fbpx

รัฐบาลหนุนไทยเป็นศูนย์กลางสตาร์ทอัพ

เมืองทองธานี 18 พ.ค.-รองนายกรัฐมนตรีประกาศแข่งขันกับสิงคโปร์ ปรับกฎเกณฑ์อำนวยความสะดวกทุกด้าน หนุนไทยเป็นศูนย์กลางผู้ประกอบการสตาร์ทอัพ ผลักดันเอสเอ็มอีเป็นรากฐานสำคัญโครงสร้างเศรษฐกิจใหม่ ดันจีดีพี SME ปี 64  มีสัดส่วนร้อยละ 50  ของจีดีพีประเทศ 


นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี  กล่าวในระหว่างเปิดงาน “SME Transform #พร้อมเปลี่ยน ประชารัฐร่วมใจ เชื่อม SME ไทยสู่สากล” ว่า ปัจจุบันไทยมีเอสเอ็มอีจำนวนกว่า 3 ล้านราย  คิดเป็นร้อยละ 99.7 ของจำนวนวิสาหกิจทั่วประเทศ ก่อให้เกิดการจ้างงานมากกว่า 10 ล้านคน นับเป็นห่วงโซ่การผลิตและเป็นรากฐานในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศที่แท้จริง รัฐบาลจึงตั้งเป้าหมายสร้าง “เศรษฐกิจบนฐานผู้ประกอบการ” เพื่อให้เอ็สเอ็มอีเป็นเสาหลักสำคัญของเศรษฐกิจไทย แทนการพึ่งพาเศรษฐกิจจากบริษัทขนาดใหญ่เพียงไม่กี่ราย ดังนั้นการจัดทำแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 13  ต้องเน้นพัฒนาเอสเอ็มอี ผู้ประกอบการสตาร์ทอัพ ให้เป็นพื้นฐานหลัก จึงได้หารือกับร่วมกับกระทรวงการคลัง สศช. กรมสรรพากร ตลาดหลักทรัพย์ฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หารือเกี่ยวกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจฉบับใหม่ และแก้ไขอุปสรรคสำคัญหลายด้าน เพื่ออำนวยความสะดวกในการตั้งกิจการสตาร์ทอัพ และร่วมกับ กระทรวงอุตสาหกรรม พาณิชย์ จดทะเบียนธุรกิจได้สะดวกขึ้น  การจัดทำ Big Data รวบรวมพฤติกรรมลูกค้าจากหลายหน่วยงาน จะทราบนิสัย แนวคิด การเบี้ยวหนี้ พฤติกรรมการใช้จ่าย  รวมทั้งต้องการผลักดันเอสเอ็มอีไทยยกระดับไปสู่ Smart Enterprise เปลี่ยนจาก ทำมากได้น้อย เป็น ทำน้อยได้มาก โดยรัฐบาลตั้งเป้าหมายดันจีพีเอสเอ็มอีเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันร้อยละ 36  เพิ่มเป็นไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ภายในปี 2564 โดยจะเน้นให้เข้าถึงเงินทุนจากสถาบันการเงินมากขึ้น ซึ่งสถาบันการเงินจะต้องปรับปรุงระบบ Big Data กับหน่วยงานรัฐและเอกชนทั้งหมด เพื่อให้สามารถวิเคราะห์การให้เงินทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น 

รัฐบาลจึงประกาศ ผลักดันให้ไทยเป็นฮับสตาร์ทอัพ แข่งกับประเทศสิงคโปร์ เพราะขณะนี้ค่อนข้างมั่นใจในศักยภาพของผู้ประกอบการไทย ในอีก 4-5 ปีข้างหน้า เพื่อให้ทั้งเอสเอ็มอี และผู้ประกอบการสตาร์ทอัพได้รับประโยชน์ จากนโยบาย One Belt One Road เชื่อมการคมนาคมขนส่งของจีนมายังตอนใต้ และนโยบายเชื่อมเศรษฐกิจของญี่ปุ่น อินเดียและออสเตรเลีย สองนโยบายดังกล่าวล้วนแต่มีไทยเป็นศูนย์กลาง จึงเป็นโอกาสของธุรกิจไทย  ด้วยการใช้ความร่วมมือจากประเทศเพื่อนบ้าน จึงต้องเร่งทำสิ่งเหล่านี้ให้มีความคืบหน้าในช่วงเวลาก่อนเลือกตั้ง.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

“สารวัตรแจ๊ะ” ยื่นฟ้องหมิ่น “ทนายรัชพล” กล่าวหาจับแพะติดคุกฟรีปีกว่า

“สารวัตรแจ๊ะ” พร้อมทนายความ ยื่นฟ้องหมิ่นประมาททนายดัง และฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท ยันไม่ได้นําตัวไปเซฟเฮาส์ ด้านทนายเผยพบหลักฐานทนายคู่กรณีบีบผู้เสียหายกลับคําให้การ แบ่งเงินคนละครึ่ง

ข่าวแนะนำ

เร่งตรวจสอบเหตุสารเคมีรั่วไหลโรงงานย่านพระราม 2

เจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบเหตุสารเคมีรั่วไหลในโรงงานย่านพระราม 2 ควันสีขาวลอยโขมง เบื้องต้นพบเป็นสารไทโอยูเรีย

อุตุฯ เผยไทยตอนบนร้อนจัด แนะเลี่ยงทำงานในที่โล่งแจ้งเป็นเวลานาน

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด แนะหลีกเลี่ยงการทำงานหรือการประกอบกิจกรรมในที่โล่งแจ้งเป็นระยะเวลานาน ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง กรุงเทพฯ-ปริมณฑล อากาศร้อนจัดบางแห่ง

คดีสะเทือนขวัญ ฆ่าหั่นศพ “ยากูซ่า” จ.นนทบุรี

คดีสะเทือนขวัญ พบชิ้นส่วนมือ ในพื้นที่ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ล่าสุดตำรวจจับกุมหนึ่งในผู้ต้องหาได้แล้ว และทราบว่าทั้งผู้ตายและผู้ลงมือฆ่าหั่นศพ เป็นแก๊งยากูซ่าชาวญี่ปุ่น

ชาวบ้านร้องโรงงานเก็บสารเคมีเร่งเยียวยาเหตุไฟไหม้

ชาวบ้านที่เดือดร้อนจากเหตุไฟไหม้โกดังเก็บสารเคมีอุตสาหกรรม จ.ระยอง เรียกร้องโรงงานช่วยเหลือ บอกน้ำสักขวดก็ไม่ได้