โควิดอังกฤษ

อังกฤษจะให้ประชาชนที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไปมีสิทธิฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 เข็มสามในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ซึ่งตรงกับในช่วงเดือนกันยายนนี้ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดอย่างสิ้นเชิงก่อนถึงเทศกาลคริสต์มาส

นิวเดลี 18 ก.พ. – อินเดียจะบังคับการตรวจหาโมเลกุลซึ่งเป็นส่วนประกอบของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ในกลุ่มผู้ที่เดินทางมาจากอังกฤษ แอฟริกาใต้ และบราซิล เพื่อควบคุมการระบาดของเชื้อไวรัสกลายพันธุ์ที่แพร่เชื้อเร็วในกลุ่มประเทศดังกล่าว อินเดีย ซึ่งมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมสูงเป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากสหรัฐ พบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์แอฟริกาใต้ 4 คนในเดือนที่แล้ว และพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดสายพันธุ์บราซิล 1 คนในเดือนนี้ รัฐบาลอินเดียกล่าวว่า เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์แอฟริกาใต้และบราซิลสามารถติดเชื้อในปอดได้ง่ายกว่าสายพันธุ์อังกฤษที่อินเดียพบผู้ป่วยทั้งหมด 187 คนแล้ว รัฐบาลอินเดียเผยว่า สายการบินต่าง ๆ จำเป็นต้องคัดกรองผู้โดยสารที่จะเดินทางเข้าอินเดียจากกลุ่มประเทศดังกล่าวตั้งแต่สัปดาห์หน้าเป็นต้นไป แม้ว่าอินเดียไม่มีเที่ยวบินตรงจากบราซิลและแอฟริกาใต้ และผู้โดยสารส่วนใหญ่ที่เดินทางมาจากประเทศดังกล่าวต้องแวะเปลี่ยนเครื่องที่ท่าอากาศยานในกลุ่มประเทศตะวันออกกลางก็ตาม ขณะที่กระทรวงสวัสดิการสุขภาพและครอบครัวของอินเดียระบุในแถลงการณ์ว่า ผู้โดยสารทุกคนที่เดินทางหรือแวะเปลี่ยนเครื่องในเที่ยวบินจากอังกฤษ ทวีปยุโรป หรือตะวันออกกลางจะต้องเข้ารับการตรวจหาโมเลกุลแบบเสียค่าใช้จ่ายเองเมื่อเดินทางมาถึงอินเดีย นอกจากนี้ ผู้โดยสารทุกคนจะต้องมีใบรับรองผลตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนาเป็นลบก่อนออกเดินทางมายังอินเดีย ขณะนี้ อินเดียมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมราว 11 ล้านคน และมีผู้เสียชีวิตกว่า 155,000 คน โดยพบยอดผู้ป่วยติดเชื้อรายวันลดลงอย่างมากเมื่อเทียบกับช่วงกลางเดือนกันยายนปีก่อนที่มียอดผู้ป่วยสูงถึงวันละเกือบ 100,000 คน ทั้งนี้ ทางการอินเดียได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้แก่ประชาชน 9.2 ล้านคนแล้วตั้งแต่เริ่มโครงการฉีดวัคซีนวันที่ 16 มกราคมที่ผ่านมา.-สำนักข่าวไทย

ลอนดอน 3 ก.พ. – แกล็กโซสมิทไคลน์ บริษัทเวชภัณฑ์ของอังกฤษ และเคียวแวก บริษัทเทคโนโลยีชีวภาพของเยอรมนีประกาศแผนความร่วมมือในการพัฒนาวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ที่มีประสิทธิภาพป้องกันเชื้อโควิดที่กลายพันธุ์ แถลงการณ์ร่วมของแกล็กโซสมิทไคลน์และเคียวแวกระบุว่า โครงการพัฒนาวัคซีนดังกล่าวจะเริ่มต้นขึ้นในทันที โดยตั้งเป้าให้แล้วเสร็จในปีหน้า โดยที่แกล็กโซสมิทไคลน์จะสนับสนุนการผลิตวัคซีนรุ่นแรกของเคียวแวกสูงสุดถึง 100 ล้านโดสภายในปีนี้ เชื้อไวรัสโคโรนาที่กลายพันธุ์มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ และทำให้วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 รุ่นแรกมีประสิทธิภาพลดลง จึงจำเป็นต้องเร่งพัฒนาวัคซีนเพื่อป้องกันเชื้อโควิดกลายพันธุ์และก้าวนำการระบาดอยู่เสมอ ผู้บริหารระดับสูงของแกล็กโซสมิทไคลน์กล่าวว่า วัคซีนป้องกันโรคโควิดรุ่นต่อไปจะมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งต่อการรับมือกับการระบาด ขณะที่ผู้บริหารของเคียวแวกระบุว่า บริษัทรู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่บรรลุข้อตกลงใหม่ร่วมกับแกล็กโซสมิทไคลน์ และเตรียมพร้อมรับมือกับความท้าทายด้านสุขภาพในอนาคตด้วยการพัฒนาวัคซีนขนานใหม่ที่ได้รับการช่วยเหลือจากแกล็กโซสมิทไคลน์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านวัคซีน ทั้งนี้ ข้อตกลงร่วมกันของทั้งสองบริษัทมีมูลค่าสูงถึง 150 ล้านยูโร (5,420 ล้านบาท).-สำนักข่าวไทย

อังกฤษประกาศระงับเที่ยวบินจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์หรือยูเออีตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เพื่อป้องกันการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ที่กลายพันธุ์ในแอฟริกาใต้ เท่ากับปิดเส้นทางการบินระหว่างประเทศที่พลุกพล่านที่สุดในโลกระหว่างกรุงลอนดอนกับนครดูไบ

ลอนดอน 28 ม.ค.- อังกฤษยืนยันวันนี้ว่า อังกฤษต้องได้รับวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ตามที่สั่งและชำระเงินไ ปแล้ว หลังจากสหภาพยุโรปหรืออียู (EU) ขอให้แอสตราเซนเนกาโยกวัคซีนจำนวนหนึ่งในส่วนของอังกฤษมาให้สมาชิกอียู นายไมเคิล โกฟ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีอังกฤษเผยกับสถานีวิทยุบรรษัทกระจายเสียงอังกฤษหรือบีบีซี (BBC) ว่า อังกฤษต้องการความมั่นใจว่าวัคซีนที่ได้ซื้อและชำระเงินไปแล้วเพื่อนำมาให้ฉีดให้แก่คนในสหราชอาณาจักรจะส่งมอบมาตามที่ตกลงไว้ สิ่งสำคัญอันดับแรกของอังกฤษคือ การสร้างความมั่นใจว่าคนในประเทศที่เป็นกลุ่มเปราะบางและกลุ่มเป้าหมายจะได้รับการฉีดวัคซีน ต่อข้อถามว่ารัฐบาลอังกฤษจะห้ามแอสตราเซนเนกาโยกวัคซีนจำนวนหนึ่งในส่วนของอังกฤษไปให้อียูหรือไม่ รัฐมนตรีอังกฤษยืนยันว่า อังกฤษจะต้องได้รับวัคซีนที่สั่งตามกำหนด จะไม่มีสิ่งใดทำให้สะดุดได้ อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ควรทำคือการหารือกับมิตรในยุโรปว่าจะช่วยเหลือกันได้อย่างไร นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสันของอังกฤษกล่าวเมื่อวันก่อนว่า จะน่าเสียใจอย่างยิ่งหากอังกฤษยังร่วมในโครงการวัคซีนของอียูโดยไม่ดำเนินโครงการของตัวเอง ขณะที่แอสตราเซนเนกาซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ในเมืองเคมบริดจ์ของอังกฤษเสนอจัดสรรวัคซีนบางส่วนให้อียู หลังจากอียูขอให้โยกวัคซีนบางส่วนมาจากอังกฤษ.-สำนักข่าวไทย

อังกฤษฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ให้แก่ประชาชนโดยเฉลี่ยนาทีละ 140 คน

ลอนดอน 23 พ.ย. – รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขอังกฤษเตรียมลดระยะเวลาที่สั่งให้ประชาชนที่มีประวัติสัมผัสผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 กักตัวในบ้าน แต่ต้องตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนาทุกวัน นายแมตต์ แฮนค็อก รัฐมนตรีสาธารณสุขอังกฤษให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์สกายนิวส์ว่า ทางการกำลังอยู่ในระหว่างทดลองขั้นตอนการตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนาแบบใหม่ เพื่อให้ชาวอังกฤษสามารถเข้ารับการตรวจได้ทุกวันแทนการกักตัวอยู่ในบ้าน ซึ่งจะช่วยให้รู้ว่าติดโรคโควิด-19 ได้ก่อนที่จะแสดงอาการ และคาดว่าจะนำวิธีดังกล่าวมาใช้กับกลุ่มเจ้าหน้าที่สังคมสงเคราะห์และเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ก่อนที่จะขยายการใช้เป็นวงกว้างในช่วงปีใหม่ นายแฮนค็อกยังได้กล่าวหลังทราบผลการทดลองวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ที่พัฒนาโดยบริษัทแอสตราเซนเนกาและมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดของอังกฤษว่า ทางการอังกฤษได้สั่งซื้อวัคซีนดังกล่าวจำนวน 100 ล้านโดส และคาดว่าวัคซีนจะได้รับการผลิตในช่วงปีใหม่นี้ นายแฮนค็อกกล่าวทิ้งท้ายว่า รายงานผลการทดลองวัคซีนโควิด-19 ของแอสตราเซนเนกาและมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดชี้ให้เห็นว่า วัคซีนดังกล่าวช่วยลดการระบาดของโรค ซึ่งถือเป็นข่าวดี เนื่องจากทางการอังกฤษไม่ได้ต้องการเพียงแค่ป้องกันประชาชนไม่ให้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา แต่ต้องการหยุดการระบาดของโรคโควิด-19 ด้วย. -สำนักข่าวไทย