ชัวร์ก่อนแชร์: สารสกัดจาก “ถั่วเน่า” ถอนพิษวัคซีนโควิดได้ จริงหรือ?

04 มิถุนายน 2567
แปลและเรียบเรียงบทความ : อดิศร สุขสมอรรถ
ตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล


ข้อมูลที่ถูกแชร์ :

มีข้อมูลเท็จเผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์ในสหรัฐอเมริกา เมื่อมีการเผยแพร่สูตรล้างพิษจากโปรตีนหนามในวัคซีนโควิด-19 ประกอบด้วยตัวยาที่มีส่วนประกอบของสารสกัดจากถั่วเน่า ขมิ้นชัน และ สับปะรด และยังอ้างถึงสรรพคุณการรักษาโรคลองโควิดอีกด้วย


บทสรุป :

  1. เป็นข้ออ้างผิด ๆ ที่เผยแพร่โดยแพทย์ที่มีประวัติเผยแพร่ข้อมูลเท็จเกี่ยวกับวัคซีนโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง
  2. ยังไม่มีการทดลองในสิ่งมีชีวิตว่าสารสกัดจากถั่วเน่า ขมิ้นชัน และ สับปะรด ช่วยกำจัดโปรตีนจากร่างกายได้
  3. แพทย์ผู้อ้างสูตรถอนพิษ เป็นทีมงานของบริษัทยาที่ค้ากำไรจากการขายอาหารเสริมที่อ้างผิด ๆ ว่ากำจัดโปรตีนหนามจากร่างกายได้
  4. ข้อมูลทางการแพทย์ยืนยันว่า mRNA และโปรตีนหนามตกค้างในร่างกายไม่นานและไม่เป็นอันตราย

FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง :

ผู้อยู่เบื้องหลังการเผยแพร่สูตรล้างพิษโปรตีนหนามในวัคซีนแบบผิด ๆ ได้แก่ ปีเตอร์ แม็คคัลลาห์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจ ผู้มีประวัติเผยแพร่ข้อมูลเท็จเกี่ยวกับวัคซีนโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง และเป็นเจ้าของสูตร McCullough Protocol ที่อ้างว่าการใช้ยารักษาโรคมาลาเรียและยาฆ่าพยาธิอย่าง Hydroxychloroquine และ Ivermectin สามารถรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ได้มาแล้ว ซึ่งไม่เป็นความจริง


ในช่วงปี 2023 ปีเตอร์ แม็คคัลลาห์ ได้เผยแพร่แนวคิดเรื่องภัยโปรตีนหนามจากวัคซีนอย่างต่อเนื่อง โดยอ้างว่าอาหารเสริมที่มีส่วนประกอบของ Nattokinase เอนไซม์ที่สกัดจากถั่วเน่า สามารถล้างพิษที่เกิดจากโปรตีนหนามของวัคซีนและรักษาอาการลองโควิดได้

นอกจากนี้ เขายังเผยแพร่สูตรอาหารเสริมล้างพิษจากวัคซีนหรือ Base Spike Detoxification ซึ่งประกอบไปด้วย Nattokinase (เอนไซม์สกัดจากถั่วเน่า) Curcumin (สารสกัดจากขมิ้นชัน) และ Bromelain (เอนไซม์สกัดจากสับปะรด)

คุณสมบัติของ Nattokinase

งานทดลองพบว่า Nattokinase มีคุณสมบัติด้านการละลายลิ่มเลือดและประโยชน์ด้านการป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจ

ในทางตรงกันข้าม ผู้ที่มีปัญหาการแข็งตัวของเลือดผิดปกติหรือผู้ที่กำลังรักษาตัวด้วยยาละลายลิ่มเลือด ไม่แนะนำให้บริโภคสารประกอบ Nattokinase เพราะอาจทำให้เกิดปัญหาเลือดไหลไม่หยุดได้

MINOLTA DIGITAL CAMERA

บิดเบือนงานวิจัยของผู้อื่น

ปีเตอร์ แม็คคัลลาห์ อ้างงานวิจัยของ ทานิคาวะ และคณะ ที่ตีพิมพ์ทางวารสาร Molecules เมื่อเดือนสิงหาคม 2022 ที่พบว่า Nattokinase สามารถทำลายโปรตีนหนาม นำมาซึ่งสมมติฐานว่า Nattokinase สามารถใช้ป้องกันการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้

อย่างไรก็ดี งานวิจัยดังกล่าวเกิดจากการทดลองกับเซลล์ในหลอดทดลอง โดยยังไม่มีการทดลองในสิ่งมีชีวิต จึงยังไม่อาจยืนยันได้ว่าจะได้ผลอย่างไรเมื่อใช้กับมนุษย์ นอกจากนี้ ในเนื้อหาของงานวิจัยไม่ได้บอกถึงคุณสมบัติด้านการล้างพิษจากวัคซีนอีกด้วย

บิดเบือนบทความของตนเอง

ปีเตอร์ แม็คคัลลาห์ อ้างว่าสูตรอาหารเสริมล้างพิษจากวัคซีน (Base Spike Detoxification) ที่ตนคิดค้นขึ้น นำมาจากงานวิจัยต่าง ๆ ที่ตนเองและทีมงานได้ศึกษาและตีพิมพ์บทความทางวารสาร Journal of American Physicians and Surgeons เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2023 ที่ผ่านมา

อย่างไรก็ดี Journal of American Physicians and Surgeons ซึ่งเผยแพร่โดยสมาคม Association of American Physicians and Surgeons เป็นวารสารที่ขาดความน่าเชื่อถือ เนื่องจากตัวสมาคมดำเนินงานโดยยึดหลักการสนับสนุนแนวคิดอนุรักษ์นิยมเป็นที่ตั้ง ส่วนตัววารสารก็มีประวัติเผยแพร่ข้อมูลเท็จทางการแพทย์อย่างต่อเนื่อง ทั้งการอ้างว่าโรคเอดส์ไม่ได้เกิดจากไวรัส HIV การฉีดวัคซีนเพิ่มความเสี่ยงเป็นโรคออทิสติก การทำแท้งทำให้เสี่ยงเป็นโรคมะเร็งเต้านม เป็นต้น

ในบทความ ปีเตอร์ แม็คคัลลาห์ อ้างถึงคุณสมบัติด้านการกำจัดโปรตีนหนามของ Nattokinase, Curcumin และ Bromelain แต่ผลวิจัยทั้งหมดนำมาจากการทดลองในหลอดทดลองและแบบจำลองทางคอมพิวเตอร์ และยังไม่มีการทดลองในสิ่งมีชีวิต ซึ่ง ปีเตอร์ แม็คคัลลาห์และทีมวิจัยเองก็ยังย้ำในบทความว่า ประโยชน์ด้านการรักษายังพิสูจน์ไม่ได้ เนื่องจากยังไม่มีการทดลองในมนุษย์

แต่กระนั้น ปีเตอร์ แม็คคัลลาห์ ก็ยังให้ความเห็นผ่านสื่ออย่างไม่มีหลักฐานว่า สารสกัดจากถั่วเน่า ขมิ้นชัน และสับปะรด สามารถล้างพิษโปรตีนหนามจากวัคซีนได้

ผลในหลอดทดลองไม่สามารถยืนยันผลที่จะเกิดกับสิ่งมีชีวิต

ดร.อิกอร์ โคเทอร์บาช รองผู้อำนวยการศูนย์ Center for Dietary Supplements Research ภาควิชาวิทยาศาสตร์การแพทย์ มหาวิทยาลัยอาร์คันซอ สหรัฐอเมริกา อธิบายว่า ผลจากการวิจัยในหลอดทดลองไม่สามารถยืนยันผลการรักษาในมนุษย์ได้ มีสารเคมีจากพืชมากกมายที่ให้ผลการป้องกันการติดเชื้อไวรัสต่าง ๆ ได้อย่างดีในหลอดทดลอง แต่ส่วนใหญ่ไม่ประสบความสำเร็จกับการใช้ในสัตว์ทดลอง ดังนั้นโอกาสจะนำมาใช้เป็นยารักษาในมนุษย์โดยยังไม่ทดลองจึงมีความเป็นไปได้ที่น้อยมาก

ผลประโยชน์ทับซ้อนจากการขายอาหารเสริมจอมปลอม

มีข้อความบนโลกออนไลน์ที่สนับสนุนความน่าเชื่อถือที่มีต่อสูตรล้างพิษโปรตีนหนามของ ปีเตอร์ แม็คคัลลาห์ โดยพยายามอ้างว่า ปีเตอร์ แม็คคัลลาห์ บอกสูตรยาที่เป็นประโยชน์สาธารณะโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ต่างจากบริษัทยาที่ค้ากำไรจากการแนะนำให้คนฉีดวัคซีน

อย่างไรก็ดี จากการตรวจสอบโดย Factcheck.org พบว่า ปีเตอร์ แม็คคัลลาห์ ยังดำรงตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายวิทยาศาสตร์ของบริษัทขายยา The Wellness Company ซึ่งหนึ่งในสินค้าขายดีของบริษัทได้แก่ Spike Support อาหารเสริมที่มีส่วนประกอบสารสกัดจากถั่วเน่า ซึ่งทางเว็บไซต์อ้างอย่างผิด ๆ ว่า เป็นอาหารเสริมที่มีคุณสมบัติด้านการล้างพิษโปรตีนหนามอีกด้วย

อาหารเสริมไม่สามารถรักษาโรคไม่ได้

ตามกฎหมายของสหรัฐอเมริกา การที่อาหารเสริมไม่จำเป็นต้องผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยาสหรัฐอเมริกา (FDA) คือสาเหตุทำให้มีการผลิตอาหารเสริมที่อ้างสรรพคุณเกินจริงจำนวนมากในท้องตลาด

อย่างไรก็ดี กฎหมายของสหรัฐอเมริกาไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาว่าอาหารเสริมมีคุณสมบัติด้านการรักษาโรค ดังนั้นการอ้างว่าอาหารเสริมที่มีสารสกัดจากถั่วเน่า มีคุณสมบัติล้างพิษโปรตีนหนามหรือรักษาลองโควิด จึงเข้าข่ายการโฆษณายาผิดประเภท

mRNA และโปรตีนหนามตกค้างในร่างกายไม่นาน

เดวิด อาร์ วอลต์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการวิเคราะห์โปรตีนและชีวโมเลกุล ยืนยันว่า การล้างพิษโปรตีนหนามจากวัคซีนเป็นเรื่องไม่จำเป็น เพราะไม่ว่าโปรตีนหนามจากการฉีดวัคซีนหรือการติดเชื้อไวรัส ร่างกายก็สามารถกำจัดโปรตีนหนามออกจากร่างกายในเวลาไม่กี่วัน มีแค่คนส่วนน้อยเท่านั้นที่ยังมีโปรตีนหนามตกค้างในร่างกายเป็นเวลานานหลังเกิดการสร้างภูมิต้านทานแล้ว

ข้อมูลจากศูนย์ Vaccine Education Center โรงพยาบาล Children’s Hospital of Philadelphia ยืนยันว่า mRNA มีอายุที่สั้นมาก และจะถูกร่างกายทำลายในเวลาไม่กี่วัน ส่งผลให้การสร้างโปรตีนหนามสิ้นสุดลง

ข้อมูลจากสมาคม Infectious Disease Society of America ยืนยันว่า โปรตีนหนามจากวัคซีนจะอยู่ในร่างกายไม่กี่สัปดาห์ ก่อนจะถูกร่างกายทำลายไปเอง

อย่างไรก็ดี ช่วงเวลาที่โปรตีนหนามอยู่ในร่างกายขึ้นอยู่กับอวัยวะที่ตรวจสอบ

งานวิจัยของ โอกาตะ และคณะ พบว่า กลุ่มตัวอย่าง 13 รายที่ฉีดวัคซีนโควิด-19 โดสแรก ส่วนใหญ่จะสามารถตรวจพบโปรตีนหนามในกระแสเลือดไม่เกิน 1 สัปดาห์

ส่วนงานวิจัยของ โรลต์เจน และคณะ พบว่าในกลุ่มตัวอย่างที่ฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 สามารถตรวจพบโปรตีนหนามในต่อมน้ำเหลืองหลังจากฉีดวัคซีนไปแล้วถึง 60 วัน ซึ่งเหตุผลที่พบโปรตีนหนามในต่อมน้ำเหลืองนานกว่าอวัยวะอื่น ๆ เนื่องจากในต่อมน้ำเหลืองเป็นที่อยู่ของเซลล์ภูมิคุ้มกันในร่างกายนั่นเอง

ประโยชน์ของวัคซีนมีมากกว่าความเสี่ยงจากโปรตีนหนาม

เดวิด อาร์ วอลต์ คือหนึ่งในทีมวิจัยที่รายงานความสัมพันธ์ที่อาจเกิดขึ้นระหว่างโปรตีนหนามและการป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบหลังการฉีดวัคซีนโควิด-19 ชนิด mRNA โดยตีพิมพ์งานวิจัยผ่านทางวารสาร Circulation เมื่อเดือนมกราคม 2023

ทีมวิจัยแยกกลุ่มตัวอย่างเป็นผู้ป่วยโรคกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบหลังฉีดวัคซีน และกลุ่มคนสุขภาพแข็งแรงหลังฉีดวัคซีน โดยพบว่าในกลุ่มผู้ป่วยโรคกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบหลังฉีดวัคซีนส่วนใหญ่ มีปริมาณโปรตีนหนามอยู่ในกระแสเลือดสูงกว่าคนสุขภาพดี ทีมวิจัยซึ่งตั้งสมมติฐานถึงความเป็นไปได้ว่า โปรตีนหนามอาจเป็นตัวการทำให้เกิดโรคกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ ซึ่งเป็นอาการข้างเคียงที่พบได้น้อยในผู้รับวัคซีนโควิด-19 ชนิด mRNA ซึ่งส่วนใหญ่จะพบในเพศชายและผู้ที่มีอายุน้อย

อย่างไรก็ดี ทีมวิจัยให้ความเป็นว่า ผลทดสอบยังจำเป็นต้องศึกษาความสัมพันธ์ที่ชัดเจนยิ่งขึ้นในอนาคต ซึ่งผลวิจัยไม่ได้เปลี่ยนแปลงคำแนะนำเรื่องประโยชน์และความเสี่ยงของวัคซีนโควิด-19 แต่อย่างใด

ปัจจุบันยังไม่มีวิธีรักษาลองโควิด

ส่วนการอ้างว่า การใช้อาหารเสริมจากถั่วเน่า ขมิ้นชัน และสับปะรด จะช่วยรักษาอาการลองโควิดก็ไม่เป็นความจริง เพราะนอกจากจะไม่มีคุณสมบัติดังกล่าวแล้ว ปัจจุบันยังไม่มีการค้นพบวิธีรักษาอาการลองโควิดอีกด้วย

ลองโควิดคืออาการป่วยเรื้อรังหลังการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งอาจเกิดจากการหลงเหลือของไวรัสในร่างกาย ซึ่งวิธีรักษาผู้ป่วยลองโควิดในปัจจุบันยังเป็นการรักษาตามอาการ

ผู้เชี่ยวชาญจึงแนะนำว่า วิธีการป้องกันลองโควิดที่ดีที่สุดคือการป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 ด้วยการสวมหน้ากากหรือฉีดวัคซีน

มีงานวิจัยที่พบว่า การใช้ยาต้านไวรัสชนิด Paxlovid หรือการใช้ยารักษาโรคเบาหวานชนิด Metformin ระหว่างติดเชื้อโควิด-19 อาจช่วยป้องกันการป่วยเป็นลองโควิดได้

เนื่องจากการวิจัยวิธีรักษาลองโควิดต้องใช้เวลานาน กลายเป็นการเปิดช่องทางให้ผู้ไม่หวังดี แนะนำวิธีการรักษาที่ยังไม่ได้รับการยืนยันประสิทธิผล เพื่อหาประโยชน์จากผู้คนที่ทนทรมานจากอาการป่วยและต้องการวิธีรักษาลองโควิดอย่างเร่งด่วน

ข้อมูลอ้างอิง :

https://www.factcheck.org/2023/09/scicheck-posts-push-unproven-spike-protein-detoxification-regimen/
https://healthfeedback.org/claimreview/no-scientific-evidence-for-claim-nattokinase-treat-long-covid-detox-covid19-vaccines/
https://healthfeedback.org/claimreview/peter-mccullough-makes-multiple-false-misleading-claims-covid19-vaccine-safety-efficacy-podcast/

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.เรือนจำทักษิณป่วย ไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน  

13 มิ.ย. – ศาลฎีกาฯ ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนกรณีกรมราชทัณฑ์อนุญาตให้ “ทักษิณ” เข้ารักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ นัดไต่สวนเพิ่มอีก 6 นัด เดือน ก.ค.68 ด้าน ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ยอมรับไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนคดีชั้น 14 ในเรื่องการบังคับคดีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ล่าสุดการไต่สวนนัดแรกเสร็จสิ้นแล้ว โดยศาลได้สอบถาม นายมานพ ชมชื่น ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพคนปัจจุบัน เกี่ยวกับกระบวนการในการส่งตัวนายทักษิณจากเรือนจำไปโรงพยาบาลตำรวจ ในคืนวันที่ 22 สิงหาคม ซึ่งนายทักษิณ มีอาการแน่นหน้าอก นอนไม่หลับ พยาบาลเวรตรวจอาการแล้ว ถึงโทรไปหาแพทย์ และมีความเห็นให้ส่งตัวไปที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยไม่ได้เข้าไปที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน และอาการก็ตรงกลับใบส่งตัวที่แพทย์เขียนไว้ล่วงหน้า เพราะเป็นผู้ป่วยกรณีฉุกเฉิน แต่ก็ยอมรับว่าไม่ได้เข้าโรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน จากนั้นศาลได้นัดไต่สวน 6 นัด ในเดือนกรกฎาคม 2568 และใน […]

เครื่องบินแอร์อินเดีย ตกใส่อาคารที่พักแพทย์ ตาย 241 รอดคนเดียว

นิวเดลี 13 มิ.ย. – เครื่องบินโดยสารของสายการบินแอร์อินเดีย พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประสบอุบัติเหตุตกใส่อาคารในย่านชุมชนทางตะวันตกของประเทศ มีผู้เสียชีวิต 241 ราย รอดชีวิตปาฏิหาริย์เพียงคนเดียว ยังไม่มีการยืนยันว่ามีคนในอาคารบ้านเรือนเสียชีวิตเท่าไร เครื่องบินลำที่ประสบอุบัติเหตุเป็นเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลน์เนอร์ ของสายการบิน แอร์ อินเดีย เที่ยวบิน เอไอ171 (AI171) พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประกอบด้วยผู้โดยสาร 230 คน และลูกเรือ 12 คน เพิ่งจะออกเดินทางจากท่าอากาศยานระหว่างประเทศเมืองอาห์เมดาบัด รัฐคุชราต ทางตะวันตกของอินเดียเมื่อเวลา 13.34 น. วานนี้ มุ่งหน้าไปยังท่าอากาศยานแกตวิค กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ คนบนเครื่องบินเป็นชาวอินเดีย 169 คน และมีพลเมืองอังกฤษ 53 คน โปรตุเกส 7 คน และแคนาดา 1 คน คลิปที่ผู้ใช้งานสื่อออนไลน์ในอินเดียส่งต่อกันแพร่หลาย เผยให้เห็นช่วงเวลาขณะที่เครื่องบินโดยสารลำนี้เครื่องบินค่อยๆ […]

แพทยสภายืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย

กทม. 12 มิ.ย.- แพทยสภามีมติ 2 ใน 3 ยืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย ปมส่งตัว “ทักษิณ” รักษาชั้น 14 รพ.ตร. ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา อุปนายกแพทยสภา เปิดเผยหลังการประชุมการลงมติแพทยสภากว่า 5 ชม. ว่า กรณีที่มีการกล่าวโทษแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ เกี่ยวกับการประพฤติผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม การประชุมคณะกรรมการแพทยสภาครั้งที่ 6/2568 ประจำเดือนมิถุนายน คือวันนี้ มีวาระสำคัญคือการพิจารณาหนังสือยับยั้งมติลงโทษผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมของคณะกรรมการแพทยสภาจากสภานายกพิเศษ วาระนี้มีคณะกรรมการแพทยสภาเข้าร่วมประชุมจำนวน 68 คน จากจำนวนแพทยสภาที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งสิ้น 69 คน ได้พิจารณาการยับยั้งมติแพทยสภาของสภานายกพิเศษ มีมติด้วยคะแนนเสียงเกินกว่า 2 ใน 3 ของคณะกรรมการฯ ที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งคณะ ซึ่งมีคะแนนโหวตมากกว่า 60 เสียง ยืนยันตามมติเดิมของคณะกรรมการแพทยสภาเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 กระบวนการต่อไปแพทยสภาจะออกคำสั่งบังคับตามมติและแจ้งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบ คาดว่าคำสั่งจะออกได้ในวันพรุ่งนี้ และจะมีผลการลงโทษหลังจากคำสั่งไปยังผู้ถูกร้องเรียน ทั้งนี้ […]

“ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน

ฉะเชิงเทรา 12 มิ.ย. – “ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน จ.ฉะเชิงเทรา พบกองขยะอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนเครื่องยนต์นำเข้ากองเต็มพื้นที่ ฝ่าฝืนคำสั่งกรมโรงงานฯ น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าทีมสุดซอย พร้อมเจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัด และตำรวจสอบสวนกลาง เข้าตรวจสอบโรงงานรีไซเคิลใน อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นการขยายผลจากข้อมูลที่ผู้ใหญ่บ้าน ต.เขาหินซ้อน อ้างว่ามีบริษัทคัดแยกขยะอุตสาหกรรมในพื้นที่ให้นำดินไปแจกฟรี แต่กลับพบว่าเป็นขยะอุตสาหกรรม จากการตรวจสอบพบว่าบริษัทแห่งนี้จะรับขยะอิเล็กทรอนิกส์ เศษสายไฟ วัสดุแบตเตอรี่ มอเตอร์ และชิ้นส่วนเครื่องยนต์ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ ผ่านบริษัทแห่งหนึ่งที่ฮ่องกง โดยบริษัทดังกล่าวรับซื้อเศษขยะมาจากญี่ปุ่นอีกทอดหนึ่ง ก่อนส่งมาที่โรงงานรีไซเคิลในไทยให้คัดแยก แต่สำแดงเป็นโลหะผสม (Mixed metal) และมีการเสียภาษีต่อเที่ยวตามน้ำหนัก รวมแล้วประมาณ 33,000 บาท การคัดแยกขยะจะใช้แรงงานต่างด้าวคัดแยกเหล็ก อะลูมิเนียม ทองแดงออก โดยในส่วนของเหล็ก จะส่งโรงเหล็กในประเทศ สำหรับอะลูมิเนียมกับทองแดง จะส่งกลับไปฮ่องกง เพื่อขายต่อ โดยไม่ต้องเสียภาษี เนื่องจากเป็นเศษโลหะ อีกทั้งยังมีกองขยะที่ไม่สามารถนำไปแปรรูปใช้งานต่อได้จำนวนมากถูกทิ้งไว้ในประเทศ โรงงานดังกล่าวมีการขออนุญาตประกอบกิจการตั้งแต่ปี 2558 แต่ก่อนหน้านี้พบว่ามีการขยายโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต การจัดเก็บวัสดุไม่ถูกต้องตามมาตรฐาน คือกองอยู่ลานโล่งด้านนอกอาคาร ปัญหาเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยในการประกอบกิจการ และการปล่อยน้ำเสีย […]

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยไทยตอนบนฝนตกหนักบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 40%

กรุงเทพฯ 16 มิ.ย. – กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนัก กรุงเทพฯ-ปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 40% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้ยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ส่วนเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย ทั้งนี้ เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทย เดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 26-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาเซลเซียส .-สำนักข่าวไทย

ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน

กัมพูชา 15 มิ.ย.- ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน ซึ่งการหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทย-กัมพูชา ประชุมครั้งต่อไปเดือน ก.ย.นี้ ฝ่ายไทยเป็นเจ้าภาพ เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2568 เอกอัครราชทูตประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ประธานคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ฝ่ายไทย และนายฬำ เจีย รัฐมนตรีรับผิดชอบกิจการชายแดนและหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งชาติกัมพูชา ประธานร่วมฝ่ายกัมพูชา เป็นประธานร่วมในพิธีปิดการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 (JBC) และลงนามบันทึกการประชุมร่วมกัน ที่กรุงพนมเปญ การหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร ทั้งสองฝ่ายกล่าวขอบคุณที่การประชุมสำเร็จลุล่วงด้วยดี โดยเน้นย้ำความสำคัญและประสิทธิภาพของ JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีหลักในการเจรจาเขตแดนระหว่างสองประเทศ การประชุมครั้งนี้เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา ซึ่งมีความยาวทั้งหมดประมาณ 800 กิโลเมตร และมีส่วนช่วยลดความตึงเครียดบริเวณชายแดน ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายยังมีภารกิจที่ต้องหารือและดำเนินการร่วมกันต่อไป โดยฝ่ายไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม JBC สมัยพิเศษครั้งต่อไปในเดือนกันยายนนี้ ปัจจุบัน ไทยกับกัมพูชามีกลไกความร่วมมือในประเด็นชายแดนร่วมกัน 3 ระดับหลัก ได้แก่ (1) JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีที่สำคัญในการหารือกันทางเทคนิคและข้อกฎหมายระหว่างประเทศ (2) คณะกรรมการชายแดนทั่วไป […]

ทบ.ยันไม่พบทหารกัมพูชาปิดทางขึ้นสามเหลี่ยมมรกต

กทม. 15 มิ.ย.-กองทัพบก ยืนยันไม่พบทหารกัมพูชาพร้อมอาวุธครบมือ ปิดทางขึ้นสามเหลี่ยมมรกต ขอฟังข่าวสารจากทางราชการเท่านั้น จากกรณีเพจแจ้งข่าวศรีสะเกษ เผยแพร่ข่าวทหารกัมพูชา พร้อมอาวุธครบมือ ปิดถนนทางขึ้นสามเหลี่ยมมรกต บริเวณช่องบก ห้ามไม่ให้ทหารไทยขึ้นไปซ่อมแซมถนน ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจา เป็นครั้งที่ 2 เมื่อเวลา 12.45 น. ล่าสุด พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบในพื้นที่ พบว่าไม่มีเหตุการณ์ดังกล่าว โดยขอให้ฟังข้อมูลข่าวสารจากทางราชการเป็นหลัก หรือสามารถสอบถามกองทัพบกได้เป็นกรณีไป พร้อมระบุว่า พื้นที่ดังกล่าวมีการทำถนนไว้ส่งกำลังบำรุง แต่อยู่ในเขตเราทั้งหมด ซึ่งทางกัมพูชาเข้าใจ.-313.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน”​ ยกคณะ สส.​-​ขรก.มหาดไทย​ เยือนอุดรฯ

อุดรธานี ​15 มิ.ย.​- “อนุทิน”​ โหมโรง​ ยกคณะ สส.​-​ขรก.มหาดไทย​ เยือนอุดรธานี​ เปิดตัว​ “อดิศักดิ์​” ไทยสร้างไทย บอก​ “นู๋หนู​-​ดู๋ดี๋”​ ซี้กัน​ อวยเป็น สส.คุณภาพ​ ภูมิใจไทย​ ภูมิใจแทน​ รอบหน้าขอชาวอุดรฯ​ เลือกเป็น สส.ภท.​ โอดแทนชาวบ้าน​ ซัด​ห่วย 3 ปี งบโยธาแค่​ 700 ล้าน​ บอกถ้าเลือกภูมิใจไทยซัดไปแล้ว​ 3,000 ล้าน​ เหน็บ​ถนน 4 เลน ใครทำให้กุดอย่าไปเลือก นายอนุทิน​ ชาญ​วี​รกูล​ รองนายก​รัฐมนตรี​และ​รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​มหาดไทย​ พร้อมด้วยนายอรรษิษฐ์​ สัมพันธรัตน์​ ปลัดกระทรวงมหาดไทย​ และผู้บริหารระดับสูง​ ลงพื้นที่เทศบาลตำบลจำปี​ อำเภอศรีธาตุ​ จังหวัดอุดรธานี​ เพื่อพบปะประชาชน ที่โรงเรียนศรีธาตุพิทยาคม​ โดยมี​นายอดิศักดิ์ แก้วมุงคุณทรัพย์ สส.อุดรธานี​ พรรคไทยสร้างไทย​ ให้การต้อนรับ โดยนายอนุทิน​ ได้รับฟังการรายงานความคืบหน้าการ​แก้ไขปัญหา​ในพื้นที่ ก่อนจะขึ้นเวทีพร้อมกับ […]