รร.แกรนด์ไฮแอท 22 มิ.ย. – คลังเตรียมเสนอ ครม.เก็บภาษีลาภลอย 2-3 สัปดาห์หน้า หารือ ก.ล.ต.-ตลท.หาข้อสรุปตั้งกองทุนพัฒนาตลาดทุน
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า หลังจากกระทรวงคลังศึกษาแนวทางการจัดเก็บภาษีจากฐานมูลค่าอสังหาริมทรัพย์ปรับสูงขึ้น จากการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของรัฐ เช่น รถไฟฟ้า รถไฟทางคู่ มอเตอร์เวย์ และโครงการต่าง ๆ ทำให้ราคาที่ดิน อสังหาริมทรัพย์ปรับสูงขึ้น เช่น ปรับเพิ่มจากตารางวาละ 100,000 บาท เป็น 400,000-500,000 บาทต่อตารางวา กระทรวงคลังจึงขอจัดเก็บภาษีจากการเปลี่ยนมือเมื่อขายให้กับผู้อื่น เพื่อใช้ในการพัฒนาเชิงพาณิชย์สัดส่วนร้อยละ 5 ของส่วนต่างทรัพย์สิน หากไม่เปลี่ยนมือไปยังบุคคลอื่นก็ไม่ต้องเสียภาษีเหมือนกับการเสียภาษีมรดก ดังนั้น ผู้อยู่อาศัยหรือทำประโยชน์เจ้าของเดิมจะไม่มีภาระเพิ่มจากภาษีดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าแนวทางจัดเก็บภาษีดังกล่าวหลายประเทศทั่วโลกจัดเก็บลาภลอยดังกล่าว หลังจากกระทรวงการคลังเปิดเวทีรับฟังความเห็นจากหลายฝ่าย คาดว่าจะเสนอ ครม.พิจารณาในช่วง 2-3 สัปดาห์ข้างหน้า พร้อมกับเสนอจัดเก็บภาษีอิงทรัพย์ เช่น การขายสิทธิ์การเช่าทรัพย์สินของรัฐหรือสิทธิ์การเช่าอื่นต่อไปยังผู้อื่น แล้วมีส่วนต่างกำไรเกิดขึ้น จึงต้องเสียภาษีดังกล่าวด้วย
นายอภิศักดิ์ กล่าวถึงการจัดตั้งกองทุนส่งเสริมการพัฒนาตลาดทุน (CMDF) วงเงิน 8,000 ล้านบาท ว่ากระทรวงการคลังเตรียมหารือสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อคำนวณสูตรการนำเงินกำไรจาก ตลท.มาใช้ตั้งกองทุน ซึ่งมีข้อเสนอให้นำกำไรสัดส่วนร้อยละ 90 ของกำไรที่เหลือจากการใช้จ่ายด้านต่าง ๆ มาใช้ตั้งกองทุน หลังจากมีเงินสะสมปัจจุบันเหลือประมาณ 20,000 ล้านบาท เพื่อตั้งกองทุนเบื้องต้นขนาด 8,000 ล้านบาท จากนั้นค่อยทยอยปรับเพิ่มขึ้นภายหลัง และการใช้เงินของ ตลท. โดยไม่ได้ใช้เงินจากคลังของรัฐไม่ได้หมายความว่ารัฐบาลมีปัญหาถังแตกตามที่เป็นข่าว ซึ่งเป็นคนละเรื่องกัน
สำหรับการใช้เงินกองทุนส่งเสริมพัฒนาตลาดทุนนั้น จะต้องตั้งคณะกรรมการกองทุนพิจารณาการใช้เงินจากกองทุนและอยู่ภายใต้คณะกรรมการพัฒนาตลาดทุนแห่งชาติ เพื่อให้ทุกส่วนเสนอขอเงินจากกองทุน ทั้ง ตลท. โบรกเกอร์ ก.ล.ต. มหาวิทยาลัย หรือหน่วยงานอื่น เพื่อใช้ในการพัฒนาตลาดทุน โดยเฉพาะ ก.ล.ต.ตามกฎหมายใหม่ต้องทำหน้าที่พัฒนาตลาดทุนด้วย จึงต้องมีบทบาทเพิ่มตามร่างกฎหมายฉบับใหม่ เพื่อให้เกิดการใช้เงินจากกองทุนอย่างมีประสิทธิภาพ.-สำนักข่าวไทย