อังกฤษพบผู้ป่วยโควิดรายใหม่สูงสุดเป็นประวัติการณ์

ลอนดอน 16 ธ.ค. – อังกฤษพบยอดผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 รายใหม่ 78,610 คน ถือเป็นตัวเลขสูงสุดนับตั้งแต่พบการระบาดครั้งแรกในประเทศ และทำลายสถิติสูงสุด 68,053 คนเมื่อวันที่ 8 มกราคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงที่อังกฤษกำลังอยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์ คริส วิตตี หัวหน้าเจ้าหน้าที่การแพทย์ของอังกฤษแถลงเมื่อวันอังคารตามเวลาท้องถิ่นว่า ยอดผู้ป่วยติดเชื้อโควิดรายใหม่ในอังกฤษจะพุ่งสูงขึ้นอย่างมากในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า และเตือนให้ประชาชนพิจารณาถึงความสำคัญในการเข้าร่วมกิจกรรมทางสังคมในช่วงเทศกาลคริสต์มาส รวมถึงสนับสนุนให้ชาวอังกฤษตรวจหาเชื้อโควิดก่อนเดินทางไปเยี่ยมผู้ที่มีความเสี่ยงติดเชื้อโควิดสูง หากเป็นไปได้ ควรพบปะกันในสถานที่ที่อากาศถ่ายเทสะดวกหรือที่กลางแจ้ง ทั้งยังระบุว่า อังกฤษกำลังเผชิญกับการระบาดของเชื้อโควิด 2 สายพันธุ์ คือ สายพันธุ์โอไมครอนที่แพร่ระบาดได้เร็วขึ้นกว่าเดิม และสายพันธุ์เดลตา ในขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ของอังกฤษ ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิดเข็มที่สามเพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกัน และเตือนว่าบางพื้นที่อาจมีอัตราผู้ป่วยติดเชื้อโควิดรายใหม่เพิ่มขึ้นสองเท่าภายในสองวันนี้ ทั้งยังระบุเพิ่มเติมว่า เขาเกรงว่าอังกฤษจะเผชิญกับยอดผู้ป่วยติดเชื้อที่ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นร้อยละ 10 ทั่วประเทศเมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อน และในกรุงลอนดอนอาจเพิ่มขึ้นสูงถึงเกือบร้อยละ 33 บรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียงอังกฤษ หรือบีบีซี รายงานอ้างข้อมูลของทางการอังกฤษที่ระบุว่า อังกฤษฉีดวัคซีนโควิดเข็มที่สาม 656,711 โดสเมื่อวันพุธ เพิ่มขึ้นจากวันอังคารที่ฉีดได้ราว 140,000 โดส และมีผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด 165 […]

อังกฤษพบผู้เสียชีวิตรายแรกจากโควิดโอไมครอน

ลอนดอน 14 ธ.ค. – อังกฤษยืนยันเมื่อวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่นว่า พบผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนรายแรกของประเทศ ขณะที่กำลังเร่งเดินหน้าโครงการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิดเข็มที่สามเพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอน นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ของอังกฤษ เผยระหว่างลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมศูนย์ฉีดวัคซีนโควิดในกรุงลอนดอนว่า อังกฤษพบการระบาดของเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนราวร้อยละ 40 จากยอดผู้ป่วยติดเชื้อโควิดทั้งหมดในโรงพยาบาล และมีผู้ป่วยติดเชื้อที่ต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลเพิ่มมากขึ้น อังกฤษยังพบผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 1 รายที่ได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอน หลังจากที่เพิ่งประกาศเตือนประชาชนทั่วประเทศเมื่อวันอาทิตย์ว่ากำลังเผชิญกับการระบาดระลอกใหญ่ นอกจากนี้ ผู้นำอังกฤษยังได้กล่าวเน้นย้ำผ่านโทรทัศน์ ซึ่งเกิดขึ้นไม่บ่อยนักว่า อังกฤษจำเป็นต้องใช้มาตรการฉุกเฉินเพื่อป้องกันไม่ให้โรงพยาบาลเผชิญกับภาวะตึงตัวในอีกหลายสัปดาห์หน้า และประชาชนวัยผู้ใหญ่ทุกคนสามารถเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิดเข็มที่สามภายในสิ้นเดือนนี้ ในขณะเดียวกัน ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหภาพยุโรป หรืออีซีดีซี ระบุว่า ผู้ป่วยติดเชื้อคนดังกล่าวอาจเป็นผู้ป่วยรายแรกที่ได้รับการยืนยันว่าเสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอน แต่ยังมีผู้ป่วยติดเชื้อโควิดทั่วโลกจำนวนมากที่ยังไม่ได้รับการตรวจเพื่อถอดรหัสพันธุกรรม ดังนั้น จึงเป็นเรื่องยากที่จะระบุว่าผู้ป่วยคนดังกล่าวเป็นผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนรายแรกของโลก ขณะนี้ อังกฤษมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 10.8 ล้านคน และผู้เสียชีวิตกว่า 146,000 คน.-สำนักข่าวไทย

อังกฤษตั้งเป้าฉีดเข็มกระตุ้น ม.ค.ปีหน้า

อังกฤษ ตั้งเป้าฉีดเข็มกระตุ้นให้ประชาชนอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป ภายในเดือน ม.ค. ปีหน้า ย้ำการป้องกัน “โอไมครอน” ที่ดีที่สุดในขณะนี้ คือ การฉีดวัคซีนและวัคซีนเข็มกระตุ้น

อังกฤษอนุมัติใช้ยาโมลนูพิราเวียร์เป็นชาติแรกของโลก

ลอนดอน 4 พ.ย. – อังกฤษอนุมัติการใช้ยาโมลนูพิราเวียร์เป็นประเทศแรกในโลกเพื่อรับมือกับการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ในอังกฤษ ซึ่งพบยอดผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่พุ่งสูงถึงวันละ 40,000 คนในช่วง 7 วันที่ผ่านมา สำนักงานกำกับดูแลการใช้ยาและผลิตภัณฑ์สุขภาพของอังกฤษ หรือ เอ็มอาร์เอชเอ (MRHA) ประกาศแนะนำให้ใช้ยาโมลนูพิราเวียร์ในกลุ่มผู้ป่วยติดเชื้อโควิดที่มีอาการเล็กน้อยถึงปานกลาง และผู้ป่วยติดเชื้อที่มีโรคประจำตัวที่ทำให้เสี่ยงต่ออาการป่วยหนัก เช่น โรคอ้วน โรคเบาหวานในผู้สูงวัย และโรคหัวใจ ทั้งยังระบุโดยอ้างผลการทดลองทางคลินิกว่า ผู้ป่วยติดเชื้อโควิดจะได้รับยาโมลนูพิราเวียร์ ซึ่งเป็นยาเม็ดต้านเชื้อโควิดแบบรับประทานที่ได้รับการพัฒนาโดยเมิร์ค แอนด์ โค และริดจ์แบ็ค ไบโอเทราพิวติกส์ บริษัทเวชภัณฑ์ของสหรัฐ ในทันทีหลังจากที่มีผลตรวจหาเชื้อโควิดเป็นบวกเป็นเวลา 5 วันหลังจากเริ่มมีอาการ ขณะที่คณะที่ปรึกษาของสำนักงานอาหารและยาของสหรัฐ หรือเอฟดีเอ มีกำหนดประชุมร่วมกันในวันที่ 30 พฤศจิกายนเพื่อพิจารณาข้อมูลด้านความปลอดภัยและประสิทธิภาพของยาโมลนูพิราเวียร์ในการตัดสินใจว่าจะอนุมัติใช้ยาดังกล่าวหรือไม่ สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า อังกฤษตัดสินใจอนุมัติใช้ยาโมลนูพิราเวียร์อย่างรวดเร็วในขณะที่พบยอดผู้ป่วยติดเชื้อโควิดรายใหม่พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในช่วง 7 วันที่ผ่านมา อังกฤษพบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่สูงถึงวันละ 40,000 คน รองจากสหรัฐที่พบผู้ป่วยติดเชื้อมากถึงวันละ 74,000 คน ทั้งที่สหรัฐมีประชากรมากกว่าอังกฤษถึง 5 เท่า ขณะนี้อังกฤษมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 9.2 […]

“เอ็ด ชีแรน” นักร้องชื่อดังชาวอังกฤษติดเชื้อโควิด

เอ็ด ชีแรน นักร้องชื่อดังชาวอังกฤษ โพสต์ในอินสตาแกรมว่า เขากำลังกักตัวเองที่บ้านตามมาตรการของรัฐบาลอังกฤษ หลังมีผลตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 เป็นบวก

อังกฤษพบนักเรียนติดโควิดเพิ่มขึ้นหลังฉีดวัคซีนล่าช้า

ลอนดอน 19 ต.ค. – อังกฤษพบผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ในกลุ่มเด็กนักเรียนมากขึ้น เป็นเหตุให้ยอดผู้ติดเชื้อทั่วประเทศเพิ่มสูงขึ้น และทำให้นักวิทยาศาสตร์บางคนรู้สึกเป็นกังวลกับการฉีดวัคซีนที่ล่าช้าเกินไปในโรงเรียนและอาจทำให้เกิดความเสี่ยงต่อสวัสดิภาพของเด็กและผู้ใหญ่ นายลอว์เรนซ์ ยัง นักไวรัสวิทยาของมหาวิทยาลัยวอริกของอังกฤษเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า สิ่งที่น่าเป็นห่วงในตอนนี้เริ่มชัดเจนขึ้นแล้วว่า แผนฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิดให้เด็กอายุ 12-15 ปีไม่ได้เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ การแพร่ระบาดของเชื้อโควิดกลายพันธุ์อื่น ๆ อาจทำให้ระบบบริการสุขภาพแห่งชาติของอังกฤษ หรือเอ็นเอชเอส ต้องรับมือกับสถานการณ์ระบาดรุนแรงในช่วงฤดูหนาวนี้ หากเชื้อโควิดแพร่กระจายไปสู่กลุ่มผู้สูงวัยและผู้ที่มีโรคประจำตัว สำนักข่าวรอยเตอร์ระบุว่า ยอดผู้ป่วยติดเชื้อโควิดรายใหม่ของอังกฤษกำลังพุ่งสูงขึ้นมากกว่าประเทศอื่น ๆ ในทวีปยุโรป ขณะที่ผลสำรวจเมื่อวันศุกร์ชี้ว่า ความชุกของโรคโควิด-19 ในอังกฤษแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมกราคมปีนี้ และมีนักเรียนชั้นมัธยมศึกษามากถึงร้อยละ 8 ที่ติดเชื้อโควิด นอกจากนี้ อังกฤษยังมีอัตราฉีดวัคซีนในกลุ่มเด็กอายุ 12-15 ปีต่ำกว่าหลายประเทศในทวีปยุโรปเช่นกัน และยังน้อยกว่าสกอตแลนด์อีกด้วย. -สำนักข่าวไทย

อังกฤษจะเริ่มฉีดวัคซีนโควิดเข็มสามตั้งแต่สัปดาห์หน้า

ลอนดอน 15 ก.ย. – อังกฤษจะเริ่มฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 เข็มที่สามเพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้แก่ประชาชนอายุ 50 ปีขึ้นไปตั้งแต่สัปดาห์หน้า ท่ามกลางสถานการณ์ระบาดของเชื้อโควิดสายพันธุ์เดลตา เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของอังกฤษแถลงเมื่อวันอังคารว่า รัฐบาลจะฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เข็มที่สามให้แก่ประชาชนอายุ 50 ปีขึ้นไป รวมถึงผู้ที่อาศัยอยู่ในสถานดูแลคนชราและเจ้าหน้าที่สาธารณสุข โดยใช้วัคซีนของไฟเซอร์และโมเดอร์นาเป็นวัคซีนหลัก การตัดสินใจดังกล่าวมีขึ้นโดยอ้างอิงจากการพิจารณาข้อมูลอย่างรอบคอบ ขณะที่นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ของอังกฤษ กล่าวหลังเสร็จสิ้นการหารือเกี่ยวกับแผนงานของรัฐบาลอังกฤษที่งานแถลงข่าวเดียวกันว่า ทางการมั่นใจว่าวัคซีนจะสร้างความแตกต่างในการใช้ชีวิตของประชาชน และจะสร้างกำแพงภูมิคุ้มกันโรคโควิด-19 ที่สูงยิ่งขึ้นในอังกฤษ ทั้งนี้ แผนงานของรัฐบาลอังกฤษยังเรียกร้องให้พิจารณามาตรการต่าง ๆ เช่น การใช้ใบรับรองการฉีดวัคซีนโควิดและการบังคับสวมหน้ากากอนามัย ในกรณีที่ระบบสาธารณสุขอังกฤษเผชิญกับภาวะตึงตัว ขณะนี้ อังกฤษพบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่วันละ 30,000 คนในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา มียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 7.2 ล้านคน และผู้เสียชีวิตกว่า 134,000 คน โดยรัฐบาลอังกฤษระบุว่าการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เข็มที่สามจะช่วยลดจำนวนผู้เสียชีวิตและผู้ป่วยติดเชื้อที่มีอาการหนักได้.-สำนักข่าวไทย

อังกฤษอนุมัติใช้ยาแอนติบอดีแบบผสมรักษาผู้ป่วยโควิด

หน่วยงานกำกับดูแลด้านสุขภาพของอังกฤษอนุมัติใช้ยาแอนติบอดีแบบผสมที่พัฒนาขึ้นโดยรีเจนเนอรอน บริษัทเวชภัณฑ์ของสหรัฐ และโรช บริษัทเวชภัณฑ์ของสวิสเซอร์แลนด์ เพื่อป้องกันและรักษาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19

อังกฤษหวั่นอาหารขาดแคลน หลังคนงานหลายแสนกักตัว

ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านค้าส่ง และบริษัทขนส่งในอังกฤษ หาทางสร้างความมั่นใจว่าจะมีอาหารและเชื้อเพลิงเพียงพอ หลังจากแอปพลิเคชันสุขภาพของทางการแจ้งให้คนทำงานหลายแสนคนกักตัว เพราะสัมผัสผู้ติดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19

เผยผู้นำอังกฤษเมินล็อกดาวน์เพราะมีแต่ผู้สูงวัยที่จะตาย

ลอนดอน 20 ก.ค. – อดีตที่ปรึกษาระดับสูงของนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ของอังกฤษ ระบุว่า ผู้นำอังกฤษไม่ได้เตรียมใช้มาตรการล็อกดาวน์สกัดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 เพื่อรักษาชีวิตผู้สูงอายุเมื่อปีก่อน และไม่ยอมรับว่าระบบบริการสุขภาพแห่งชาติของอังกฤษ หรือเอ็นเอชเอส รองรับผู้ป่วยติดเชื้อไม่ไหว นายโดมินิก คัมมิงส์ อดีตที่ปรึกษาด้านการเมืองของนายกรัฐมนตรีจอห์นสันให้สัมภาษณ์ผ่านโทรทัศน์เป็นครั้งแรกหลังลาออกจากตำแหน่งเมื่อปีก่อนว่า ผู้นำอังกฤษไม่ต้องการใช้มาตรการล็อกดาวน์ครั้งที่สองในช่วงฤดูใบไม้ร่วงของปีก่อน เพราะเชื่อว่าชาวอังกฤษที่จะเสียชีวิตจากโรคโควิดส่วนใหญ่เป็นผู้ที่มีอายุ 80 ปีขึ้นไป ทั้งยังระบุเพิ่มเติมว่า นายกรัฐมนตรีจอห์นสันต้องการเข้าเฝ้าสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 พระชนมพรรษา 95 พรรษา แม้มีสัญญาณการระบาดของเชื้อโควิดที่สำนักนายกรัฐมนตรีในช่วงเริ่มต้นของการระบาด และทางการก็ได้แจ้งให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการพบปะที่ไม่จำเป็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพบปะกับผู้สูงวัย นายคัมมิงส์ ซึ่งกล่าวหารัฐบาลอังกฤษว่าเป็นผู้ที่ต้องรับผิดชอบต่อผู้เสียชีวิตจากโรคโควิดจำนวนมากทั้งที่ไม่ควรเกิดขึ้น ยังได้เผยแพร่ข้อความต่าง ๆ ตั้งแต่เดือนตุลาคมปีก่อนที่อ้างว่าเป็นข้อความที่นายกรัฐมนตรีจอห์นสันส่งถึงผู้ช่วย ไม่ว่าจะเป็นข้อความกล่าวติดตลกของผู้นำอังกฤษที่ระบุว่า ผู้สูงวัยอาจติดโควิดและมีอายุยืนยาวได้ เพราะผู้สูงวัยส่วนใหญ่ที่เสียชีวิตมีอายุเกินอายุขัยเฉลี่ย รวมถึงข้อความของนายกรัฐมนตรีจอห์นสันที่ส่งถึงนายคัมมิงส์ว่า เขาไม่เชื่อเรื่องระบบเอ็นเอชเอสรองรับผู้ป่วยติดเชื้อไม่ไหว และคิดว่าทุกคนควรเปลี่ยนความคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ อย่างไรก็ดี สำนักข่าวรอยเตอร์สไม่สามารถตรวจสอบได้อย่างอิสระว่าข้อความเหล่านั้นเป็นข้อความที่ผู้นำอังกฤษส่งมาจริงหรือไม่ ในขณะเดียวกัน โฆษกของนายกรัฐมนตรีจอห์นสันกล่าวว่า ผู้นำอังกฤษได้ใช้มาตรการที่จำเป็นเพื่อปกป้องชีวิตและความเป็นอยู่ของประชาชน ซึ่งเป็นไปตามคำแนะนำทางวิทยาศาสตร์ที่ดีที่สุด ขณะที่พรรคแรงงาน ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านของอังกฤษ ระบุว่า การเปิดเผยเรื่องดังกล่าวของนายคัมมิงส์ทำให้เห็นถึงความจำเป็นของการเปิดไต่สวนสาธารณะ และถือเป็นหลักฐานที่ชี้ว่านายกรัฐมนตรีจอห์นสันตัดสินใจผิดพลาดซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนทำให้เกิดความเสียหายต่อสุขภาพของประชาชน ขณะนี้ อังกฤษมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า […]

ผู้นำอังกฤษขอประชาชนระวังตัวแม้ยกเลิกล็อกดาวน์วันนี้

นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ของอังกฤษ ยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์ที่ใช้มาเป็นเวลากว่าปีในอังกฤษตั้งแต่วันนี้ และขอให้ประชาชนระมัดระวังตัวต่อไป พร้อมทั้งแสดงความเชื่อมั่นว่า วัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ช่วยปกป้องประเทศได้ แม้ยังคงพบยอดผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่พุ่งสูงขึ้น

หมอใหญ่อังกฤษเตือนยอดโควิดใน รพ.จะน่ากลัวในไม่นาน

ลอนดอน 16 ก.ค.- นายแพทย์ใหญ่อังกฤษเตือนว่า จำนวนผู้ติดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ที่ต้องรักษาตัวในโรงพยาบาลจะเพิ่มขึ้นถึงระดับที่น่ากลัวในอีกไม่นาน เนื่องจากมีคนติดไวรัสสายพันธุ์เดลตาเพิ่มขึ้น และการยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์ ดร.คริส วิตตี นายแพทย์ใหญ่แห่งอังกฤษกล่าวในการสัมมนาทางออนไลน์ที่จัดขึ้นโดยพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ในกรุงลอนดอนเมื่อวานนี้ตามเวลาท้องถิ่นว่า สหราชอาณาจักรหรือยูเคยังไม่ผ่านพ้นจุดวิกฤต และไม่ควรมองข้ามความเป็นจริงว่า อาจกลับไปมีปัญหาอย่างรวดเร็วจนคาดไม่ถึง จำนวนผู้ป่วยเข้าโรงพยาบาลเพิ่มขึ้น 2 เท่าทุก 3 สัปดาห์ และอาจถึงระดับที่น่ากลัวในอีกไม่กี่เดือน ข้อมูลของรัฐบาลเมื่อวันพฤหัสบดีระบุว่า ยอดผู้ติดเชื้อใหม่ในยูเคแตะระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือนที่ 48,553 คน ยอดผู้ป่วยโควิดเข้าโรงพยาบาลและเสียชีวิตสูงสุดนับจากเดือนมีนาคมที่ 3,786 คน และ 63 คนตามลำดับ ส่วนช่วงสูงสุดของการระบาดระลอกสองเมื่อต้นปีมีผู้ป่วยโควิดเข้าโรงพยาบาล 40,000 คน และเสียชีวิต 1,500 คนต่อวัน รัฐบาลอังกฤษจะยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์ระยะที่ 4 ซึ่งเป็นขั้นสุดท้ายในวันที่ 19 กรกฎาคม ให้ธุรกิจที่ยังคงถูกปิดอยู่อย่างไนต์คลับเปิดได้อีกครั้ง โดยให้เหตุผลว่า การที่คนวัยผู้ใหญ่ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มแล้วกว่า 2 ใน 3 และฉีดอย่างน้อย 1 […]

1 2 3 4
...