อุตรดิตถ์ 14 เม.ย. – พุทธศาสนิกชน ต.ด่านแม่คำมัน อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ ร่วมกันตกแต่งศาลาการเปรียญวัดด่านแม่คำมัน เพื่อสืบสานประเพณีทอดผ้าสี่ไตร ซึ่งเป็นประเพณีเก่าแก่สมัยพุทธกาล
พุทธศาสนิกชน ต.ด่านแม่คำมัน อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ ร่วมกันตกแต่งศาลาการเปรียญวัดด่านแม่คำมัน เพื่อสืบสานประเพณีทอดผ้าสี่ไตร ซึ่งเป็นประเพณีเก่าแก่สมัยพุทธกาล ก่อนจะเลือนหาย ซึ่งชาว ต.ด่านแม่คำมัน ยังคงอนุรักษ์สืบสานโดยจำลองเหตุการณ์สมัยพุทธกาลด้วยภูมิปัญญาชาวบ้านพร้อมใจประดิษฐ์ ช้าง 4 เชือก ด้วยการนำไม้ไผ่สานเป็นโครงตัวช้าง จากนั้นนำนุ่นอัดด้านในโครง นำผ้าห่มคลุมเป็นผิวของช้างทาสี เป็นช้างเผือก ช้างดำ นำเสลี่ยงวางบนหลังช้าง เพื่อชมความงดงามของโบราณ และนำผ้าไตรวางเชือกละ 1 ผืน จัดสิ่งของที่นำถวายพระสงฆ์ บาตร 4 ลูก เครื่องอัฐบริขาร ของเครื่องใช้ที่จำเป็นสำหรับพระภิกษุสงฆ์ รวมถึงตุงใจ 4 ผืนที่ถักด้วยเส้นดายหลากสีสวยงาม
จากนั้นนิมนต์พระสงฆ์ 4 รูป บนธรรมาสน์ พุทธศาสนิกชนทอดผ้าสี่ไตร หลังพิจารณาผ้าไตร พระสงฆ์เปลี่ยนผ้าไตรจีวร ตามที่พุทธศาสนิกชนถวาย ก่อนจะเทศนาธรรมให้กับญาติโยม โดยทั่วทั้งศาลาการเปรียญวัดมีการผูกโยงสายสิญจน์ จุดเทียนในโอ่งน้ำมนต์ และญาติโยมจุดเทียนน้ำมนต์ 100 เล่ม เพื่อสืบชะตาตามความเชื่อโบราณ ต่อดวงชะตาหรือต่ออายุให้ยืนยาว มีชีวิตอยู่อย่างสุขสบาย ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ มีความเจริญรุ่งเรือง

นายสุเวท โม้คำ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 ต.ด่านแม่คำมัน กล่าวว่า ประเพณีทอดผ้าสี่ไตร ครั้นสมัยพุทธกาลมีพระภิกษุ 4 รูป ขณะเดินทางกลับจากไปเอาคัมภีร์ มาถึงเมืองศิวิรัฐนคร มีเศรษฐีนำช้าง 4 เชือก ใส่ผ้าไตร เอาม้า 4 ตัว ใส่เครื่องอัฐบริขาร มีดอกไม้เงินดอกไม้คำอย่างละ 4 ต้น บาตร 4 ลูก ตุงใจ 4 ผืน หีบ 4 ใบ ที่ในหีบใส่แผ่นเงิน แผ่นทอง ข้าว ประทีบ เทียน ธูป ซึ่งทุกอย่างจัดเพียง 4 ชุด เพื่อเป็นของปูจา หรือถวายแด่พระภิกษุ 4 รูป ก่อนพระสงฆ์เทศนาธรรม เมื่อทอดผ้าสี่ไตรเสร็จ เกิดแสงสว่างส่งไปถึงพระอินทร์ เป็นอานิสงส์จากการทอดผ้าสี่ไตรของมหาเศรษฐี กลายเป็นประเพณีสืบทอดในช่วงเดือน 4 และเดือน 6 ของชาวล้านนา จะมีการทอดผ้าสี่ไตร หรือผ้าสี่จุม (ภาษาเหนือ)
ที่เชื่อว่าหากพุทธศาสนิกชนได้ทอดผ้าสี่ไตรเป็นบุญใหญ่อานิสงส์ยิ่งกว่าทอดกฐิน จึงร่วมกันฟื้นฟูประเพณีดังกล่าวก่อนจะเลือนหายไปจากเมืองลับแล โดยได้สืบสานต่อยอดติดต่อมาได้ 3 ปีแล้ว .-สำนักข่าวไทย