ชัวร์ก่อนแชร์: วัคซีน mRNA ทำให้คนตายด้วยโรคหัวใจเพิ่มขึ้น จริงหรือ?

19 มิถุนายน 2567
แปลและเรียบเรียงบทความ : อดิศร สุขสมอรรถ
ตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล


ข้อมูลที่ถูกแชร์ :

มีข้อมูลเท็จแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์ในสหราชอาณาจักร เมื่อ ดร.อัสซีม มัลโฮตรา แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจ ได้ให้สัมภาษณ์ระหว่างถ่ายทอดสดรายการข่าวของสถานีข่าว BBC เมื่อวันที่ 13 มกราคมปี 2023 โดยอ้างว่า ควรระงับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ชนิด mRNA และควรสอบสวนความเหมาะสมของการใช้วัคซีน เพราะเชื่อว่าวัคซีนคือสาเหตุทำให้การเสียชีวิตส่วนเกินของชาวอังกฤษด้วยโรคหัวใจและหลอดเลือดหัวใจสูงถึง 30,000 ราย จนคลิปการสัมภาษณ์ถูกแชร์ต่อทาง Twitter กว่า 33,000 ครั้ง พร้อมทำยอดวิวนับล้านครั้ง


บทสรุป :

  1. เป็นการอ้างข้อมูลจาก British Heart Foundation มานำเสนออย่างไม่ถูกต้อง
  2. ปัจจัยการเสียชีวิตจากโรคหัวใจเพิ่มขึ้นเพราะการระบาดของโควิด-19 ไม่ใช่วัคซีน

FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง :

อย่างไรก็ดี คำกล่าวอ้างของ ดร.อัสซีม มัลโฮตรา เป็นการบิดเบือนข้อมูลการเสียชีวิตส่วนเกินด้วยโรคหัวใจของชาวอังกฤษอันมีสาเหตุจากการติดเชื้อโควิด-19 ไม่ใช่สาเหตุจากวัคซีนโควิด-19 ตามที่กล่าวอ้าง


ผลสำรวจก่อนการผลิตวัคซีน

ข้อมูลดังกล่าวนำมาจากผลสำรวจโดยมูลนิธิโรคหัวใจของอังกฤษ หรือ British Heart Foundation ที่ระบุว่าตั้งแต่เดือนมีนาคมปี 2020 ถึงสิงหาคมปี 2022 พบยอดการเสียชีวิตส่วนเกินด้วยโรคหัวใจขาดเลือด (Ischemic heart disease, IHD) ในประเทศอังกฤษถึง 30,000 ราย

อย่างไรก็ดี ผลสำรวจถูกรวบรวมตั้งแต่เดือนมีนาคมปี 2020 ซึ่งเริ่มขึ้นก่อนที่วัคซีนโควิด-19 จะผลิตออกมาใช้ ทำให้พบว่าจำนวนการเสียชีวิตส่วนใหญ่เกิดขึ้นก่อนการผลิตวัคซีนโควิด-19

นอกจากนี้ ยังพบว่าจำนวนผู้เสียชีวิตกว่า 21,000 ราย ระบุสาเหตุการเสียชีวิตด้วยโรคหัวใจว่ามาจากการติดเชื้อโควิด-19 อีกด้วย

ตายด้วยโรคหัวใจเพิ่มขึ้นเพราะโควิด-19

ข้อมูลจาก British Heart Foundation ระบุว่า ปัจจัยที่ทำให้เกิดการเสียชีวิตส่วนเกินด้วยโรคหัวใจเพิ่มขึ้น มาจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ทำให้จำนวนผู้ป่วยโรคหัวใจและหลอดเลือดเพิ่มขึ้นอย่างมากในปีแรกของการแพร่ระบาด

ส่วนในปีถัดมา สาเหตุการเสียชีวิตส่วนเกินมาจากข้อจำกัดด้านสาธารณสุขที่ไม่ทั่วถึง ในช่วงที่โรงพยาบาลต้องรับมือกับผู้ป่วยโควิด-19 จำนวนมาก และการตรวจคัดกรองโรคหัวใจที่หยุดชะงักในช่วงล็อกดาวน์ ส่งผลให้ยอดการเสียชีวิตส่วนเกินจากโรคหัวใจและหลอดเลือดหัวใจเพิ่มขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา

โฆษกของ British Heart Foundation ได้ปฏิเสธข้อกล่าวอ้างที่ระบุว่า วัคซีนโควิด-19 ชนิด mRNA คือสาเหตุการเสียชีวิตส่วนเกินด้วยโรคหัวใจและหลอดเลือดหัวใจ พร้อมย้ำว่าประโยชน์ของวัคซีนมีมากกว่าความเสี่ยงอย่างมหาศาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งประโยชน์ต่อผู้สูงอายุ เนื่องจากอาการข้างเคียงจากวัคซีน เช่น กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบและเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบพบได้น้อยมาก

โฆษกของสถานีข่าว BBC ชี้แจงต่อ Reuters Fact Check ว่า ดร.อัสซีม มัลโฮตรา ได้รับเชิญมาออกรายการเพื่อแสดงความเห็นเกี่ยวกับการใช้ยา Statins ยาลดไขมันในกระแสเลือดแก่ผู้ป่วยและผู้ที่มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือดหัวใจ ส่วนความเห็นที่ ดร.อัสซีม มัลโฮตรา พูดถึงวัคซีนโควิด-19 ชนิด mRNA เป็นสิ่งที่อยู่นอกสคริปต์ของรายการ

ศาสตราจารย์ ปีเตอร์ โอเพนชอว์ แพทย์ด้านระบบทางเดินหายใจและนักภูมิคุ้มกันวิทยา ได้หักล้างความเห็นของ ดร.อัสซีม มัลโฮตรา โดยย้ำว่า การเสียชีวิตส่วนเกินจากโรคหัวใจและหลอดเลือดหัวใจที่สูงขึ้น มาจากการขาดแคลนด้านสาธารณสุข ทั้งจำนวนบุคลากรทางการแพทย์และจำนวนเตียงผู้ป่วยที่ไม่เพียงพอในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รวมถึงการระบาดของเชื้อโรคระบบทางเดินหายใจอื่น ๆ ยังเป็นปัจจัยเสริมที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตด้วยโรคหัวใจและโรคหลอดเลือดในสมองเพิ่มขึ้น

ไวรัสโควิด-19 เพิ่มความเสี่ยงโรคหัวใจ

นอกจากไม่มีหลักฐานว่าวัคซีนโควิด-19 คือสาเหตุให้ผู้คนป่วยเป็นโรคหัวใจมากขึ้นแล้ว การติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ยังเพิ่มความเสี่ยงการป่วยเป็นโรคหัวใจอย่างชัดเจน

เป็นจริงที่ว่าวัคซีนโควิด-19 ชนิด mRNA เพิ่มความเสี่ยงการเกิดกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบและเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบในกลุ่มผู้รับวัคซีนเพศชายที่มีอายุน้อย แม้อาการส่วนใหญ่จะไม่รุนแรงและสามารถหายได้เองโดยไม่จำเป็นต้องเข้ารับการรักษา

ข้อมูลจากสำนักงานกำกับดูแลด้านการแพทย์และสาธารณสุขแห่งชาติสหราชอาณาจักร (MHRA) ระบุว่า จากการสำรวจจนถึงวันที่ 23 พฤศจิกายน ปี 2022 พบผู้รับวัคซีนโควิด-19 ชนิด mRNA ของบริษัท Pfizer/BioNTech แล้วเกิดอาการกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบจำนวน 851 ราย เกิดอาการเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบจำนวน 579 ราย

ส่วนผู้รับวัคซีนโควิด-19 ชนิด mRNA ของบริษัท Moderna เกิดอาการกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบจำนวน 251 ราย เกิดอาการเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบจำนวน 149 ราย

อย่างไรก็ดี ประโยชน์ของวัคซีนโควิด-19 ได้รับการยืนยันอย่างแพร่หลายว่า สามารถป้องกันการป่วยหนักและเสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิด-19 อย่างมีประสิทธิภาพ และอาจประเมินได้ว่า หากปราศจากวัคซีน มีความเป็นไปได้สูงที่การเสียชีวิตส่วนเกินในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อาจจะสูงกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน

สำนักงานความมั่นคงด้านสุขภาพแห่งชาติสหราชอาณาจักร (UKHSA) ประเมินเอาไว้ในช่วงเดือนกันยายนปี 2021 ว่าการรณรงค์ฉีดวัคซีนโควิด-19 ช่วยป้องกันการเสียชีวิตได้ถึง 127,500 ครั้ง และป้องกันการติดเชื้อได้ถึง 24,144,000 ครั้ง

งานวิจัยเมื่อปี 2022 ของศูนย์วิจัย UK Biobank ที่ตีพิมพ์ในวารสารการแพทย์ Heart พบว่า ผู้ป่วยโควิด-19 ที่อาการไม่รุนแรง มีความเสี่ยงเสียชีวิตด้วยโรคหัวใจและหลอดเลือดหัวใจเพิ่มขึ้น 2 เท่า ส่วนผู้ป่วยโควิด-19 ที่รักษาตัวในโรงพยาบาลมีความเสี่ยงเสียชีวิตเพิ่มขึ้น 8.8 เท่า ส่วนผู้ป่วยโควิด-19 ที่รักษาตัวในโรงพยาบาลเป็นครั้งที่ 2 จะมีความเสี่ยงเสียชีวิตถึง 14.6 เท่า โดยส่วนใหญ่จะเสียชีวิตภายใน 100 วันหลังจากติดเชื้อ

สอดคล้องกับงานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร PLOS เมื่อปี 2022 ที่พบว่าผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่มีอาการรุนแรง จะมีโอกาสป่วยด้วยโรคหัวใจและหลอดเลือดหัวใจเพิ่มขึ้น 5.8 เท่า รวมถึงการเสี่ยงที่จะป่วยด้วยโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะชนิดหัวใจห้องบนสั่นพลิ้วเพิ่มขึ้น 6.4 เท่า ในช่วง 1 เดือนหลังการติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งความเสี่ยงจะลดลงเหลือ 1.49 เท่าหลังติดเชื้อไปแล้ว 5-12 สัปดาห์

ข้อมูลอ้างอิง :

https://www.reuters.com/article/factcheck-vaccines-excessdeaths/fact-check-no-evidence-covid-19-mrna-vaccines-are-significant-contributing-factor-to-uks-30000-excess-cardiovascular-deaths-idUSL1N3490M3
https://fullfact.org/health/bbc-malhotra-vaccines-excess-deaths/

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“สุชาติ” จ่อลาออก สส. ให้สภามี สส.ทำงาน

ทำเนียบ 7 ก.ค.-“สุชาติ” เผยเตรียมลาออก สส. เพื่อให้บัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้ขึ้นมา มองให้สภามี สส.ทำงาน นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงธรรมเนียมปฏิบัติของคนที่เป็น สส.ระบบบัญชีรายชื่อ จะลาออกเมื่อเป็นรัฐมนตรี หรือไม่ว่า ที่ผ่านมายังไม่มีการลาออกแต่โดยธรรมเนียมก็ควรจะลาออก เพราะการทำหน้าที่ของรัฐมนตรีก็เต็มเวลาอยู่แล้ว ไม่มีเวลาที่จะไปช่วยงานสภา ซึ่งขณะนี้สภาเสียงปริ่มน้ำ ซึ่งตนมีความตั้งใจที่จะลาออกจาก สส ระบบบัญชีรายชื่ออยู่แล้ว เพื่อให้ สส.ระบบบัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้เลื่อนขึ้นมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สส. ลำดับถัดไปที่จะขึ้นมาเป็น สส.แทนนายสุชาติ คือ นายเอกพร รักความสุข บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 38.-316.-สำนักข่าวไทย

พม.ร้องเอาผิด “จอนนี่ มือปราบ” สร้างรีสอร์ทรุกล้ำที่ส่วนกลาง

บก.ปทส. 7 ก.ค. – จนท.กรมพัฒนาสังคมฯ ร้องตำรวจป่าไม้ตรวจสอบปมรีสอร์ทของ “จอนนี่มือปราบ” อินฟลูชื่อดัง บุกรุกพื้นที่นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ในอุบลราชธานี และถูกข่มขู่ไม่ให้เข้าพื้นที่ นายวัชระ โกเสนตอ นักพัฒนาสังคมชำนาญการพิเศษ ได้รับมอบอำนาจจากนายกันตพงศ์ รังษีสว่าง อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นำหลักฐานเอกสารเข้าแจ้งความกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ บก.ปทส. เพื่อให้ดำเนินคดีกับ ด.ต.ยุทธพล หรือ “จอนนี่ มือปราบ” อดีตตำรวจที่ผันตัวลาออกจากราชการมาเป็นอินฟลูเอนเซอร์ กรณีสร้างรีสอร์ทรุกเข้าไปในเขตนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ตำบลคำเขื่อนแก้ว อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี นายวัชระ เปิดเผยว่า กรมพัฒนาสังคมฯ รับแจ้งจากนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ว่ามีผู้เข้าไปทำประโยชน์ในที่ดินของนิคมโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยส่วนที่รุกล้ำเข้ามาเป็นพื้นที่ที่นิคมกันไว้เป็นป่าไม้ส่วนกลาง 20% รุกล้ำเข้ามาประมาณ 1 ไร่ และเริ่มก่อสร้างรีสอร์ทเมื่อปี 2564 เป็นต้นมา และทางกรมฯ ก็ได้ลงบันทึกประจำวันและมีหนังสือให้ระงับการดำเนินการรีสอร์ทมาตั้งแต่ปี 2565 แต่เจ้าของรีสอร์ทไม่ให้ความร่วมมือ และยังมาโวยวายที่นิคมฯ ข่มขู่เจ้าหน้าที่ ไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปที่รีสอร์ท ทั้งนี้นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย มีพื้นที่ตามแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งนิคมสร้างตนเองฯ ชัดเจน เนื้อที่ […]

Camp Mystic after Texas floods

เปิดภาพความเสียหายน้ำท่วมแคมป์ในเท็กซัส

เท็กซัส 6 ก.ค.- ทีมกู้ภัย อาสาสมัครและตำรวจ ช่วยกันรื้อถอนเศษซากความเสียหายและซากต้นไม้กิ่งไม้ใกล้ที่ตั้งแคมป์ในรัฐเท็กซัสของสหรัฐ ซึ่งมีนักเรียนหญิง 27 คน สูญหายจากเหตุน้ำท่วมฉับพลันที่เกิดขึ้นเมื่อเช้ามืดวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น   ค่ายมิสติก (Camp Mystic) เป็นค่ายกิจกรรมนักเรียนหญิงล้วน มีนักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมในค่าย 700 คน ในช่วงที่เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมฉับพลันครั้งใหญ่ในเทศมณฑลเคอร์ ทางตอนกลางของรัฐเท็กซัส แคมป์แห่งนี้ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำกัวดาลูปในแถบหุบเขาตอนกลางรัฐเท็กซัส ซึ่งเป็นศูนย์กลางที่เกิดน้ำท่วม ก่อตั้งโดยโค้ชฟุตบอลมหาวิทยาลัยเท็กซัส เมื่อเกือบหนึ่งร้อยปีก่อนในปี 2469 เพื่อให้เยาวชนหญิงได้สัมผัสบรรยากาศแบบคริสเตียนในการพัฒนาตนเอง.-820(814).-สำนักข่าวไทย

กรมอุตุฯ เตือน 4 ภาครับมือฝนถล่ม ระวังน้ำท่วม-น้ำป่าไหลหลาก

กทม. 6 ก.ค.- กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยยังมีฝนฟ้าคะนอง เตือน “เหนือ อีสาน ตะวันออก ใต้” รับมือฝนตกหนัก อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณจังหวัดภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเมียนมาตอนบนและลาวตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง พายุโซนร้อน “ดานัส” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะเคลื่อนเข้าใกล้ไต้หวัน ในช่วงวันที่ 6–7 กรกฎาคม 2568 โดยไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย แต่จะทำให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่ปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยพายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ผบ.กองกำลังนเรศวร ลงพื้นที่ หลังเมียนมาปะทะรุนแรง

ตาก 12 ก.ค. – ผบ.กองกำลังนเรศวร ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ด่วน พร้อมเฝ้าระวังชายแดนอำเภอพบพระอย่างใกล้ชิด หลังเหตุปะทะในเมียนมาทวีความรุนแรง มีรายงานการโจมตีค่ายทหารเมียนมาด้วยโดรน กองกำลังกะเหรี่ยงเคเอ็นแอลเอ กลุ่มต่อต้านรัฐบาลเมียนมา ใช้โดรนทิ้งระเบิดโจมตีใส่ฐาน “ทีตาแหล่” ซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามบ้านวาเล่ย์เหนือ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก หลายครั้ง ขณะที่ทหารเมียนมาก็ยิงปืนเล็กยาวตอบโต้ โดยยังไม่ทราบความเสียหายที่เกิดขึ้น และยังไม่มีรายงานผลกระทบต่อฝั่งประเทศไทย พลตรีไมตรี ชูปรีชา ผู้บัญชาการกองกำลังนเรศวร พร้อมคณะนายทหารระดับสูง และฝ่ายปกครองอำเภอพบพระ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์บริเวณบ้านวาเล่ย์ และบ้านมอเกอร์ไทย อำเภอพบพระ อย่างใกล้ชิด เพื่อประสานงานกับหน่วยงานความมั่นคงในการเตรียมแผนเผชิญเหตุจากผลกระทบของการสู้รบใกล้แนวชายแดนในด้านมนุษยธรรม โดยขณะนี้มีผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมาจำนวน 457 คน อาศัยอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว 2 แห่ง ในอำเภอพบพระ และได้รับการดูแลตามหลักมนุษยธรรมภายใต้ความร่วมมือของศูนย์สั่งการชายแดนประเทศเพื่อนบ้านด้านเมียนมา จังหวัดตาก และแนวทางของสภาความมั่นคงแห่งชาติ พลตรี ไมตรี เน้นย้ำให้หน่วยเฉพาะกิจราชมนู ร่วมกับฝ่ายปกครอง เพิ่มความเข้มงวดในการป้องกันการรุกล้ำอธิปไตยของกองกำลังติดอาวุธต่างชาติ และดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งกองกำลังนเรศวรยืนยันว่าประเทศไทยไม่ใช่คู่ขัดแย้ง และไม่สนับสนุนฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งในการใช้พื้นที่ประเทศไทยเพื่อประโยชน์ของตนเอง .-สำนักข่าวไทย

สองสาวใหญ่ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกมือถือ

กทม. 12 ก.ค. – สองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกโทรศัพท์มือถือลอยนวล พบเคยเข้ามาขอเงินหลวงตาแล้วครั้งหนึ่ง กล้องวงจรปิดบันทึกภาพขณะ ผู้หญิง 2 คนเข้าไปในกุฏิที่พระสงฆ์นอนอาพาธอยู่ คนหนึ่งนั่งพื้นส่วนอีกคนยืนอยู่แล้วเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มือถือบนเตียงนอนไป เหตุการณ์นี้ นายมนูญ อายุ 29 ปี หลานชายของพระลูกวัดแห่งหนึ่ง ในซอยประชาอุทิศ 27 ถนนประชาอุทิศ แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ ร้องเรียนกับผู้สื่อข่าว ให้ช่วยตามหาสองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิ “หลวงตาสุข” อายุ 80 ปี ซึ่งป่วยเป็นโรคประจำตัว ประกอบกับอายุมากเดินได้ไม่ปกติ โดยหลวงตาสุข เป็นพระลูกวัด พักอยู่กุฏิด้านหลังโบสถ์ เมื่อวานนี้ (11 ก.ค.) ประมาณ 13.45 น. ขณะกำลังนอนพักผ่อนอยู่ มีหญิงร่างท้วม 2 คนเข้าไปในกุฏิ จากนั้นคนใส่เอี๊ยมสีเขียวผมสั้นลงมือค้นหาสิ่งของบนหัวเตียง ส่วนอีกคนที่มาด้วย คอยดูต้นทาง จนกระทั่งหญิงคนที่รื้อหาสิ่งของมองเห็นโทรศัพท์มือถือ ราคาประมาณ 4,000 บาท ของพระที่วางไว้หัวเตียง […]

“บิ๊กเต่า” ให้โอกาสคณะสงฆ์ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง

กทม. 12 ก.ค.-“บิ๊กเต่า” ให้โอกาสคณะสงฆ์ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีเอี่ยวสีกากอล์ฟ เชื่อพระเป็นเหยื่อ หากไม่เสร็จพร้อมดำเนินการ เผยอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ เข้าให้ข้อมูล เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง วันนี้ (12 ก.ค.) หลังจากอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร เข้าให้ปากคำเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบ เมื่อเวลา 12.30 น. แต่งกายด้วยชุดโปโลสีเทา กางเกงวอร์มขายาว ผู้สื่อข่าว พยายามสอบถามว่าเข้ามาให้ปากคำกรณีที่ปรากฏอยู่ในคลิปหรือไม่ ทางอดีตผู้ช่วยเจ้าวาสไม่ตอบ เมื่อถามเพิ่มเติมว่า คลิปที่ปรากฏอยู่ตอนนนี้ ใช่ตัวเองจริงหรือไม่ อดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร ปิดปากเงียบ ไม่มีการให้ข้อมูลอะไรกับสื่อมวลชน ก่อนที่จะเดินขึ้นไปให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหน้ากองปราบด้านบน จากนั้นในเวลา 14.00 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. เดินทางมาที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดยเดินทางขึ้นตึกด้านหลัง ใช้ลิฟต์ลานจอดรถ หลังเดินทางกลับจากวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร โดยหลบผู้สื่อข่าวที่มารออยู่ด้านหน้า และได้สอบปากคำอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ในเวลา 16.20 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ให้สัมภาษณ์ว่าการหารือกับพระผู้ใหญ่ในวันนี้ ก็ถือเป็นการทำงานร่วมกันกับ ปปท. ซึ่งมีผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ […]

อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธร ย่องให้ข้อมูลตำรวจกองปราบ

12 ก.ค. – อดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร แอบย่องเข้าให้ข้อมูลกับตำรวจกองปราบ เวลา 12.05 น. วันที่ 12 กรกฎาคม 2568 อดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร เข้าให้ปากคำเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบ เบื้องต้นส่วมชุด โปโลสีเทา กางเกงวอร์มขายาว ผู้สื่อข่าว พยายามสอบถามว่าวันนี้เข้ามาให้ปากคำกรณีที่ ปรากฏอยู่ในคลิปหรือไม่ ทางอดีตผู้ช่วยเจ้าวาสวัดโสธรฯ ไม่ตอบแต่อย่างใด ผู้สื่อข่าวสอบถามเพิ่มเติมต่ออีกว่า คลิปที่ปรากฏอยู่ตอนนี้ ใช่ตัวเองจริงหรือไม่นั้น ด้านอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ปิดปากเงียบ ไม่มีการให้ข้อมูลอะไรกับสื่อมวลชน ก่อนที่จะเดินขึ้นไปให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหน้ากองปราบด้านบน.-414-สำนักข่าวไทย