ชัวร์ก่อนแชร์: Pfizer ยอมรับ ไม่เคยทดสอบการแพร่เชื้อจากผู้ฉีดวัคซีน จริงหรือ?

20 มิถุนายน 2567
แปลและเรียบเรียงบทความ : อดิศร สุขสมอรรถ
ตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล


ข้อมูลที่ถูกแชร์ :

มีข้อมูลบิดเบือนแพร่ทางคลิปวิดีโอทาง X (Twitter) ในสหรัฐอเมริกา เมื่อ ร็อบ รูส์ สมาชิกรัฐสภายุโรปชาวดัตช์ อ้างว่าผู้บริหารของ Pfizer บริษัทผู้ผลิตวัคซีนโควิด-19 ยอมรับว่า บริษัทไม่เคยทดสอบการป้องกันการแพร่เชื้อหลังการฉีดวัคซีน ดังนั้นการรณรงค์ให้ประชาชนเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด-19 จึงเป็นเรื่องหลอกลวง


บทสรุป :

  1. จุดประสงค์หลักของวัคซีนคือการป้องกันการเสียชีวิตและป่วยหนัก
  2. ไม่มีวัคซีนใดป้องกันการติดเชื้อหรือแพร่เชื้อได้ 100% แต่วัคซีนเหล่านั้นช่วยยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  3. การทดสอบในภายหลังพบว่าผู้ฉีดวัคซีนโควิด-19 ลดโอกาสการแพร่เชื้อได้มากกว่าผู้ไม่ฉีดวัคซีน

FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง :

คลิปที่ ร็อบ รูส์ กล่าวอ้าง นำมาจากคำชี้แจงของ เจนีน สมอล ประธานฝ่ายการตลาดประเทศพัฒนาแล้วของ Pfizer ระหว่างร่วมการไต่สวนที่รัฐสภายุโรปเมื่อวันที่ 10 ตุลาคมปี 2022


ร็อบ รูส์ ตั้งคำถามว่า “วัคซีนโควิด-19 ของ Pfizer ได้รับการทดสอบด้านการป้องกันการแพร่เชื้อก่อนนำมาใช้กับประชาชนหรือไม่” ซึ่ง เจนีน สมอล ตอบว่า “วัคซีนโควิด-19 ของ Pfizer ไม่มีการทดสอบการป้องกันการแพร่เชื้อจากผู้รับวัคซีนแต่อย่างใด”

คำตอบดังกล่าว ถูก ร็อบ รูส์ นำไปเผยแพร่ผ่านทาง X (Twitter) โดยโจมตีว่าการรณรงค์ฉีดวัคซีนโควิด-19 เป็นเรื่องโกหก เพราะวัคซีนไม่เคยถูกทดสอบว่าป้องกันการแพร่เชื้อได้หรือไม่ การบังคับให้ผู้คนฉีดวัคซีนเป็นเรื่องน่าตกใจ ไม่ต่างจากการก่ออาชญากรรม

ในเวลาแค่ 2 วันข้อความดังกล่าวถูกแชร์ไปกว่า 138,500 ครั้ง ได้รับยอดไลก์ไปถึง 232,600 ไลก์

อย่างไรก็ดี จุดประสงค์ของวัคซีนโควิด-19 คือการป้องกันการป่วยหนักและเสียชีวิต ไม่ใช่การป้องกันการแพร่เชื้อ และไม่มีหน่วยงานใดเคยอ้างว่าวัคซีนโควิด-19 สามารถป้องกันการแพร่เชื้อโควิด-19 ได้ 100%

ไม่เคยมีการอ้างประสิทธิผลการป้องกันการแพร่เชื้อ

อัลเบิร์ต เบอร์ล่า ซีอีโอของบริษัท Pfizer เคยให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว NBC ช่วงก่อนการอนุมัติวัคซีนโควิด-19 เมื่อวันที่ 3 ธันวาคมปี 2020 ว่า ณ ตอนนี้ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่า ผู้ที่ฉีดวัคซีนจะเป็นพาหะหรือแพร่เชื้อไปยังผู้อื่นได้หรือไม่ จำเป็นต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมต่อไป

แถลงการณ์ขององค์การอาหารและยาแห่งชาติสหรัฐอเมริกา (FDA) และองค์การยาของสหภาพยุโรป (EMA) หลังการอนุมัติวัคซีนโควิด-19 สำหรับการใช้ในกรณีฉุกเฉิน ได้ระบุประเด็นด้านประสิทธิผลการป้องกันการติดเชื้อและการป่วยหนักจากไวรัสโควิด-19 แต่ไม่มีข้อมูลยืนยันว่าวัคซีนจะป้องกันการติดเชื้อและป่วยจากไวรัสได้นานแค่ไหน และไม่มีหลักฐานว่าวัคซีนจะป้องกันการแพร่เชื้อจากคนสู่คนได้หรือไม่

ไม่มีวัคซีนใดป้องกันการติดเชื้อ-แพร่เชื้อได้ 100%

แทบจะไม่มีวัคซีนใด ๆ ในปัจจุบันที่สามารถป้องกันการติดเชื้อหรือแพร่เชื้อได้ 100% แต่วัคซีนเหล่านั้นก็สามารถยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ

วัคซีนโรต้าไวรัส ช่วยป้องกันอาการท้องร่วงในเด็กเล็ก ก็มีคุณสมบัติเพียงป้องกันการป่วยหนัก แต่หลังการรณรงค์ฉีดวัคซีนโรต้าไวรัสในสหรัฐฯ เมื่อปี 2006 เป็นต้นมา อัตราการรักษาตัวในโรงพยาบาลเพราะการติดเชื้อโรต้าไวรัสลดลงเกือบ 90%

วัคซีนโรคไอกรนสำหรับทารก ก็ไม่สามารถกำจัดเชื้อแบคทีเรียที่ก่อโรคไอกรนได้ทั้งหมด แต่เมื่อมีการฉีดวัคซีนโรคไอกรนในสหรัฐฯ เป็นครั้งแรกช่วงทศวรรษ 1940s อัตราการป่วยด้วยโรคไอกรนก็ลดลงจาก 100,000 รายต่อปี เหลือเพียง 10,000 รายต่อปีในปี 1965

นาตาชา โครว์ครอฟท์ ผู้เชี่ยวชาญด้านวัคซีนและที่ปรึกษาด้านโรคหัดและโรคหัดเยอรมันให้กับองค์การอนามัยโลก (WHO) อธิบายต่อนิตยสารวิทยาศาสตร์ Scientific American ว่า วัคซีนไข้หวัดใหญ่ก็ไม่สามารถป้องกันการแพร่เชื้อได้ ปัจจัยมาจากระดับภูมิคุ้มกันของผู้ป่วยและการกลายพันธุ์อย่างรวดเร็วของไวรัส แต่วัคซีนไข้หวัดใหญ่ก็ช่วยป้องกันการรักษาตัวในโรงพยาบาลได้ถึง 40% และป้องกันการรักษาตัวในห้องฉุกเฉินได้ถึง 82%

วัคซีนสร้างเพื่อป้องกันป่วย-ตาย

ประโยชน์ทางอ้อมของวัคซีนยังรวมถึงการแบ่งเบาภาระให้กับหน่วยงานสาธารณสุข เพราะการป้องกันการป่วยหนักของวัคซีน ช่วยเพิ่มโอกาสการรักษาตัวในโรงพยาบาลและการรอดชีวิตให้กับผู้ป่วยโควิด-19 และผู้ป่วยโรคร้ายแรงอื่น ๆ

ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติสหรัฐอเมริกา (CDC) ระบุว่าในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2021 พบว่า ผู้ไม่ฉีดวัคซีนมีอัตราการเสียชีวิตจากโควิด-19 ต่อสัปดาห์อยู่ที่ 1.5 ถึง 11 รายต่อประชากร 100,000 คน ต่างจากผู้ที่ฉีดวัคซีนที่มีอัตราการเสียชีวิตจากโควิด-19 ต่อสัปดาห์อยู่ที่ 0.1 ถึง 0.7 รายต่อประชากร 100,000 คนเท่านั้น

งานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสารการแพทย์ JAMA Internal Medicine พบว่า ระหว่างเดือนมกราคมถึงเมษายนปี 2022 ซึ่งเป็นช่วงที่ไวรัสโอไมครอนระบาดอย่างหนักในสหรัฐฯ อัตราการรักษาตัวในโรงพยาบาลเพราะโควิด-19 ในกลุ่มผู้ไม่ฉีดวัคซีนสูงกว่าคนฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นถึง 10.5 เท่า ส่วนคนที่ยังไม่ฉีดเข็มกระตุ้นก็มีอัตราการรักษาตัวในโรงพยาบาลเพราะโควิด-19 สูงกว่าคนที่ฉีดเข็มกระตุ้นแล้วที่ 2.5 เท่า

การทดสอบการป้องกันการแพร่เชื้อของวัคซีนโควิด-19

แม้ระหว่างการทดลองทางคลินิก จะไม่มีการทดสอบประสิทธิภาพการป้องกันการแพร่เชื้อของวัคซีนโควิด-19 แต่ต่อมาก็มีงานวิจัยหลายชิ้นที่ศึกษาประสิทธิภาพการป้องกันการแพร่เชื้อของวัคซีนโควิด-19 ในภายหลัง

เดวิด กอร์สกี ศาสตราจารย์ด้านศัลยกรรมและมะเร็งวิทยา มหาวิทยาลัย Wayne State University อธิบายว่า การทดลองทางคลินิกของ Pfizer คือการทดสอบความปลอดภัยและประสิทธิผลของวัคซีน ซึ่งการทดสอบการป้องกันการแพร่เชื้อของวัคซีนมีรูปแบบที่แตกต่างจากการทดสอบความปลอดภัยและประสิทธิผลของวัคซีน จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมถึงไม่มีการทดสอบการป้องกันการแพร่เชื้อของวัคซีนในระหว่างการทดลองทางคลินิก แต่มาศึกษาหลังจากวัคซีนได้รับการอนุมัติแล้ว ซึ่งเป็นการตรวจสอบประสิทธิผลและความปลอดภัยของวัคซีนหลังใช้งานจริง

งานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสารการแพทย์ The Lancet เมื่อปี 2021 พบว่า บุคลากรทางการแพทย์ในประเทศอังกฤษที่ฉีดวัคซีนโควิด-19 ของ Pfizer-BioNTech ครบ 2 โดส มีอัตราการติดเชื้อโควิด-19 น้อยกว่าคนไม่ฉีดวัคซีนถึง 3 เท่า (คนฉีดติดเชื้อ 4 จาก 10,000 ราย/วัน คนไม่ฉีดติดเชื้อ 14 จาก 10,000 ราย/วัน)

งานวิจัยในประเทศอังกฤษที่ตีพิมพ์ในวารสารการแพทย์ New England Journal of Medicine เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2022 พบว่า โดยทั่วไปแล้ว ผู้ที่ฉีดวัคซีนมีโอกาสแพร่เชื้อน้อยกว่าผู้ไม่ฉีดวัคซีน แม้ช่วงที่ไวรัสเดลต้าแพร่ระบาดจะพบว่า การป้องกันการแพร่เชื้อของวัคซีนลดประสิทธิภาพลง แต่ยังพบว่าวัคซีนโควิด-19 ของ Pfizer-BioNTech ลดการแพร่เชื้อไวรัสเดลต้าแก่ผู้ฉีดวัคซีนได้ดีกว่าวัคซีนโควิด-19 ของ AstraZeneca

งานวิจัยในประเทศอิสราเอลพบว่า ในครอบครัวที่มีผู้ปกครองติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 1 ราย โอกาสที่เด็กในบ้านซึ่งยังไม่ฉีดวัคซีนจะติดเชื้อโควิด-19 จะลดลงอย่างมากหากผู้ปกครองที่ติดเชื้อฉีดวัคซีนแล้ว โดยช่วงที่ไวรัสอัลฟ่าระบาด โอกาสแพร่เชื้อจากผู้ปกครองที่ฉีดวัคซีนสู่เด็กลดลงถึง 72.1% และลดลง 79.6% ในช่วงที่ไวรัสเดลต้าระบาด

งานวิจัยในประเทศเดนมาร์กซึ่งตรวจสอบการติดเชื้อใน 20,000 ครัวเรือน พบว่าการฉีดวัคซีนช่วยลดโอกาสการติดเชื้อและแพร่เชื้อโควิด-19 ได้อย่างมาก แม้แต่ในช่วงที่ไวรัสโอไมครอนแพร่ระบาดก็ตาม

ข้อมูลอ้างอิง :

https://healthfeedback.org/claimreview/scientific-studies-show-pfizer-biontech-covid-19-vaccine-reduces-transmission-claim-rob-roos-misleading/
https://www.factcheck.org/2022/10/scicheck-its-not-news-nor-scandalous-that-pfizer-trial-didnt-test-transmission/

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสานตอนบน ฝนตกหนักบางแห่ง

กรุงเทพฯ 29 ก.ค. – กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือตอนบน ภาคอีสานตอนบน และบริเวณด้านรับลมมรสุมมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 60% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และบริเวณด้านรับลมมรสุมมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย พะเยา น่าน ตาก บึงกาฬ นครพนม จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้ เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านประเทศเมียนมา และประเทศลาวตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบน และอ่าวไทยตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูงมากกว่า 2 […]

หยุดยิง! ชายแดนไทย-กัมพูชา เงียบสนิทตามเดดไลน์ 24.00 น.

29 ก.ค. – ไทย-กัมพูชา ตกลงหยุดยิงพร้อมกัน 24.00 น.ที่ผ่านมา โดยไม่มีเงื่อนไข ถือเป็นก้าวแรกสำคัญในการคลี่คลายสถานการณ์ รวมถึงฟื้นฟูสันติภาพและความมั่นคง ส่วนเช้าวันนี้ (29 ก.ค.) มีการประชุมระหว่างแม่ทัพของทั้งสองประเทศ และการประชุมระดับรัฐมนตรีกลาโหม 4 ส.ค. วานนี้ (28 ก.ค.) ที่ประชุมสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ทำเนียบนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ที่มีนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน เป็นคนกลางในการเจรจา สมเด็จฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา และนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาการนายกรัฐมนตรี ที่ประชุมบรรลุข้อตกลง 3 ข้อโดยเฉพาะ “ข้อตกลงหยุดยิงทันทีโดยไม่มีเงื่อนไข” มีผลตั้งแต่เที่ยงคืนที่ผ่านมา ถือเป็นก้าวแรกที่สำคัญในการคลี่คลายสถานการณ์ และฟื้นฟูสันติภาพและความมั่นคง เช้าวันนี้ (29 ก.ค.) มีการจัดประชุมอย่างไม่เป็นทางการ ระหว่างผู้บัญชาการกองกำลังของ 2 ประเทศ ได้แก่ กองทัพภาคที่ 1 และ 2 ของฝ่ายไทย และกองทัพภาคที่ […]

น้ำทะลักท่วม 4 ชุมชนริมน้ำแม่สาย เดือดร้อนหลายร้อยครัวเรือน

เชียงราย 28 ก.ค. – สถานการณ์น้ำท่วมแม่สายยังวางใจไม่ได้ หลังมวลน้ำจากต้นน้ำแม่สายที่เมียนมา สูงขึ้นต่อเนื่องตลอดทั้งวัน จนน้ำสายทะลักท่วมบ้านเรือนประชาชน 4 ชุมชน ชาวบ้านเดือดร้อนหลายร้อยครัวเรือน บริเวณสะพานมิตรภาพแม่น้ำสายแห่งที่ 1 เจ้าหน้าที่นำรถแบ็กโฮแขนยาวมาตักเศษไม้เศษสวะที่ขวางทางน้ำ ซึ่งระดับน้ำในลำน้ำสายที่กั้นพรมแดนไทย-เมียนมา เพิ่มสูงจนเกือบล้นขึ้นมาบนสะพานแล้ว แต่ยังอยู่ต่ำกว่าแนวป้องกันน้ำท่วมที่ทางกรมการทหารช่างสร้างไว้ แต่น้ำไหลเชี่ยวกราก พัดเอาเศษไม้เศษขยะซัดกระแทกสะพานอย่างอย่างต่อเนื่อง โดยน้ำในลำน้ำสายทรงตัวสูงมาหลายชั่วโมงแล้ว หลังทะลักเข้าท่วมหลายชุมชนชายแดนแม่สายซ้ำรอยปีที่แล้ว แม้ระดับน้ำและสถานการณ์ยังไม่หนักเท่า แต่ต้องเฝ้าระวัง ขณะที่ทางฝั่งจังหวัดท่าขี้เหล็ก ของเมียนมา กำลังถูกน้ำท่วมหนัก จนต้องปิดด่านชายแดนไปก่อน และน้ำที่ผ่านไหลสะพานตอนนี้ ถือว่าเป็นมวลน้ำก่อนใหญ่ก้อนสุดท้ายที่ไหลมาจากต้นน้ำที่หมู่บ้านโจตาดา ประเทศเมียนมา ที่อยู่ห่างจากสะพานมิตรภาพแม่น้ำสายแห่งที่ 1 ไปกว่า 30 กิโลเมตร หากผ่านพ้นค่ำคืนนี้ไปได้และไม่มีฝนตกหนักทางต้นน้ำน่าจะพอเบาใจได้ นายอำเภอแม่สายบอกว่า ตอนนี้อพยพประชาชนกลุ่มเปราะบาง ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียงไปอยู่ตามศูนย์พักพิงและพื้นที่ปลอดภัยแล้ว.-สำนักข่าวไทย

น้ำยืนเดือด ระเบิดตก 8 ลูก วัวตาย 1 ตัว

อุบลราชธานี 28 ก.ค. – ตลอดช่วงบ่ายที่ผ่านมา พื้นที่ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ยังมีรายงานเสียงปืนใหญ่ดังต่อเนื่อง จรวด BM 21 จำนวน 8 ลูก ข้ามตกข้ามมายังฝั่งไทย ทำให้พื้นที่การเกษตรเสียหาย วัวของชาวบ้านตาย 1 ตัว ช่วงบ่ายที่ผ่านมา จรวด BM 21 จำนวน 8 ลูก ตกยังพื้นที่สวนปาล์ม จากนั้นเจ้าหน้าที่เดินทางเข้าไปตรวจสอบพบความเสียหายจากแรงระเบิดหลายจุด อีกทั้งยังทำให้วัวตาย 1 ตัว ด้านเจ้าของวัวได้ให้ข้อมูลว่า แถวหมู่บ้านไม่เคยพบกระสุนเข้ามาตกในพื้นที่ ขณะเกิดเหตุตนกำลังเกี่ยวหญ้าให้วัว ได้ยินเสียงระเบิดดังสนั่น รู้สึกตกใจมาก รีบวิ่งไปดูวัว ซึ่งต่อมาได้ตายระหว่างเคลื่อนย้ายอพยพ อีกทั้งเป็นที่น่าสังเกตว่าเวลา 15.00 น. ซึ่งมีการเริ่มการเจรจาระหว่างรัฐบาลไทยและรัฐบาลกัมพูชา ที่ประเทศมาเลเซีย เสียงปืนได้สงบลงประมาณ 1 ชั่วโมง หลังจากนั้นเมื่อเวลา 16.00 น. ก็เริ่มได้ยินเสียงปืนใหญ่ดังกึกก้องต่อเนื่องอีกครั้ง ส่วนบรรยากาศในตลาดสดแห่งหนึ่งในพื้นที่ปะทะ ยังมีกลุ่มพ่อค้าจิตอาสาช่วยกันจัดเตรียมอาหาร เพื่อนำอาหารไปแจกจ่ายแก่ผู้นำชุมชนรวมถึงเจ้าหน้าที่ โดยได้ตั้งโรงครัว […]