ทำเนียบฯ 18 ธ.ค.-“พล.อ.ประวิตร” ประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนและปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดิน ไฟเขียว 3 แนวทางแก้ประมงผิดกฎหมาย เตรียมชง ครม. ซื้อเรือประมงคืน
พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกประจำกระทรวงกลาโหม แถลงผลการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนและปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดิน คณะที่ 5 ที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธาน ว่า ที่ประชุมเห็นชอบแนวทางการแก้ไขปัญหาประมงผิดกฎหมาย ประกอบด้วย การเห็นชอบในหลักการในการรับซื้อเรือประมงคืน จากข้อเสนอของสมาคมประมง โดยมีเรือประมงที่จะไม่ทำการประมงต่อไปประมาณ 1,900 ลำ จึงเสนอให้รัฐบาลรับซื้อคืน ที่ประชุมจึงเห็นชอบให้นำเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เพื่อของบประมาณในการซื้อเรือประมง โดยจะดำเนินการควบคู่ไปกับการควบรวมใบอนุญาตการทำประมง
“ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร ได้สั่งการให้เร่งรัดเรื่องดังกล่าวให้เร็วที่สุด เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่แก่ชาวประมง โดยจะประกาศดำเนินการได้ในวันที่ 27 ธันวาคมนี้ และเมื่อเรือประมงได้ลดจำนวนลง จากการซื้อคืนของรัฐพร้อมกับมีการควบรวมใบอนุญาต ก็จะทำให้เรือในท้องทะเลอยู่ในปริมาณที่เหมาะสม และเชื่อว่าจะสามารถยืดระยะเวลาการทำประมงจากเดิมที่ให้ 120 วัน ให้อยู่ในเวลาที่เหมาะสมกับความต้องการชาวประมงได้” พล.ท.คงชีพ กล่าว
พล.ท.คงชีพ กล่าวอีกว่า ที่ประชุมยังเห็นชอบหลักการจัดตั้งกองทุนพัฒนาเรือประมงที่ได้รับผลกระทบจากการปฏิรูปด้านประมง โดยกรมประมงได้เสนอให้นำเงินค่าธรรมเนียมในการจดทะเบียนเรือประมงตลอด 2 ปีที่ผ่านมา ซึ่งประมาณ 130 ล้านบาท มาใช้ในกองทุนดังกล่าว และเห็นชอบโครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการประมงที่ได้รับผลกระทบ โดยธนาคารออมสินได้เสนอวงเงินสินเชื่อต่ำ 650 ล้านบาท เชื่อว่าจะช่วยเหลือชาวประมงที่ได้รับผลกระทบได้
“ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร ย้ำให้ทุกส่วนราชการช่วยเหลือการแก้ไขปัญหาให้ได้ เพื่อปลดล็อคใบเหลืองจากอียู เพราะถ้าทำไม่ได้ ธุรกิจประมงทั้งระบบที่มีมูลค่ากว่าแสนล้านบาทจะได้รับผลกระทบ และถ้าปล่อยปะละเลย จะถือเป็นความบกพร่องของเจ้าหน้าที่ โดยผู้ที่เกี่ยวข้องต้องรับผิดชอบ” พล.ท.คงชีพ กล่าว
พล.ท.คงชีพ กล่าวด้วยว่า ในส่วนการแก้ปัญหาปาล์มน้ำมัน รัฐบาลกำลังเร่งรัดการส่งออกเพื่อให้แข่งขันกับตลาดโลกได้ ซึ่งขณะนี้ได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาทั้งระบบ โดยให้ผู้ประกอบการผลิตน้ำมันปาล์มและเพิ่มปริมาณการใช้ไบโอดีเซลมากขึ้น ทั้งนี้ ที่ประชุมยังเห็นชอบให้เชิญส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งผู้แทนเกษตรกรเข้ามาหารือร่วมกันเพื่อกำหนดการแก้ปัญหาปาล์มน้ำมันร่วมกัน ซึ่งกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) จะหารือกับทุกภาคส่วนต่อไป
ด้าน พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก กล่าวถึงการแก้ปัญหาการบินพลเรือน ที่ขณะนี้มีการติดตามและดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ภายหลังที่ไทยสามารถปลอดธงแดงในเรื่องมาตรฐานการบินเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งทางองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ไอเคโอ) ได้ส่งรายงานการตรวจรักษาความปลอดภัยอย่างเป็นทางการ โดยมีการระบุคะแนนประสิทธิภาพของมาตรฐานไอเคโอที่ใช้กับประเทศไทยให้ทราบด้วย โดยไทยได้รับคะแนนการประเมินดีขึ้น จากคะแนนร้อยละ 34.2 และเดือนกันยายนที่ผ่านมาอยู่ที่ร้อยละ 41.11 ที่มีแนวโน้มดีมากขึ้น.-สำนักข่าวไทย