร่างแผนยุทธศาสตร์คุ้มครองแรงงานนอกระบบ พ.ศ….ครั้งที่ 3 พบเป็นกลุ่มขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจสำคัญของประเทศ มีมากถึง 20.80 ล้านคน ขณะที่ร่างฯ คาดแล้วเสร็จและนำมาบังคับใช้ได้ภายในปีนี้
นายทศพล กฤตวงศ์วิมาน รองอธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.)กระทรวงแรงงาน กล่าวหลังเป็นประธานเปิดการประชุมเพื่อรับฟังความคิดเห็นต่อร่างแผนยุทธศาสตร์คุ้มครองแรงงานนอกระบบ พ.ศ.2561-2565 ว่า แรงงานนอกระบบเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ มีมากถึง 20.80 ล้านคน หรือร้อยละ55.20 ของผู้มีงานทำทั้งหมด รัฐบาลจึงให้ความสำคัญและกำหนดให้การดูแลคุ้มครองแรงงานนอกระบบเป็นวาระแห่งชาติ หวังมุ่งยกระดับคุณภาพชีวิตแรงงานนอกระบบ ลดความเลื่อมล้ำ สร้างรายได้ และความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจ
นายทศพล กล่าวต่อว่า กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ภายใต้การบริหารงานของ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รมว.แรงงาน จึงจัดทำร่างแผนยุทธศาสตร์คุ้มครองแรงงานนอกระบบ พ.ศ.2561-2565 นี้ขึ้น เพื่อใช้ให้เป็นกรอบและทิศทางในการดำเนินการดูแลแรงงานนอกระบบให้มีความชัดเจน บรรลุเป้าหมายได้อย่างตรงจุด เพื่อยกระดับและพัฒนาคุณภาพชีวิตของแรงงานนอกระบบให้เกิดเป็นรูปธรรมในทุกด้าน ทุกมิติ ทั้งทางสังคม วัฒนธรรม เศษฐกิจและสุขภาพที่ต้องเข้าถึงการบริการอย่างมีคุณภาพไม่ต่างจากแรงงานในระบบ
สำหรับวันนี้เป็นการหารือเพื่อระดมความคิดเห็นจากภาคีเครือข่ายต่อร่างแผนยุทธศาสตร์ฯ ซึ่งครั้งนี้เป็นการหารือครั้งที่ 3 เพื่อให้เกิดความสมบูรณ์ครบถ้วนของข้อมูลและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับร่างยุทธศาสตร์ฯ มีผู้เข้าร่วมประชุมกว่า 150 คน ประกอบด้วย คณะทำงานจัดทำแผนยุทธศาสตร์ฯคณะกรรมการการคุ้มครองการรับงานไปทำที่บ้าน หน่วยงานภาครัฐ เอกชน นักวิชาการ ผู้แทนนายจ้าง และผู้แทนแรงงานนอกระบบ
สำหรับร่างแผนยุทธศาสตร์คุ้มครองแรงงานนอกระบบ พ.ศ.2561-2565 มีประเด็นยุทธศาสตร์ที่สำคัญอยู่ 3 ประเด็น คือการพัฒนากลไกการบริหารจัดการแรงงานนอกระบบ การเสริมสร้างความเข้มแข็งแก่เครือข่ายแรงงานนอกระบบพัฒนาองค์กรและบุคลากรให้มีสมรรถนะสูงสู่ไทยแลนด์ 4.0 ซึ่งคาดว่าร่างแผนยุทธศาสตร์ฯนี้ จะเสร็จและนำมาบังคับใช้ได้ภายในปี 2561
นอกจากการหารือร่วมกันแล้ว ในที่ประชุมยังมีการเสวนาเรื่อง “การบริหารจัดการแรงงานนอกระบบสู่การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจของประเทศไทยอย่างมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” จากนักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญที่มาร่วมแลกเปลี่ยนความรู้ แนวความคิดในการดูแลแรงงานนอกระบบด้วย .-สำนักข่าวไทย