ชัวร์ก่อนแชร์: สารสกัดจาก “ถั่วเน่า” ถอนพิษวัคซีนโควิดได้ จริงหรือ?

04 มิถุนายน 2567
แปลและเรียบเรียงบทความ : อดิศร สุขสมอรรถ
ตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล


ข้อมูลที่ถูกแชร์ :

มีข้อมูลเท็จเผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์ในสหรัฐอเมริกา เมื่อมีการเผยแพร่สูตรล้างพิษจากโปรตีนหนามในวัคซีนโควิด-19 ประกอบด้วยตัวยาที่มีส่วนประกอบของสารสกัดจากถั่วเน่า ขมิ้นชัน และ สับปะรด และยังอ้างถึงสรรพคุณการรักษาโรคลองโควิดอีกด้วย


บทสรุป :

  1. เป็นข้ออ้างผิด ๆ ที่เผยแพร่โดยแพทย์ที่มีประวัติเผยแพร่ข้อมูลเท็จเกี่ยวกับวัคซีนโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง
  2. ยังไม่มีการทดลองในสิ่งมีชีวิตว่าสารสกัดจากถั่วเน่า ขมิ้นชัน และ สับปะรด ช่วยกำจัดโปรตีนจากร่างกายได้
  3. แพทย์ผู้อ้างสูตรถอนพิษ เป็นทีมงานของบริษัทยาที่ค้ากำไรจากการขายอาหารเสริมที่อ้างผิด ๆ ว่ากำจัดโปรตีนหนามจากร่างกายได้
  4. ข้อมูลทางการแพทย์ยืนยันว่า mRNA และโปรตีนหนามตกค้างในร่างกายไม่นานและไม่เป็นอันตราย

FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง :

ผู้อยู่เบื้องหลังการเผยแพร่สูตรล้างพิษโปรตีนหนามในวัคซีนแบบผิด ๆ ได้แก่ ปีเตอร์ แม็คคัลลาห์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจ ผู้มีประวัติเผยแพร่ข้อมูลเท็จเกี่ยวกับวัคซีนโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง และเป็นเจ้าของสูตร McCullough Protocol ที่อ้างว่าการใช้ยารักษาโรคมาลาเรียและยาฆ่าพยาธิอย่าง Hydroxychloroquine และ Ivermectin สามารถรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ได้มาแล้ว ซึ่งไม่เป็นความจริง


ในช่วงปี 2023 ปีเตอร์ แม็คคัลลาห์ ได้เผยแพร่แนวคิดเรื่องภัยโปรตีนหนามจากวัคซีนอย่างต่อเนื่อง โดยอ้างว่าอาหารเสริมที่มีส่วนประกอบของ Nattokinase เอนไซม์ที่สกัดจากถั่วเน่า สามารถล้างพิษที่เกิดจากโปรตีนหนามของวัคซีนและรักษาอาการลองโควิดได้

นอกจากนี้ เขายังเผยแพร่สูตรอาหารเสริมล้างพิษจากวัคซีนหรือ Base Spike Detoxification ซึ่งประกอบไปด้วย Nattokinase (เอนไซม์สกัดจากถั่วเน่า) Curcumin (สารสกัดจากขมิ้นชัน) และ Bromelain (เอนไซม์สกัดจากสับปะรด)

คุณสมบัติของ Nattokinase

งานทดลองพบว่า Nattokinase มีคุณสมบัติด้านการละลายลิ่มเลือดและประโยชน์ด้านการป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจ

ในทางตรงกันข้าม ผู้ที่มีปัญหาการแข็งตัวของเลือดผิดปกติหรือผู้ที่กำลังรักษาตัวด้วยยาละลายลิ่มเลือด ไม่แนะนำให้บริโภคสารประกอบ Nattokinase เพราะอาจทำให้เกิดปัญหาเลือดไหลไม่หยุดได้

MINOLTA DIGITAL CAMERA

บิดเบือนงานวิจัยของผู้อื่น

ปีเตอร์ แม็คคัลลาห์ อ้างงานวิจัยของ ทานิคาวะ และคณะ ที่ตีพิมพ์ทางวารสาร Molecules เมื่อเดือนสิงหาคม 2022 ที่พบว่า Nattokinase สามารถทำลายโปรตีนหนาม นำมาซึ่งสมมติฐานว่า Nattokinase สามารถใช้ป้องกันการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้

อย่างไรก็ดี งานวิจัยดังกล่าวเกิดจากการทดลองกับเซลล์ในหลอดทดลอง โดยยังไม่มีการทดลองในสิ่งมีชีวิต จึงยังไม่อาจยืนยันได้ว่าจะได้ผลอย่างไรเมื่อใช้กับมนุษย์ นอกจากนี้ ในเนื้อหาของงานวิจัยไม่ได้บอกถึงคุณสมบัติด้านการล้างพิษจากวัคซีนอีกด้วย

บิดเบือนบทความของตนเอง

ปีเตอร์ แม็คคัลลาห์ อ้างว่าสูตรอาหารเสริมล้างพิษจากวัคซีน (Base Spike Detoxification) ที่ตนคิดค้นขึ้น นำมาจากงานวิจัยต่าง ๆ ที่ตนเองและทีมงานได้ศึกษาและตีพิมพ์บทความทางวารสาร Journal of American Physicians and Surgeons เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2023 ที่ผ่านมา

อย่างไรก็ดี Journal of American Physicians and Surgeons ซึ่งเผยแพร่โดยสมาคม Association of American Physicians and Surgeons เป็นวารสารที่ขาดความน่าเชื่อถือ เนื่องจากตัวสมาคมดำเนินงานโดยยึดหลักการสนับสนุนแนวคิดอนุรักษ์นิยมเป็นที่ตั้ง ส่วนตัววารสารก็มีประวัติเผยแพร่ข้อมูลเท็จทางการแพทย์อย่างต่อเนื่อง ทั้งการอ้างว่าโรคเอดส์ไม่ได้เกิดจากไวรัส HIV การฉีดวัคซีนเพิ่มความเสี่ยงเป็นโรคออทิสติก การทำแท้งทำให้เสี่ยงเป็นโรคมะเร็งเต้านม เป็นต้น

ในบทความ ปีเตอร์ แม็คคัลลาห์ อ้างถึงคุณสมบัติด้านการกำจัดโปรตีนหนามของ Nattokinase, Curcumin และ Bromelain แต่ผลวิจัยทั้งหมดนำมาจากการทดลองในหลอดทดลองและแบบจำลองทางคอมพิวเตอร์ และยังไม่มีการทดลองในสิ่งมีชีวิต ซึ่ง ปีเตอร์ แม็คคัลลาห์และทีมวิจัยเองก็ยังย้ำในบทความว่า ประโยชน์ด้านการรักษายังพิสูจน์ไม่ได้ เนื่องจากยังไม่มีการทดลองในมนุษย์

แต่กระนั้น ปีเตอร์ แม็คคัลลาห์ ก็ยังให้ความเห็นผ่านสื่ออย่างไม่มีหลักฐานว่า สารสกัดจากถั่วเน่า ขมิ้นชัน และสับปะรด สามารถล้างพิษโปรตีนหนามจากวัคซีนได้

ผลในหลอดทดลองไม่สามารถยืนยันผลที่จะเกิดกับสิ่งมีชีวิต

ดร.อิกอร์ โคเทอร์บาช รองผู้อำนวยการศูนย์ Center for Dietary Supplements Research ภาควิชาวิทยาศาสตร์การแพทย์ มหาวิทยาลัยอาร์คันซอ สหรัฐอเมริกา อธิบายว่า ผลจากการวิจัยในหลอดทดลองไม่สามารถยืนยันผลการรักษาในมนุษย์ได้ มีสารเคมีจากพืชมากกมายที่ให้ผลการป้องกันการติดเชื้อไวรัสต่าง ๆ ได้อย่างดีในหลอดทดลอง แต่ส่วนใหญ่ไม่ประสบความสำเร็จกับการใช้ในสัตว์ทดลอง ดังนั้นโอกาสจะนำมาใช้เป็นยารักษาในมนุษย์โดยยังไม่ทดลองจึงมีความเป็นไปได้ที่น้อยมาก

ผลประโยชน์ทับซ้อนจากการขายอาหารเสริมจอมปลอม

มีข้อความบนโลกออนไลน์ที่สนับสนุนความน่าเชื่อถือที่มีต่อสูตรล้างพิษโปรตีนหนามของ ปีเตอร์ แม็คคัลลาห์ โดยพยายามอ้างว่า ปีเตอร์ แม็คคัลลาห์ บอกสูตรยาที่เป็นประโยชน์สาธารณะโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ต่างจากบริษัทยาที่ค้ากำไรจากการแนะนำให้คนฉีดวัคซีน

อย่างไรก็ดี จากการตรวจสอบโดย Factcheck.org พบว่า ปีเตอร์ แม็คคัลลาห์ ยังดำรงตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายวิทยาศาสตร์ของบริษัทขายยา The Wellness Company ซึ่งหนึ่งในสินค้าขายดีของบริษัทได้แก่ Spike Support อาหารเสริมที่มีส่วนประกอบสารสกัดจากถั่วเน่า ซึ่งทางเว็บไซต์อ้างอย่างผิด ๆ ว่า เป็นอาหารเสริมที่มีคุณสมบัติด้านการล้างพิษโปรตีนหนามอีกด้วย

อาหารเสริมไม่สามารถรักษาโรคไม่ได้

ตามกฎหมายของสหรัฐอเมริกา การที่อาหารเสริมไม่จำเป็นต้องผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยาสหรัฐอเมริกา (FDA) คือสาเหตุทำให้มีการผลิตอาหารเสริมที่อ้างสรรพคุณเกินจริงจำนวนมากในท้องตลาด

อย่างไรก็ดี กฎหมายของสหรัฐอเมริกาไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาว่าอาหารเสริมมีคุณสมบัติด้านการรักษาโรค ดังนั้นการอ้างว่าอาหารเสริมที่มีสารสกัดจากถั่วเน่า มีคุณสมบัติล้างพิษโปรตีนหนามหรือรักษาลองโควิด จึงเข้าข่ายการโฆษณายาผิดประเภท

mRNA และโปรตีนหนามตกค้างในร่างกายไม่นาน

เดวิด อาร์ วอลต์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการวิเคราะห์โปรตีนและชีวโมเลกุล ยืนยันว่า การล้างพิษโปรตีนหนามจากวัคซีนเป็นเรื่องไม่จำเป็น เพราะไม่ว่าโปรตีนหนามจากการฉีดวัคซีนหรือการติดเชื้อไวรัส ร่างกายก็สามารถกำจัดโปรตีนหนามออกจากร่างกายในเวลาไม่กี่วัน มีแค่คนส่วนน้อยเท่านั้นที่ยังมีโปรตีนหนามตกค้างในร่างกายเป็นเวลานานหลังเกิดการสร้างภูมิต้านทานแล้ว

ข้อมูลจากศูนย์ Vaccine Education Center โรงพยาบาล Children’s Hospital of Philadelphia ยืนยันว่า mRNA มีอายุที่สั้นมาก และจะถูกร่างกายทำลายในเวลาไม่กี่วัน ส่งผลให้การสร้างโปรตีนหนามสิ้นสุดลง

ข้อมูลจากสมาคม Infectious Disease Society of America ยืนยันว่า โปรตีนหนามจากวัคซีนจะอยู่ในร่างกายไม่กี่สัปดาห์ ก่อนจะถูกร่างกายทำลายไปเอง

อย่างไรก็ดี ช่วงเวลาที่โปรตีนหนามอยู่ในร่างกายขึ้นอยู่กับอวัยวะที่ตรวจสอบ

งานวิจัยของ โอกาตะ และคณะ พบว่า กลุ่มตัวอย่าง 13 รายที่ฉีดวัคซีนโควิด-19 โดสแรก ส่วนใหญ่จะสามารถตรวจพบโปรตีนหนามในกระแสเลือดไม่เกิน 1 สัปดาห์

ส่วนงานวิจัยของ โรลต์เจน และคณะ พบว่าในกลุ่มตัวอย่างที่ฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 สามารถตรวจพบโปรตีนหนามในต่อมน้ำเหลืองหลังจากฉีดวัคซีนไปแล้วถึง 60 วัน ซึ่งเหตุผลที่พบโปรตีนหนามในต่อมน้ำเหลืองนานกว่าอวัยวะอื่น ๆ เนื่องจากในต่อมน้ำเหลืองเป็นที่อยู่ของเซลล์ภูมิคุ้มกันในร่างกายนั่นเอง

ประโยชน์ของวัคซีนมีมากกว่าความเสี่ยงจากโปรตีนหนาม

เดวิด อาร์ วอลต์ คือหนึ่งในทีมวิจัยที่รายงานความสัมพันธ์ที่อาจเกิดขึ้นระหว่างโปรตีนหนามและการป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบหลังการฉีดวัคซีนโควิด-19 ชนิด mRNA โดยตีพิมพ์งานวิจัยผ่านทางวารสาร Circulation เมื่อเดือนมกราคม 2023

ทีมวิจัยแยกกลุ่มตัวอย่างเป็นผู้ป่วยโรคกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบหลังฉีดวัคซีน และกลุ่มคนสุขภาพแข็งแรงหลังฉีดวัคซีน โดยพบว่าในกลุ่มผู้ป่วยโรคกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบหลังฉีดวัคซีนส่วนใหญ่ มีปริมาณโปรตีนหนามอยู่ในกระแสเลือดสูงกว่าคนสุขภาพดี ทีมวิจัยซึ่งตั้งสมมติฐานถึงความเป็นไปได้ว่า โปรตีนหนามอาจเป็นตัวการทำให้เกิดโรคกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ ซึ่งเป็นอาการข้างเคียงที่พบได้น้อยในผู้รับวัคซีนโควิด-19 ชนิด mRNA ซึ่งส่วนใหญ่จะพบในเพศชายและผู้ที่มีอายุน้อย

อย่างไรก็ดี ทีมวิจัยให้ความเป็นว่า ผลทดสอบยังจำเป็นต้องศึกษาความสัมพันธ์ที่ชัดเจนยิ่งขึ้นในอนาคต ซึ่งผลวิจัยไม่ได้เปลี่ยนแปลงคำแนะนำเรื่องประโยชน์และความเสี่ยงของวัคซีนโควิด-19 แต่อย่างใด

ปัจจุบันยังไม่มีวิธีรักษาลองโควิด

ส่วนการอ้างว่า การใช้อาหารเสริมจากถั่วเน่า ขมิ้นชัน และสับปะรด จะช่วยรักษาอาการลองโควิดก็ไม่เป็นความจริง เพราะนอกจากจะไม่มีคุณสมบัติดังกล่าวแล้ว ปัจจุบันยังไม่มีการค้นพบวิธีรักษาอาการลองโควิดอีกด้วย

ลองโควิดคืออาการป่วยเรื้อรังหลังการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งอาจเกิดจากการหลงเหลือของไวรัสในร่างกาย ซึ่งวิธีรักษาผู้ป่วยลองโควิดในปัจจุบันยังเป็นการรักษาตามอาการ

ผู้เชี่ยวชาญจึงแนะนำว่า วิธีการป้องกันลองโควิดที่ดีที่สุดคือการป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 ด้วยการสวมหน้ากากหรือฉีดวัคซีน

มีงานวิจัยที่พบว่า การใช้ยาต้านไวรัสชนิด Paxlovid หรือการใช้ยารักษาโรคเบาหวานชนิด Metformin ระหว่างติดเชื้อโควิด-19 อาจช่วยป้องกันการป่วยเป็นลองโควิดได้

เนื่องจากการวิจัยวิธีรักษาลองโควิดต้องใช้เวลานาน กลายเป็นการเปิดช่องทางให้ผู้ไม่หวังดี แนะนำวิธีการรักษาที่ยังไม่ได้รับการยืนยันประสิทธิผล เพื่อหาประโยชน์จากผู้คนที่ทนทรมานจากอาการป่วยและต้องการวิธีรักษาลองโควิดอย่างเร่งด่วน

ข้อมูลอ้างอิง :

https://www.factcheck.org/2023/09/scicheck-posts-push-unproven-spike-protein-detoxification-regimen/
https://healthfeedback.org/claimreview/no-scientific-evidence-for-claim-nattokinase-treat-long-covid-detox-covid19-vaccines/
https://healthfeedback.org/claimreview/peter-mccullough-makes-multiple-false-misleading-claims-covid19-vaccine-safety-efficacy-podcast/

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โฆษก ทบ. ยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลัง-กลบคูเลต ลดตึงเครียด

8 มิ.ย. – โฆษก ทบ. ยืนยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลังกลับไปอยู่จุดเดิม พร้อมกลบคูเลตให้คืนสู่สภาพเดิม หลังบรรลุข้อตกลงการหารือ เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก ลดความตึงเครียด วันนี้ (8 มิ.ย.68)​ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ฝ่ายกัมพูชา นำโดย พล.ท.สรัย ดึก รองผู้บัญชาการทหารบก และผู้บัญชาการกองพลสนับสนุนที่ 3 ได้เชิญฝ่ายทหารไทย โดย พล.ต.สมภพ ภาระเวช ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี เข้าร่วมหารือ เพื่อเจรจาเกี่ยวกับกรณีปัญหาการรุกล้ำดินแดนในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก จากการหารือเบื้องต้น ทั้งสองฝ่ายได้บรรลุข้อตกลงในประเด็นสำคัญ คือ ฝ่ายทหารกัมพูชายินยอมถอนกำลังกลับไปยังจุดที่เคยประจำการอยู่เดิม ซึ่งอยู่ห่างจากบริเวณที่เกิดเหตุปะทะ หรือแนวต้นพญาสัตบรรณ ลึกเข้าไปในเขตแดนของประเทศกัมพูชา จุดดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่ฝ่ายกัมพูชาเคยใช้เป็นแนววางกำลังฐานมาโดยตลอดในอดีต นอกจากนี้ ฝ่ายกัมพูชายังแสดงความยินยอมที่จะดำเนินการกลบคูเลตให้กลับคืนสู่สภาพธรรมชาติตามเดิม ตามข้อเสนอของฝ่ายไทย เพื่อเป็นการลดความตึงเครียด และสร้างบรรยากาศแห่งความร่วมมือ ภายหลังจากนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องร่วมกันที่จะใช้กลไกระดับคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่น เป็นช่องทางในการหารือแนวทางบริหารจัดการพื้นที่อย่างเหมาะสมและยั่งยืนต่อไป.-313-สำนักข่าวไทย

Chaos and crowds at Poipet International Border Gate

สื่อกัมพูชาลงภาพคนแออัดที่ด่านปอยเปต

พนมเปญ 8 มิ.ย. – สื่อกัมพูชาเผยแพร่ภาพชาวกัมพูชาและชาวต่างชาติแออัดที่จุดผ่านแดนถาวรปอยเปต ในเช้าวันนี้ เพื่อรอข้ามแดน หลังจากไทยประกาศมาตรการจำกัดการข้ามแดนระหว่าง 2 ประเทศ เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์เผยแพร่ภาพชุดจากเฟรชนิวส์ ซึ่งเป็นสื่อออนไลน์ของกัมพูชา เป็นภาพสถานการณ์ที่จุดผ่านแดนถาวรด้านปอยเปต จังหวัดบันเตียเมียนเจยของกัมพูชาที่ติดกับบ้านคลองลึก จังหวัดสระแก้วของไทย เจ้าหน้าที่กัมพูชารายงานว่า สถานการณ์ช่วงเช้าวันนี้มีคนหนาแน่นมาก หลังจากทางการปรับเวลาเปิดปิดประตูจุดผ่านแดน อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ชายแดนของทั้ง 2 ฝ่ายยังคงพูดคุยกันและอำนวยความสะดวกให้แก่การผ่านแดนระหว่างกัน แขมร์ไทมส์รายงานว่า ไทยตัดสินใจปรับเปลี่ยนเวลาเปิดปิดประตูแต่เพียงฝ่ายเดียว โดยได้ปรับเปลี่ยนเวลาเปิดปิดจุดผ่านแดนถาวรที่เป็นด่านสากลทั้งหมดเป็น 08.00-16.00 น. และปิดประตูที่เป็นด่านทวิภาคี.-814.-สำนักข่าวไทย

Colombian Senator Miguel Uribe

ลอบยิงผู้สมัคร ปธน.โคลอมเบีย เป็นตายเท่ากัน

โบโกตา 8 มิ.ย. – หนึ่งในผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีโคลอมเบียถูกลอบยิงอย่างอุกอาจ ระหว่างปราศรัยหาเสียงต่อหน้าฝูงชนจำนวนมากในกรุงโบโกตา ภรรยาระบุว่า ขณะนี้อาการเป็นตายเท่ากัน คลิปเหตุการณ์ที่มีผู้บันทึกไว้ได้ เผยให้เห็นวินาทีที่นายมิเกล อูริเบ สมาชิกวุฒิสภา วัย 39 ปี หนึ่งในผู้สมัครรับเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีโคลอมเบียปี 2569 ถูกมือปืนยิงหมายลอบสังหารขณะกำลังยืนปราศรัยหาเสียงต่อหน้าประชาชนจำนวนมากภายในสวนสาธารณะแห่งหนึ่งในกรุงโบโกตาเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น ผู้คนในที่เกิดเหตุพากันกรีดร้องตกใจ จากนั้นมีเสียงปืนตามมาอีกหลายนัด คาดว่าเป็นการยิงปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของอูริเบกับมือปืน มีรายงานผู้ถูกยิงบาดเจ็บเพิ่มอีก 1 คน ขณะที่นายอูริเบซึ่งถูกยิงเลือดอาบ ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลใกล้เคียงอย่างเร่งด่วน พรรคศูนย์กลางประชาธิปไตยซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านที่นายอูริเบสังกัดอยู่ออกแถลงการณ์ประณามและเปิดเผยเพียงสั้น ๆ ว่า คนร้ายยิงจากด้านหลัง ขณะที่สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานอ้างเจ้าหน้าที่แพทย์ว่า เขาถูกยิงเข้าที่ศีรษะ 2 นัด และเข้าที่เข่า 1 นัด ภรรยาของเขาโพสต์ในเอ็กซ์ (X) ว่า สามีอาการเป็นตายเท่ากัน รัฐบาลโคลอมเบียแจ้งในเวลาต่อมาว่า ตำรวจจับกุมผู้ต้องสงสัย 1 คน ซึ่งยิงปะทะกับเจ้าหน้าที่ในที่เกิดเหตุ และกำลังสอบสวนว่ามีผู้เกี่ยวข้องอีกหรือไม่ โดยได้ตั้งเงินรางวัล 730,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 24 ล้านบาท) แก่ผู้แจ้งเบาะแส สื่อท้องถิ่นรายงานว่า […]

สนามบินพร้อมสกัดกลุ่มเทาต่างชาติบินเข้าไทย หลังคุมเข้มเข้า-ออกด่านบก

7 มิ.ย. – ตามที่รัฐบาลมีนโยบายควบคุมการเข้า-ออกด่านชายแดนทางบก และมีคำสั่งจากกองทัพบกให้อำนาจกองทัพภาคที่ 1 และ 2 พิจารณาคัดกรองการเข้าออกด่านชายแดนทางบก โดยเฉพาะ จ.จันทบุรี และสระแก้ว โดยมีผลตั้งแต่ 7 มิ.ย.2568 ในส่วนของการเข้าทางอากาศ โดยเฉพาะทางสนามบินสุวรรณภูมิ และดอนเมือง ซึ่งคาดว่าจะมีกลุ่มต่างชาติที่ใช้เส้นทางเข้าออกไทย-กัมพูชา หันมาเดินทางเข้าแทนช่องทางบกนั้น วันนี้ (7 มิ.ย.2568 ) พล.ต.ต.เชิงรณ ริมผดี ผบก.ตม.2 เปิดเผยว่า ตม.สนามบิน พร้อมขานรับนโยบาย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร ที่มีจุดยืนด้านความมั่นคงชัดเจน โดยเฉพาะ พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบช.สตม. ได้เคยกำชับการสกัดกั้นคนต่างชาติที่มีพฤติกรรมเข้าออกประเทศด้วยฟรีวีซ่าที่ผิดวัตถุประสงค์ และกลุ่มที่เสี่ยงต่อการกระทำผิด โดยเฉพาะแก็งค์คอลเซ็นเตอร์ และการพนันออนไลน์ ซึ่งอาจใช้ไทยเป็นแหล่งทำธุรกิจฟอกเงิน จากการทำธุรกิจผิดกฎหมายในประเทศเพื่อนบ้าน และการปิดด่านชายแดน อาจมีกลุ่มต่างชาติที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิด ใช้เส้นทางเข้าไทยทางเครื่องบินแทนการผ่านแดนทางบก ทาง บก.ตม.2 จึงมีการสั่งการกำชับให้ด่าน ตม.สนามบินในสังกัด โดยเฉพาะสุวรรณภูมิ ดอนเมือง เพิ่มความเข้มในการเฝ้าสังเกตสกัดกั้นคนต่างชาติลักษณะเสี่ยงดังกล่าว โดยเน้นต่างชาติกลุ่มเฝ้าระวังสัญชาติเพื่อนบ้านที่มีลักษณะการใช้ฟรีวีซ่าเข้าออกผิดประเภท […]

ข่าวแนะนำ

“อ.เฉลิมชัย” เปิดใจเหตุลาออกจากศิลปินแห่งชาติ

9 มิ.ย. – “อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์” เปิดใจเหตุลาออกจากศิลปินแห่งชาติ ให้เหตุผลเป็นความตั้งใจว่าครบ 70 ปี จะลาออกทุกตำแหน่ง เพื่อเดินทางท่องเที่ยว แต่ยังพร้อมช่วยกระทรวงและวงการศิลปะ จากกรณี อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ จิตรกรรม ประกาศระหว่างบรรยายในงาน Thailand Biennale, Chiang Rai 2023 สู่ Thailand Biennale, Phuket 2025 ที่ จ.ภูเก็ต ว่าได้ยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นศิลปินแห่งชาติ เมื่อวันที่ 30 พฤษาคมที่ผ่านมา เพื่อใช้ชีวิตอย่างอิสระ เนื้อหาในจดหมายที่ถูกเผยแพร่ออกมาซึ่งเขียนด้วยลายมือของ อ.เฉลิมชัย ถึงกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ลงวันที่ 30 พฤษภาคม มีใจความสำคัญว่า “เหตุผลของการลาออก เนื่องด้วยข้าพเจ้ามีอายุมากแล้ว จึงได้ประกาศหยุดสร้างสรรค์ผลงานศิลปะ เพราะปรารถนาที่จะพักผ่อน ท่องเที่ยว หาความสุขในบั้นปลายของชีวิต ข้าพเจ้ารู้สึกส่วนตัวว่า เมื่อศิลปินแห่งชาติได้หยุดสร้างสรรค์ผลงานแล้วก็ไม่ควรที่จะมีตำแหน่งอันทรงเกียรตินี้อีกต่อไป ข้าพเจ้าจึงขอให้กรมส่งเสริมวัฒนธรรมโปรดพิจารณาตัดชื่อข้าพเจ้าออกจากทำเนียบศิลปินแห่งชาติด้วย” ภายหลัง อ.เฉลิมชัย ให้สัมภาษณ์ถึงสาเหตุของการลาออกจากการเป็นศิลปินแห่งชาติว่า […]

“อนุทิน” สั่งเร่งตรวจสอบหลุมหลบภัยแนวชายแดนไทย-กัมพูชา

กทม. 9 มิ.ย. – “อนุทิน” สั่งการผู้ว่าฯ 7 จังหวัดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา เร่งตรวจสอบจำนวนหลุมหลบภัยในพื้นที่ เพื่อเตรียมพร้อมดูแลความปลอดภัยประชาชน น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการรมว.มหาดไทยและโฆษกกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย เพื่อตรวจติดตามความพร้อมและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่และประชาชนในพื้นที่ติดต่อกับชายแดนประเทศกัมพูชา เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. 68 ที่ผ่านมา และได้รับทราบข้อมูลต่างๆในพื้นที่ ล่าสุด ได้มีข้อสั่งการให้นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ประสานผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ สระแก้ว จันทบุรี และจังหวัดตราด เร่งดำเนินการตรวจสอบจำนวนหลุมหลบภัยในพื้นที่ทั้งหมด โดยสำรวจว่ามีหลุมหลบภัยที่สามารถใช้งานได้ในสภาพดีจำนวนกี่แห่ง จำนวนหลุมหลบภัยที่ชำรุดและต้องการขอรับการสนับสนุนงบประมาณในการปรับปรุงซ่อมแซมกี่แห่ง รวมทั้งสำรวจความต้องการในการก่อสร้างหลุมหลบภัยในพื้นที่เพิ่มเติม พร้อมระบุสถานที่และประมาณการงบประมาณที่ต้องการขอรับการสนับสนุน รายงานมายังกระทรวงมหาดไทย ภายในวันที่ 10 มิ.ย. 2568 ทั้งนี้ เพื่อดูแลความปลอดภัยของประชาชน รวมทั้งเตรียมความพร้อมให้ทันต่อสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นต่อไป .319.-สำนักข่าวไทย

ตั้งค่าหัว 1 แสน ไล่ล่าอดีตสามีโหดฆ่า 2 ศพ

เชียงราย 9 มิ.ย. – ญาติสุดแค้น ตั้งค่าหัว 100,000 บาท ล่าอดีตสามีโหดฆ่า 2 ศพ หลังเจ้าหน้าที่ระดมกำลังค้นหายังไร้ร่องรอย เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 32 (ตชด.32) นำ “โทมี่” สุนัขตำรวจ K9 พันธุ์ลาบราดอร์ เข้าร่วมภารกิจติดตามจับกุมนายซ้งปอ อายุ 55 ปี คนร้ายก่อเหตุฆ่าโหดอดีตภรรยาและน้องชายอดีตภรรยาเสียชีวิต ในพื้นที่บ้านร่มฟ้าผาหม่น หมู่ 15 ต.ปอ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 6 และ 8 มิถุนายนที่ผ่านมา ก่อนหลบหนีเข้าป่าดอยผาหม่น ซึ่งเป็นภูเขาสูงชันและเต็มไปด้วยถ้ำและซอกเขา ทำให้ภารกิจไล่ล่ายากลำบาก แม้ใช้โดรนตรวจจับความร้อนทั้งกลางวันและกลางคืนก็ยังไม่พบตัว นายสุรชัย ผู้ใหญ่บ้านร่มฟ้าผาหม่น เปิดเผยว่า นายซ้งปอเป็นคนพื้นที่และมีความชำนาญเส้นทางป่า เคยหลบซ่อนตัวในป่านานถึง 2 เดือน โดยไม่มีใครเจอ และเป็นบุคคลอันตรายต่อเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปค้นหา ก่อนหน้านี้นายซ้งปอเคยขู่ฆ่าผู้นำชุมชนและชาวบ้านที่เคยมีส่วนไกล่เกลี่ยให้แยกทางกับภรรยา สร้างความหวาดผวาให้กับชาวบ้านในพื้นที่ ขณะนี้เหลือประชาชนอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเพียง 20-30% ส่วนที่เหลือพากันอพยพไปอยู่กับญาติในหมู่บ้านข้างเคียง เพื่อความปลอดภัย […]

The Ministry of National Defence claims Cambodia has not withdrawn troops from its sovereign territory

กห.กัมพูชายืนยันไม่ได้ถอนทหารจากดินแดนอธิปไตย

พนมเปญ 9 มิ.ย. – กระทรวงกลาโหมแห่งชาติ เน้นย้ำว่า กัมพูชาไม่ได้ถอนกำลังทหารออกจากพื้นที่ที่อยู่ภายใต้อธิปไตยของกัมพูชา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่กองทัพกัมพูชายึดครองมายาวนาน เว็บไซต์แขมร์ไทมส์ของกัมพูชา เผยแพร่แถลงการณ์ของกระทรวงกลาโหมกัมพูชาวันนี้ มีเนื้อหาดังนี้ “ตามแถลงข่าวจากกระทรวงกลาโหมแห่งชาติในวันนี้ กระทรวงฯ ขอชี้แจงต่อสาธารณชนและสื่อมวลชนทั้งในและต่างประเทศเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวล่าสุดในพื้นที่ชายแดนกัมพูชา-ไทย ดังต่อไปนี้: 1.ไม่มีการถอนกำลังทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ที่อยู่ภายใต้อธิปไตยของกัมพูชา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่กองทัพกัมพูชาได้ประจำการมาเป็นเวลานาน 2.การดำเนินการทั้งหมดของกองทัพกัมพูชาประกอบด้วยการประจำการ การจัดวางกำลัง การปรับเปลี่ยน และการเคลื่อนย้าย อยู่ภายในอำนาจอธิปไตยของกัมพูชาและมีวัตถุประสงค์เพื่อเตรียมความพร้อมในการปกป้องบูรณภาพแห่งดินแดนของกัมพูชา 3.กองทัพกัมพูชาสนับสนุนความพยายามในการหาทางออกอย่างสันติสำหรับปัญหาที่เกิดขึ้น แต่พร้อมที่จะปฏิบัติตามคำสั่งของรัฐบาลในการปกป้องบูรณภาพแห่งดินแดนจากการรุกรานทุกรูปแบบ 4.กองทัพกัมพูชาพร้อมที่จะสนับสนุนกลไกการเจรจาเขตแดนกับประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งคณะกรรมการเขตแดนร่วมหรือเจบีซี (JBC) เพื่อดำเนินการวัดแนวเขตแดนและจัดทำเส้นเขตแดนในส่วนที่เหลือระหว่างสองประเทศ รวมถึงจุดที่กัมพูชาจะยื่นต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือไอซีเจ (ICJ) กระทรวงกลาโหมแห่งชาติขอให้เพื่อนร่วมชาติและสื่อมวลชนใช้ข้อมูลจากแหล่งที่เชื่อถือได้เท่านั้น โดยเฉพาะแถลงการณ์อย่างเป็นทางการจากรัฐบาลกัมพูชาและกระทรวงกลาโหมแห่งชาติ ซึ่งเป็นข้อมูลที่ถูกต้อง แท้จริง และเชื่อถือได้” .-814.-สำนักข่าวไทย