สอบผู้ประกอบการรถตู้กรณีเกิดเหตุทำคนตาย หากพบทำผิด ลงโทษขั้นสูงสุด

กรุงเทพฯ 23 ม.ค.-รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก เผยความคืบหน้าการตรวจสอบกรณีรถตู้โดยสารไม่ประจำทางเกิดอุบัติเหตุที่ จ.นครราชสีมา และเรียกผู้ประกอบการมาสอบสวนข้อเท็จจริง หากพบมีการกระทำความผิดจะดำเนินการลงโทษขั้นสูงสุด ย้ำผู้ประกอบการและพนักงานขับรถต้องปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด 


นายเสกสม อัครพันธุ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก และโฆษกกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า จากกรณีรถตู้โดยสารไม่ประจำทาง ทะเบียน 30-0078 อำนาจเจริญ บรรทุกผู้โดยสารจากจังหวัดอำนาจเจริญเข้ากรุงเทพมหานคร เกิดอุบัติเหตุชน Guard Rail ตกร่องกลางถนนและเกิดไฟลุกไหม้ เมื่อวันที่ 21 ม.ค.66 เวลา 22.30 น. ณ บริเวณ ถ.มิตรภาพ หลักกิโลเมตร (กม.) ที่ 100 ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ต.มิตรภาพ อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา ทำให้ผู้โดยสารที่บรรทุกมาทั้งหมด 12 ราย เสียชีวิต 11 ราย บาดเจ็บ 1 ราย กรมการขนส่งทางบกได้จัดทีมสอบสวนอุบัติเหตุจากส่วนกลางลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงและตรวจสอบสภาพรถ ณ สถานที่เกิดเหตุ เมื่อวันที่ 22 ม.ค.66 เวลา 14.00 น. เพื่อร่วมกันหาสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้ 

ทั้งนี้ พบว่า ข้อมูลสภาพแวดล้อมโดยทั่วไป สภาพถนน ณ จุดเกิดเหตุ มีลักษณะเป็นถนน 8 ช่องจราจร มี Guard Rail และร่องกลางถนนแบ่งช่องทางจราจร เป็นเนินและมีจุดกลับรถ ข้อมูลรถ เป็นรถตู้โดยสารไม่ประจำทาง 30-0078 อำนาจเจริญ จดทะเบียนเมื่อวันที่ 2 พ.ค.60 ชนิดเชื้อเพลิง CNG สลับเบนซิน จำนวน 13 ที่นั่ง ตรวจสภาพครั้งสุดท้าย 27 ต.ค.65 สิ้นอายุภาษี 31 มี.ค.66 ผู้ประกอบการ ห้างหุ้นส่วนจำกัด มนตรีทรัพย์เจริญ ข้อมูล GPS จากการตรวจข้อมูลในระบบ GPS ความเร็วของรถตู้โดยสารไม่ประจำทาง ก่อนเกิดเหตุอยู่ที่ 82 กม./ชม. สภาพรถเกิดเพลิงไหม้สิ้นเชิง สภาพตัวรถโดยทั่วไปทั้งด้านซ้ายและขวาไม่พบรอยกระแทก สำรวจที่ด้านหน้ารถพบรอยฉีกขาดที่กันชนกับสแตนเลส รวมทั้งคานเหล็กด้านในของกันชนด้านหน้าตัวรถ บริเวณด้านล่างตำแหน่งประมาณกึ่งกลางตัวรถ ความสูงจากพื้นประมาณ 40 เซนติเมตรจากพื้นถนน ทะลุเข้าไปในตัวรถ โดยฝากระโปรงด้านบนไม่พบความเสียหายจากการกระแทก สำรวจที่ด้านใต้ท้องรถเพื่อตรวจสอบสภาพถังน้ำมันเชื้อเพลิง (ขนาดความจุเบนซิน 76 ลิตร) พบรอยฉีกขาดขนาดใหญ่ประมาณ 50 เซนติเมตร เป็นแนวตามยาวของตัวรถ ตรวจสอบระบบ CNG พบสภาพหัวถังยังคงสมบูรณ์ ท่อก๊าซไม่ฉีกขาด สภาพถัง Type II ไฟเบอร์ที่ใช้สำหรับเสริมแรงถูกไฟไหม้มีสภาพเสียหายเล็กน้อย 


อย่างไรก็ตาม สภาพโดยรวมทั่วไป ยางยังมีสภาพใหม่และดอกยางยังลึกอยู่ ระบบบังคับเลี้ยวอยู่ในสภาพดี ไม่พบความผิดปกติของระบบช่วงล่างอื่นๆ ติดตั้งที่นั่งทั้งหมดจำนวน 13 ที่นั่ง ตามที่ปรากฏในเล่มทะเบียน มีค้อนทุบกระจกติดตั้งครบ มีทางออกฉุกเฉินที่ด้านท้ายของตัวรถ สภาพที่นั่งและอุปกรณ์ตกแต่งภายในถูกไฟไหม้สิ้นเชิง ตัวถังรถถูกตัดออกเพื่อเก็บกู้ศพหลังจากการเกิดอุบัติเหตุ จึงสันนิษฐานเบื้องต้นว่า รถตู้โดยสารคันดังกล่าวได้ขับออกจากจังหวัดอำนาจเจริญ ตั้งแต่เวลา 12.00 น. โดยประมาณ เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุบริเวณจุดกลับรถ “มอจะบก” รถได้เบนออกจากเส้นทางหลักและปีนคร่อมราวเหล็กเกาะกลางถนน (Guard Rail) ปลายจุดกลับรถ

ทั้งนี้ กรมการขนส่งทางบก โดยสำนักงานขนส่งจังหวัดอำนาจเจริญ ได้เรียกผู้ประกอบการรถตู้โดยสารไม่ประจำทางคันดังกล่าวมาสอบสวนข้อเท็จจริงว่า กรณีการรับจ้างดังกล่าวดำเนินการตามเงื่อนไขใบอนุญาตประกอบการหรือไม่ และได้สั่งให้ผู้ประกอบการนำรถตู้โดยสารที่อยู่ในใบอนุญาตประกอบการทั้งหมดมาตรวจสภาพความพร้อมของรถทุกคัน รวมทั้งให้ดำเนินการอบรมพนักงานขับรถ เพื่อซักซ้อมการให้บริการและความปลอดภัย เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ในกรณีเช่นนี้อีก นอกจากนั้นได้ประสานสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ในการนำเงินเยียวยาค่าสินไหมทดแทนไปมอบให้แก่ญาติผู้เสียชีวิต รายละ 1,100,000 บาท (หนึ่งล้านหนึ่งแสนบาทถ้วน) ทั้งนี้ หากพบมีการกระทำความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบก จะได้พิจารณาลงโทษขั้นสูงสุดในทุกกรณีความผิดต่อไป.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]