นักท่องเที่ยวพอใจซื้ออัญมณีมีคุณภาพ

นนทบุรี  12 เม.ย. – สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีฯ เผยนักท่องเที่ยวไทย-เทศพอใจแนวทางดูแลสินค้าอัญมณีไทย เดินหน้าเร่งชักชวนร้านค้าเข้าร่วมโครงการ มั่นใจดันยอดขายเพิ่มนับหมื่นล้านบาท


นางดวงกมล เจียมบุตร ผู้อำนวยการ สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับ กล่าวว่า หลังจากลงนามความร่วมมือโครงการ Buy With Confidence กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) และกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว เมื่อต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมาที่จะร่วมมือกันตรวจสอบสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับตามร้านค้าหรือแหล่งจำหน่ายต่าง ๆ นั้น ปรากฎว่าจากการสอบถามนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติที่เข้ามาซื้อสินค้าเหล่านี้ต่างพอใจและมั่นใจสินค้าที่ได้เลือกซื้อกันมากขึ้น เพราะเห็นว่าอัญมณีและเครื่องประดับที่ผ่านการรับรองคุณภาพเช่นนี้ยิ่งสร้างความมั่นใจให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และ ชาวต่างชาติที่มองว่าจะเลือกซื้อสินค้ากลับไปอย่างมีคุณภาพและมาตรฐานและไม่ใช่ของปลอมอย่างแน่นอน


สำหรับข้อสังเกตผู้ซื้อสินค้ามองหาสติกเกอร์ตราสัญลักษณ์ BWC ที่ติดหน้าร้านค้าจะมี QR Code ให้สแกน เพื่อดูรายละเอียดของร้านค้าที่ร่วมโครงการกับ GIT หลังจากนั้นให้เลือกซื้อสินค้าที่มีป้าย BWC ติดอยู่ที่มี QR Code ให้สแกน เพื่อดูรายละเอียดใบรับรองคุณภาพอัญมณีและเครื่องประดับจาก GIT หลังจากนั้นยังเรียกดูใบรับรองฉบับจริงจากร้านค้าตามโครงการ “ซื้อด้วยความมั่นใจ เรียกดูใบรับรอง GIT” เพื่อตรวจสอบความถูกต้องของสินค้าที่จำหน่ายได้อย่างมั่นใจ แต่หากในกรณีเกิดข้อพิพาทระหว่างผู้ซื้อกับร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการนี้ หรือเห็นว่าสินค้าไม่ได้มาตรฐานผู้ซื้อร้องเรียนได้ที่สายด่วน 1166 ของ สคบ. 1155 ตำรวจท่องเที่ยว และ 1569 กรมการค้าภายใน ซึ่งเป็นหน่วยงานพันธมิตรของสถาบันที่จะให้การช่วยเหลือผู้ซื้ออย่างเต็มที่ โดยสถาบันฯ มีหลักเกณฑ์การคัดเลือกผู้ประกอบการเข้าร่วมโครงการ จึงมั่นใจว่าสินค้าที่ได้รับตราสัญลักษณ์ BWC จำหน่ายสินค้าที่มีคุณภาพมาตรฐานสากลตรงตามใบรับรองของ GIT

ทั้งนี้ อุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับถือเป็นสินค้าส่งออกสำคัญในอันดับที่ 3 รองจาก รถยนต์ คอมพิวเตอร์ ตามลำดับ สร้างรายได้เข้าประเทศ โดยยอดส่งออกปีที่ผ่านมาเกือบ 500,000 ล้านบาท ซึ่งรวมทองคำด้วย แต่หากไม่รวมทองคำกลุ่มสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับส่งออกกว่า 240,000 ล้านบาท โดยปี 2561 คาดว่าอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับจะส่งออกเติบโตกว่าร้อยละ 8-10 หรือมีมูลค่ากว่า 260,000-265,000 ล้านบาท ขณะที่มีมูลค่าการซื้อขายในประเทศเป็นเงิน 533,000 ล้านบาท ก่อให้เกิดเม็ดเงินหมุนเวียนในประเทศมูลค่าเกือบ 1 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 6.3 ของจีดีพี หากดูตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาในประเทศไทยประมาณ 35.38 ล้านคน ดังนั้น โครงการนี้นอกจากสร้างความมั่นใจต่อสินค้าไทยแล้วยังจะก่อให้เกิดรายได้จากการซื้อสินค้าประเภท Cash and Carry รวมถึงเพิ่มยอดขายในกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติได้อีกไม่น้อยกว่า 10,000 ล้านบาท และจะเพิ่มขึ้นในอนาคต


อย่างไรก็ตาม ทางสถาบันมีห้องปฏิบัติการตรวจสอบอัญมณีและเครื่องประดับถือเป็นหน่วยงานตรวจสอบคุณภาพมาตรฐานของรัฐฯ ที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล  จึงเชื่อมั่นได้ว่าสินค้าทุกชิ้นที่ได้รับใบรับรองจาก GIT เป็นสินค้าที่มีคุณภาพตรงตามที่ระบุไว้ในใบรับรองคุณภาพสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับ และได้คัดเลือกร้านค้าและบริษัทที่ประกอบกิจการอัญมณีเครื่องประดับ และร้านค้าทอง ที่มีคุณสมบัติตามเกณฑ์ที่กำหนดเข้าร่วมเป็นสมาชิกโครงการนี้แล้วเกือบ 140 ราย และมีร้านค้าได้แสดงความสนใจเพิ่มอีกหลายราย โดยตั้งเป้าหมายชักชวนให้มีสมาชิกเข้าร่วมโครงการอย่างน้อย 500 รายภายในสิ้นปีนี้ทั้งในกรุงเทพฯ จันทบุรี และเมืองท่องเที่ยวในอีกหลายแห่งทั่วประเทศ พร้อมกันนี้เปิดรับฟังความคิดเห็นหรือนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างประเทศ หากยังไม่มั่นใจหรือมีข้อสงสัยสามารถแสดงความคิดเห็นและขอรายละเอียดได้ที่ทาง http://bwc.git.or.th ต่อไป. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

เติมน้ำมันไม่จ่าย

แท็กซี่เติมน้ำมันไม่จ่าย ซิ่งหนีพุ่งชนรถ 5 คันรวด

ตำรวจชัยภูมิ ไล่ล่าแท็กซี่เติมน้ำมัน แล้วซิ่งหนี ไม่จ่ายเงิน แถมยังขับพุ่งชนรถตำรวจ รถเก๋งและรถ 6 ล้อ รวม 5 คันรวด

ขับรถชนคน

คนร้ายขับรถชนกลุ่มคนในตลาดคริสต์มาสเยอรมนี ดับ 2 ราย

คนร้ายขับรถยนต์พุ่งเข้าชนกลุ่มคนจำนวนมากที่จับจ่ายซื้อของและเที่ยวชมตลาดคริสต์มาสในเยอรมนีในช่วงเย็นวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น

นักการเมืองแห่งปี

“แพทองธาร” ปลื้ม นอร์ทโพล ประชาชนให้เป็น “นักการเมืองแห่งปี”

“แพทองธาร” นายกฯ ปลื้ม นอร์ทโพล เผยประชาชนยกให้เป็น “นักการเมืองแห่งปี” รับกดดัน แต่ขอทำงานเต็มที่-ไม่สร้างดราม่า ชี้ ครม.ทุกคนทำงานหนัก หากช่วยกันจะพัฒนาประเทศ