สาธารณะ

ปักกิ่ง 30 เม.ย.- ทางการกรุงปักกิ่งของจีนจะเพิ่มความเข้มงวดในการควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 หลังผ่านพ้นเทศกาลหยุดยาวเนื่องในวันแรงงานสากลต้นเดือนพฤษภาคมนี้ ปกติแล้วช่วงหยุดยาว 5 วันตั้งแต่วันที่ 1-5 พฤษภาคมเป็นช่วงที่จีนมีการเดินทางพลุกพล่านที่สุดช่วงหนึ่งของปี แต่สถานการณ์โรคโควิด-19 ที่กลับมาระบาดใหม่ในจีนและร้ายแรงที่สุดในขณะนี้ทำให้ประชาชนจำนวนมากต้องอยู่บ้าน ทางการกรุงปักกิ่งประกาศผ่านบัญชีวีแชทว่า ตั้งแต่วันที่ 5 พฤษภาคมเป็นต้นไป ผู้ที่จะเข้าสถานที่สาธารณะทุกประเภทและจะใช้บริการขนส่งสาธารณะทุกอย่างจะต้องแสดงผลตรวจหาเชื้อเป็นลบภายในสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่วนการร่วมกิจกรรมเป็นกลุ่ม เช่น กีฬา ท่องเที่ยวจะต้องแสดงผลการตรวจหาเชื้อเป็นลบภายใน 48 ชั่วโมง พร้อมกับแสดงหลักฐานว่าฉีดวัคซีนครบถ้วนแล้ว ด้านสื่อทางการจีนรายงานว่า ทางการจะเริ่มการตรวจหาเชื้อฟรีให้แก่ประชาชนตั้งแต่วันที่ 3 พฤษภาคม จีนแจ้งวันนี้ว่า พบผู้ติดเชื้อในประเทศรายใหม่มากกว่า 10,700 ราย ในจำนวนนี้ 10,100 คนอยู่ในนครเซี่ยงไฮ้ที่ล็อกดาวน์มาร่วมเดือนแล้ว หลังจากกลายเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดระลอกล่าสุด ส่วนกรุงปักกิ่งพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 54 คน.-สำนักข่าวไทย

โซล 22 เม.ย.- เกาหลีใต้จะอนุญาตให้รับประทานอาหารในสถานที่สาธารณะที่เป็นที่ปิด เช่น โรงภาพยนตร์ ได้ตั้งแต่สัปดาห์หน้า หลังจากยกเลิกมาตรการรักษาระยะห่างทางสังคมส่วนใหญ่แล้วตั้งแต่เมื่อวันจันทร์ นายกรัฐมนตรีคิม บู-คยอมของเกาหลีใต้กล่าวระหว่างการประชุมรับมือโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ว่า ยอดผู้ติดเชื้อเฉลี่ยรายวันในขณะนี้ลดลงเหลือร้อยละ 40 ของสัปดาห์ก่อน เช่นเดียวกับยอดผู้ป่วยหนักและผู้เสียชีวิตที่มีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง ดังนั้นรัฐบาลจะอนุญาตให้รับประทานอาหารในสถานที่สาธารณะที่เป็นที่ปิดอย่างโรงภาพยนตร์ สถานออกกำลังกาย สถานที่ทางศาสนา รถไฟและรถโดยสารด่วนได้ตั้งแต่สัปดาห์หน้า ตามแนวทางเดินหน้าผ่อนคลายมาตรการจำกัดการระบาด เพื่อให้ประชาชนสามารถกลับไปดำเนินชีวิตตามปกติ อย่างไรก็ดี การยกเลิกมาตรการจำกัดไม่ได้หมายความว่า ความเสี่ยงในการติดเชื้อได้หมดสิ้นไปแล้ว รัฐบาลจะหารือกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขและกลุ่มที่เกี่ยวข้องเพื่อหามาตรการรับมือต่อไป ตามที่มีความกังวลเรื่องผลที่อาจเกิดขึ้นจากการผ่อนคลายมาตรการรักษาระยะห่างทางสังคม นายกรัฐมนตรีเกาหลีใต้ยืนยันด้วยว่า รัฐบาลจะลดระดับโรคติดเชื้อของโควิดลง 1 ระดับจากสูงสุดเป็นสูงสุดระดับ 2 จากที่มีอยู่ทั้งหมด 4 ระดับตั้งแต่วันจันทร์ที่จะถึงนี้ เพื่อให้ผู้ติดเชื้อสามารถรับการรักษาตามคลินิกและโรงพยาบาลท้องถิ่นได้เช่นเดียวกับโรคประจำถิ่น พร้อมกับถือโอกาสนี้ขอให้ประชาชนสูงวัยเข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มที่ 4 เพื่อลดการป่วยหนักและเสียชีวิต เกาหลีใต้มียอดติดเชื้อสะสมมากกว่า 16.75 ล้านคน เสียชีวิตมากกว่า 21,800 คน.-สำนักข่าวไทย

รัฐบาลกลางสหรัฐจะไม่บังคับสวมหน้ากากอนามัยในระบบขนส่งสาธารณะอีกต่อไป หลังจากผู้พิพากษารัฐบาลกลางในรัฐฟลอริดามีคำชี้ขาดว่า คำสั่งที่ใช้มานาน 14 เดือน ไม่ชอบด้วยกฎหมาย

ดูไบ 27 ก.พ.- สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์หรือยูเออี (UAE) ยกเลิกมาตรการบังคับให้สวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ในที่สาธารณะที่เป็นที่โล่งแจ้ง และยกเลิกมาตรการตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สำนักงานจัดการวิกฤตฉุกเฉินและภัยพิบัติแห่งชาติของยูเออีแจ้งในแนวปฏิบัติฉบับปรับปรุงที่มีผลตั้งแต่วันเสาร์ว่า ผู้โดยสารที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้วสามารถเดินทางเข้ายูเออีได้โดยไม่ต้องตรวจหาเชื้อแบบพีซีอาร์ (PCR) ส่วนการเข้าสถานที่สาธารณะที่เป็นที่โล่งแจ้งไม่จำเป็นต้องสวมหน้ากากอนามัยและรักษาระยะห่างทางสังคมอีกต่อไป แต่การเข้าสถานที่สาธารณะที่เป็นที่ปิดยังต้องใส่อยู่ และจะไม่มีการบังคับกักโรคผู้มีประวัติสัมผัสใกล้ชิดผู้ติดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ด้านรัฐอาบูดาบีที่เป็นเมืองหลวงของยูเออีประกาศยกเลิกการแสดงผลตรวจหาเชื้อแบบพีซีอาร์เป็นลบกับผู้เดินทางมาจากอีก 6 รัฐของประเทศแล้ว ยูเออีซึ่งเป็นศูนย์กลางการค้าและการท่องเที่ยวของตะวันออกกลางประกาศยกเลิกมาตรการข้างต้น เนื่องจากยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลงอย่างต่อเนื่องจากวันละเกือบ 3,000 คนในเดือนมกราคม เหลือวันละ 600 คนในขณะนี้ ส่วนยอดติดเชื้อสะสมมากกว่า 878,700 คน เสียชีวิตราว 2,300 คน.-สำนักข่าวไทย

ปารีส 6 ม.ค.- สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ฝรั่งเศสผ่านความเห็นชอบร่างกฎหมายเข้มงวดการใช้บัตรผ่านโควิดในการรับบริการสาธารณะ ด้วยการให้ใช้แต่ใบรับรองการฉีดวัคซีนเท่านั้น หลังจากอภิปรายอย่างดุเดือดนานถึง 3 วัน สส.ฝรั่งเศสผ่านความเห็นชอบร่างกฎหมายนี้ด้วยคะแนน 214 ต่อ 93 เสียง และงดออกเสียง 27 เสียงก่อนเวลา 05:30 น.วันนี้ตามเวลาฝรั่งเศส และจะต้องผ่านความเห็นชอบจากวุฒิสภาที่จะพิจารณาในต้นสัปดาห์หน้า รัฐบาลต้องการให้มีผลบังคับใช้ในวันที่ 15 มกราคม แต่มีแนวโน้มจะล่าช้าเพราะการอภิปรายติดขัดในสภาผู้แทนราษฎร ร่างกฎหมายนี้กำหนดให้ผู้มีอายุ 12 ปีขึ้นไป ต้องแสดงใบรับรองการฉีดวัคซีนในการเข้าร้านอาหาร สถานที่ทางวัฒนธรรม และรถโดยสารสาธารณะข้ามภูมิภาค โดยไม่สามารถใช้ผลการตรวจหาเชื้อเป็นลบเช่นในปัจจุบันได้อีกต่อไป ยกเว้นการเข้ารับบริการทางการแพทย์ ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครงของฝรั่งเศสถูกวิจารณ์อย่างหนัก จากการที่กล่าวเมื่อวันอังคารว่า ยุทธศาสตร์เรื่องโควิดของเขาจะก่อกวนผู้ไม่ฉีดวัคซีน ด้วยการเพิ่มมาตรการจำกัดเข้มงวดเพื่อจูงใจให้ไปฉีดวัคซีน ฝรั่งเศสมียอดติดเชื้อสะสมมากกว่า 10 ล้าน 9 แสน 2 หมื่นคน มากเป็นอันดับ 5 ของโลก และมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 124,800 คน มีอัตราการฉีดวัคซีนครบโดสแล้วร้อยละ 73.7.-สำนักข่าวไทย

ปารีส 4 ม.ค.- รัฐบาลฝรั่งเศสจะเดินหน้าใช้กฎหมายห้ามผู้ที่ยังไม่ฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ใช้บริการสถานที่สาธารณะและรถสาธารณะ แม้ว่าการอภิปรายกฎหมายนี้ในรัฐสภาสะดุดลงเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา นายเคลมองต์ โบน รัฐมนตรีกิจการยุโรปของฝรั่งเศสให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์ในวันนี้ว่า วันที่ 15 มกราคมยังคงเป็นเป้าหมายการบังคับใช้กฎหมายดังกล่าวตามที่รัฐบาลกำหนดไว้ ปัจจุบันฝรั่งเศสบังคับใช้บัตรผ่านโควิดที่ต้องแสดงผลการตรวจหาเชื้อเป็นลบหรือใบรับรองการฉีดวัคซีนเมื่อจะใช้บริการร้านอาหาร โรงภาพยนตร์ หรือรถไฟ แต่กฎหมายใหม่จะไม่เหลือทางเลือกให้แสดงผลการตรวจหาเชื้อเป็นลบ ส่งผลให้ผู้ที่ยังไม่ฉีดวัคซีนไม่สามารถใช้บริการสถานที่สาธารณะและรถสาธารณะได้อีกต่อไป กฎหมายนี้ถูกต่อต้านอย่างรุนแรงจากกลุ่มต่อต้านวัคซีน กลุ่มขวาจัด และกลุ่มซ้ายจัด แต่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลที่ครองเสียงข้างมากในสภา อย่างไรก็ดี การอภิปรายกฎหมายฉบับนี้ในสภาผู้แทนราษฎรต้องระงับไปหลังเที่ยงคืนวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่น เนื่องจาก สส.ส่วนใหญ่ลงมติให้ระงับการอภิปราย ขณะที่ สส.ฝ่ายรัฐบาลไม่ได้อยู่ในที่ประชุมมากเพียงพอที่จะขัดขวางการลงมติได้ ประธาน สส.กลุ่มต่าง ๆ จะต้องกำหนดวันอภิปรายใหม่อีกครั้ง หากผ่านความเห็นชอบจาก สส. จะต้องให้ สว.เห็นชอบ จึงจะสามารถบังคับใช้ในวันที่ 15 มกราคมได้.-สำนักข่าวไทย

โรม 7 ส.ค.- อิตาลีเริ่มบังคับใช้มาตรการแสดงเอกสารดิจิทัลรับรองเรื่องโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 เพื่อเข้าสถานที่สาธารณะหลายแห่งแล้วตั้งแต่วันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น ตามอย่างหลายประเทศในยุโรป มาตรการนี้กำหนดให้ผู้มีอายุ 12 ปีขึ้นไปต้องแสดงเอกสารดิจิทัลยืนยันว่า ฉีดวัคซีนแล้วอย่างน้อย 1 เข็ม หรือหายป่วยจากโรคโควิด-19 หรือมีผลตรวจหาเชื้อเป็นลบในช่วง 48 ชั่วโมงที่ผ่านมา จึงจะสามารถเข้าสถานที่สาธารณะ เช่น โรงยิม ร้านอาหาร บาร์ โรงภาพยนตร์ พิพิธภัณฑ์ และจะขยายไปยังมหาวิทยาลัยและการคมนาคมทางไกลตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน แต่ยังไม่ใช้กับโรงแรม ซูเปอร์มาร์เก็ต และห้างสรรพสินค้า ผู้ฝ่าฝืน รวมทั้งเจ้าของสถานที่มีโทษปรับสูงสุด 1,000 ยูโร (ราว 39,350 บาท) หากเจ้าของสถานที่กระทำผิดซ้ำอาจถูกสั่งปิด 10 วัน หลายประเทศในสหภาพยุโรปหรืออียู (EU) ใช้มาตรการลักษณะเดียวกันนี้ ขณะที่ฝรั่งเศสจะขยายไปถึงการขึ้นเครื่องบินและรถไฟตั้งแต่วันจันทร์ที่จะถึงนี้ ผลสำรวจพบว่า ชาวอิตาลีส่วนใหญ่สนับสนุนมาตรการนี้ แม้ว่ามีบางกลุ่มประท้วงต่อต้าน ชาวอิตาลีฉีดวัคซีนครบโดสแล้วกว่าร้อยละ 60 แต่ยังคงมีผู้ติดเชื้อเพิ่มจากไวรัสสายพันธุ์เดลตา โดยในสัปดาห์นี้พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เกือบ 22,000 คน ยอดติดเชื้อสะสมกว่า […]

คนในฝรั่งเศสราว 200,000 คนชุมนุมตามท้องถนนในกรุงปารีสและอีกหลายเมืองเมื่อวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น ประท้วงเป็นสัปดาห์ที่ 3 คัดค้านการบังคับแสดงเอกสารด้านสุขภาพในการเข้าสถานที่สาธารณะ ตามมาตรการควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ระบาดระลอกที่ 4

โซล 28 มี.ค.- รัฐบาลเกาหลีใต้จะห้ามรับประทานอาหารตามสถานที่สาธารณะที่มีคนรวมตัวจำนวนมาก ผู้ฝ่าฝืนจะถูกปรับ เพื่อป้องกันการแพร่โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ที่มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้น เว็บไซต์สำนักข่าวยอนฮับรายงานว่า ทางการจะห้ามการรับประทานอาหารตามสถานที่สาธารณะทั้งหมด 21 ประเภท เช่น สนามกีฬา ห้องสมุด พิพิธภัณฑ์ ร้านคาราโอเกะ ซาวน่า โรงภาพยนตร์ โรงเรียนกวดวิชา ร้านทำผม โรงยิม กาสิโน สถานที่แสดงนิทรรศการ ผู้ฝ่าฝืนจะถูกปรับ 100,000 วอน (ราว 2,720 บาท) เริ่มตั้งแต่วันที่ 5 เมษายน โดยจะให้เวลาผ่อนผัน 1 สัปดาห์ในสัปดาห์หน้า แต่จะยกเว้นให้หากสถานที่เหล่านี้จัดที่ต่างหากที่ได้รับอนุญาตให้คนรับประทานอาหาร วันศุกร์ที่ผ่านมารัฐบาลเกาหลีใต้ได้ขยายการบังคับใช้มาตรการรักษาระยะห่างทางสังคมระดับ 2 ซึ่งเข้มงวดเป็นอันดับสามจากทั้งหมดห้าอันดับสำหรับเขตมหานครกรุงโซลที่มีคนหนาแน่นไปจนถึงวันที่ 11 เมษายน เนื่องจากพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น ส่วนพื้นที่อื่น ๆ ของประเทศ คงใช้มาตรการระดับ 1.5 ซึ่งเข้มงวดเป็นอันดับสองจากน้อยสุดไปอีกสองสัปดาห์ และยังคงห้ามการรวมกลุ่มตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป ขณะที่ร้านอาหารและสถานที่สาธารณะในเขตมหานครกรุงโซลต้องปิดหลังเวลา 22.00 […]