ชัวร์ก่อนแชร์: สารสกัดจาก “ถั่วเน่า” ถอนพิษวัคซีนโควิดได้ จริงหรือ?

04 มิถุนายน 2567
แปลและเรียบเรียงบทความ : อดิศร สุขสมอรรถ
ตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล


ข้อมูลที่ถูกแชร์ :

มีข้อมูลเท็จเผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์ในสหรัฐอเมริกา เมื่อมีการเผยแพร่สูตรล้างพิษจากโปรตีนหนามในวัคซีนโควิด-19 ประกอบด้วยตัวยาที่มีส่วนประกอบของสารสกัดจากถั่วเน่า ขมิ้นชัน และ สับปะรด และยังอ้างถึงสรรพคุณการรักษาโรคลองโควิดอีกด้วย


บทสรุป :

  1. เป็นข้ออ้างผิด ๆ ที่เผยแพร่โดยแพทย์ที่มีประวัติเผยแพร่ข้อมูลเท็จเกี่ยวกับวัคซีนโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง
  2. ยังไม่มีการทดลองในสิ่งมีชีวิตว่าสารสกัดจากถั่วเน่า ขมิ้นชัน และ สับปะรด ช่วยกำจัดโปรตีนจากร่างกายได้
  3. แพทย์ผู้อ้างสูตรถอนพิษ เป็นทีมงานของบริษัทยาที่ค้ากำไรจากการขายอาหารเสริมที่อ้างผิด ๆ ว่ากำจัดโปรตีนหนามจากร่างกายได้
  4. ข้อมูลทางการแพทย์ยืนยันว่า mRNA และโปรตีนหนามตกค้างในร่างกายไม่นานและไม่เป็นอันตราย

FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง :

ผู้อยู่เบื้องหลังการเผยแพร่สูตรล้างพิษโปรตีนหนามในวัคซีนแบบผิด ๆ ได้แก่ ปีเตอร์ แม็คคัลลาห์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจ ผู้มีประวัติเผยแพร่ข้อมูลเท็จเกี่ยวกับวัคซีนโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง และเป็นเจ้าของสูตร McCullough Protocol ที่อ้างว่าการใช้ยารักษาโรคมาลาเรียและยาฆ่าพยาธิอย่าง Hydroxychloroquine และ Ivermectin สามารถรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ได้มาแล้ว ซึ่งไม่เป็นความจริง


ในช่วงปี 2023 ปีเตอร์ แม็คคัลลาห์ ได้เผยแพร่แนวคิดเรื่องภัยโปรตีนหนามจากวัคซีนอย่างต่อเนื่อง โดยอ้างว่าอาหารเสริมที่มีส่วนประกอบของ Nattokinase เอนไซม์ที่สกัดจากถั่วเน่า สามารถล้างพิษที่เกิดจากโปรตีนหนามของวัคซีนและรักษาอาการลองโควิดได้

นอกจากนี้ เขายังเผยแพร่สูตรอาหารเสริมล้างพิษจากวัคซีนหรือ Base Spike Detoxification ซึ่งประกอบไปด้วย Nattokinase (เอนไซม์สกัดจากถั่วเน่า) Curcumin (สารสกัดจากขมิ้นชัน) และ Bromelain (เอนไซม์สกัดจากสับปะรด)

คุณสมบัติของ Nattokinase

งานทดลองพบว่า Nattokinase มีคุณสมบัติด้านการละลายลิ่มเลือดและประโยชน์ด้านการป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจ

ในทางตรงกันข้าม ผู้ที่มีปัญหาการแข็งตัวของเลือดผิดปกติหรือผู้ที่กำลังรักษาตัวด้วยยาละลายลิ่มเลือด ไม่แนะนำให้บริโภคสารประกอบ Nattokinase เพราะอาจทำให้เกิดปัญหาเลือดไหลไม่หยุดได้

MINOLTA DIGITAL CAMERA

บิดเบือนงานวิจัยของผู้อื่น

ปีเตอร์ แม็คคัลลาห์ อ้างงานวิจัยของ ทานิคาวะ และคณะ ที่ตีพิมพ์ทางวารสาร Molecules เมื่อเดือนสิงหาคม 2022 ที่พบว่า Nattokinase สามารถทำลายโปรตีนหนาม นำมาซึ่งสมมติฐานว่า Nattokinase สามารถใช้ป้องกันการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้

อย่างไรก็ดี งานวิจัยดังกล่าวเกิดจากการทดลองกับเซลล์ในหลอดทดลอง โดยยังไม่มีการทดลองในสิ่งมีชีวิต จึงยังไม่อาจยืนยันได้ว่าจะได้ผลอย่างไรเมื่อใช้กับมนุษย์ นอกจากนี้ ในเนื้อหาของงานวิจัยไม่ได้บอกถึงคุณสมบัติด้านการล้างพิษจากวัคซีนอีกด้วย

บิดเบือนบทความของตนเอง

ปีเตอร์ แม็คคัลลาห์ อ้างว่าสูตรอาหารเสริมล้างพิษจากวัคซีน (Base Spike Detoxification) ที่ตนคิดค้นขึ้น นำมาจากงานวิจัยต่าง ๆ ที่ตนเองและทีมงานได้ศึกษาและตีพิมพ์บทความทางวารสาร Journal of American Physicians and Surgeons เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2023 ที่ผ่านมา

อย่างไรก็ดี Journal of American Physicians and Surgeons ซึ่งเผยแพร่โดยสมาคม Association of American Physicians and Surgeons เป็นวารสารที่ขาดความน่าเชื่อถือ เนื่องจากตัวสมาคมดำเนินงานโดยยึดหลักการสนับสนุนแนวคิดอนุรักษ์นิยมเป็นที่ตั้ง ส่วนตัววารสารก็มีประวัติเผยแพร่ข้อมูลเท็จทางการแพทย์อย่างต่อเนื่อง ทั้งการอ้างว่าโรคเอดส์ไม่ได้เกิดจากไวรัส HIV การฉีดวัคซีนเพิ่มความเสี่ยงเป็นโรคออทิสติก การทำแท้งทำให้เสี่ยงเป็นโรคมะเร็งเต้านม เป็นต้น

ในบทความ ปีเตอร์ แม็คคัลลาห์ อ้างถึงคุณสมบัติด้านการกำจัดโปรตีนหนามของ Nattokinase, Curcumin และ Bromelain แต่ผลวิจัยทั้งหมดนำมาจากการทดลองในหลอดทดลองและแบบจำลองทางคอมพิวเตอร์ และยังไม่มีการทดลองในสิ่งมีชีวิต ซึ่ง ปีเตอร์ แม็คคัลลาห์และทีมวิจัยเองก็ยังย้ำในบทความว่า ประโยชน์ด้านการรักษายังพิสูจน์ไม่ได้ เนื่องจากยังไม่มีการทดลองในมนุษย์

แต่กระนั้น ปีเตอร์ แม็คคัลลาห์ ก็ยังให้ความเห็นผ่านสื่ออย่างไม่มีหลักฐานว่า สารสกัดจากถั่วเน่า ขมิ้นชัน และสับปะรด สามารถล้างพิษโปรตีนหนามจากวัคซีนได้

ผลในหลอดทดลองไม่สามารถยืนยันผลที่จะเกิดกับสิ่งมีชีวิต

ดร.อิกอร์ โคเทอร์บาช รองผู้อำนวยการศูนย์ Center for Dietary Supplements Research ภาควิชาวิทยาศาสตร์การแพทย์ มหาวิทยาลัยอาร์คันซอ สหรัฐอเมริกา อธิบายว่า ผลจากการวิจัยในหลอดทดลองไม่สามารถยืนยันผลการรักษาในมนุษย์ได้ มีสารเคมีจากพืชมากกมายที่ให้ผลการป้องกันการติดเชื้อไวรัสต่าง ๆ ได้อย่างดีในหลอดทดลอง แต่ส่วนใหญ่ไม่ประสบความสำเร็จกับการใช้ในสัตว์ทดลอง ดังนั้นโอกาสจะนำมาใช้เป็นยารักษาในมนุษย์โดยยังไม่ทดลองจึงมีความเป็นไปได้ที่น้อยมาก

ผลประโยชน์ทับซ้อนจากการขายอาหารเสริมจอมปลอม

มีข้อความบนโลกออนไลน์ที่สนับสนุนความน่าเชื่อถือที่มีต่อสูตรล้างพิษโปรตีนหนามของ ปีเตอร์ แม็คคัลลาห์ โดยพยายามอ้างว่า ปีเตอร์ แม็คคัลลาห์ บอกสูตรยาที่เป็นประโยชน์สาธารณะโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ต่างจากบริษัทยาที่ค้ากำไรจากการแนะนำให้คนฉีดวัคซีน

อย่างไรก็ดี จากการตรวจสอบโดย Factcheck.org พบว่า ปีเตอร์ แม็คคัลลาห์ ยังดำรงตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายวิทยาศาสตร์ของบริษัทขายยา The Wellness Company ซึ่งหนึ่งในสินค้าขายดีของบริษัทได้แก่ Spike Support อาหารเสริมที่มีส่วนประกอบสารสกัดจากถั่วเน่า ซึ่งทางเว็บไซต์อ้างอย่างผิด ๆ ว่า เป็นอาหารเสริมที่มีคุณสมบัติด้านการล้างพิษโปรตีนหนามอีกด้วย

อาหารเสริมไม่สามารถรักษาโรคไม่ได้

ตามกฎหมายของสหรัฐอเมริกา การที่อาหารเสริมไม่จำเป็นต้องผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยาสหรัฐอเมริกา (FDA) คือสาเหตุทำให้มีการผลิตอาหารเสริมที่อ้างสรรพคุณเกินจริงจำนวนมากในท้องตลาด

อย่างไรก็ดี กฎหมายของสหรัฐอเมริกาไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาว่าอาหารเสริมมีคุณสมบัติด้านการรักษาโรค ดังนั้นการอ้างว่าอาหารเสริมที่มีสารสกัดจากถั่วเน่า มีคุณสมบัติล้างพิษโปรตีนหนามหรือรักษาลองโควิด จึงเข้าข่ายการโฆษณายาผิดประเภท

mRNA และโปรตีนหนามตกค้างในร่างกายไม่นาน

เดวิด อาร์ วอลต์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการวิเคราะห์โปรตีนและชีวโมเลกุล ยืนยันว่า การล้างพิษโปรตีนหนามจากวัคซีนเป็นเรื่องไม่จำเป็น เพราะไม่ว่าโปรตีนหนามจากการฉีดวัคซีนหรือการติดเชื้อไวรัส ร่างกายก็สามารถกำจัดโปรตีนหนามออกจากร่างกายในเวลาไม่กี่วัน มีแค่คนส่วนน้อยเท่านั้นที่ยังมีโปรตีนหนามตกค้างในร่างกายเป็นเวลานานหลังเกิดการสร้างภูมิต้านทานแล้ว

ข้อมูลจากศูนย์ Vaccine Education Center โรงพยาบาล Children’s Hospital of Philadelphia ยืนยันว่า mRNA มีอายุที่สั้นมาก และจะถูกร่างกายทำลายในเวลาไม่กี่วัน ส่งผลให้การสร้างโปรตีนหนามสิ้นสุดลง

ข้อมูลจากสมาคม Infectious Disease Society of America ยืนยันว่า โปรตีนหนามจากวัคซีนจะอยู่ในร่างกายไม่กี่สัปดาห์ ก่อนจะถูกร่างกายทำลายไปเอง

อย่างไรก็ดี ช่วงเวลาที่โปรตีนหนามอยู่ในร่างกายขึ้นอยู่กับอวัยวะที่ตรวจสอบ

งานวิจัยของ โอกาตะ และคณะ พบว่า กลุ่มตัวอย่าง 13 รายที่ฉีดวัคซีนโควิด-19 โดสแรก ส่วนใหญ่จะสามารถตรวจพบโปรตีนหนามในกระแสเลือดไม่เกิน 1 สัปดาห์

ส่วนงานวิจัยของ โรลต์เจน และคณะ พบว่าในกลุ่มตัวอย่างที่ฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 สามารถตรวจพบโปรตีนหนามในต่อมน้ำเหลืองหลังจากฉีดวัคซีนไปแล้วถึง 60 วัน ซึ่งเหตุผลที่พบโปรตีนหนามในต่อมน้ำเหลืองนานกว่าอวัยวะอื่น ๆ เนื่องจากในต่อมน้ำเหลืองเป็นที่อยู่ของเซลล์ภูมิคุ้มกันในร่างกายนั่นเอง

ประโยชน์ของวัคซีนมีมากกว่าความเสี่ยงจากโปรตีนหนาม

เดวิด อาร์ วอลต์ คือหนึ่งในทีมวิจัยที่รายงานความสัมพันธ์ที่อาจเกิดขึ้นระหว่างโปรตีนหนามและการป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบหลังการฉีดวัคซีนโควิด-19 ชนิด mRNA โดยตีพิมพ์งานวิจัยผ่านทางวารสาร Circulation เมื่อเดือนมกราคม 2023

ทีมวิจัยแยกกลุ่มตัวอย่างเป็นผู้ป่วยโรคกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบหลังฉีดวัคซีน และกลุ่มคนสุขภาพแข็งแรงหลังฉีดวัคซีน โดยพบว่าในกลุ่มผู้ป่วยโรคกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบหลังฉีดวัคซีนส่วนใหญ่ มีปริมาณโปรตีนหนามอยู่ในกระแสเลือดสูงกว่าคนสุขภาพดี ทีมวิจัยซึ่งตั้งสมมติฐานถึงความเป็นไปได้ว่า โปรตีนหนามอาจเป็นตัวการทำให้เกิดโรคกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ ซึ่งเป็นอาการข้างเคียงที่พบได้น้อยในผู้รับวัคซีนโควิด-19 ชนิด mRNA ซึ่งส่วนใหญ่จะพบในเพศชายและผู้ที่มีอายุน้อย

อย่างไรก็ดี ทีมวิจัยให้ความเป็นว่า ผลทดสอบยังจำเป็นต้องศึกษาความสัมพันธ์ที่ชัดเจนยิ่งขึ้นในอนาคต ซึ่งผลวิจัยไม่ได้เปลี่ยนแปลงคำแนะนำเรื่องประโยชน์และความเสี่ยงของวัคซีนโควิด-19 แต่อย่างใด

ปัจจุบันยังไม่มีวิธีรักษาลองโควิด

ส่วนการอ้างว่า การใช้อาหารเสริมจากถั่วเน่า ขมิ้นชัน และสับปะรด จะช่วยรักษาอาการลองโควิดก็ไม่เป็นความจริง เพราะนอกจากจะไม่มีคุณสมบัติดังกล่าวแล้ว ปัจจุบันยังไม่มีการค้นพบวิธีรักษาอาการลองโควิดอีกด้วย

ลองโควิดคืออาการป่วยเรื้อรังหลังการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งอาจเกิดจากการหลงเหลือของไวรัสในร่างกาย ซึ่งวิธีรักษาผู้ป่วยลองโควิดในปัจจุบันยังเป็นการรักษาตามอาการ

ผู้เชี่ยวชาญจึงแนะนำว่า วิธีการป้องกันลองโควิดที่ดีที่สุดคือการป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 ด้วยการสวมหน้ากากหรือฉีดวัคซีน

มีงานวิจัยที่พบว่า การใช้ยาต้านไวรัสชนิด Paxlovid หรือการใช้ยารักษาโรคเบาหวานชนิด Metformin ระหว่างติดเชื้อโควิด-19 อาจช่วยป้องกันการป่วยเป็นลองโควิดได้

เนื่องจากการวิจัยวิธีรักษาลองโควิดต้องใช้เวลานาน กลายเป็นการเปิดช่องทางให้ผู้ไม่หวังดี แนะนำวิธีการรักษาที่ยังไม่ได้รับการยืนยันประสิทธิผล เพื่อหาประโยชน์จากผู้คนที่ทนทรมานจากอาการป่วยและต้องการวิธีรักษาลองโควิดอย่างเร่งด่วน

ข้อมูลอ้างอิง :

https://www.factcheck.org/2023/09/scicheck-posts-push-unproven-spike-protein-detoxification-regimen/
https://healthfeedback.org/claimreview/no-scientific-evidence-for-claim-nattokinase-treat-long-covid-detox-covid19-vaccines/
https://healthfeedback.org/claimreview/peter-mccullough-makes-multiple-false-misleading-claims-covid19-vaccine-safety-efficacy-podcast/

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสานตอนบน ฝนตกหนักบางแห่ง

กรุงเทพฯ 29 ก.ค. – กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือตอนบน ภาคอีสานตอนบน และบริเวณด้านรับลมมรสุมมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 60% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และบริเวณด้านรับลมมรสุมมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย พะเยา น่าน ตาก บึงกาฬ นครพนม จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้ เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านประเทศเมียนมา และประเทศลาวตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบน และอ่าวไทยตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูงมากกว่า 2 […]

หยุดยิง! ชายแดนไทย-กัมพูชา เงียบสนิทตามเดดไลน์ 24.00 น.

29 ก.ค. – ไทย-กัมพูชา ตกลงหยุดยิงพร้อมกัน 24.00 น.ที่ผ่านมา โดยไม่มีเงื่อนไข ถือเป็นก้าวแรกสำคัญในการคลี่คลายสถานการณ์ รวมถึงฟื้นฟูสันติภาพและความมั่นคง ส่วนเช้าวันนี้ (29 ก.ค.) มีการประชุมระหว่างแม่ทัพของทั้งสองประเทศ และการประชุมระดับรัฐมนตรีกลาโหม 4 ส.ค. วานนี้ (28 ก.ค.) ที่ประชุมสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ทำเนียบนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ที่มีนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน เป็นคนกลางในการเจรจา สมเด็จฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา และนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาการนายกรัฐมนตรี ที่ประชุมบรรลุข้อตกลง 3 ข้อโดยเฉพาะ “ข้อตกลงหยุดยิงทันทีโดยไม่มีเงื่อนไข” มีผลตั้งแต่เที่ยงคืนที่ผ่านมา ถือเป็นก้าวแรกที่สำคัญในการคลี่คลายสถานการณ์ และฟื้นฟูสันติภาพและความมั่นคง เช้าวันนี้ (29 ก.ค.) มีการจัดประชุมอย่างไม่เป็นทางการ ระหว่างผู้บัญชาการกองกำลังของ 2 ประเทศ ได้แก่ กองทัพภาคที่ 1 และ 2 ของฝ่ายไทย และกองทัพภาคที่ […]

น้ำทะลักท่วม 4 ชุมชนริมน้ำแม่สาย เดือดร้อนหลายร้อยครัวเรือน

เชียงราย 28 ก.ค. – สถานการณ์น้ำท่วมแม่สายยังวางใจไม่ได้ หลังมวลน้ำจากต้นน้ำแม่สายที่เมียนมา สูงขึ้นต่อเนื่องตลอดทั้งวัน จนน้ำสายทะลักท่วมบ้านเรือนประชาชน 4 ชุมชน ชาวบ้านเดือดร้อนหลายร้อยครัวเรือน บริเวณสะพานมิตรภาพแม่น้ำสายแห่งที่ 1 เจ้าหน้าที่นำรถแบ็กโฮแขนยาวมาตักเศษไม้เศษสวะที่ขวางทางน้ำ ซึ่งระดับน้ำในลำน้ำสายที่กั้นพรมแดนไทย-เมียนมา เพิ่มสูงจนเกือบล้นขึ้นมาบนสะพานแล้ว แต่ยังอยู่ต่ำกว่าแนวป้องกันน้ำท่วมที่ทางกรมการทหารช่างสร้างไว้ แต่น้ำไหลเชี่ยวกราก พัดเอาเศษไม้เศษขยะซัดกระแทกสะพานอย่างอย่างต่อเนื่อง โดยน้ำในลำน้ำสายทรงตัวสูงมาหลายชั่วโมงแล้ว หลังทะลักเข้าท่วมหลายชุมชนชายแดนแม่สายซ้ำรอยปีที่แล้ว แม้ระดับน้ำและสถานการณ์ยังไม่หนักเท่า แต่ต้องเฝ้าระวัง ขณะที่ทางฝั่งจังหวัดท่าขี้เหล็ก ของเมียนมา กำลังถูกน้ำท่วมหนัก จนต้องปิดด่านชายแดนไปก่อน และน้ำที่ผ่านไหลสะพานตอนนี้ ถือว่าเป็นมวลน้ำก่อนใหญ่ก้อนสุดท้ายที่ไหลมาจากต้นน้ำที่หมู่บ้านโจตาดา ประเทศเมียนมา ที่อยู่ห่างจากสะพานมิตรภาพแม่น้ำสายแห่งที่ 1 ไปกว่า 30 กิโลเมตร หากผ่านพ้นค่ำคืนนี้ไปได้และไม่มีฝนตกหนักทางต้นน้ำน่าจะพอเบาใจได้ นายอำเภอแม่สายบอกว่า ตอนนี้อพยพประชาชนกลุ่มเปราะบาง ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียงไปอยู่ตามศูนย์พักพิงและพื้นที่ปลอดภัยแล้ว.-สำนักข่าวไทย

น้ำยืนเดือด ระเบิดตก 8 ลูก วัวตาย 1 ตัว

อุบลราชธานี 28 ก.ค. – ตลอดช่วงบ่ายที่ผ่านมา พื้นที่ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ยังมีรายงานเสียงปืนใหญ่ดังต่อเนื่อง จรวด BM 21 จำนวน 8 ลูก ข้ามตกข้ามมายังฝั่งไทย ทำให้พื้นที่การเกษตรเสียหาย วัวของชาวบ้านตาย 1 ตัว ช่วงบ่ายที่ผ่านมา จรวด BM 21 จำนวน 8 ลูก ตกยังพื้นที่สวนปาล์ม จากนั้นเจ้าหน้าที่เดินทางเข้าไปตรวจสอบพบความเสียหายจากแรงระเบิดหลายจุด อีกทั้งยังทำให้วัวตาย 1 ตัว ด้านเจ้าของวัวได้ให้ข้อมูลว่า แถวหมู่บ้านไม่เคยพบกระสุนเข้ามาตกในพื้นที่ ขณะเกิดเหตุตนกำลังเกี่ยวหญ้าให้วัว ได้ยินเสียงระเบิดดังสนั่น รู้สึกตกใจมาก รีบวิ่งไปดูวัว ซึ่งต่อมาได้ตายระหว่างเคลื่อนย้ายอพยพ อีกทั้งเป็นที่น่าสังเกตว่าเวลา 15.00 น. ซึ่งมีการเริ่มการเจรจาระหว่างรัฐบาลไทยและรัฐบาลกัมพูชา ที่ประเทศมาเลเซีย เสียงปืนได้สงบลงประมาณ 1 ชั่วโมง หลังจากนั้นเมื่อเวลา 16.00 น. ก็เริ่มได้ยินเสียงปืนใหญ่ดังกึกก้องต่อเนื่องอีกครั้ง ส่วนบรรยากาศในตลาดสดแห่งหนึ่งในพื้นที่ปะทะ ยังมีกลุ่มพ่อค้าจิตอาสาช่วยกันจัดเตรียมอาหาร เพื่อนำอาหารไปแจกจ่ายแก่ผู้นำชุมชนรวมถึงเจ้าหน้าที่ โดยได้ตั้งโรงครัว […]