รร.รามาการ์เดนส์ 10 ต.ค.-ปลัด สธ.กำชับ ผอ.รพ.ทั่วประเทศ ใช้พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560เป็นเครื่องมือบริหารการใช้ยาสมเหตุผล หากพบมีการใช้ยาผิดปกติให้ตรวจสอบ พร้อมรายงานทันที
นพ.เจษฎา โชคดำรงสุข ปลัดกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนพ.นพพร ชื่นกลิ่น ผู้อำนวยการองค์เภสัชกรรม เปิดการประชุม “แนวทางการจัดหายาและเวชภัณฑ์จากองค์การเภสัชกรรม ตามพ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 และกฎกระทรวงที่เกี่ยวข้อง” โดยมีผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ผู้อำนวยการโรงพยาบาล หัวหน้างานเภสัชกรรม จากหน่วยงานในสังกัดทั่วประเทศเข้าร่วมประชุมกว่า 500 คน
นพ.เจษฎากล่าวว่า การประชุมวันนี้มีจุดมุ่งหมายให้หน่วยบริการเกิดความเชื่อมั่นในการดำเนินการจัดหายาและเวชภัณฑ์ขององค์การเภสัชกรรมให้สอดคล้องกับพ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 และกฎกระทรวงที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้หน่วยบริการในสังกัดสามารถให้บริการประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจุดมุ่งหมายของ พ.ร.บ.ฯ ฉบับใหม่ที่มีการเปลี่ยนแปลง เพื่อให้เกิดความรัดกุมในการจัดหายาและเวชภัณฑ์ มุ่งเน้นการป้องกันการทุจริต รวมทั้งประกาศและกฎกระทรวงการคลังที่มุ่งเน้นให้เกิดการใช้งบประมาณอย่างคุ้มค่า มียาและเวชภัณฑ์ที่มีคุณค่าอย่างต่อเนื่องภายใต้ความจำกัดของงบประมาณ
“การประชุมครั้งนี้ทุกคนจะได้คำตอบในเรื่องแนวทางการจัดซื้อยา เทคนิคการบริหารยา รวมทั้งการจัดซื้อตามบัญชีนวตกรรมที่กำลังรอประกาศ ทั้งนี้ขอให้ยึดตามบัญชียาหลักแห่งชาติเพราะนวตกรรมส่วนใหญ่อยู่ในบัญชียาหลักแล้ว และเมื่อมีประกาศออกมา จะมีการประชุมชี้แจงกับหัวหน้าห้องยา ฝ่ายจัดซื้อจัดจ้างอีกครั้ง” นพ.เจษฎากล่าว
นพ.เจษฎา กล่าวต่อว่า ขอให้ ผอ.รพ.ทั่วประเทศ ดำเนินการ ดังนี้ 1.ใช้พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 และกฎกระทรวงที่เกี่ยวข้อง เป็นเครื่องมือบริหารการใช้ยาสมเหตุผล(RDU) เพื่อให้การใช้ยาในโรงพยาบาลทรงคุณค่า และใช้ตามความจำเป็น 2.ให้โรงพยาบาลทุกแห่งตรวจสอบคลังยา หากพบมีการใช้ยาผิดปกติขอให้ดำเนินการตรวจสอบพร้อมรายงานมายังส่วนกลางทันที
สำหรับการจัดซื้อยาในโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ขณะนี้การเจรจาต่อรองเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ เหลืออีก 2 ตัว ส่วนใหญ่ราคาเท่าเดิม บางส่วนถูกลงประหยัดงบได้มากกว่า 80 ล้านบาท และได้รับการยืนยันจากผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรมว่า จัดซื้อทันแน่นอนไม่มีปัญหาการขาดยา กรณียาบางตัวที่มีแนวโน้มจะขาดองค์การเภสัชกรรมจะสำรองไว้ให้หน่วยบริการยืมใช้ได้ทันที .-สำนักข่าวไทย