นนทบุรี 30 เม.ย.-ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ (GIT) ย้ำแผนเร่งผลักดันการส่งออกสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับให้หนักขึ้นโดยนำผู้ประกอบการ ขยายตลาดในช่วงที่เหลือของปีนี้ ผ่านงานแสดงสินค้าต่างๆ ควบคู่กับการสร้างมาตรฐานสินค้าเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ซื้อทั่วโลกตั้งเป้าผลักดันการส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับปีนี้ให้ขยายตัวเป็นบวกได้ต่อเนื่อง ปลื้มสินค้ากลุ่มนี้ส่งออกเป็นอันดับ 3 ของไทย
นายสุเมธ ประสงค์พงษ์ชัย ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ GITกล่าวว่าในปี 2566 นี้ ยังนำหลักคิด BCG มาใช้พัฒนาผู้ประกอบการ ตั้งแต่ต้นน้ำ – ปลายน้ำ ผ่านหลายโครงการทั้งการประกวดออกแบบเครื่องประดับ ที่ใช้วัสดุจากธรรมชาติ และโครงการพัฒนาต่อยอดอัตลักษณ์เครื่องประดับภาคใต้เพื่อการท่องเที่ยว (เสน่ห์ใต้) ที่เน้นในเรื่องของการนำวัสดุพื้นถิ่น ท้องถิ่น ให้เกิดชิ้นงานใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ความต้องการของโลก โดยจะยังคงมุ่งเน้น มาตรฐาน GIT STANDARD ซึ่งผู้ประกอบการ และเอกชนหลายแห่งเริ่มใช้มาตรฐานนี้กันมากขึ้น ปัจจุบันมีรายการมาตรฐานวิธีวิเคราะห์และทดสอบอัญมณี ที่ประกาศใช้แล้ว 22 ขอบข่าย ซึ่งปีนี้ เตรียมจะเพิ่มอีก 3 ขอบข่าย ได้แก่ มรกต มุก และการตรวจค่าบริสุทธิ์ของเงิน และยังมีมาตรฐานด้านจรรยาบรรณในการทำธุรกิจด้วย
อย่างไรก็ตาม ที่สำคัญ GIT ในฐานะตัวแทนประเทศไทย ซึ่งเข้าร่วมเป็นสมาชิกองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรระหว่างประเทศผู้สร้างมาตรฐานการการดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมในอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับตลอดห่วงโซ่อุปทาน หรือ อาร์เจซี RJC ( Responsible Jewellery Council ) เพื่อให้ผู้ส่งออกพร้อมรับการเปลี่ยนแปลง เพราะปัจจุบันผู้ประกอบการ และผู้นำเข้ารายใหญ่ รวมถึงแบรนด์ทั้งหมด เข้ามาเป็นสมาชิก RJC ซึ่งหากผู้ขาย ไม่สามารถแจ้งที่มาที่ไปของวัตถุดิบ หรือ มีการเอาเปรียบแรงงาน ก็จะไม่ซื้ออัญมณีจากผู้ประกอบการรายนั้นๆได้ ดังนั้น จึงได้เดินหน้าอบรมให้กับผู้ประกอบการไทยต่อเนื่อง
นอกจากนี้ อีกหนึ่งแนวทางสำคัญ คือ ช่องทางการตลาด โดยช่วงครึ่งปีหลัง ได้ร่วมกับผู้จัดงานแสดงสินค้า โดยเฉพาะงานบางกอกเจมส์ แอนด์ จิวเวลรี่ แฟร์ ครั้งที่ 68 ระหว่างวันที่ 6 – 10 กันยายน 2566 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ซึ่งขณะนี้ยอดจองบูธในงานเต็ม 2,200 บูธแล้ว จะเป็นแรงสำคัญที่จะช่วยผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางการค้าอัญมณีและเครื่องประดับได้ และการจัดงานเทศกาลนานาชาติพลอยและเครื่องประดับจันทบุรี 2023 ในช่วงเดือนธันวาคม รวมถึงการส่งเสริมการขายอัญมณี ทางออนไลน์ซึ่งได้รับความนิยมมากขึ้น ผ่านโครงการซื้อด้วยความมั่นใจ(Buy With Confidence) ให้ผู้ซื้อมั่นใจเพราะมีใบรับรองจาก GIT
ทั้งนี้ แนวโน้มการส่งออกสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับในปีนี้ เชื่อว่ายังขยายตัวดี ตามการประเมินจากหลายหน่วยงานในต่างประเทศ มองว่ากลุ่มอัญมณีและเครื่องประดับ ยังเติบโต 4.5 – 6% ส่วนของไทย จะประเมินอีกครั้งร่วมกับกระทรวงพาณิชย์และภาคเอกชน แต่มั่นใจว่าจะขยายตัวได้ดีกว่าปีที่แล้วแน่นอน จากปี 2565 มูลค่าการส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับ ไม่รวมทองคำ มูลค่าประมาณกว่า 8,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวประมาณ 30% และในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้ มูลค่าการส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับไม่รวมทองคำ 1,586 ล้านเหรียญสหรัฐฯ บวกถึง 36.86% แต่ยังต้องติดตามปัญหาสงคราม และเงินเฟ้อ ที่จะกระทบกับกำลังซื้อเป็นต้น.-สำนักข่าวไทย