กทม. 29 ต.ค. – “ชาติพัฒนากล้า” เสนอรื้อโครงสร้างพลังงาน ราคาต้องถูกลง ขอรัฐเก็บภาษีลาภลอยโรงกลั่นใช้หนี้กองทุนน้ำมัน ลดภาระประชาชนไม่ต้องใช้หนี้ถึง 7 ปี
นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี รองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า เผยว่าที่ประชุมคณะผู้บริหาร นำโดยนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรค นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรค นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล ที่ปรึกษาพรรค พ.อ.วินัย สมพงษ์ ที่ปรึกษาพรรค และทีมนโยบายรุ่นใหม่ของพรรค หารือนโยบายด้านพลังงาน โดยเฉพาะหลัง ครม. มีมติ เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม ที่อนุมัติให้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงกู้เงิน 1.5 แสนล้านบาท โดยมีรัฐบาลค้ำประกันเป็นหนี้สาธารณะ ที่ประชาชนต้องร่วมใช้หนี้ทุกครั้งที่จ่ายเงินเติมน้ำมันเป็นระยะเวลา 7 ปี ซึ่งคณะผู้บริหารพรรคเห็นตรงกันว่า วิกฤตการณ์โลกเกิดขึ้นบ่อยครั้ง สถานการณ์ราคาพลังงานผันผวน ประเทศไทยไม่สามารถบริหารโครงสร้างพลังงานแบบเดิมได้อีกแล้ว นโยบายหลักของพรรคชาติพัฒนากล้า จะมุ่งตรงไปที่การปรับโครงสร้างพลังงาน ที่เป็นต้นเหตุสำคัญทำให้ราคาสินค้าแพง
รองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวด้วยว่า ถ้าคิดค่าการกลั่นแบบเดิม โครงสร้างราคาพลังงานแบบเดิม ในสถานการณ์โลกที่ผันผวน สุดท้ายจะทำให้ประชาชนจะรับภาระมากเกินไป การแก้ปัญหาจึงต้องมุ่งไปที่การปฏิรูปโครงสร้างพลังงาน โดยยึดเรื่องการลดภาระประชาชนเป็นหลัก ซึ่งรัฐบาลควรแก้ปัญหาจากต้นเหตุ คือ โรงกลั่น เช่น การกำหนดสัดส่วนค่าการกลั่นที่เหมาะสม ออก พ.ร.ก.ภาษีลาภลอย หรือเรียกเก็บเงินจากโรงกลั่น ซึ่งรัฐบาลเคยเอ่ยปากว่า จะเก็บกำไรส่วนเกินโรงกลั่น 2.4 หมื่นล้านบาท แต่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีความชัดเจน ถ้ารัฐบาลรับฟังข้อเสนอนี้ จะสามารถลดภาระประชาชน ใช้หนี้กองทุนน้ำมันได้เร็วขึ้น ไม่ต้องยาวนานถึง 7 ปี ย้ำว่า เรื่องพลังงานเราจะไปให้สุดทาง เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ กระทบทุกคน ขอบคุณพี่ๆ อดีตรัฐมนตรีที่พร้อมสู้ด้วยกัน .-สำนักข่าวไทย