2 ก.ย.- หน่วยงานความมั่นคง เผยเหตุระเบิดตู้ ATM กลุ่มคนร้ายมุ่งเป้าต่อทรัพย์ ทำลายระบบเศรษฐกิจ
จากเหตุการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ กลุ่มคนร้ายลอบวางระเบิดตู้ ATM วางวัตถุต้องสงสัย เผายางรถยนต์ ป่วนในพื้นที่ จำนวน 9 จุด เมื่อช่วงดึกของวันที่ 1 กันยายน 2568 ที่ผ่านมา พร้อมทั้งมีความพยายามฉกเงินจากเซฟ เพื่อทำลายระบบเศรษฐกิจในพื้นที่ สร้างความตื่นตระหนกให้กับประชาชน
ล่าสุด วันนี้ 09.00 น. พล.ท.ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 (ผอ.รมน.ภาค 4 ) พร้อมด้วย พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9,นายธีรวิทย์ เฑียรฆโรจน์ ผู้อำนวยการ กองส่งเสริมและสนับสนุนงานพัฒนาเพื่อความมั่นคง ศอ.บต. และ นายก้องสกุล จันทราช รองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา พล.ต.ต.ชุมพล ศักดิ์สุรีย์มงคล หน.สสส.กกล.ตร.จชต. ร่วมแถลงผลการปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายด้านความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ประจำเดือนสิงหาคม 2568 ที่ห้องประชุมยะลารวมใจ ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ส่วนหน้า เพื่อติดตามสถานการณ์คดีความมั่นคงในพื้นที่ โดยเฉพาะเหตุคนร้ายก่อเหตุลอบวางระเบิดตู้ ATM วางวัตถุต้องสงสัย เผายางรถยนต์ ป่วนในพื้นที่ จำนวน 9 จุด
พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 เปิดเผยว่า ผลการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคง เดือนสิงหาคม 2568 มีการปิดล้อมตรวจค้น 15 ครั้ง ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย 21 คน (อยู่ระหว่างซักถาม 14 คน) เกี่ยวข้องกับคดีสำคัญหลายคดี เช่น เหตุยิงเจ้าหน้าที่ เหตุลอบวางระเบิดในพื้นที่ จ.ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส รวมถึงผู้ต้องหาตามหมายจับที่ถูกผลักดันกลับจากประเทศเพื่อนบ้าน ส่วนการดำเนินคดี เจ้าหน้าที่ออกหมายจับ 33 หมาย จับกุมแล้ว 17 คน คดีเด่น อาทิ เหตุยิงและลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่นราธิวาสและยะลา คดีลอบวางระเบิดในจังหวัดท่องเที่ยว (กระบี่–พังงา–ภูเก็ต) คดีเผารถยนต์และยิงเจ้าหน้าที่ในพื้นที่สุไหงปาดี
พล.ต.ต.ชุมพล ศักดิ์สุรีย์มงคล หน.สสส.กกล.ตร.จชต. เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์กลุ่มคนร้ายลอบวางระเบิดตู้ ATM วางวัตถุต้องสงสัย เผายางรถยนต์ ป่วนในพื้นที่ จำนวน 9 จุด มุ่งเป้าประสงค์ต่อทรัพย์ เพื่อทำลายระบบเศรษฐกิจในพื้นที่ ขณะนี้ ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการเก็บรวบรวมพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ เพื่อเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบทางหลักนิติวิทยาศาสตร์ เชื่อเป็นกลุ่มขบวนการ ที่มีความประสงค์ต่อทรัพย์ที่ชัดเจน เป็นลักษณะของการก่อเหตุกลุ่มขบวนการ วางแผนเตรียมการมาเป็นอย่างดี ก่อเหตุในเวลาเดียวกัน ทั้ง 3 จังหวัด ใช้ระเบิดที่ออกแบบเพื่อทำลายตู้ ATM ลักษณะเป็นท่อวิ่งตามขอบของเซฟตู้ ATM ทุกตู้ โดยใช้รีโมตในการจุดชนวนระเบิด จากนั้นกลุ่มคนร้ายมีความพยายามงัดแงะฝาเซฟ เพื่อประสงค์ต่อทรัพย์ หวังทำลายระบบเศรษฐกิจ ส่วนจะเป็นกลุ่มใหม่ หรือกลุ่มเก่า ขอใช้เวลาในการตรวจสอบทางหลักนิติวิทยาศาสตร์ ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่เร่งติดตามกลุ่มขบวนการที่ก่อเหตุในครั้งนี้
ขณะที่ หน่วยงานความมั่นคงฝ่ายปกครอง ได้มีการเน้นย้ำ ให้นายอำเภอทุกอำเภอ บูรณาการเครือข่ายภาคประชาชนในพื้นที่ ทั้ง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ชุด ชรบ. มามีส่วนร่วมในการดูแลรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ชุมชน และหมู่บ้านช่วยกันเป็นเครือข่ายตาสับปะรด ช่วยกันสอดส่อง ดูแลพื้นที่ร่วมกัน พร้อมทั้งสำรวจจุดล่อแหลมต่างๆ จัดกำลังร่วมในการดูแลรักษาความปลอดภัย
พล.ท.ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 (ผอ.รมน.ภาค 4) เปิดเผยว่า เรื่องของการดูแลทรัพย์สินของทางราชการ และความปลอดภัยพี่น้องประชาชน ได้มีการเน้นย้ำเจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคง ทุกภาคส่วน ทั้ง เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง รวมทั้งกองกำลังภาคประชาชน อาสาสมัครประจำพื้นที่ต่างๆ ทั้ง ชรบ. อรบ. ช่วยกันดูแล ซึ่งที่ผ่านมากลุ่มขบวนการมีความพยามยามหาช่องว่าง เลือกช่วงเวลาในการก่อเหตุสร้างสถานการณ์ในยามวิกาล ฉะนั้นการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ต้องเข้มงวด ซึ่งจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จะมีหลักฐาน ร่องรอยต่างๆ ในที่เกิดเหตุ ขอให้อาสาสมัครประจำพื้นที่ต่างๆ ทั้ง ชรบ. อรบ. แจ้งต่อทางเจ้าหน้าที่ เพื่อดำเนินการเข้าตรวจสอบ ย้ำว่า ทางเจ้าหน้าที่ให้ความสำคัญในการติดตามเร่งรัดทุกคดี พร้อมความคืบหน้าติดตามผู้ก่อเหตุรุนแรงและผู้เกี่ยวข้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมโดยเร็ว ยึดหลักสิทธิมนุษยชน และการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน -สำนักข่าวไทย