คมนาคมยืนยันเดินหน้าลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน

กรุงเทพฯ 4 พ.ย. – รมว. คมนาคม ยืนยัน ขับเคลื่อนโครงการลงทุน โครงสร้างพื้นฐาน ตามนโยบายนายกรัฐมนตรี


นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม กล่าวถึงการเดินทางตรวจเยี่ยมกระทรวงคมนาคมของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โดยกระทรวงคมนาคมได้รายงานถึงแผนการลงทุนในโครงการสำคัญ ปี 2559 กระทรวงมีโครงการลงทุนเร่งด่วนตามแผนปฎิบัติการ จำนวน 20โครงการ ซึ่งขณะนี้สามารถเริ่มต้นโครงการไปแล้ว16 โครงการ และจะเร่งสานต่อโครงการในปี2560  ต่อไป ทั้งทางบก น้ำ อากาศ และราง โดยส่วนใหญ่เป็นโครงการต่อเนื่อง ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีกำชับให้ดำเนินโครงการโดยยึดตามแผนแม่บทที่ได้จัดทำไว้ อาทิ แผนแม่บททางหลวง แผนเม่บทรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย เพื่อให้รัฐบาลต่อไปใช้เป็นหลักปฏิบัติในอนาคต

นอกจากนี้นายกฯ ยังได้ให้คำแนะนำเรื่องการจัดทำแผนแม่บทการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมในระยะ 20 ปี( ปี2560 -2579)  ซึ่งมีการแบ่งออกเป็น 4 ระยะ ระยะละ 5ปี จำนวน 5 ยุทธศาสตร์หลัก เช่น การพัฒนาโครงข่ายคมนาคมขนส่ง , การพัฒนาบุคคลการ,การพัฒนากฎหมาย  ,การนำเทคโนโลยีมาใช้ โดย นายกต้องการให้เริ่มดำเนินการได้พร้อมกัน ไม่ต้องรอแบ่งเป็นระยะแรก ระยะหลัง เพื่อให้โครงข่ายคมนาคมบก น้ำ และอากาศ เชื่อมต่อกันให้ได้เร็วขึ้น


นายอาคม กล่าวว่าขณะนี้กระทรวงคมนาคมเตรียมที่จะนำเสนอแผนการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานประเทศ  พ.ศ.2560 ต่อคณะรัฐมนตรี   โดยมีการบรรจุการก่อสร้างทางคู่จำนวน 9 เส้นทางไว้ด้วย ซึ่งขณะนี้ 50% ได้ ผ่านการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมแล้ว

 

ทังนี้นายกรัฐมนตรีกำชับว่าต้องการให้เห็นการดำเนินการเชื่อมต่อโครงข่ายการเดินทางของทุกระบบ   และต้องมีการบูรณาการงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น เรื่องของการศึกษาผลกระทบทางด้านสิ่งแวดล้อมนั้นจะต้องทำงานใกล้ชิดกับกระทรวงทรัพยกรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม  รวมไปถึงกระทรวงมหาดไทยที่ต้องประสานการทำงานเรื่องของการจัดผังเมือง เพื่อให้โครงการเดินหน้าได้ไม่สะดุดเกิดปัญหา


ส่วนกรณีที่นายกระบุว่าขณะนี้มีคนนอกพื้นที่ออกมาเคลื่อนไหวคัดค้านการดำเนินโครงการ ทำให้บางโครงการเกิดความล่าช้า  เรื่องอรกระทรวงคมนาคมจะต้องเข้าไปพูดคุยกับประชาชนให้มากขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาประชาชนส่วนใหญ่ก็ให้การสนับสนุนโครงการอยู่แล้ว เพราะต้องการคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

นอกจากนี้ นายกได้เน้นย้ำให้มีการออกแบบโครงสร้างพื้นฐานให้สอดคล้องกับโครงสร้างประชากร และวิถีชีวิตของประชาชนในอนาคต เช่น การออกแบบถนนจะต้องคำนึงถึงวิถีชีวิต สภาพ วิ่งแวดล้อม และภูมิทัศน์ชุมชนด้วย ต้องออกแบบให้กลมกลืน ไม่ควรตัดต้นไม้ทิ้งโดยอาจจะต้องปรับแนวถนนอ้อมไปทางอื่น

สำหรับโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน เส้นทาง กทม- นครราชสีมา นายกรัฐมนตรีได้ขอให้กระทรวงคมนาคมเร่งสร้างความรับรู้ให้กับประชาชนให้มากขึ้น ซึ่งโครงการดังกล่าวมีการแบ่งการออกสร้างออกเป็น 4 ตอน  ไม่ได้หมายความว่าจะสร้างแค่บริเวณกลางดงเพียง 3.5 กม. แต่ที่เลือกสร้างจุดนี้ก่อน เนื่องจากเป็นพื้นที่ของการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.)ที่ไม่ต้องเวนคืนที่ดินสามารถก่อสร้างได้เลย  ซึ่งรัฐบาลจะเดินหน้าโครงการนี้ต่อไป แต่ขณะนี้ยังติดปัญหา2 เรื่องคือเรื่องการถอดแบบก่อสร้างให้เป็นไปตามมาตรฐานของไทย  และการร่างสัญญา    จะต้องตรงตามระเบียบการประมูลของไทย – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Taiwanese actress Barbie Hsu, who died of influenza at 48 sepia

“ซันไช่” นางเอกจาก F4 ซีรีส์ดังไต้หวันเสียชีวิตแล้ว

ไทเป 3 ก.พ.- ต้าเอส หรือที่ผู้ชมรู้จักในบทบาท “ซันไช่” นางเอกจากเรื่องรักใสใส หัวใจสี่ดวง (Meteor Garden) ซีรีส์ดังของไต้หวันในช่วงปี 2544 เสียชีวิตในวัย 48 ปี เพราะอาการแทรกซ้อนจากไข้หวัดใหญ่ ต้าเอสหรือบาร์บี สวี มีชื่อจริงว่า สวี ซีหยวน เป็นที่รู้จักไปทั่วเอเชียจากซีรีส์ดังที่คนมักเรียกกันสั้น ๆ เอฟ 4 (F4) มีข่าวลือแพร่สะพัดในโลกออนไลน์เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ว่า เธอเสียชีวิตแล้ว และยิ่งเป็นกระแสหนักขึ้นไปอีกเมื่อนายหวัง เสี่ยวเฟย อดีตสามีที่เป็นนักธุรกิจได้เปลี่ยนรูปโพรไฟล์ในสื่อสังคมออนไลน์เป็นสีดำ และในเช้าวันนี้น้องสาวของเธอ สวี ซีตี้ ที่รู้จักในวงการบันเทิงว่า เสี่ยวเอส ยืนยันด้วยการส่งถ้อยแถลงถึงสถานีโทรทัศน์ทีวีบีเอส นิวส์ (TVBS News) ว่าพี่สาวของเธอถึงแก่กรรมเพราะปอดอักเสบที่เป็นอาการแทรกซ้อนจากไข้หวัดใหญ่ ต้าเอสเกิดเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2519 เริ่มเข้าวงการในฐานะศิลปินคู่กับเสี่ยวเอสในชื่อวง เอสโอเอส  “S.O.S” เมื่อปี 2537 เธอมีลูก 2 คนกับอดีตสามี […]

“เต้ มงคลกิตติ์” หอบกล้องวงจรปิด 34 จุดคดี “แตงโม” มอบดีเอสไอ

นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เข้าพบ พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนข้อเท็จจริงคดีการเสียชีวิตของ น.ส.ภัทรธิดา (นิดา) พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม เพื่อมอบหลักฐานและให้ข้อมูลดีเอสไอ หลังรับเป็นเลขสืบสวนที่ 20/2568

“อนุทิน” ยังไม่รู้ ปม “โจ้มหาเฮง” แจ้งความเอาผิดคุณนายผู้ว่าฯ เบี้ยวค่าสลาก

“อนุทิน” บอกยังไม่รู้ ปม “โจ้มหาเฮง” แจ้งความเอาผิดคุณนายผู้ว่าฯ เบี้ยวเงินค่าสลาก ชี้หากจริง ผู้ว่าฯ เหนื่อยแน่

ข่าวแนะนำ

ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์

PEA ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา 5 จุด

เริ่มแล้ว การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) รับนโยบาย สมช.สั่งตัดไฟฟ้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในฝั่งเมียนมา 5 จุด เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้

สมช.เคาะพรุ่งนี้ 9 โมง! ตัดไฟฟ้า-อินเทอร์เน็ต-น้ำมัน 5 จุด

สมช.เคาะตัดไฟฟ้า-อินเทอร์เน็ต-น้ำมัน 5 จุดในเมียนมา โยงแก๊งคอลเซ็นเตอร์ พรุ่งนี้ 09.00 น. เชื่อ เข้าใจหลังมีการหารือแจ้งให้เตรียมความพร้อมแล้ว ย้ำ ไม่แทรกแซงเรื่องภายใน

ผบช.ภ.2 สั่งย้าย ผกก.สภ.องครักษ์ เซ่นปม จนท.บุกทลายบ่อน

รมว.มหาดไทย ชื่นชมชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง บุกทลายบ่อนนครนายก ขณะที่ ผบช.ภ.2 สั่งย้ายผู้กำกับการ สภ.องครักษ์ เซ่นปมบ่อน พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง ใครบกพร่อง-รับผลประโยชน์ ยืนยันเอาผิดไม่มีละเว้น