16 เกาหลีเหนือยังคงพบผู้ป่วยที่มีอาการไข้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ล่าสุดมีผู้ป่วยสะสมแล้วเกือบ 2 ล้านคน
60 สำนักข่าวนิวซิสส์ (Newsis) ของเกาหลีใต้รายงานอ้างหน่วยงานด้านการสอดแนมของเกาหลีใต้ที่รายงานต่อสมาชิกรัฐสภาเกาหลีใต้ที่ระบุว่า การระบาดของเชื้อไวรัสโรคโควิด-19 ที่มีการยืนยันเป็นครั้งแรกเมื่อสัปดาห์ที่แล้วนั้น เกิดขึ้นหลังกิจกรรมสวนสนามทางทหารครั้งใหญ่ในกรุงเปียงยาง นครหลวงของเกาหลีเหนือในเดือนเมษายน
64 สื่อเกาหลีเหนือ รายงานว่า “คิม จอง อึน” ประชุมคณะกรรมการพรรคแรงงาน ตำหนิการทำงานของเจ้าหน้าที่รับมือโควิด-19 ทั้งนี้ตั้งแต่ เม.ย.- 17 พ.ค. พบผู้ที่มีอาการไข้กว่า 1.7 ล้านคน
92 เปียงยาง 16 พ.ค.- นายคิม จอง-อึน ผู้นำเกาหลีเหนือตำหนิเจ้าหน้าที่เรื่องจัดส่งยาล่าช้า และสั่งการให้กองทัพเร่งรับมือกับวิกฤตโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ที่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นแต่ยังไม่มีการตรวจวินิจฉัยอย่างชัดเจน สำนักข่าวเคซีเอ็นเอ (KCNA) ของทางการเกาหลีเหนือรายงานอ้างศูนย์ต่อต้านไวรัสฉุกเฉินว่า มีประชาชนประมาณ 1 ล้าน 2 แสนคนเป็นไข้ และมีผู้เสียชีวิตแล้ว 50 คนในเวลาไม่กี่วัน ประชาชนมากกว่า 564,860 คนถูกกักตัวเพราะมีไข้สูง เป็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในและรอบกรุงเปียงยางมาตั้งแต่ปลายเดือนเมษายน เฉพาะวันนี้มีคนเป็นไข้เพิ่มขึ้น 392,920 คน และเสียชีวิต 8 คน อย่างไรก็ดี เคซีเอ็นเอไม่ได้ระบุชัดเจนว่า มีผู้ติดโควิดที่ได้รับการยืนยันแล้วจำนวนเท่าใด เคซีเอ็นเอรายงานว่า นายคิม จอง-อึน ผู้นำเกาหลีเหนือได้ตำหนิเจ้าหน้าที่รัฐบาลและเจ้าหน้าที่สาธารณสุขระหว่างการประชุมคณะกรมการเมืองพรรคแรงงานเมื่อวันอาทิตย์ว่า เป็นการรับมือการระบาดที่ล้มเหลว การจัดส่งยาไปยังร้านขายยาไม่ทันเวลา เพราะมีทัศนคติในการทำงานแบบไร้ความรับผิดชอบและขาดการจัดระเบียบองค์กร คณะกรมการเมืองได้ออกคำสั่งฉุกเฉินให้เร่งจัดส่งยาคงคลังของรัฐทันที และสั่งให้ร้านขายยาเปิดตลอด 24 ชั่วโมง แต่เจ้าหน้าที่กลับไม่ปฏิบัติตาม ผู้นำเกาหลีเหนือได้สั่งการให้หน่วยแพทย์ของกองทัพเข้าไปช่วยจัดสรรยาในกรุงเปียงยาง และได้ไปตรวจเยี่ยมร้านขายยาในกรุงเปียงยางด้วยตนเอง เขาตำหนิร้านขายยาส่วนใหญ่ว่า จัดร้านไม่เหมาะสม แถมเภสัชกรยังไม่สวมเสื้อกาวน์ตามที่ควรใส่ด้วย ด้านสำนักข่าวเอพีรายงานว่า เชื่อกันว่าเกาหลีเหนือขาดแคลนชุดตรวจหาเชื้อ จึงอาศัยแต่การแยกกักตัวผู้มีไข้ หากเกาหลีเหนือไม่สามารถชะลอการระบาด […]
116 เปียงยาง 15 พ.ค.- เกาหลีเหนือแจ้งวันนี้ว่า มีผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 42 คน ขณะเข้าสู่วันที่ 4 ของการใช้มาตรการล็อกดาวน์ทั้งประเทศเพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 เกาหลีเหนือยอมรับเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคมว่า กำลังรับมือกับโควิดระบาด สำนักข่าวกลางเกาหลี หรือเคซีเอ็นเอ (KCNA) รายงานวันนี้ว่า ทางการกำลังดำเนินมาตรการฉุกเฉินระดับชาติทันทีเพื่อควบคุมการระบาด ทุกจังหวัดทุกเมืองถูกล็อกดาวน์อย่างสิ้นเชิง สถานที่ทำงาน สถานที่ผลิตและที่พักอาศัยทุกแห่งถูกตัดขาดจากกันตั้งแต่เช้าวันที่ 12 พฤษภาคม และกำลังมีการตรวจประชาชนทุกคนอย่างเข้มงวดและกว้างขวาง เจ้าหน้าที่สาธารณสุขกำลังเพิ่มศูนย์ป้องกันการระบาด เร่งจัดส่งเวชภัณฑ์ไปยังโรงพยาบาลและคลินิก เคซีเอ็นเอระบุว่า ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นผู้ที่ไม่ใส่ใจรับประทานยาอย่างจริงจัง เนื่องจากไม่มีความรู้ความเข้าใจเรื่องเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอไมครอนและวิธีการรักษาอย่างถูกต้อง จนถึงขณะนี้มีผู้เข้าข่ายติดเชื้อแล้วราว 820,620 คน และอยู่ระหว่างการรักษา 324,550 คน โดยมีคนเป็นไข้เพิ่มขึ้นจากวันเสาร์ 296,180 คน และเสียชีวิตเพิ่มขึ้นจากวันเสาร์ 15 คนเป็น 42 คน.-สำนักข่าวไทย
64 นายคิม จอง-อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือกล่าววันนี้ว่า การระบาดของเชื้อไวรัสโรคโควิด-19 ทำให้ประเทศเกาหลีเหนือตกอยู่ในสภาพวุ่นวายยุ่งยากอย่างเลวร้ายที่สุด พร้อมทั้งเรียกร้องให้ทำทุกวิถีทางในการเอาชนะการระบาดของโควิดให้ได้ ในขณะที่รายงานระบุพบผู้เสียชีวิตรายวันจากโควิดเมื่อวานนี้ 21 ราย
71 ประธานาธิบดียุน ซอก ยอล ของเกาหลีใต้เสนอในวันนี้ว่าจะจัดส่งวัคซีนป้องกันการติดเชื้อไวรัสโรคโควิด-19 ไปให้กับเกาหลีเหนือ หลังจากที่เมื่อวานนี้ เกาหลีเหนือยอมรับเป็นครั้งแรกว่า มีการระบาดของโควิด-19 ในประเทศและมีผู้เสียชีวิตจากเชื้อไวรัสแล้ว
91 สื่อมวลชนเกาหลีเหนือรายงานวันนี้ว่า พบผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสโรคโควิด-19 ในเกาหลีเหนือและประชาชนอีกหลายแสนคนที่ติดเชื้อไวรัสและแสดงอาการมีไข้ ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นถึงความรุนแรงของโควิด-19 ที่เพิ่งมีการยืนยันถึงการระบาดอย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรก
42 องทัพเกาหลีใต้และญี่ปุ่นรายงานวันนี้ว่า เกาหลีเหนือทดสอบยิงขีปนาวุธแบบทั้งตัวอีกครั้งในวันนี้ ที่บริเวณนอกชายฝั่งตะวันออกของประเทศ
37 โซล 11 พ.ค.- นักวิเคราะห์ชี้ว่า แผนการของประธานาธิบดีคนใหม่ของเกาหลีใต้ที่จะเสนอความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจให้แก่เกาหลีเหนือ แลกกับการปลดนิวเคลียร์บนคาบสมุทรเกาหลี อาจเผชิญความท้าทาย ขณะที่มีสัญญาณว่าเกาหลีเหนือเตรียมทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ในเร็ว ๆ นี้ ประธานาธิบดียุน ซอก-ยอลกล่าวสุนทรพจน์รับตำแหน่งเมื่อวานนี้ว่า จะใช้ประโยชน์ทางเศรษฐกิจครั้งใหญ่จูงใจเกาหลีเหนือ แต่ไม่ได้แจกแจงรายละเอียดว่า จะจูงใจเกาหลีเหนือให้กลับเข้าสู่โต๊ะเจรจาได้อย่างไร โดยกล่าวเพียงว่า สถานการณ์ความมั่นคงขณะนี้ตึงเครียด เพราะเกาหลีเหนืออาจทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ เจ้าหน้าที่สหรัฐและเกาหลีใต้คาดว่า เกาหลีเหนืออาจทดสอบในเดือนนี้เป็นอย่างเร็วที่สุด หลังจากฉีกประกาศพักการทดสอบขีปนาวุธที่ประกาศเองในปี 2561 ด้วยการทดสอบขีปนาวุธพิสัยไกลเมื่อเดือนมีนาคมปีนี้ และจะเป็นการทดสอบขีปนาวุธนิวเคลียร์ครั้งแรกหลังจากทดลองครั้งหลังสุดในปี 2560 ผู้เชี่ยวชาญด้านเกาหลีเหนือของมหาวิทยาลัยสตรีอีฮวาในกรุงโซลให้ความเห็นว่า สุนทรพจน์ของผู้นำใหม่เกาหลีใต้มีความประนีประนอม แต่เกาหลีเหนือจะไม่มีวันยอมรับการอ้างเหตุผลว่า เกาหลีใต้จะช่วยพัฒนาเศรษฐกิจ หากเกาหลีเหนือยอมปลดนิวเคลียร์ เพราะเท่ากับเป็นการไม่ยอมรับระบอบของตนเอง ด้านอาจารย์มหาวิทยาลัยเกาหลีเหนือศึกษาในกรุงโซลตั้งข้อสังเกตว่า ประธานาธิบดีลี มยองบักของเกาหลีใต้เคยยื่นข้อเสนอนี้ในปี 2550 ด้วย “วิสัยทัศน์ 3000” เสนอช่วยให้เกาหลีเหนือมีรายได้ต่อหัวประชากร 3,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 104,000 บาท) ภายใน 10 ปี หากละทิ้งโครงการนิวเคลียร์และขีปนาวุธ รวมทั้งเปิดประเทศให้แก่โลกภายนอก แต่ถูกเกาหลีเหนือบอกปัดโดยมองว่าเป็นแผนหวังล้มรัฐบาลเกาหลีเหนือ.-สำนักข่าวไทย
42 โซล 9 พ.ค.- ประธานาธิบดีมุน แจ-อินของเกาหลีใต้ใช้การแถลงอำลาตำแหน่งปกป้องนโยบายติดต่อข้องเกี่ยวกับเกาหลีเหนือ และหวังว่าความพยายามฟื้นฟูสันติภาพและปลดนิวเคลียร์บนคาบสมุทรเกาหลีจะได้รับการสานต่อจากรัฐบาลชุดใหม่ ประธานาธิบดีมุน วัย 69 ปี จะพ้นวาระ 5 ปีในวันที่ 10 พฤษภาคมนี้ เพื่อส่งต่อภารกิจให้แก่นายยุน ซอก-ยอล ผู้นำสายอนุรักษ์นิยมที่กล่าวหานายมุนว่ายอมจำนนให้แก่เกาหลีเหนือ และประกาศจะใช้แสดงความแข็งกร้าวต่อเกาหลีเหนือมากขึ้นในเรื่องโครงการนิวเคลียร์ ประธานาธิบดีมุนแถลงอำลาที่ทำเนียบประธานาธิบดีในวันนี้โดยมีการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ทั่วประเทศว่า สันติภาพคือเงื่อนไขในการอยู่รอดและรุ่งเรือง เขาหวังจากใจว่า ความพยายามฟื้นการเจรจาระหว่างสองเกาหลี ความพยายามปลดนิวเคลียร์และสร้างสันติภาพจะดำเนินต่อไป พร้อมกับยืนยันว่า เหตุผลที่เกาหลีใต้ไม่สามารถเดินหน้าเรื่องนี้ ไม่ใช่เพราะขาดความพยายามและความมุ่งมั่น แต่เพราะมีอุปสรรคที่ไม่สามารถเอาชนะได้ด้วยความมุ่งมั่นของเกาหลีใต้เท่านั้น เป็นอุปสรรคที่เกาหลีใต้ควรหาทางเอาชนะให้ได้ แต่ไม่ได้พูดชัดเจนว่าอุปสรรคที่ว่าคืออะไร ประธานาธิบดีมุนรับตำแหน่งในปี 2560 ดำเนินนโยบายประนีประนอมจนสามารถจัดการประชุมสุดยอดกับนายคิม จอง-อึน ผู้นำเกาหลีเหนือถึง 3 ครั้งในปี 2561 และนำมาซึ่งการประชุมสุดยอดระหว่างนายคิมกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐในเวลานั้นในปี 2561 และ 2562 แต่หลังจากการประชุมสุดยอดเกาหลีเหนือ-สหรัฐล้มเหลว เขาถูกวิจารณ์ว่าดำเนินนโยบายที่ช่วยให้เกาหลีเหนือมีเวลาในการพัฒนาอาวุธ.-สำนักข่าวไทย
69 โตเกียว 8 พ.ค.- สื่อทางการเกาหลีเหนือยังไม่แสดงท่าทีใด ๆ ต่อข่าวการยิงขีปนาวุธเมื่อวันพุธและวันเสาร์ ท่ามกลางกระแสข่าวลือเรื่องเกาหลีเหนืออาจเตรียมทดสอบขีปนาวุธนิวเคลียร์ในอีกไม่นาน เว็บไซต์สำนักข่าวเกียวโดนิวส์ของญี่ปุ่นรายงานว่า สื่อทางการเกาหลีเหนือยังไม่พูดถึงข่าวที่เกาหลีใต้และญี่ปุ่นระบุว่า เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธทิ้งตัวจากเรือดำน้ำเมื่อวันเสาร์ และยิงขีปนาวุธทิ้งตัวเมื่อวันพุธ ทั้งที่ปกติแล้วมักรายงานข่าวการทดสอบขีปนาวุธหลังจากทดสอบยิงไปแล้ว 1 วัน ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญกิจการต่างประเทศคาดการณ์ว่า เกาหลีเหนืออาจจะทดสอบขีปนาวุธทิ้งตัวเพิ่มเติม และอาจทดสอบขีปนาวุธนิวเคลียร์ครั้งที่ 7 ในช่วงที่นายยุน ซอก-ยอลจะรับตำแหน่งประธานาธิบดีคนที่ 20 ของเกาหลีใต้ในวันที่ 10 พฤษภาคมนี้ และอาจเพิ่มการยั่วยุทางทหารในโอกาสที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐจะเยือนเกาหลีใต้และญี่ปุ่นเป็นเวลา 5 วัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 20 พฤษภาคม เกาหลีใต้และญี่ปุ่นระบุว่า เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธทิ้งตัวเมื่อวันเสาร์ที่น่าจะยิงมาจากเรือดำน้ำลอยลำอยู่นอกชายฝั่งตะวันออก คาดว่าร่อนไปได้ไกล 600 กิโลเมตรที่ระดับความสูง 50 กิโลเมตรก่อนตกในเขตเศรษฐกิจจำเพาะของญี่ปุ่น ส่วนเมื่อวันพุธ ญี่ปุ่นระบุว่า เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธทิ้งตัวมาทางตะวันออกแล้วตกในทะเลญี่ปุ่น คาดว่าร่อนไปได้ไกล 500 กิโลเมตรที่ระดับความสูง 800 กิโลเมตร เกาหลีเหนือทดสอบยิงขีปนาวุธข้ามทวีปเมื่อวันที่ 24 มีนาคม เท่ากับฉีกประกาศพักการทดสอบที่เกาหลีเหนือประกาศเองเมื่อเดือนเมษายน 2561 สำนักข่าวกลางเกาหลีหรือเคซีเอ็นเอ (KCNA) ของเกาหลีเหนือรายงานว่า เป็นขีปนาวุธฮวาซอง-17 […]
