ลอนดอน 27 ม.ค.- อังกฤษยกเลิกการใช้มาตรการเพื่อจำกัดการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สายพันธุ์โอไมครอนแล้วในวันนี้ ทำให้ไม่ต้องสวมหน้ากากอนามัยและไม่ต้องใช้ใบรับรองการฉีดวัคซีน
รัฐบาลอังกฤษใช้มาตรการจำกัดที่เรียกว่าแผนบี (Plan B) ตั้งแต่วันที่ 8 ธันวาคม หลังจากนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน เตือนว่า กำลังจะเกิดการระบาดของสายพันธุ์โอไมครอน มาตรการนี้กำหนดให้ต้องสวมหน้ากากอนามัยในสถานที่ปิด และต้องแสดงใบรับรองการฉีดวัคซีนในการเข้าสถานที่สาธารณะ เช่น ไนต์คลับ สนามฟุตบอล และงานขนาดใหญ่ ยอดผู้ติดเชื้อได้ลดลงอย่างมากในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา และทางการได้ประกาศยกเลิกการใช้แผนบีแล้วในวันนี้
นายซาจิด จาวิด รัฐมนตรีสาธารณสุขกล่าวว่า การฉีดวัคซีนและตรวจหาเชื้อทำให้อังกฤษมีการป้องกันแข็งแกร่งที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรป และทำให้สามารถกลับไปใช้แผนเอ (Plan A) ได้อย่างระมัดระวังและมีเสรีภาพมากขึ้น ดังนั้นนับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป คนในอังกฤษไม่ต้องสวมหน้ากากอนามัยในที่ปิด รวมถึงชั้นเรียนมัธยมศึกษา แต่ผู้โดยสารรถขนส่งสาธารณะในกรุงลอนดอนยังต้องสวมต่อไป ส่วนมาตรการที่กำหนดให้ผู้มีผลตรวจหาเชื้อเป็นบวกต้องกักตัวเอง 5 วันเป็นอย่างน้อย นายกรัฐมนตรีจอห์นสันหวังว่าจะยกเลิกได้เมื่อครบกำหนดในวันที่ 24 มีนาคม
อังกฤษเคยยกเลิกมาตรการจำกัดครั้งแรกเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคมโดยเรียกว่าเป็นวันแห่งเสรีภาพ แต่หลังจากนั้นต้องออกมาตรการใหม่เพราะเริ่มพบผู้ติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอไมครอน ส่วนสกอตแลนด์และเวลส์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในสหราชอาณาจักรใช้มาตรการสาธารณสุขของตนเองที่แยกจากอังกฤษ.-สำนักข่าวไทย