พล.อ.อักษราแจงกระบวนการสันติภาพกับคณะผู้แทนจากสหราชอาณาจักร

กรุงเทพฯ 3 ธ.ค.- หัวหน้าคณะพูดคุยสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ ร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้านความมั่นคงและกระบวนการสันติภาพกับคณะผู้แทนจากสหราชอาณาจักร เพื่อความเข้าใจถึงยุทธศาสตร์และกลไก  การแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วยสันติวิธีของประเทศไทย


พล.อ.อักษรา เกิดผล  ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะพูดคุยสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้  พบปะและแลกเปลี่ยนทางวิชาการกับพล.อ.เซอร์  นิโคลัส  ฮาวตัน อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุด สหราชอาณาจักร และนายโจนาธาน  โพเวลล์ อดีตเลขาธิการนายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร และอดีตหัวหน้าคณะเจรจาสันติภาพไอร์แลนด์เหนือ 

โอกาสนี้พล.อ.อักษราได้อธิบายถึงกระบวนการพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทย  เป้าหมายและปัจจัยที่เกี่ยวข้องต่อความสำเร็จซึ่งอาจมีความแตกต่างจากกระบวนการสันติภาพที่ประเทศต่างๆ เคยใช้  เนื่องจากสภาพแวดล้อมและรายละเอียดของเหตุการณ์ภายในประเทศไทยมีความเฉพาะแตกต่างจากที่อื่น  ทั้งนี้เป้าหมายของการพูดคุยเพื่อสันติสุข   คือประชาชนในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ทุกกลุ่มสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติอย่างมีความสุข  ตามอัตลักษณ์ ของตนเองในรูปแบบสังคมพหุวัฒนธรรม  ซึ่งในวันนี้ก็ได้รับความร่วมมือจากหลายภาคส่วนที่ไม่ต้องการความรุนแรง  


พล.อ.อักษรา กล่าวว่า ยอมรับว่ามุมมองหรือวิธีในการแก้ปัญหาความขัดแย้ง รวมทั้งการรับรู้ของคนภายนอกพื้นที่และในต่างประเทศอาจแตกต่างออกไปจากสภาพความเป็นจริง เนื่องจากอิทธิของสื่อมวลชนและสื่อสังคมแบบใหม่ โดยเฉพาะ Social Media  ที่ถูกใช้เป็นเครื่องมือในการสื่อสารทางการเมืองของกลุ่มต่าง  ๆ    กระบวนการพูดคุยเป็นงานระดับยุทธศาสตร์ของรัฐบาล ซึ่งไม่ได้มีกองกำลังหรืออาวุธในการควบคุมพื้นที่  มีหน้าที่ในการสร้างความไว้วางใจ  แสวงหาความร่วมมือจากทุกฝ่ายทั้งประชาชนและผู้เห็นต่างจากรัฐเพื่อร่วมมือกันลดความรุนแรงในพื้นที่   สร้างสภาวะแวดล้อมให้นำไปสู่การพูดคุย เพื่อเข้าถึงรากเหง้าของปัญหาความขัดแย้งของประชาชนในพื้นที่อย่างแท้จริงและร่วมมือกันในการคลี่คลายปัญหาที่ทุกฝ่ายสามารถยอมรับได้ภายใต้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยเป็นสำคัญ   

โดยบรรยากาศในการแลกเปลี่ยนพูดคุยระหว่างที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีและ หัวหน้าคณะพูดคุยสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้กับผู้แทนสหราชอาณาจักรในครั้งนี้ เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและแสดงออกถึงมิตรภาพอันดี   ซึ่งผู้แทนสหราชอาณาจักรยอมรับและมีความเข้าใจนโยบายการบริหารและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมทั้งแผนการขับเคลื่อนกระบวนการพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ของรัฐบาลไทยมากขึ้น  

สำหรับความคืบหน้าในการดำเนินงานของคณะทำงาน ทางเทคนิคร่วม (Joint Technical Team : JTT)  ซึ่งประกอบไปด้วยผู้แทนจากคณะพูดคุยสันติสุข  กลุ่มผู้เห็นต่างจากรัฐและ ผู้อำนวยความสะดวกในการกำหนดพื้นที่ปลอดภัยนำร่องนั้น น่าจะสามารถนำข้อมูลเข้าประชุมร่วมกันได้ในภายในระยะเวลาอันใกล้นี้.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย