รร.สวิสโซเทล เลอ คองคอร์ด 2 ส.ค.-กลุ่มประเทศอาเซียน และอาเซียนบวก3 ร่วมมือบริหารจัดการน้ำในภูมิภาค รับมือความต้องการใช้น้ำในภาคส่วนหลักที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในทุกประเทศ
ผู้แทนจากประเทศสมาชิกอาเซียน อาเซียนบวก3 และผู้แทนด้านน้ำของไทย เข้าร่วมประชุมระหว่างประเทศ ว่าด้วยการบริหารจัดการความต้อง การใช้น้ำ (International Conference on Water Demand Manage ment among Competing Sectors )ซึ่งไทยเป็นเจ้าภาพ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 2 -4 สิงหาคม ฉลองวาระครบรอบ50ปีแห่งการสถาปนาอาเซียน และรวบรวบรวมข้อมูลสถานะความต้องการใช้น้ำในภาคส่วนหลักของประเทศสมาชิกอาเซียน ได้แก่ น้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค น้ำเพื่อการเกษตร และน้ำเพื่ออุตสาหกรรม พร้อมแลกเปลี่ยนประสบการณ์การบริหารจัดการความต้องการใช้น้ำ เพื่อเป็นแนวทางรับมือกับความต้องการใช้น้ำที่เพิ่มขึ้นของแต่ละประเทศ
ดร. สุรินทร์ พิศสุวรรณ อดีตเลขาธิการอาเซียน กล่าวว่า 50ปีที่ผ่านมา อา เซียนประสบความสำเร็จในการเป็นเวทีให้ประเทศมหาอำนาจในโลก ได้แสดงวิสัยทัศน์ ร่วมทำการค้ากับอาเซียนที่มีมูลค่าสูงและสร้างความมั่น คงให้กับประเทศกลุ่มอาเซียนมาโดยตลอด จากการค้าที่เพิ่มขึ้น ไทยเองก็ได้ประโยชน์จากการเป็นสมาชิกอาเซียนมาก ที่เห็นได้ชัดคือปริมาณการ ค้าระหว่างไทยกับประเทศสมาชิกที่เติบโตถึงร้อยละ 12-13 ต่อปี เช่น มาเลเซีย ลาว เมียนมา ขณะที่การส่งออกไปยังประเทศยุโรปหรือประเทศที่ไกลออกไปอยู่ในภาวะติดลบ ในอนาคตไทยจะพัฒนาให้เป็น 4.0 ได้สำ เร็จจะต้องให้ความสำคัญกับนวัตกรรมและเทคโนโลยีมากขึ้น ที่สำคัญน้อมนำแนวพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 9 มาประยุกต์ใช้ให้เกิดความเท่าเทียมกันในสังคม และสร้างความพร้อมให้เป็นภูมิคุ้มกันในการเผชิญปัญหาต่างๆของโลก ซึ่งการรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวด ล้อมเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะทรัพยากรน้ำที่มีอยู่อย่างจำกัด แต่ความต้องการใช้มีสูงกว่าทรัพยากรน้ำที่มีอยู่ เพราะทุกภาคส่วนทุกอุตสาหกรรมต้องใช้น้ำทั้งหมดในกระบวนการผลิต
ทั้งนี้ อาเซียนได้กำหนดเรื่องน้ำเป็นวาระสำคัญของอาเซียน ในการให้ผู้นำทั้ง 10 ประเทศ และอาเซียนบวก 3 คือ จีน ญี่ปุ่น เกาหลี ต้องร่วมมือกันบริหารจัดการน้ำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อป้องกันการแย่งชิงน้ำ ไม่ใช่ต่างคนต่างทำแค่ภายในประเทศเท่านั้น ซึ่งแนวทางที่เป็นไปได้ คือ การแบ่งปันการใช้น้ำร่วมกัน การผันน้ำ และการรักษาทรัพยากรน้ำที่มีจำกัดให้เพียงพอใช้ในอนาคต.-สำนักข่าวไทย