กรุงเทพฯ 26 พ.ย.-พล.อ.อ.ชวรัตน์ มารุ่งเรือง รองเสนาธิการทหาร ในฐานะประธานคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง กรณีการเสียชีวิตของนายภคพงศ์ ตัญกาญจน์ นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 ให้สัมภาษณ์ สำนักข่าวไทย อสมท. ทางโทรศัพท์ ว่า การรวบรวมข้อมูลต่างๆมีความคืบหน้ามากพอสมควร หลังจากได้ลงพื้นที่สอบถามข้อเท็จจริงจากผู้เกี่ยวข้องในวันเกิดเหตุ คือ 17 ตุลาคม 2560 และย้อนหลังไปถึงวันที่ 23 สิงหาคม 2560 แต่ไม่ได้กำหนดกรอบเวลาว่าจะต้องสรุปผลการสอบสวนให้เสร็จภายในกี่วัน เนื่องจากต้องการรวบรวมข้อมูลในทุกแง่มุม ให้ละเอียด รอบคอบ แต่ก็จะรีบดำเนินการให้เสร็จโดยเร็วเพื่อไม่ให้ประเด็นปัญหาลุกลาม สร้างความเสียหายแก่ทุกฝ่าย
“หากเป็นไปได้ เราก็อยากจะเชิญพ่อแม่นักเรียนเตรียมทหารภคพงศ์ มาสอบถามถึงการได้รับข้อมูลต่างๆว่ามีการสื่อสารผ่านใครบ้างหรือไม่ มีใครให้ข้อมูลที่บิดเบือนจนทำให้เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อนหรือไม่ ซึ่งเราจะพยายามรวบรวมข้อมูลและข้อเท็จจริงให้ครอบคลุม 360 องศา เราไม่มีการแบ่งว่านี่ฝ่ายครอบครัว ฝ่ายทหาร ฝ่ายโรงเรียนเตรียมทหาร เพราะทั้งหมดเป็นผู้สูญเสียเช่นกัน พ่อแม่สูญเสียลูก พี่สูญเสียน้องชาย กองทัพสูญเสียกำลังพล บุคลากรที่มีค่า รุ่นพี่ สูญเสียรุ่นน้อง” พล.อ.อ.ชวรัตน์ กล่าว
เมื่อถามว่าคณะกรรมการหนักใจหรือไม่ เพราะดูเหมือนสังคมส่วนใหญ่ตัดสินไปแล้วว่าน้องเมยเสียชีวิตจากการถูกธำรงวินัย หรือ การซ่อม รองเสธ.ทหาร กล่าวว่า ข้อเท็จจริง และหลักฐานทางการแพทย์จะเป็นสิ่งยืนยันทุกอย่าง และขอให้สังคมวางใจได้ว่า คณะกรรมการฯที่ผู้บัญชาการทหารสูงสุด แต่งตั้งขึ้น แม้จะไม่มีบุคคลภายนอกร่วมด้วย ก็ยืนยันว่ามีความเป็นธรรม และเที่ยงตรง ทั้งนี้คณะกรรมการฯที่ผบ.ทสส. ตั้งขึ้นมาจากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ พล.ท.ณตฐพล บุญงาม เจ้ากรมข่าวทหาร / โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย, พล.อ.ท.วีรพงษ์ นิลจินดา เจ้ากรมกำลังพลทหาร, พล.ท.ศิราวุฒิ วงศ์ขันตี เจ้ากรมกิจการพลเรือนทหาร พล.ต.พรพิศ รัตนานนท์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระธรรมนูญทหาร เป็นต้น
“คณะกรรมการฯคงไม่ยึดเอาผลประโยชน์ส่วนบุคคล มาเป็นที่ตั้งมากกว่าผลประโยชน์ขององค์กร หรือ สถาบัน องค์กรใดที่ไม่มีนิติธรรม บุคลากรไม่มีคุณธรรม องค์กรนั้นก็อยู่ไม่ได้” รองเสธ.ทหาร กล่าว.-สำนักข่าวไทย