ศรีสะเกษ 19 ธ.ค.-ที่จังหวัดศรีสะเกษเกิดเหตุชุลมุน เมื่อชายคนหนึ่งได้เดินทางกลับบ้านหลังไปทำงานบนเรือประมงที่จังหวัดนครศรีธรรมราช นานกว่า 1 ปี เมื่อกลับถึงบ้านพบว่าตัวเองถูกแจ้งตาย และจัดงานฌาปนกิจศพไปตั้งแต่ต้นปี ขณะที่ทางญาติของชายคนนี้ก็ตกตะลึงไม่แพ้กัน เพราะคิดว่าชายผู้นี้เสียชีวิตตั้งแต่ 7 เดือนก่อน
สร้างความตกตะลึงให้ญาติพี่น้องและชาวบ้านในหมู่บ้านเหล่าฝ้าย ตำบลเหล่ากวาง อำเภอโนนคูณ จังหวัดศรีสะเกษ เมื่อนายสาคร สาชีวะ อายุ 45 ปี ปรากฏตัวขึ้นที่บ้านเมื่อค่ำวันที่ 17 ธันวาคมที่ผ่านมา เพราะตลอด 7 เดือนที่ผ่านมา ทุกคนเข้าใจว่านายสาครเสียชีวิตตั้งแต่ต้นปี
โดยเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ครอบครัวนายสาครได้รับแจ้งจากตำรวจว่านายสาครเสียชีวิตในห้องพักที่กรุงเทพฯ จากการติดเชื้อในทางเดินอาหาร ญาติได้เดินทางไปรับศพที่คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร และประกอบพิธีฌาปนกิจ นำอัฐิบรรจุในกำแพงวัดบ้านเหล่าฝ้ายพัฒนา ใบมรณบัตรระบุวันที่เสียชีวิตคือ 18 พฤษภาคม 2560 และญาติยังได้ขอรับเงินจากประกันสังคมตามสิทธิ์ ซึ่งนายสาครเป็นผู้ประกันตน
นายสาครเคยเข้ารับการรักษาอาการผิดปกติทางประสาท การพูดคุยให้ข้อมูลจึงยังวกวน นายสาครเล่าว่า ตนไปทำงานที่กรุงเทพฯ 3-4 ปี จากนั้นไปเป็นลูกเรือประมง ต่อมาทำบัตรประชาชนหาย และมีคนเก็บได้ ตนได้ขอคืน แต่คนที่เก็บได้ไม่ยอมคืน ตนจึงไปทำบัตรประชาชนใหม่เมื่อเดือนธันวาคม 2559
ทั้งนี้ ญาตินายสาครชาวบ้านต่างยืนยันว่านายสาครที่ปรากฏตัวคือตัวจริง นายเจริญ พี่เขยนายสาคร ผู้เดินทางไปรับศพนายสาครที่กรุงเทพฯ เล่าว่า เมื่อเห็นศพ ศพมีสภาพขึ้นอืด ตนคิดว่าไม่น่าใช่นายสาคร เพราะศพมีฟันหน้า นายสาครไม่มีฟันหน้า แต่ต้องรับศพมาเพราะมีเอกสารยืนยัน
วันนี้ญาติผู้ใหญ่บ้านได้พานายสาครมายังที่ว่าการอำเภอเพื่อขอรับความช่วยเหลือ ขณะที่เงินจากประกันสังคมที่ครอบครัวนายสาครได้ประโยชน์ทดแทนจากสำนักงานประกันสังคม รวมเป็นเงินกว่า 90,000 บาทนั้น ประกันสังคมจังหวัดศรีสะเกษเตรียมออกหนังสือเรียกนางสี มารดานายสาคร มาพูดคุย เพื่อขอเงินคืนสู่กองทุนประกันสังคม สิ่งที่ครอบครัวนายสาครสงสัยคือ เหตุใดทางตำรวจ โรงพยาบาล จึงยืนยันว่าศพที่พบคือศพนายสาคร และศพที่ครอบครัวได้ฌาปนกิจศพไปนั้นคือศพของใคร.-สำนักข่าวไทย