พระบิดาแห่งการพัฒนาพลังงานไทย

กรุงเทพฯ 25 ต.ค.. พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชภูมิพลอดุลยเดช เปรียบดั่ง“พระบิดาแห่งการพัฒนาพลังงานไทย”


พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชภูมิพลอดุลยเดช เปรียบดั่ง“พระบิดาแห่งการพัฒนาพลังงานไทย”พระองค์ทรงห่วงใยความเป็นอยู่ของพสกนิกร ทรงต้องการให้คนไทยมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ด้วยสายพระเนตรอันยาวไกล พระองค์ทรงส่งเสริมการประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติที่อยู่รอบตัวเราจนเกิดเป็นแนวคิด ดินน้ำลมไฟนำทรัพยากรมาสร้างพลังงานพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศมาอย่างยาวนานก่อนที่พลังงานทดแทนจะมีการส่งเสริมพลังงานทดแทน เพิ่มมากขึ้นในปัจจุบัน โดยโครงการในพระราชดำริ โครงการส่วนพระองค์ เป็นพื้นที่แห่งการทดลอง นำร่องพลังงานทดแทน ทั้งการผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพ เอทานอล ไบโอดีเซล พลังงานลม พลังงานแสงอาทิตย์ เปิดให้ประชาชนเข้าศึกษาดูงานและนำไปปรับใช้ในการดำรงชีวิต  ในขณะที่กระทรวงพลังงานสืบสานพระราชปณิธานส่งเสริมพลังงานทดแทน จนปัจจุบันพลังงานทดแทนมีสัดส่วน14 %ของการใช้พลังงานของประเทศ และบรรจุแผนพลังงานทดแทนเป็นหนึ่งใน 5 แผนหลัก ในแผนบูรณาการพลังงานของประเทศระยะยาว 20 ปี


นายอนุสรณ์ แสงนิ่มนวล  อดีตกรรมผู้จัดการใหญ่ บมจ. บางจากฯเล่าว่าสิ่งที่ไม่เคยลืมเลย คือการนำโครงการพระราชดำริ ผลิต เอทานอล ผสมในน้ำมัน เป็นแก๊สโซฮอล์ จำหน่ายทุกวันนี้บางจากฯได้เริ่มเข้าร่วมโครงการ ตั้งแต่ ปี 2528 แต่ช่วงแรกยากที่จะนำไปผสมน้ำมัน เพราะราคาเอทานอลแพงกว่าน้ำมันมาก จนกระทั่ง รัฐบาลปรับคุณสมบัติน้ำมันให้เติมสารMTBE ราคาแพงจากต่างประเทศ เห็นเป็นโอกาสเชิงพาณิชย์ที่จะเอาเอทานอล มาแทนMTBEได้ เพราะคุณสมบัติใกล้เคียงกัน ได้เอาบางจาก มาผลักดัน การผลิต และ จำหน่าย ทำได้ยากเย็นมาก มีทั้งภาครัฐ บริษัทรถยนต์ บริษัทน้ำมันต่างชาติ รวมทั้งผู้ผลิตMTBEจากต่างประเทศ คัดค้าน ต่างๆนานา มันยากมาก

“แต่ท้ายสุด แก๊สโซฮอล์ ชื่อพระราชทาน แก๊สโซลีน+แอลกอฮอล์ ก็เป็นน้ำมันที่ใช้งานกันทั่วประเทศ อย่างทุกวันนี้ ได้ช่วยเหลือประเทศ ด้านความมั่งคง ที่สำคัญช่วยเหลือ เกษตรกร ปลูกมันสำปะหลัง อ้อย มีรายได้สูงขึ้น ประเทศประหยัดเงินหลายหมื่นล้านบาทต่อปีในการนำเข้าน้ำมันพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ทรงพระปรีชาสามารถจริงๆ”นายอนุสรณ์กล่าว


นายอนุสรณ์ ตอกย้ำ ว่า  เกิดมาในยุคสมัยท่าน ได้ มีส่วนในการสานต่อโครงการพระราชดำริ เป็นความสุขและประทับใจมากจริงๆ อีกเรื่องหนึ่งที่ได้สนองโครงการพระราชดำริ คือ ไบโอดีเซล หลักการคล้ายๆเอทานอล  เพราะไบโอดีเซลสามารถผลิตจากพืชน้ำมันโดยเฉพาะ ปาล์มน้ำมัน สำหรับประเทศไทย ส่วนใน ต่างประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา ผลิตจากถั่วเหลือง เป็นหลักพระองค์ท่าน ทรงสร้างโรงงานต้นแบบ ขึ้นมา และ ใช้กับรถโครงการส่วนพระองค์ ยังจำที่ท่านตรัสในวันที่ 4 ธ.ค. 2548 ว่าถ้า’ไม่มีใครใช้ เราจะใช้เอง’ ยังจำได้แม่น

บางจากฯนำเรื่องนี้มาสานต่อให้เป็นเชิงพาณิชย์ โดยสร้างโรงงานผลิตไบโอดีเซล ใช้น้ำมันปาล์ม ที่จ.พระนครอยุธยา และ นำน้ำมันพืชใช้แล้วมาใช้ ที่โรงกลั่นบางจาก ช่วงนั้น เดินทางไปถึงสุราษฎร์ บอกพี่น้องเกษตรกรว่า ถ้าเอามาทำไบโอดีเซล จะทำให้ผลปาล์มไม่ต่ำกว่า2.50บาทต่อกก ซึ่งในช่วงนั้น น้ำมันปาล์มล้นตลาด เพราะเอาไปผลิตน้ำมันอาหารอย่างเดียว ราคาผลผลิตปาล์มตกต่ำมาก

ปัญหานำไบโอดีเซล ผสมน้ำมัน ก็ไม่ต่างจาก เอทานอล เท่าไรในช่วงแรกๆ เพราะมีหลายหน่วยงานไม่สนับสนุนเท่าที่ควร ค่ายรถยนต์ บอกใช้กับรถเครื่องยนต์ common rail direct fuel injectionไม่ได้ ขณะที่ช่วงแรกผสมเพียง2% เวลารถมีปัญหาก็โทษว่ามาจากไบโอดีเซล ทำให้การขายลำบาก

ทางบางจาก เลยส่งเสริมการขาย ซื้อรถกระบะ ยอดนิยมแจกลูกค้าเลย น้ำมันไบโอดีเซล มาตรฐานยุโรป ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด ปัจจุบัน ผสมถึง7 % ก็ไม่มีปัญหาการใช้งาน แต่ ได้ช่วยพี่น้องเกษตรปลูกปาล์มจำนวนมาก ทำให้ ผลผลิตปาล์ม อยู่ระดับ 4-5บาทต่อกก.เกษตรกรอยู่ได้

 ประเทศก็ได้ประโยชน์ ปีละหลายหมื่นล้านบาท เช่นกัน ในการประหยัดเงินในการนำเข้าน้ำมัน  นับว่าเป็นโครงการที่มีประโยชน์ ต่อประเทศชาติเป็นอย่างมาก

พล.อ.อนันตรพร กาญจนรัตน์ รมว.พลังงาน กล่าวว่า กระทรวงพลังงาน เป็นแม่แรงสำคัญร่วมกับทุกหน่วยงาน ทั้งค่ายน้ำมัน เช่น ปตท. บางจาก ผู้ค้าน้ำมัน ผู้ผลิตจำหน่ายรถยนต์ พร้อมทั้งหน่วยงานรัฐอื่นๆ สานต่อพระราชปณิธาน  

รมว.พลังงานกล่าวว่า ในหลวง ร.9 ท่านทรงมีพระอัจฉริยะภาพ ท่านสนพระทัยด้านพลังงานมาก ทรงพระราชทานแนวทาง พัฒนาทรัพยากรธรรมชาติ ”ดิน น้ำ ลม แสงแดด” มาผลิตพลังงาน น้ำท่านสนใจมาก เขื่อนทุกเขื่อนในไทยท่านศึกษา ท่านเดินทางไปดูเป็นต้นแบบ นำน้ำมาใช้และผลิตไฟฟ้า ทำเขื่อนอนกประสงค์   อย่างแท้จริง ลม ในโครงการในพระราชดำริ ท่านนำมาใช้ ทั้งพลังงานลม พลังงานแสงแดด  ไบโอแก๊ส ไบโอแมส ท่านนำปาล์มมาผลิตน้ำมันไบโอดีเซล นำมันสำปะหลังมาผลิตเอทานอล กระทรวงพลังงานนำมาสานต่อยอด ปัจจุบันนี้ น้ำมันดีเซลที่ใช้ในรถยนต์ทุกหยดมีส่วนผสมน้ำมันปาล์มสูงสุดร้อยละ 7 น้ำมันแก๊สโซฮอล์ มีส่วนผสมเอาทนอล 10-85% สิ่งเหล่านี้เกิดจากเกิดจากพระอัจฉริยะของพระองค์ท่าน ท่านเป็นผู้นำด้านนี้อย่างแท้จริง 

กระทรวงพลังงานน้อมนำมาปฏิบัติ จนปัจจุบัน น้ำมันชีวภาพเป็นเรื่องแพร่หลายไปทั่วโลก โดยในการประชุมโต๊ะกลมระดับรัฐมนตรีพลังงานเอเชีย (AMER) ครั้งที่ 7 ที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพในวันที่ 1-3 พ.ย.2560 ทางกระทรวงจะน้อมนำพระอัจริยะด้านนี้ เผยแพร่ในที่ประชุม

ขณะที่นายทวารัฐ สูตะบุตร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน กล่าว  ไทยเป็นประเทศผู้นำพลังงานทดแทนในอาเซียน และเป็น TOP 5 หนึ่งใน 5 ผู้นำพลังงานทดแทนในเอเชีย แรงผลักดันสำคัญมาจากพระวิสัยทัศน์ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพล อดุลยเดช  – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชูความสำเร็จทีมไทยแลนด์ ปิดดีลภาษีสหรัฐที่ 19%

ทำเนียบ 1 ส.ค.-โฆษกรัฐบาล เผย ปิดดีลภาษีนำเข้าสหรัฐสำเร็จที่ 19% เกาะกลุ่มระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค ชู เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศแล้วว่าจะเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าฯ จากสินค้าของไทยในอัตรา 19 % ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป นายจิรายุ กล่าวว่า อัตราภาษีดังกล่าวที่ ต่ำกว่า อัตราเดิม 36 % และเกาะอยู่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สามารถรักษาการแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้เจรจากับสหรัฐสำเร็จแล้วก่อนหน้านี้ “การปิดดีลครั้งนี้ของรัฐบาลไทย ในระดับภาษีนำเข้าฯ ไว้ที่ 19% ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win เพื่อรักษาฐานการส่งออกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ” นายจิรายุกล่าว […]

รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราว

อุบลราชธานี 31 ก.ค. – โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ออกหนังสือขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ งานด้านการแพทย์และพยาบาล ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์ มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับและรายงานความคืบหน้าการดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ชายแดน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราวขณะที่ในวันเดียวกัน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ออกเอกสารขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา ใจความในหนังสือว่า “โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้ให้การตรวจรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามารักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ และจากมติที่ประชุมคณะกรรมการคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีมติดังนี้ 1.ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา และจิตอาสาภาษาต่างประเทศ2.ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว3.ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา4.ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้จำกัดพื้นที่ชัดเจน ในการนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 10 […]

รมช.มท. โฟนอินผู้ว่าฯ อุบลฯ ตอบกลางสภา ยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ

รัฐสภา 31 ก.ค.-สส.ศรีสะเกษ ภูมิใจไทย ทวงถามเงินช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้ตั้งแต่วันแรกยังไม่ได้เงินรัฐบาลสักบาท ซัด “ผู้ว่าฯ อุบล” อ้างกลัวติดคุกไม่กล้าเบิกงบ ด้าน รมช.มหาดไทย ต่อสายโฟนอิน ผู้ว่าฯ ตอบกลางสภา ยืนยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา โดยนายธนา กิจไพบูลย์ชัย สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย สอบถามกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งนายกรัฐมนตรี มอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นผู้ตอบกระทู้ แต่เนื่องจากนายภูมิธรรม ติดภารกิจจึงมอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงแทน นายธนา กล่าวว่า จากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีงบประมาณจากส่วนกลางลงพื้นที่แม้แต่บาทเดียว ทุกวันนี้เราอาศัยเงินบริจาคเป็นหลัก และนำงบขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) […]

ทูตไทยตอบโต้กัมพูชา หลังยกกรณีปัญหาชายแดนที่ยูเอ็น

นิวยอร์ก 31 ก.ค. – เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ โต้ผู้แทนกัมพูชา ซึ่งหยิบประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นพูดผิดกาลเทศะ ผิดวาระ ในที่ประชุมสหประชาชาติ วาระสำคัญของการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศในเวทีสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวานนี้ คือการผลักดันเพื่อระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธี แต่ปรากฏว่านาย เจีย แก้ว เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหประชาชาติ กลับพูดในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุม โดยพาดพิงถึงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ จึงกล่าวตอบโต้โดยชี้แจงข้อมูลความจริงในประเด็นที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุว่า เป็นที่น่าเสียดายที่มีคณะผู้แทนหยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาในที่ประชุม ซึ่งเป็นเวทีที่หลายฝ่ายรอคอย และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างเป็นธรรม ถาวร และครอบคลุม ผ่านแนวทางสันติวิธีโดยการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย กล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศไทยไม่ได้มีเจตนาจะนำเรื่องทวิภาคีเข้าสู่เวทีสำคัญดังกล่าว แต่ต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด โดยย้ำว่าเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ไทยและกัมพูชา ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แต่หลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 กรกฎาคม อีกฝ่ายกลับใช้อาวุธข้ามพรมแดน และบุกรุกเข้ามาในดินแดนของไทยอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือทำให้เข้าใจผิด และให้มีส่วนร่วมด้วยเจตนาดี.-810.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ตร.แจ้ง 2 ข้อหามือมีดทำร้าย “เป๊ก” คาดปมเข้าใจผิด

3 ส.ค.- ตำรวจ สน.หัวหมาก แจ้ง 2 ข้อหา หนุ่มวัย 21 ใช้มีดทำร้าย “เป๊ก ผลิตโชค” นักร้องชื่อดัง บาดเจ็บที่คางเป็นแผลฉกรรจ์ อ้างถูกหาเรื่องก่อน เบื้องต้นคาดปมเข้าใจผิด จ่อสอบปากคำเพิ่มเติม เมื่อเวลา 01.30 น. วันที่ 3 ส.ค.68 ร.ต.อ.ชัยนรินทร์ กวีพราหมณ์ รอง.สว.(สอบสวน) สน.หัวหมาก รับแจ้งเหตุทำร้ายร่างกายโดยใช้อาวุธมีด มีผู้บาดเจ็บ ภายในปั๊มน้ำมัน ซอยรามคำแหง 76 ถนนรามคำแหง แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม. จึงไปตรวจสอบพร้อมกำลังสายตรวจฝ่ายป้องกันและปราบปราม สน.หัวหมาก และอาสามูลนิธิสยามร่วมใจปู่อินทร์ ที่เกิดเหตุอยู่ภายในปั๊มน้ำมัน พบร่างนายผลิตโชค หรือ เป๊ก อายุ 40 ปี ดารานักร้องชื่อดัง มีบาดแผลฉกรรจ์ถูกอาวุธมีดฟันเข้าที่บริเวณใต้คาง 1 แผล ได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่จึงเร่งทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนเร่งนำตัวส่งรักษาต่อที่โรงพยาบาลสมิติเวช ส่วนผู้ก่อเหตุไม่หนีไปไหน ยืนรอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ […]

เฝ้าระวังตลอดคืน พบโดรนปริศนาบินล้ำเขตแดนอรัญฯ

สระแก้ว 3 ส.ค.- พบโดรนปริศนาไม่ทราบฝ่ายบินล้ำแดนจากกัมพูชาเข้ามาในไทย ชาวบ้าน-ชรบ.ในพื้นที่อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เฝ้าระวังตลอดทั้งคืน คืนที่ผ่านมา เวลา 21.00 น. ทีมข่าวลงพื้นที่สำรวจบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านอำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว โดยจุดที่ทีมข่าวเฝ้าสังเกตการณ์อยู่ห่างจากแนวชายแดนเพียง 2 กิโลเมตร บรรยากาศในพื้นที่ขณะนั้นมีชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ออกมาคอยเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง หลังได้รับแจ้งว่าอาจมีโดรนปริศนาเข้ามาในพื้นที่ ระหว่างที่ทีมข่าวกำลังสัมภาษณ์พูดคุยกับชาวบ้านในพื้นที่ พบโดรนลำหนึ่งบินเข้ามาจากเขตชายแดนฝั่งกัมพูชา ล้ำเข้ามาในอาณาเขตประเทศไทยลึกประมาณ 2 กิโลเมตร ขณะที่โดรนลำนั้นลอยอยู่เหนือพื้นที่ เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงได้ใช้ไฟสปอร์ตไลต์กำลังแรงสูงร่วมกับแสงเลเซอร์จากอุปกรณ์ของทหาร ส่องไปยังโดรนปริศนาอย่างชัดเจน ทำให้เห็นลำตัวของโดรนแม้อยู่ในความมืด สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวยังไม่มีการเปิดเผยว่าโดรนลำนั้นมีเป้าหมายใดหรือเป็นของฝ่ายใด ขณะที่เจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคงยังคงเพิ่มมาตรการตรวจตราและเฝ้าระวังตลอดแนวชายแดนอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุไม่คาดคิดหรือภัยคุกคามความมั่นคงในพื้นที่ -สำนักข่าวไทย

เปิดภาพทหารไทยบึ้มบันไดช่องคานม้า สกัดเส้นทางขึ้นภูมะเขือ

3 ส.ค. – เปิดภาพทหารไทยบึ้มบันไดช่องคานม้า จ.ศรีสะเกษ สกัดเส้นทางขึ้นภูมะเขือ ห้วงปะทะวันที่ 24-28 ก.ค.ที่ผ่านมา วันนี้ (3 ส.ค.68) ผู้สื่อข่าวรายงานเหตุปะทะระหว่างทหารไทย-กัมพูชา เมื่อวันที่ 24-28 ก.ค.ที่ผ่านมา ทหารได้ทำลายบันไดช่องคานม้า จ.ศรีสะเกษ ซึ่งสามารถขึ้นมาถึงภูมะเขือได้ หลังทหารไทยเข้ายึดพื้นที่ภูมะเขือ ผลักดันทหารกัมพูชาอยู่บนจะงอยหน้าผาออกไปทั้งหมด พร้อมทำลายกระเช้า และฐานทหารกัมพูชาด้านล่างภูมะเขือ โดยการใช้โดรนติดระเบิด ล่าสุดมีการเผยแพร่ภาพทหารทำลายบันไดช่องคานม้า ในระหว่างยึดพื้นที่ได้จากการเหตุปะทะช่วง 5 วันที่ผ่านมา.-สำนักข่าวไทย

ชาวเชียงใหม่ร่วมจุดเทียนสดุดี 15 วีรบุรุษชายแดน

3 ส.ค.- ชาวเชียงใหม่ ร่วมกันจุดเทียน แสดงความไว้อาลัย สดุดี 15 วีรบุรุษทหารที่พลีชีพปกป้องแผ่นดินไทยตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ที่บริเวณ หน้าลานอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ ตัวเมืองเชียงใหม่ ประชาชนได้รวมตัวทำกิจกรรมร้องเพลง เขียนข้อความ พร้อมโบกธงชาติไทย เพื่อส่งกำลังใจให้กับทหารที่อยู่แนวหน้า ชายแดนไทย-กัมพูชา และร่วมกันร้องเพลงชาติไทย เพื่อเป็นการสดุดีทหาร 15 นายที่พลีชีพในการสู้รบปกป้องอธิปไตย อีกทั้งอ่านรายชื่อทหาร วางพวงหรีดและจุดเทียน แสดงความไว้อาลัยพร้อมทั้งยืนสงบนิ่ง อธิฐานขอให้เจ้าหน้าที่ที่ยังปฏิบัติหน้าที่อยู่ชายแดนไทย-กัมพูชา ปลอดภัยทุกนาย นอกจากนี้ บริเวณย่านถนนท่าแพ หน้าอาคารพุทธสถานเชียงใหม่ มีการนำภาพทหารที่เสียชีวิตทั้ง 15 นายติดไว้ริมถนนและมีการตั้งโต๊ะเพื่อให้ประชาชน มาวางดอกไม้ แสดงความอาลัย -สำนักข่าวไทย