อุตรดิตถ์ 16 พ.ย.- สุดยอดเด็กกตัญญู อายุ 13 ปี นักเรียนชั้น ม.1 โรงเรียนบ้านปากปาด จ.อุตรดิตถ์ แบกภาระเกินวัย ต้องดูแลพ่อแม่ป่วยหนักช่วยเหลือตัวเองไม่ได้
ภารกิจประจำวันของ เด็กหญิงอรปรียา ดวงดี หรือ น้องพิม อายุ 13 ปี นักเรียนชั้น ม.1 โรงเรียนบ้านปากปาด อ.น้ำปาด จ.อุตรดิตถ์ แตกต่างจากเด็กวัยเดียวกัน นั่นคือ ตื่น เช้ามา ก็ต้องดูแล นางบัวศรี ปาคำมูล อายุ 49 ปี ผู้เป็นแม่ที่ป่วยโรคประจำตัว 6 โรค ที่สายตาเริ่มมองไม่เห็น ต้องพยุงตัวขึ้น เพื่อล้างไต ตามคำสอนของแพทย์ด้วยความชำนาญ และระมัดระวังความสะอาดทุกขั้นตอน เพราะกลัวแม่จะติดเชื้อ ก่อนจะลงบันทึกเป็นข้อมูลให้คุณหมอ ซึ่งใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง
จากนั้น น้องพิม เร่งมือทำความสะอาดบ้านทุกอย่าง ทั้งกวาด ถูบ้าน ซักผ้า ล้างจานชาม และทำกับข้าว และก่อนจะไปโรงเรียน จัดเตรียมสำรับกับข้าวให้พ่อและแม่
ขณะที่ทำงานบ้าน น้องพิมก็ต้องวิ่งเข้า-ออก เพราะเสียงเรียกหาของนายไพฑูรย์ ดวงดี อายุ 48 ปี ผู้เป็นพ่อ ที่มีอาการปวดข้อและปวดกระดูก จากมะเร็งตับอ่อนระยะสุดท้าย ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ช่วงท้องบวม นอนไม่ได้ต้องนั่งท่ากบตลอดเวลา แพทย์ไม่สามารถรักษาได้ให้กลับมาอยู่บ้าน
ครอบครัวมีอาชีพทำไร่ทำนา หลังพ่อแม่ป่วย ทำงานหนักไม่ได้มากว่า 13 ปี และเกิดภาวะแทรกซ้อนของโรคต่างๆส่งผลให้ร่างกายอ่อนแรง กระทบการมองเห็น โดยเฉพาะแม่ต้องล้างไตทุกวันๆละ 4 ครั้ง คือเช้า กลางวัน เย็น และ สี่ทุ่ม ได้รับน้ำยาล้างไต จากโรงพยาบาลอุตรดิตถ์ ซึ่งน้องพิมจะคอยล้างไตให้
น้องพิม เล่าว่า ตัวเองเป็นลูกคนเดียว รักพ่อแม่มากที่สุด เมื่อท่านป่วยต้องดูแล เหนื่อยได้แต่ไม่ท้อ ตั้งแต่จำความได้ไม่เคยได้มีโอกาสวิ่งเล่นกับเพื่อนๆ เลิกเรียนต้องรีบกลับมาล้างไตให้แม่ ป้อนข้าวให้พ่อ ไม่อยากให้ท่านรอ ในแต่ละเดือนพ่อแม่ต้องไปพบแพทย์ตามนัด ไม่ต่ำกว่าเดือนละ 10 ครั้ง เหมารถไปกลับครั้งละ 1,000 บาท สำหรับค่ากินอยู่ในบ้าน แม่ได้รับเบี้ยยังชีพจาก อบต.ผาเลือด เดือนละ 800 บาท แต่อีกส่วนหนึ่งยังมี น้ำใจจากญาติพี่น้องและเพื่อนบ้านแบ่งปัน ค่าข้าวและขนมให้ไปโรงเรียน รู้ว่าเงินเริ่มไม่มีแล้ว ต้องประหยัด หากถึงที่สุดอาจตัดสินใจออกจากโรงเรียน อยากรับจ้างหาเงินรักษาพ่อแม่ แม่เคยบอกว่า คนที่ร้องไห้คือคนอ่อนแอ ตัวเองจึงเข้มแข็ง หากมีพรวิเศษ 1 ข้อ อยากขอให้พ่อแม่หายป่วย จะได้อยู่ด้วยกันตลอดไป.-สำนักข่าวไทย