9 พ.ย.-เกษตรทฤษฎีใหม่เกิดจากพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ได้ทรงทำการศึกษาและวิจัย เป็นแนวทางในการจัดการทรัพยากร เพื่อการเกษตรในที่ดินขนาดเล็กให้เกิดประโยชน์สูงสุด
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงมีพระราชหฤทัยมุ่งมั่นแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน พัฒนาความเป็นอยู่ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น พออยู่ พอกิน และพึ่งพาตนเองได้ ทั้งเปลี่ยนความแร้นแค้นสู่ความอุดมสมบูรณ์ เป็นที่มาของโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริเกือบ 5,000 โครงการ
เกษตรทฤษฎีใหม่คือหนึ่งในพระราชดำริที่พระองค์ทรงวางแนวทางเพื่อให้เกษตรกรที่มีที่ดินจำนวนไม่มาก หรือเกษตรกรรายย่อย นำไปปฏิบัติ วางแผนจัดการน้ำ แบ่งที่ดินให้ใช้ประโยชน์ได้สูงสุด ทั้งปลูกข้าว เก็บน้ำ เลี้ยงสัตว์ ปลูกพืชผสมผสานแทนพืชเชิงเดี่ยว รวมกลุ่มกันแปรรูปผลิตภัณฑ์ค้าขายในพื้นที่ เพื่อพึ่งการขนส่งให้น้อยที่สุด
โคกหนองนาโมเดล คือการประยุกต์แนวเกษตรทฤษฎีใหม่มาปฏิบัติใช้ให้เข้ากับภูมิประเทศ ทั้งภูเขา ริมทะเลหรือที่ราบ เพื่อกักเก็บน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้ง ให้ป่าอุดมสมบูรณ์ตลอดปี สามารถทำการเกษตรได้อย่างยั่งยืน อ.ยักษ์ ผู้ถวายงานรับใช้ใต้เบื้องพระยุคลบาท และน้อมนำแนวพระราชดำริมาใช้กว่า 30 ปี บอกว่าปัจจุบันมีเกษตรกรใช้แนวคิดนี้หลายหมื่นราย ไม่โดนผลกระทบเรื่องปัญหาราคาข้าวตกต่ำที่ชาวนาส่วนใหญ่กำลังเผชิญในขณะนี้
การแก้ปัญหาในระยะสั้น อ.ยักษ์ เสนอว่า ให้ชาวบ้านนำข้าวที่เหลือมารวมกัน สีและแบ่งกันกิน ห้ามนำไปจำหน่ายในระบบตลาด หวังกำไรคงไม่ได้ ส่วนระยะยาว แนะศึกษาเกษตรทฤษฎีใหม่ ชาวบ้านที่ประสบความสำเร็จบางคนมีต้นทุนน้อยมาก แนะทำแบบคนจน พึ่งตนเองให้ได้ ไม่ใช่คนรวยที่รอพึ่งคนอื่น
ปัญหาเกษตรกรรมที่เกิดขึ้นเกิดจากชาวบ้านต้องการรายได้ที่ได้มาอย่างฉาบฉวย ไม่คำนึงถึงความยั่งยืน เห็นว่าข้าวราคาดีจึงแห่กันปลูก เร่งใช้สารเคมีจนดินเสีย ทั้งต้องเผชิญภัยแล้งและฝน สุดท้ายข้าวล้นตลาด จึงควรน้อมนำพระราชดำริที่เน้นการปลูกกิน ปลูกอยู่ และปลูกใช้ เพราะท้ายที่สุด “เงินทองเป็นของมายา ข้าวปลาสิของจริง” .-สำนักข่าวไทย