นนทบุรี 20 มิ.ย. – คณะอนุน้ำมันปาล์มเห็นชอบให้ผู้ค้าน้ำมันรายใหญ่เพิ่มสัดส่วนสตอกน้ำมันปาล์มเป็น 90 ล้านลิตรต่อวัน พร้อมประกาศราคาแนะนำผลปาล์มดิบเป็น 4.30 บาทต่อกิโลกรัม ขณะที่เกษตรกรผู้ปลูกแนะรัฐอย่าแทรกแซงผลปาล์ม ขอให้เน้นดูแลคุณภาพแทน
นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยภายหลังเป็นประธานคณะอนุกรรมการปาล์มน้ำมัน ว่า จากการหารือกับกรมธุรกิจพลังงาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อรักษาเสถียรภาพราคาผลปาล์มสดให้กับเกษตรกร ที่ประชุมมีมติให้เอกชน ผู้ค้าน้ำมันเก็บสตอกน้ำมันไบโอดีเซลเพิ่มขึ้นเป็น 90 ล้านลิตร จากปัจจุบัน 50 ล้านลิตร ทำให้ดึงซัพพลายน้ำมันปาล์มดิบ (ซีพีโอ ) ออกจากตลาดเพิ่มขึ้นได้อีก 76,000 ตัน โดยปัจจุบันรัฐบาลประกาศใช้ ไบโอดีเซลบี 7 ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา
สำหรับมาตรการดังกล่าวจะช่วยให้ราคาผลปาล์มสดของเกษตรกรมีราคาดีขึ้น และภายใน 1 สัปดาห์จากนี้ คาดว่าปริมาณผลปาล์มสดจะเริ่มลดลง นอกจากนี้ กรมการค้าภายในได้กำหนดราคาแนะนำรับซื้อผลปาล์มสดที่ 4.30 บาทต่อกิโลกรัม ที่เปอร์เซ็นต์น้ำมัน 17 % มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 21 มิถุนายน โดยราคาผลปาล์มวันที่ 20 มิถุนายนอยู่ที่กิโลกรัมละ 4.10 บาท
ส่วนสถานการณ์สตอกน้ำมันปาล์มดิบของประเทศ ปัจจุบันมีประมาณ 370,000 ตัน โดยราคาซีพีโอของไทยอยู่ที่ 23 บาทต่อกิโลกรัม ใกล้เคียงกับมาเลเซียกิโลกรัมละ 21.65 บาท ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้ในการส่งออก หลังจากราคาของไทยกับมาเลเซียไม่ต่างกันมาก
อย่างไรก็ตาม ปีนี้คาดว่าไทยจะมีผลผลิตผลปาล์มสดออกมา 11.7 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 6.4 คิดเป็นผลผลิตน้ำมันปาล์มดิบ 1.99 ล้านตัน โดยคาดการณ์ความต้องการใช้น้ำมันเพื่อการบริโภคและอุตสาหกรรม 1 ล้านตัน และไบโอดีเซล 890,000 ตัน ซึ่งการหารือกับตัวแทนสภาเกษตรกรที่เป็นผู้ปลูกปาล์มน้ำมัน ทางเกษตรกรเสนอขอให้รัฐบาลมีมาตรการดูแลให้ราคาเป็นไปตามกลไกตลาด และขอให้ชะลอมาตรการขององค์การคลังสินค้า (อคส.) ที่จะออกมาแทรกแซงราคา โดยซื้อผลปาล์มจากเกษตรกร เพื่อเก็บสตอกน้ำมันไว้ โดยเกษตรกรมีเป้าหมายที่จะพัฒนาคุณภาพผลผลิตปาล์มน้ำมันให้มีเปอร์เซ็นต์น้ำมันสูงขึ้นเป็น 18 % เพื่อให้ราคาปาล์มน้ำมันของไทยมีขีดความสามารถเพิ่มขึ้นและแข่งขันได้ในตลาดโลก. – สำนักข่าวไทย