ชัวร์ก่อนแชร์: ความคืบหน้าการวิจัยวัคซีน mRNA พิชิตมะเร็ง

22 มิถุนายน 2567
แปลและเรียบเรียงบทความโดย: อดิศร สุขสมอรรถ
ตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล


ความสำเร็จของการใช้วัคซีน mRNA ป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ช่วง 4 ปีที่ผ่านมา เปิดโอกาสให้มีการนำเทคโนโลยี mRNA ไปต่อยอดเพื่อการป้องกันและรักษาโรคต่าง ๆ ซึ่งการทดลองที่ได้รับการจับตามากที่สุดคือการใช้วัคซีน mRNA สำหรับการรักษาผู้ป่วยมะเร็ง

วัคซีน mRNA เพื่อการรักษามะเร็ง ไม่ใช่แค่ป้องกันมะเร็ง


mRNA สำหรับการรักษาผู้ป่วยมะเร็ง ไม่ใช่วัคซีนเพื่อป้องกันการป่วยเป็นมะเร็ง แต่เป็นวัคซีนที่ใช้เพื่อรักษาผู้ป่วยมะเร็งโดยเฉพาะ

วัคซีน mRNA เพื่อป้องกันไวรัสโควิด-19 และวัคซีน mRNA เพื่อรักษาผู้ป่วยมะเร็งมีโครงสร้างที่คล้ายกัน คือการกระตุ้นภูมิคุ้มกันในร่างกายด้วยการใช้สารพันธุกรรม RNA ดัดแปลงที่ห่อหุ้มด้วยอนุภาคไขมัน Lipid Nanoparticle ฉีดเข้าสู่ร่างกาย

แต่ความต่างอยู่ที่ mRNA ในวัคซีนผู้ป่วยมะเร็งคือรหัสพันธุกรรมที่กระตุ้นให้เซลล์ในร่างกายสร้างโปรตีนที่คล้ายกับของเซลล์มะเร็งของผู้ป่วยมะเร็ง (Tumor-Specific Antigens และ Neoantigens) เพื่อให้ภูมิคุ้มกันในร่างกายจดจำและพุ่งเป้าทำลายเซลล์มะเร็งโดยเฉพาะ โดยไม่กระทบต่อเซลล์ปกติของผู้ป่วย


วัคซีนรักษามะเร็งเฉพาะบุคคล

เนื่องจากเซลล์มะเร็งของผู้ป่วยแต่ละรายมีความเฉพาะเจาะจง การผลิตวัคซีน mRNA รักษามะเร็งให้สำเร็จ จำเป็นต้องนำเซลล์มะเร็งของผู้ป่วยมาใช้ในการผลิตวัคซีนรักษามะเร็งเฉพาะบุคคล ซึ่งเป็นวิธีการที่ช่วยเพิ่มโอกาสการรักษาผู้ป่วยมะเร็งแต่ละรายได้อย่างมาก

ฟิลลิป ซานแทนเจโล นักวิจัยมะเร็งจากมหาวิทยาลัยเอมอรี และผู้นำโครงการวิจัยวัคซีน mRNA ซึ่งได้รับทุนจากรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ชี้แจงว่า เทคโนโลยี mRNA คือวิธีการที่เรียบง่ายในการสอนให้เซลล์ผลิตโปรตีนที่จำเป็นต่อการกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน เพื่อเร่งกระบวนการกำจัดเซลล์มะเร็งโดยเฉพาะ

ความคืบหน้าวัคซีน mRNA เพื่อรักษามะเร็งผิวหนัง

หนึ่งในวัคซีน mRNA เพื่อรักษามะเร็งที่มีความก้าวหน้าในการทดลองมากที่สุด ได้แก่วัคซีน mRNA ที่ร่วมผลิตโดยบริษัทยา Moderna (mRNA-4157) และ Merck (V940) เพื่อรักษามะเร็งผิวหนังชนิด Melanoma ซึ่งเป็นหนึ่งในมะเร็งที่มีความรุนแรงอย่างมาก

ในการทดลองทางคลินิกระยะที่ 2 เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2024 มีอาสาสมัครที่เป็นผู้ป่วยมะเร็งผิวหนังชนิด Melanoma ซึ่งผ่านการรักษาด้วยการผ่าตัดแล้ว มาร่วมทดลองวัคซีนจำนวน 157 ราย

การทดลองแบ่งกลุ่มควบคุมเป็นผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาด้วยยาแอนติบอดี้รักษาโรคมะเร็งชนิด KEYTRUDA (pembrolizumab) จำนวน 50 ราย และกลุ่มทดลองที่รักษาด้วยยา KEYTRUDA ร่วมวัคซีนจำนวน 107 ราย

เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2024 บริษัท Moderna ได้ประกาศผลการทดลองทางคลินิกระยะที่ 2b โดยพบว่า กลุ่มทดลองที่ใช้ยารักษามะเร็งร่วมกับวัคซีน ลดความเสี่ยงการเกิดมะเร็งซ้ำหรือเสียชีวิตจากมะเร็งได้มากกว่ากลุ่มควบคุมที่ใช้ยารักษามะเร็งอย่างเดียวที่ 49% และการใช้วัคซีนร่วมกับยารักษามะเร็ง ลดการแพร่กระจายของมะเร็งไปยังอวัยวะอื่น ๆ มากกว่าการใช้ยารักษามะเร็งอย่างเดียวถึง 62%

ส่วนอัตราการรอดชีวิตโดยมะเร็งไม่เกิดซ้ำอีก (Recurrence-Free Survival Rate) ในระยะเวลา 2.5 ปี พบว่า กลุ่มควบคุมที่ใช้ยารักษามะเร็งอย่างเดียวอยู่ที่ 55.6% ส่วนกลุ่มทดลองที่ใช้ยารักษามะเร็งร่วมกับวัคซีนอยู่ที่ 74.8%

ส่วนอาการข้างเคียงจากผู้รับวัคซีน mRNA เพื่อรักษาผิวหนัง (mRNA-4157) ที่พบส่วนใหญ่ได้แก่ อาการอ่อนเพลีย หนาวสั่น และปวดบริเวณที่ฉีดยา

บริษัทยา Moderna และ Merck ยังได้ประกาศการทดลองทางคลินิกระยะที่ 3 กับผู้ป่วยความเสี่ยงสูงจากมะเร็งผิวหนังชนิด Melanoma และผู้ป่วยมะเร็งปอดชนิดเซลล์ที่ขนาดไม่เล็ก (non-small cell lung cancer) รวมถึงการทดลองทางคลินิกระยะที่ 2 กับผู้ป่วยมะเร็งเนื้อเยื่อไต (Renal Cell Carcinoma) และมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ (Urothelial carcinoma) และการทดลองทางคลินิกระยะที่ 2/3 กับผู้ป่วยมะเร็งผิวหนังชนิด Cutaneous Squamous Cell Carcinoma

ความคืบหน้าวัคซีน mRNA เพื่อรักษามะเร็งตับอ่อน

ขณะเดียวกัน บริษัทยา BioNTech และ Genentech ได้ร่วมกันทดลองวัคซีน mRNA เพื่อรักษาหนึ่งในมะเร็งตับอ่อนชนิดที่ร้ายแรงที่สุด ได้แก่ มะเร็งท่อน้ำดีของตับอ่อน (Pancreatic Ductal Adenocarcinoma)

ในการทดลองทางคลินิกระยะที่ 1 เมื่อพฤษภาคม 2023 เป็นการทดลองกับผู้ป่วยมะเร็งตับอ่อนที่ผ่านการผ่าตัดแล้วจำนวน 15 ราย โดยรักษาด้วยยาเคมีบำบัด ยาแอนติบอดี้รักษาโรคมะเร็งชนิด Tecentriq (Atezolizumab) และวัคซีน mRNA เพื่อรักษามะเร็งจำนวน 9 โดส ซึ่งประกอบด้วย Neoantigens หรือโปรตีนที่คล้ายกับของเซลล์มะเร็งของผู้ป่วยมะเร็งจำนวน 20 ชนิด

การทดลองพบว่า ผู้ป่วยครึ่งหนึ่งได้รับการกระตุ้นการทำงานเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิดทีเซลล์อย่างสูงหลังได้รับวัคซีน ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีอัตราการรอดชีวิตโดยมะเร็งไม่เกิดซ้ำอีก (Recurrence-Free Survival Rate) สูงกว่ากลุ่มที่ไม่ได้รับการกระตุ้นการทำงานของทีเซลล์

โดยพบว่าหลังจากผ่านไปแล้ว 3 ปี กลุ่มผู้ป่วยที่ได้รับการกระตุ้นภูมิคุ้มกันจากวัคซีน mRNA ยังมีระดับของภูมิคุ้มกันที่สูงเช่นเดิม

ความสำเร็จที่ต่อยอดจากวัคซีนโควิด-19

ฟิลลิป ซานแทนเจโล นักวิจัยมะเร็งจากมหาวิทยาลัยเอมอรี มองว่าการอุบัติของโรคโควิด-19 คือส่วนกระตุ้นให้การใช้เทคโนโลยี mRNA เพื่อการรักษาถูกพัฒนาแบบก้าวกระโดด ทั้งการวิจัยและการผลิตในวงกว้าง ซึ่งการใช้วัคซีนโควิด-19 ชนิด mRNA อย่างแพร่หลาย ยังเป็นการยืนยันประสิทธิผลและความปลอดภัยของวัคซีน mRNA อีกด้วย

ดร.เจมส์ เอ. ฮอกซี ศาสตราจารย์กิตติคุณ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย เปิดเผยว่า การวิจัยวัคซีน mRNA เท่าที่ผ่านมาล้วนประสบความสำเร็จอย่างน่าพอใจ เห็นได้ชัดเจนว่าวัคซีน mRNA ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันเพื่อลดการเติบโตของเซลล์มะเร็งและยับยั้งการกลับมากำเริบของมะเร็งอย่างมีประสิทธิภาพ สิ่งที่ต้องรอการพิสูจน์คือผลการรักษาในระยะยาว ว่าการใช้วัคซีน mRNA สามารถยับยั้งมะเร็งได้นานเพียงใด ซึ่งหลักฐานที่พิสูจน์ได้ในปัจจุบันคือ เทคโนโลยี mRNA ช่วยพัฒนามาตรฐานการรักษาผู้ป่วยมะเร็งอย่างไม่เคยมีมาก่อน

ข้อมูลอ้างอิง :

https://www.factcheck.org/2024/03/scicheck-social-media-posts-misinterpret-biden-on-mrna-cancer-vaccines/
https://investors.modernatx.com/news/news-details/2024/Moderna–Merck-Announce-3-Year-Data-For-mRNA-4157-V940-in-Combination-With-KEYTRUDAR-pembrolizumab-Demonstrated-Sustained-Improvement-in-Recurrence-Free-Survival–Distant-Metastasis-Free-Survival-Versus-KEYTRUDA-in-Patients-With-High-Risk-Stage-IIIIV/default.aspx
https://www.nature.com/articles/s41586-023-06063-y

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชูความสำเร็จทีมไทยแลนด์ ปิดดีลภาษีสหรัฐที่ 19%

ทำเนียบ 1 ส.ค.-โฆษกรัฐบาล เผย ปิดดีลภาษีนำเข้าสหรัฐสำเร็จที่ 19% เกาะกลุ่มระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค ชู เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศแล้วว่าจะเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าฯ จากสินค้าของไทยในอัตรา 19 % ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป นายจิรายุ กล่าวว่า อัตราภาษีดังกล่าวที่ ต่ำกว่า อัตราเดิม 36 % และเกาะอยู่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สามารถรักษาการแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้เจรจากับสหรัฐสำเร็จแล้วก่อนหน้านี้ “การปิดดีลครั้งนี้ของรัฐบาลไทย ในระดับภาษีนำเข้าฯ ไว้ที่ 19% ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win เพื่อรักษาฐานการส่งออกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ” นายจิรายุกล่าว […]

รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราว

อุบลราชธานี 31 ก.ค. – โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ออกหนังสือขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ งานด้านการแพทย์และพยาบาล ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์ มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับและรายงานความคืบหน้าการดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ชายแดน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราวขณะที่ในวันเดียวกัน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ออกเอกสารขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา ใจความในหนังสือว่า “โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้ให้การตรวจรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามารักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ และจากมติที่ประชุมคณะกรรมการคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีมติดังนี้ 1.ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา และจิตอาสาภาษาต่างประเทศ2.ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว3.ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา4.ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้จำกัดพื้นที่ชัดเจน ในการนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 10 […]

รมช.มท. โฟนอินผู้ว่าฯ อุบลฯ ตอบกลางสภา ยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ

รัฐสภา 31 ก.ค.-สส.ศรีสะเกษ ภูมิใจไทย ทวงถามเงินช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้ตั้งแต่วันแรกยังไม่ได้เงินรัฐบาลสักบาท ซัด “ผู้ว่าฯ อุบล” อ้างกลัวติดคุกไม่กล้าเบิกงบ ด้าน รมช.มหาดไทย ต่อสายโฟนอิน ผู้ว่าฯ ตอบกลางสภา ยืนยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา โดยนายธนา กิจไพบูลย์ชัย สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย สอบถามกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งนายกรัฐมนตรี มอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นผู้ตอบกระทู้ แต่เนื่องจากนายภูมิธรรม ติดภารกิจจึงมอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงแทน นายธนา กล่าวว่า จากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีงบประมาณจากส่วนกลางลงพื้นที่แม้แต่บาทเดียว ทุกวันนี้เราอาศัยเงินบริจาคเป็นหลัก และนำงบขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) […]

ทูตไทยตอบโต้กัมพูชา หลังยกกรณีปัญหาชายแดนที่ยูเอ็น

นิวยอร์ก 31 ก.ค. – เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ โต้ผู้แทนกัมพูชา ซึ่งหยิบประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นพูดผิดกาลเทศะ ผิดวาระ ในที่ประชุมสหประชาชาติ วาระสำคัญของการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศในเวทีสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวานนี้ คือการผลักดันเพื่อระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธี แต่ปรากฏว่านาย เจีย แก้ว เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหประชาชาติ กลับพูดในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุม โดยพาดพิงถึงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ จึงกล่าวตอบโต้โดยชี้แจงข้อมูลความจริงในประเด็นที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุว่า เป็นที่น่าเสียดายที่มีคณะผู้แทนหยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาในที่ประชุม ซึ่งเป็นเวทีที่หลายฝ่ายรอคอย และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างเป็นธรรม ถาวร และครอบคลุม ผ่านแนวทางสันติวิธีโดยการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย กล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศไทยไม่ได้มีเจตนาจะนำเรื่องทวิภาคีเข้าสู่เวทีสำคัญดังกล่าว แต่ต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด โดยย้ำว่าเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ไทยและกัมพูชา ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แต่หลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 กรกฎาคม อีกฝ่ายกลับใช้อาวุธข้ามพรมแดน และบุกรุกเข้ามาในดินแดนของไทยอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือทำให้เข้าใจผิด และให้มีส่วนร่วมด้วยเจตนาดี.-810.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

พล.อ.ณัฐพล แจ้งกัมพูชา เร่งมาเก็บศพทหาร หวั่นเกิดโรคระบาด

ทำเนียบ 4 ส.ค.-พล.อ.ณัฐพล ยืนยันดูแลทหารกัมพูชาที่ถูกควบคุมตัวอย่างดี พร้อมเปิดให้องค์การระหว่างประเทศร่วมตรวจสอบ ขอให้ประชาชนมั่นใจการประชุม GBC เชื่อจะทำอย่างรอบคอบ ยึดผลประโยชน์ประเทศ พร้อมแจ้ง รมต.กลาโหมกัมพูชา เร่งมาเก็บศพทหารกัมพูชา หวั่นทิ้งไว้นานอาจเกิดโรคระบาด พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) ว่า ในการประชุม GBC ที่เริ่มขึ้นในวันนี้  เราได้มีการเตรียมแนวทางที่จะไปประชุมตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว และวันศุกร์ที่ผ่านมาก็ได้เสนอให้ที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติพิจารณา เพื่อให้เห็นชอบ จากนั้น ก็ได้มาเตรียมการในเช้าวันเสาร์ ประกอบกับในช่วงบ่ายวันเดียวกัน ทางมาเลเซียได้ติดต่อขอประชุม 3 ฝ่าย ซึ่งประกอบไปด้วย รัฐมนตรีกลาโหมมาเลเซีย ไทย และกัมพูชา แต่ในการประชุม 3 ฝ่าย ไม่ได้มีการลงประเด็น โดยไทยตอบเพียงในเรื่องหลักการ และในวันอาทิตย์ก็ได้คุยกับเหล่าทัพว่า ยืนยันและรับได้หรือไม่ รับได้ไหม พอใจไหม สบายใจไหม เหล่าทัพก็สบายใจ และกองเลขาฯ ก็ไปประชุม GBC ซึ่งจะใช้เวลาประชุมในช่วงวันที่ 4-6 สิงหาคม และในวันที่ 6 […]

เตรียมเรียก “เป๊ก ผลิตโชค” และคนขับกระบะเข้าให้การ

กทม. 4 ส.ค.-ตำรวจเตรียมเรียก “เป๊ก ผลิตโชค” มาให้การอย่างละเอียด รวมถึงคนขับกระบะ ด้านผู้ก่อเหตุ สอบปากคำเรียบร้อยแล้ว พ.ต.อ.นเรนทร์ เครื่องสนุก ผกก.สน.หัวหมาก เปิดเผยว่าคดี “เป๊ก ผลิตโชค” ถูกฟันบริเวณคาง ภายในปั๊มน้ำมัน คดีนี้ไม่มีความซับซ้อนทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน ขณะนี้รวบรวมพยานหลักฐานได้มากพอสมควรแล้ว ยังเหลือเรื่องของคำให้การของพยาน โดยหลังจากนี้จะเรียก “เป๊ก ผลิตโชค” ในฐานะผู้ถูกกระทำมาให้การอย่างละเอียด รวมถึงจะเชิญคนขับรถกระบะที่ “เป๊ก” ปีนขึ้นไป ตอนนี้พนักงานสอบสวนพยายามติดต่ออยู่ และพยานต่างๆ ที่อยู่ในเหตุการณ์ก็ต้องเรียกมาให้การเพิ่มเติมด้วย ส่วนนายชุติเทพ ที่เป็นผู้ก่อเหตุได้ทำการสอบปากคำไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนเรื่องการตรวจร่างกายของ “เป๊ก” นั้น ก็เป็นในส่วนของแพทย์.-419.-สำนักข่าวไทย

สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ปกติ

ทำเนียบ 4 ส.ค.-สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ปกติ หน่วยงานความมั่นคงยังเฝ้าระวัง วางแนวกำลังปฏิบัติการตามแผน นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา (ศบ.ทก.) เปิดเผยรายงานสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชาว่า ภาพรวมเหตุการณ์ทั่วไปถึงเช้าวันนี้ ยังคงเป็นปกติ ไม่มีรายงานเหตุการณ์รุนแรงในทุกพื้นที่ 7 จังหวัดชายแดน ทั้งนี้ หน่วยงานความมั่นคงยังคง เฝ้าระวัง โดยยังวางกำลังตามแนวปฏิบัติการตามแผน เพื่อรักษาอธิปไตยไทยและความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน.-314.-สำนักข่าวไทย

ปรากฏการณ์ “ดาวตกลูกไฟ” โผล่บนท้องฟ้า

4 ส.ค. – สมาคมดาราศาสตร์ไทยแจงปรากฏการณ์ “ดาวตกลูกไฟ” โผล่บนท้องฟ้าหลายจังหวัดของประเทศไทย เมื่อคืนที่ผ่านมา เวลา 00.00 น. (วันที่ 4 ส.ค.) สมาคมดาราศาสตร์ไทยได้แจ้งว่า เกิดลูกไฟขนาดใหญ่พร้อมกับเสียงระเบิดดังขึ้นปรากฏบนท้องฟ้าเหนือหลายจังหวัดของประเทศไทย เมื่อสักครู่ที่ผ่านมา จากตรวจสอบน่าจะเป็น ดาวตกชนิดลูกไฟ (meteoroid) โดยลักษณะที่ปรากฏเป็นแสงสีเขียว อาจบ่งบอกถึงองค์ประกอบของธาตุนิกเกิล โดยทั่วไปแล้ว ดาวตก (Meteor) เกิดขึ้นเมื่อวัตถุท้องฟ้าขนาดเล็กเคลื่อนที่เข้าสู่ชั้นบรรยากาศโลกและเสียดสีกับอากาศที่ระดับความสูงประมาณ 80-120 กิโลเมตร ทำให้เกิดแสงสว่างวาบพาดผ่านท้องฟ้า ยิ่งวัตถุมีขนาดใหญ่เท่าใด ปริมาณความร้อนและแสงสว่างที่เกิดขึ้นก็จะยิ่งมากตามไปด้วย จากภาพและคลิปวิดีโอที่เผยแพร่ออกมา ดาวตกในครั้งนี้มีขนาดใหญ่และมีความสว่างมากเป็นพิเศษ ความสว่างของมันใกล้เคียงกับดาวศุกร์ ทำให้ถูกจัดเป็นดาวตกชนิด #ลูกไฟ (Fireball) อย่างชัดเจน ส่วนการปรากฏของแสงสีเขียว สามารถตีความได้ว่าดาวตกนี้มีส่วนประกอบของธาตุโลหะอย่างนิกเกิล.-สำนักข่าวไทย