เคมบริดจ์ 16 พ.ค. – แอสตราเซเนกาเผยวันนี้ว่า ผลการทดลองในระยะปลายพบว่าการให้ภูมิคุ้มกันสำเร็จรูปชื่อ ซิปาวิบาร์ต (sipavibart) สามารถลดความเสี่ยงติดเชื้อโรคโควิด-19 ให้แก่ผู้ป่วยภูมิคุ้มกันอ่อนแอ ถือว่าเป็นไปตามเป้าหมายหลักของการทดลอง แอสตราเซเนกา ซึ่งเป็นบริษัทยาและเทคโนโลยีชีวภาพของอังกฤษและสวีเดนแถลงว่า การให้ภูมิคุ้มกันสำเร็จรูป (Long-acting antibody (LAAB)) นี้สามารถลดความเสี่ยงมีอาการโควิดอย่างมีนัยสำคัญให้แก่ผู้ป่วยภูมิคุ้มกันอ่อนแอ เช่น ผู้ป่วยมะเร็งในระบบเลือด (มะเร็งเม็ดเลือดขาว, มะเร็งต่อมน้ำเหลือง, มะเร็งไขกระดูก) ผู้รับการปลูกถ่ายอวัยวะ ผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังระยะสุดท้ายที่ต้องฟอกไตทุกวัน ผู้ป่วยที่รับยากดภูมิคุ้มกัน แอสตราเซเนการะบุว่า ผู้ป่วยกลุ่มนี้มีสัดส่วนถึง 1 ใน 4 ของผู้ป่วยโควิดที่ต้องได้รับการรักษาตัวในโรงพยาบาล, หอผู้ป่วยวิกฤติ และผู้ป่วยที่เสียชีวิต ทั้งที่รับการฉีดวัคซีนแล้วหลายเข็ม แอสตราเซเนกาซื้อภูมิคุ้มกันสำเร็จรูปนี้จากบริษัทอาร์คิว ไบโอ (RQ Bio) ในอังกฤษเมื่อเดือนพฤษภาคม 2565 แอสตราเซเนกาแจ้งผลการทดลองดังกล่าว หลังจากเรียกคืนวัคซีนต้านโควิด เมื่อ 1 สัปดาห์ก่อน โดยให้เหตุผลว่า วัคซีนรุ่นล่าสุดมีปริมาณเกินความต้องการ บริษัทถูกตรวจสอบอย่างละเอียดในช่วงหลายเดือนมานี้เกี่ยวกับผลข้างเคียงหายากเรื่องผู้ฉีดวัคซีนเกิดภาวะลิ่มเลือดและเกล็ดเลือดต่ำ และกำลังถูกฟ้องร้องในกรุงลอนดอนจากผู้ได้รับผลกระทบมากกว่า 50 ราย.-814.-สำนักข่าวไทย