ญี่ปุ่น 1 ก.ย. – การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ปักธงยกระดับนิคมอุตสาหกรรมไทย ถอดรหัสความสำเร็จ 3 สุดยอดองค์กรด้านนวัตกรรม-ความปลอดภัย ตั้งเป้าสร้างฐานการผลิตอัจฉริยะ ปลอดภัย มั่นคง ดึงดูดการลงทุนระดับโลก
นายอัฏฐพล นิธิสุนทรวิทย์ ผู้ช่วยผู้ว่าการสายงานผู้ว่าการ 1 การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยภายหลังนำคณะ เดินทางศึกษาดูงาน ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เพื่อเรียนรู้และถอดบทเรียนความสำเร็จจาก 3 องค์กรชั้นนำของญี่ปุ่น ได้แก่ ด้านการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีอุตสาหกรรม การบริหารจัดการเชิงธรณีวิทยา และการเตรียมความพร้อมรับมือภัยพิบัติ เพื่อนำมาประยุกต์ใช้ในการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมของไทยให้มีขีดความสามารถในการแข่งขันและสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนทั่วโลก
โดยที่สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอุตสาหกรรมแห่งชาติ (AIST) คณะฯ ได้เรียนรู้ความก้าวหน้าด้านการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีอุตสาหกรรมขั้นสูงของญี่ปุ่น ซึ่งภารกิจของ AIST สอดคล้องโดยตรงกับพันธกิจของ กนอ. ในการส่งเสริมและสนับสนุนการลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย (S-Curve) ที่ต้องอาศัยนวัตกรรมและเทคโนโลยีเชิงลึก การดูงานครั้งนี้จะทำให้ กนอ. สามารถนำองค์ความรู้มาต่อยอดในการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมอัจฉริยะ (Smart Industrial Estate) และส่งเสริมการจัดตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนาภายในนิคมอุตสาหกรรม เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการไทย


พิพิธภัณฑ์ธรณีวิทยา (Geological Museum, GSJ, AIST) แหล่งรวบรวมองค์ความรู้ด้านธรณีวิทยาของญี่ปุ่น ซึ่งสอดคล้องกับภารกิจของ กนอ.ในด้านการวางผังและพัฒนาพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม ซึ่ง กนอ. ให้ความสำคัญกับการเลือกพื้นที่ตั้งที่มีความเหมาะสมและมั่นคงทางธรณีวิทยา เพื่อสร้างความปลอดภัยและลดความเสี่ยงให้กับโรงงานอุตสาหกรรม การศึกษาดูงานในส่วนนี้จะช่วยเสริมสร้างความเข้าใจในการประเมินและบริหารจัดการที่ดินตามหลักธรณีวิทยา เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน และศูนย์ป้องกันภัยพิบัติฮอนโจ (Honjo Bosai-kan) ที่เป็นการจำลองเหตุการณ์และฝึกฝนการรับมือกับสถานการณ์ภัยพิบัติหลากหลายรูปแบบ เช่น แผ่นดินไหว อุทกภัย และไฟไหม้ ซึ่งเชื่อมโยงโดยตรงกับภารกิจของ กนอ. ในการสร้างความปลอดภัยและบริหารจัดการความเสี่ยงภายในนิคมอุตสาหกรรม องค์ความรู้ที่ได้จะถูกนำมาพัฒนาระบบเฝ้าระวัง แผนเผชิญเหตุ และส่งเสริมการบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจ (Business Continuity Plan: BCP) ให้กับผู้ประกอบการ เพื่อสร้างหลักประกันว่าการลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมของไทยมีความปลอดภัยและพร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์ฉุกเฉิน
“การเดินทางมาศึกษาดูงานที่ญี่ปุ่นครั้งนี้ ตอกย้ำความมุ่งมั่นของ กนอ. ที่จะพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง โดยเราเชื่อมั่นว่าการถอดบทเรียนจากต้นแบบความสำเร็จระดับโลกของญี่ปุ่น โดยเฉพาะในมิติของนวัตกรรม ความยั่งยืน และความปลอดภัย จะเป็นทั้งกุญแจสำคัญและพิมพ์เขียวแห่งอนาคตในการยกระดับนิคมอุตสาหกรรมไทยให้ทัดเทียมมาตรฐานสากล ผ่านการสร้างนิคมฯ อัจฉริยะที่แข็งแกร่งด้วยเทคโนโลยี มีเสถียรภาพมั่นคง และมีเกราะป้องกันความเสี่ยงจากภัยพิบัติ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุนทั่วโลกได้อย่างยั่งยืน” นายอัฏฐพล กล่าว. -517-สำนักข่าวไทย