อุทัยธานี 7 ก.ย.- ชาวบ้านอุทัยธานีมั่นใจนโยบายรัฐบาลดูแลปัญหาที่ทำกิน สมัครใจย้ายออกจากที่ดินเดิมเขตป่าห้วยคต ด้านพ่อเมืองเปิดกิจกรรมพื้นที่โมเดลลานสักจัดส่งเสริมอาชีพให้ดำรงชีพยั่งยืนอย่างพอเพียง
นายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี ลงพื้นที่ชุมชนที่ 1 ตำบลระบำ อำเภอลานสัก เปิดกิจกรรมส่งเสริมและพัฒนาอาชีพให้กับชาวบ้านผู้สมัครใจย้ายออกจากป่าต้นน้ำทุ่งแฝกและวนอุทยานห้วยคต เขตป่าสงวนแห่งชาติ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในโครงการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนของจังหวัดอุทัยธานี (Uthaithani Model) ตามนโยบายรัฐบาล โดยมีหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง ร่วมบูรณาการร่วมกันเพื่อสร้างอาชีพให้แก่ผู้อพยพสามารถดำรงชีพอยู่ได้อย่างพอเพียง โดยมีทางเลือกอาชีพทั้งการเกษตร ปศุสัตว์ และประมง ซึ่งเน้นการทำการเกษตรเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อาทิ เกษตรอินทรีย์ เกษตรผสมผสาน และวนเกษตร
นอกจากนี้ ยังมีการเชื่อมโยงกับตลาดในท้องถิ่น ตลาดเมือง และกลุ่มนักท่องเที่ยว เพื่อสร้างความมั่นใจแก่เกษตรว่ามีที่ดินให้กับผู้ประกอบอาชีพแน่นอน มีที่อยู่อาศัยมั่นคงและสามารถประกอบอาชีพทางการเกษตรในการสร้างรายได้ที่พอเพียง และมีคุณภาพชีวิตที่ดี
นายแมนรัตน์ กล่าวว่า โครงการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามนโยบายรัฐบาลของจังหวัด อุทัยธานี (Uthaithani Model) จัดเป็นโครงการที่รัฐบาลและจังหวัด ให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก ดังจะเห็นได้จากการนายกรัฐมนตรีเป็นประธานสักขีพยานพิธีมอบหนังสืออนุญาตฯ ในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2559 ที่ผ่านมา ซึ่งจังหวัด อุทัยธานีได้ขับเคลื่อนโครงการโดยมีผลการดำเนินงาน และมีความ คืบหน้าด้านต่าง ๆ ทั้งด้านจัดพื้นที่ จัดคนลงแปลงที่อยู่อาศัย และ จัดอาชีพในแปลงเกษตรกรรม ตามลำดับ
นางพิกุล การะภักดี ผู้สมัครใจออกจากป่าต้นน้ำทุ่งแฝก เล่าว่า ที่ตัดสินใจอพยพออกมา เพื่อเข้าโครงการ เพราะพื้นที่อยู่เดิมเป็นป่าจะกระทบต่อระบบนิเวศน์ในเขตห้วยขาแข้งที่ยังมีความอุดมสมบูรณ์ แม้จะเสียดายที่เดิมผืนนั้น แต่ถ้าเป็นพื้นที่ป่าสงวน และรัฐบาลได้ทำโครงการจัดสรรที่ดินให้ชาวบ้าน จึงตัดสินใจอพยพออกมา เนื่องจากมั่นใจว่ารัฐบาลไม่ทอดทิ้งอยู่แล้ว.-สำนักข่าวไทย