ฝากขัง 2 ผู้ต้องหาหลอกประมูลทองผ่านเฟซบุ๊ก

กรุงเทพฯ 22 เม.ย.-  ตำรวจ ปอท. ควบคุมตัว 2 ผู้ต้องหาหลอกประมูลทองผ่านเฟซบุ๊ก มูลค่ากว่า 50 ล้านบาท ฝากขังต่อศาลอาญารัชดา แต่ไม่มีญาติยื่นหลักทรัพย์ขอปล่อยตัวชั่วคราว เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวไปขังที่เรือนจำ   


ตำรวจปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือปอท. นำตัวนางสาวรัชชุดา ทองแย้ม และนายณัฐพล วรินทร์ ผู้ต้องหาในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ด้วยข้อมูลอันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นและประชาชน ไปฝากขังที่ศาลอาญา ครั้งแรกเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 22 เม.ย.- 3 พ.ค.60



คำร้องฝากขังระบุว่า เมื่อวันที่ 19 เม.ย. 60 มีกลุ่มผู้เสียหายราว 60 คนเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน  บก.ปอท. ให้ดำเนินคดีกับผู้ใช้เฟซบุ๊ก ชื่อว่า รัชชุดา ทองแย้ม เมื่อมีพฤติการณ์ หลอกลวงให้ร่วมลงทุนประมูลซื้อขายทองคำ อ้างว่าสามารถซื้อทองคำได้ในราคาถูกกว่าราคาตลาด โดยจะเปิดประมูลทุกวัน วันละ 3-4 รอบ และเมื่อเปิดประมูลในแต่ละรอบ น.ส.รัชชุดา จะแจ้งในหน้า เฟซบุ๊กโพสต์รูปทองคำที่จะขายแล้วให้กับผู้ที่ต้องการเสนอราคา   หากผู้เสียหายคนใดประมูลได้ จะต้องโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารกสิกรไทยเลขที่บัญชี 011 849 3168 ชื่อบัญชี น.ส.รัชชุดา ทองแย้ม ทำให้มีผู้เสียหายหลงเชื่อร่วมประมูล รวมมูลค่าความเสียหายประมาณ 90 ล้านบาท  ขณะที่นายณัฐพล ทำหน้าที่ ส่งทองคำไปให้แก่ผู้เสียหาย ทางไปรษณีย์ มีส่วนร่วมในการกระทำความผิด และไม่ยอมส่งทองคำให้กับผู้เสียหายที่โอนเงินค่าสินค้ามาให้แล้วทำให้มีมูลค่าความเสียหายรวม 30 ล้านบาท ต่อมาพนักงานสอบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจ จับกุมผู้ต้องหาได้ที่ห้องพักเลขที่ 21 เช็คอินรีสอร์ต คลอง 8 ธัญบุรี ตั้งอยู่เลขที่ 45/4 11 ตำบลลำผักกูด อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ  พนักงานสอบสวนทำการสอบสวนและควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองมาโดยตลอด แต่การสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ต้องสอบปากคำพยานจำนวน 5 ปาก รอผลตรวจสอบเครื่องโทรศัพท์มือถือของกลาง5เครื่องและผลการตรวจสอบลายพิมพ์นิ้วมือผู้ต้องหาทั้งสองจากกองทะเบียนประวัติอาชญากร ด้วยเหตุผลดังกล่าวจึงขอฝากขังผู้ต้องหาไว้ระหว่างสอบสวนดังกล่าว


ด้าน ศาลพิจารณาคำร้องฝากขัง พร้อมสอบถามผู้ต้องหาแล้วไม่คัดค้าน จึงอนุญาตให้ฝากขังได้ แต่ขณะคุมตัวมาฝากขังไม่มีญาติของผู้ต้องหาทั้งสองใบยืนคำร้องขอปล่อยชั่วคราวแต่อย่างใดจากนั้นเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์คุมตัวน.ส.รัชชุดาไปคุมขังที่ทัณฑสถานหญิงกลาง ส่วนนายณัฐพล คุมตัวไปขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ  -สำนักข่าวไทย  


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“โรม” ตั้งกระทู้ถามปมคุณสมบัติ ปธ.กสทช.

“โรม” ตั้งกระทู้ถาม ปม คุณสมบัติ ปธ.กสทช. ปูดคนรัฐบาลมีความสัมพันธ์กับ กสทช. เรื่องจึงไม่ขยับ ด้าน “ประเสริฐ” ปัดดองเรื่อง ขณะนี้ยื่นศาลรธน.ตีความแล้ว รอคำวินิจฉัย ยืนยันรัฐบาลแยกแยะเรื่องส่วนตัวจากการทำงาน ยึดประโยชน์ประชาชน

“อนุทิน” สั่งยกระดับเข้มงวดเข้าออกจุดผ่านแดนไทย

“อนุทิน” สั่งยกระดับความเข้มงวดในการเข้าออกจุดผ่านแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน ป้องกัน ปราบปราม ยาเสพติด อาชญากรรมทุกประเภท ภายใต้ปฏิบัติการ “Seal Stop Safe” ตามนโยบายนายกรัฐมนตรี

จับเว็บพนัน

ทลายเครือข่ายเว็บพนัน 2 จุด กลางกรุง มีนักแสดงตัวประกอบเอี่ยวด้วย

ตำรวจไซเบอร์ ทลายเครือข่ายเว็บพนัน 2 จุด กลางกรุง พบเงินหมุนเวียนเดือนละ 100 ล้าน มีนักแสดงตัวประกอบร่วมขบวนการ

เปิดใจผู้รอดชีวิตจากรถบัสมรณะ 18 ศพ

โศกนาฏกรรมรถบัสมรณะ 18 ศพ สร้างความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ให้กับชาว อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ วันนี้ทีมข่าวสำนักข่าวได้สัมภาษณ์เปิดใจผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ราวกับปาฏิหาริย์

ข่าวแนะนำ

นายกฯ พบผู้บริหารบริษัท DKSH ณ นครซูริก ก่อนบินต่อเบอร์ลิน

นายกฯ หารือภาคเอกชน พบผู้บริหารบริษัท DKSH ณ นครซูริก ก่อนบินต่อเบอร์ลิน เยอรมนี พูดคุยข้อจำกัดการขออนุญาตจำหน่ายยาและเวชภัณฑ์พัฒนาการรักษาโรคในไทย สานต่องานอดีตนายกฯ เศรษฐา พร้อมขอให้เป็นตัวกลางส่งออกสินค้าเกษตรไทยไปต่างประเทศ

ตร.ไซเบอร์บุกค้น 9 จุด รวบรอบ 2 “มินนี่” เจ้าแม่เว็บพนัน

ตำรวจ บช.สอท. นำกำลังพร้อมหมายค้น ปูพรม 9 จุด ทั้งในกรุงเทพฯ จังหวัดเลย และจังหวัดใกล้เคียง จับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายพนันออนไลน์ “มินนี่” กว่า 30 หมายจับ

ทุจริตยาโรงพยาบาล

ปปป.เตรียมระดมพลร่วมทำคดีทุจริตยา รพ.ทหารผ่านศึก

ปปป.เตรียมระดมพนักงานสอบสวนในกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ร่วมทำคดีทุจริตยาและเวชภัณฑ์โรงพยาบาลทหารผ่านศึก พร้อมเตรียมลงพื้นที่ลพบุรี สอบผู้ป่วยกว่า 100 คน ว่าใช่ผู้ป่วยที่แท้จริง มีความจำเป็นต้องใช้ยาหรือไม่ ในเร็ว ๆ นี้

ตร.ไซเบอร์เร่งสอบปากคำ 93 ผู้ต้องหาขบวนการคอลเซ็นเตอร์

ตำรวจไซเบอร์อยู่ระหว่างสอบปากคำ 93 ผู้ต้องหาขบวนการคอลเซ็นเตอร์ พฤติการณ์เชื่อมโยง 46 คดี ที่มีผู้เสียหายแจ้งความในไทย พบข้อมูลผู้ต้องหาบางรายโพสต์โซเชียลหางานสีเทาเอง ส่วนเยาวชน 2 ราย อยู่ระหว่างรวบรวมออกหมายจับ หลังพบสมัครใจร่วมองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ