กรุงเทพฯ 30 ต.ค.-พม.- อมตะนคร เตรียมจัดตั้งศูนย์ฝึกอาชีพคนพิการและผู้สูงอายุในนิคมอุตสาหกรรม เพื่อให้ตรงความต้องการของสถานประกอบการ ลดปัญหาจ่ายภาษี แทนการจ้าง
พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.)กล่าวว่า พม.ร่วมหารือกับนายวิกรม กรมดิษฐ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) ถึงการพัฒนาเด็กและการจัดตั้งศูนย์ฝึกอาชีพคนพิการและผู้สูงอายุ ในนิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร เพื่อให้แรงงานคนพิการและผู้สูงอายุตรงตามความต้องการของตลาดแรงงาน ลดปัญาสถานประกอบการเลือกจ่ายภาษีส่งเงินเข้ากองทุน แทนการจ้างงาน โดยถือเป็นการหารือต่อเนื่อง หลังจากวันที่ 24 เม.ย. 60 ที่ผ่านมา พม.และอมตะนคร ได้ร่วมกันหารือกันถึง ถึงประเด็นดังกล่าว
โดยทาง พม.ได้ส่งแบบสอบถามให้กับอมตะนครส่งต่อให้กับสถานประกอบการในสังกัด โดยเก็บข้อมูล 4 ส่วน ได้แก่ 1) ข้อมูลทั่วไปของบริษัท/สถานประกอบการ 2) ข้อมูลด้านการจ้างงานคนพิการ 3) ข้อมูลด้านการจ้างงานผู้สูงอายุ และ 4) ข้อมูลด้านการพัฒนาเด็ก เพื่อจะได้นำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์กำหนดแนวทางความร่วมมือต่อไป
ซึ่งจากการสำรวจสถานประกอบการในอมตะกลุ่มแรก 48 บริษัท พบต้องการ จ้างงานคนพิการในตำแหน่ง เจ้าหน้าที่ธุระการ ฝ่ายผลิต นักบัญชี พนักงงานทำความสะอาด และต้องการจ้างงานผู้สูงอายุ 1 อัตราในตำแหน่งที่ปรึกษา เป็นต้น จากนั้น พม. จึงลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม อมตะนคร พบมีพื้นที่ประมาณ 20,000 ไร่ มีสถานประกอบการในสังกัดประมาณ 600 แห่ง มีลูกจ้างรวมประมาณ 170,000 คนส่วนที่ต้องจ้างงานคนพิการราว 1700 คน และอมตะนครมีความพร้อมหลายอย่างเช่น มีสถาบันฝึกอบรมคนพิการ และมีโรงเรียนสำหรับเด็กเล็ก แต่ยังมีข้อจำกัด เช่นสภาพแวดล้อม อาคารสถานที่ อุปกรณ์เครื่องมือ ยังไม่เหมาะสมต่อการทำงานของคนพิการและผู้สูงอายุ พม.จึงเสนอให้อมตะนครปรับปรุงสภาพแวดล้อมตามหลัก universal design รวมถึงสถานที่ทำงานอุปกรณ์และสิ่งอำนวยความสะดวก เช่นหอพัก รถรับส่งให้เหมาะสมกับการทำงานของคนพิการ
อย่างไรก็ตาม จากการหารือในวันนี้ พม.และอมตะนคร มีมติจะเริ่มดำเนินการในส่วนของสถานประกอบการกลุ่มแรกก่อน 50 แห่ง ซึ่งความต้องการจ้างงานคนพิการจำนวน 700 อัตรา โดยจะทำแผนเกี่ยวกับประเภทงานที่เปิดรับ รายได้สวัสดิการต่างๆ รวมถึงแนวทางในการปรับปรุงสภาพแวดล้อมเส้นทาง ที่พักของอมตะนคร คาดเห็นผลเป็นรูปธรรมภายใน 3 เดือนก่อนขยายผลไปยังสถานประกอบการที่เหลือ .-สำนักข่าวไทย