
รัฐปัญจาบของอินเดีย จัดเลือกตั้งท้องถิ่น
ในวันนี้ (20 ก.พ.) รัฐปัญจาบ ทางภาคเหนือของอินเดีย จัดเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่น ซึ่งผลจะออกภายในวันที่ 10 มีนาคม ซึ่งเป็นเครื่องชี้วัดคะแนนนิยมของนายกรัฐมนตรีอินเดีย และพรรครัฐบาลในอีก 2 ปีข้างหน้า
ในวันนี้ (20 ก.พ.) รัฐปัญจาบ ทางภาคเหนือของอินเดีย จัดเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่น ซึ่งผลจะออกภายในวันที่ 10 มีนาคม ซึ่งเป็นเครื่องชี้วัดคะแนนนิยมของนายกรัฐมนตรีอินเดีย และพรรครัฐบาลในอีก 2 ปีข้างหน้า
ศาลอินเดียตัดสินในวันนี้ลงโทษประหารชีวิตชายชาวมุสลิม 38 คนและจำคุกตลอดชีวิตอีก 11 คน จากเหตุวาระเบิดหลายจุดเมื่อปี 2008 ในเมืองอาห์เมดาบัด รัฐคุชราฏ ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 50 รายและบาดเจ็บอีกราว 200 คน
อุตตรประเทศ 17 ก.พ. – เกิดเหตุชาวอินเดียตกบ่อน้ำในระหว่างเข้าร่วมงานแต่งงานแห่งหนึ่งที่จัดขึ้นในรัฐอุตตรประเทศ ทางตอนเหนือของอินเดีย ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 13 ราย ตำรวจของรัฐอุตตรประเทศเผยว่า เกิดเหตุฝาปิดบ่อน้ำโลหะยุบตัวพังที่งานแต่งงานแห่งหนึ่งในเขตกุสินาราของรัฐอุตตรประเทศเมื่อวันพุธ ในขณะที่ผู้เสียชีวิต 13 ราย ซึ่งเป็นผู้หญิงและเด็กทั้งหมด กำลังนั่งอยู่บนฝาบ่อน้ำดังกล่าว และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 2 คน โดยตำรวจคาดว่าสาเหตุที่ทำให้ฝาปิดบ่อยุบตัวพังเกิดจากการรองรับน้ำหนักไม่ไหว ตำรวจยังระบุว่า ในขณะที่ฝาปิดบ่อน้ำยุบตัวพัง แขกเหรื่อในงานต่างรีบวิ่งมาช่วยชีวิตผู้ที่ตกลงไปในบ่อน้ำและนำตัวผู้รอดชีวิตส่งโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้เคียง แต่ก็มีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุดังกล่าวในทันที 11 ราย และมีอีก 2 รายที่เสียชีวิตระหว่างเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล ในขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ของอินเดีย ได้กล่าวแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ พร้อมทั้งระบุว่าเหตุดังกล่าวถือเป็นเรื่องที่น่าสะเทือนใจ ส่วนเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐอุตตรประเทศได้ออกมาเรียกร้องให้ทางการเขตกุสินาราเร่งช่วยเหลือเยียวยาครอบครัวของผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บ.-สำนักข่าวไทย
ลัคเนา 15 ก.พ. – กลุ่มชายหลายสิบคนในรัฐอุตตรประเทศ ซึ่งเป็นรัฐที่มีประชากรมากที่สุดและตั้งอยู่ทางตอนเหนือของอินเดีย ออกมาชุมนุมสนับสนุนคำสั่งห้ามสวมฮิญาบในชั้นเรียน หลังกลุ่มนักศึกษาหญิงมุสลิมในอินเดียเพิ่งประท้วงคัดค้านคำสั่งห้ามสวมฮิญาบในชั้นเรียนที่รัฐกรณาฏกะเมื่อสัปดาห์ก่อน สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า กลุ่มชายอินเดียหลายสิบคนได้เดินทางไปยังวิทยาลัยแห่งหนึ่งในเขตอลีครห์ของรัฐอุตตรประเทศ ซึ่งมีพรมแดนติดกรุงนิวเดลี เพื่อยื่นหนังสือคำร้องให้เจ้าหน้าที่หาทางออกคำสั่งห้ามสวมฮิญาบในชั้นเรียนโดยเด็ดขาด ผู้อำนวยการของวิทยาลัยดังกล่าวระบุว่า กลุ่มชายเหล่านี้สวมผ้าคลุมพันรอบคอ ซึ่งเป็นการแต่งกายของชาวฮินดู แต่เขาไม่รู้จักคนกลุ่มนี้ ปัจจุบันวิทยาลัยไม่อนุญาตให้สวมเครื่องแต่งกายทางศาสนาในชั้นเรียน แต่สามารถแต่งกายลักษณะเช่นนั้นนอกห้องเรียนได้ ทั้งยังระบุเพิ่มเติมว่า เมื่อสองปีก่อนเคยเกิดปัญหาเช่นนี้ขึ้นมาแล้ว และกำลังเกิดซ้ำขึ้นอีกครั้งในตอนนี้ อย่างไรก็ดี วิทยาลัยยังคงไม่อนุญาตให้นักศึกษาสวมเครื่องแต่งกายทางศาสนาในชั้นเรียน เพราะมีข้อกำหนดเกี่ยวกับการแต่งกายสำหรับทุกคนที่ระบุไว้อย่างชัดเจน ก่อนหน้านี้ ทางการรัฐกรณาฏกะที่อยู่ทางตอนใต้ของอินเดียได้สั่งปิดการเรียนการสอนในวิทยาลัยหลายแห่งเมื่อสัปดาห์ก่อน หลังออกนโยบายใหม่ที่ห้ามไม่ให้นักศึกษาสวมฮิญาบในชั้นเรียน จนทำให้นักศึกษาหญิงชาวมุสลิมออกมาชุมนุมคัดค้านคำสั่งดังกล่าวและปะทะกับกลุ่มนักศึกษาชาวฮินดู ทั้งนี้ ชาวมุสลิมในอินเดียระบุว่า คำสั่งห้ามสวมฮิญาบเป็นการกดทับประชากรมุสลิมในอินเดียที่มีสัดส่วนเพียงร้อยละ 13 ซึ่งต่างจากประชากรฮินดูที่มีสัดส่วนมากที่สุดในอินเดีย จากประชากรทั้งหมด 1,350 ล้านคน. -สำนักข่าวไทย
มุมไบ 10 ก.พ.- ผู้ว่าการธนาคารกลางอินเดียเตือนผู้ลงทุนในคริปโตเคอเรนซีว่า สกุลเงินดิจิทัลนี้ไม่มีมูลค่าในตัวเลย แม้แต่เทียบกับดอกทิวลิปที่เกิดกระแสการเก็งกำไรในเนเธอร์แลนด์ช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 17 นายศากติกันตา ดาส ผู้ว่าการธนาคารกลางอินเดียแถลงข่าวหลังการประชุมนโยบายการเงินว่า คริปโตเคอเรนซีของเอกชนเป็นภัยใหญ่หลวงต่อเสถียรภาพเศรษฐกิจมหภาคและเสถียรภาพทางการเงิน นักลงทุนควรจำให้ขึ้นใจว่า กำลังลงทุนโดยต้องแบกรับความเสี่ยงเอง เพราะคริปโตเคอเรนซีไม่มีค่าในตัวเองเลย ไม่มีค่าแม้แต่เทียบกับดอกทิวลิปด้วยซ้ำ นายดาสหมายถึงกระแสเก็งกำไรดอกทิวลิปครั้งใหญ่ในเนเธอร์แลนด์ที่เรียกกันว่า “ความคลั่งทิวลิป (tulipmania)” จนเกิดภาวะฟองสบู่ขนาดใหญ่ เมื่อราคาซื้อขายที่สูงผิดปกติตกลงฮวบฮาบอย่างฉับพลัน ผู้ว่าการธนาคารกลางอินเดียเตือนเรื่องนี้ หลังจากรัฐบาลอินเดียประกาศกรอบการจัดเก็บภาษีคริปโตเคอเรนซี ทำให้กลุ่มผู้สนับสนุนสกุลเงินดิจิทัลนี้มองว่า รัฐบาลส่งสัญญาณว่าให้การยอมรับคริปโตเคอเรนซีอย่างเป็นทางการแล้ว ทั้งที่ธนาคารกลางยังคงสงวนท่าทีอยู่ และเตรียมจะออกสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลางในปีหน้า ประมาณกันว่า อินเดียมีนักลงทุนคริปโตเคอเรนซีราว 15-20 ล้านคน มูลค่าถือครองรวมกัน 400,000 ล้านรูปีอินเดีย (ราว 174,110 ล้านบาท).-สำนักข่าวไทย
นิวเดลี 2 ก.พ. – รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของอินเดียระบุว่า อินเดียจะเปิดตัวสกุลเงินรูปีดิจิทัลได้เร็วที่สุดภายในปีนี้ พร้อมเผยร่างแผนจัดเก็บภาษีร้อยละ 30 จากรายได้ที่มาจากสินทรัพย์ดิจิทัล นางนีร์มาลา สิฐรามัน รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของอินเดีย เผยวันนี้ว่า การเปิดตัวสกุลเงินรูปีดิจิทัลของธนาคารกลางอินเดียจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจด้านดิจิทัลเป็นอย่างมาก สกุลเงินดิจิทัลยังทำให้เกิดระบบการจัดการสกุลเงินที่มีประสิทธิภาพและมีราคาถูกกว่าอีกด้วย นอกจากนี้ การทำธุรกรรมผ่านสินทรัพย์ดิจิทัลทำให้จำเป็นต้องจัดทำระบบภาษีขึ้นโดยเฉพาะ ซึ่งจะทำให้เกิดการจัดเก็บภาษีจากรายได้ของธุรกรรมเหล่านี้เช่นกัน บรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียงแห่งอังกฤษ หรือบีบีซี ระบุว่า อินเดีย ซึ่งเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่สุดเป็นอันดับ 3 ของทวีปเอเชีย เป็นประเทศล่าสุดที่ประกาศว่าจะเปิดตัวสกุลเงินดิจิทัลอย่างเป็นทางการ ในขณะที่จีนได้เริ่มทดลองใช้สกุลเงินหยวนดิจิทัลไปก่อนหน้านี้แล้ว อย่างไรก็ดี การประกาศว่าธนาคารกลางของอินเดียจะเปิดตัวสกุลเงินรูปีดิจิทัลมีขึ้นท่ามกลางความวิตกกังวลว่าการใช้สกุลเงินดิจิทัลอาจทำลายนโยบายเสถียรภาพทางการเงินของประเทศ.-สำนักข่าวไทย
เจ้าหน้าที่ของอินเดียกล่าววันนี้ว่า คาดหมายว่า ชาวอินเดียที่นับถือศาสนาฮินดูเกือบ 1 ล้านคนจะไปรวมตัวกันที่บริเวณริมฝั่งแม่น้ำคงคาในวันศุกร์และเสาร์นี้ เพื่อร่วมพิธีอาบน้ำศักดิ์สิทธิ์ในแม่น้ำคงคา
อินเดียรายงานพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 15,632 รายในวันนี้ ขณะที่สายพันธุ์โอไมครอน ยังคงแพร่ระบาดไปทั่วประเทศอินเดียอย่างรวดเร็ว ทำให้หลายรัฐต้องนำมาตรการคุมเข้มมาใช้รับมือกับการระบาดที่เกิดขึ้น
อัมริตสาร์ 7 ม.ค.- เมืองอัมริตสาร์ในรัฐปัญจาบของอินเดียแจ้งว่า ผู้โดยสารเที่ยวบินเช่าเหมาลำจากอิตาลี 13 คน ได้หนีจากการกักโรคเมื่อเดินทางมาถึงอินเดีย เที่ยวบินเช่าเหมาลำนำผู้โดยสารทั้งหมด 160 คน เดินทางจากนครมิลานของอิตาลีมาถึงเมืองอัมริตสาร์เมื่อบ่ายวันพุธตามเวลาอินเดีย ในจำนวนนี้ 125 คนติดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ผู้ติดเชื้อ 9 คนหลบหนีเมื่อมาถึงท่าอากาศยาน และอีก 4 คนหลบหนีออกจากโรงพยาบาลกักโรค ภาพข่าวทางสถานีโทรทัศน์เห็นขบวนรถพยาบาลจอดรอที่ท่าอากาศยานเพื่อรอรับตัวผู้ติดเชื้อไปยังโรงพยาบาล และมีฝูงชนรอเบียดเสียดอยู่นอกประตูทางออก เจ้าหน้าที่ไม่ทราบว่า ผู้ติดเชื้อ 9 คนหลบหนีที่ท่าอากาศยานได้อย่างไร แต่ทราบว่าผู้ติดเชื้อ 4 คนที่โรงพยาบาลกักโรคได้ใช้ลูกไม้หลอกบุคลากรทางการแพทย์ ด้านตำรวจประกาศผ่านสถานีโทรทัศน์เอ็นดีทีวี (NDTV) ว่า ได้ดำเนินการขั้นต้นเพื่อยกเลิกหนังสือเดินทางของผู้หลบหนีแล้ว หากไม่มามอบตัวภายในเช้าวันพรุ่งนี้ ทางการจะเผยแพร่ภาพถ่ายในหน้าหนังสือพิมพ์ และดำเนินคดี รัฐปัญจาบที่อยู่ทางตอนเหนือของอินเดียเป็นหนึ่งในหลายรัฐที่นำมาตรการจำกัดกลับมาใช้เพื่อควบคุมยอดผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้น เช่น ประกาศห้ามออกนอกเคหสถานยามวิกาลเป็นการชั่วคราว ปิดสถานศึกษาทุกแห่ง อินเดียพบผู้ติดเชื้อรายใหม่มากกว่า 100,000 คนในวันนี้ ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า ส่วนใหญ่เป็นเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอไมครอน.-สำนักข่าวไทย
คนงานในโรงงานย้อมผ้าทางตะวันตกของอินเดีย 6 คน เสียชีวิต ขณะที่อยู่ในอาการสาหัส 7 คน หลังจากสูดดมก๊าซพิษที่เกิดจากการทิ้งสารเคมีโดยผิดกฎหมาย
สสจ.ชลบุรี เจอแล้ว 2 นักท่องเที่ยวอินเดียไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ หลังประกาศตามหาตัว เนื่องจากผลตรวจโควิด-19 เป็นบวก
นิวเดลี 5 ม.ค.- สื่ออินเดียรายงานว่า ทางการอนุมัติให้ภารัตไบโอเทคที่เป็นบริษัทในประเทศทำการทดลองระยะสุดท้ายกับวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 แบบพ่นจมูก เพื่อใช้เป็นวัคซีนกระตุ้นภูมิคุ้มกัน หนังสือพิมพ์มินต์อ้างสำนักข่าวเอเอ็นไอ (ANI) ในอินเดียว่า คณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญของสำนักงานควบคุมยาแห่งอินเดียได้อนุมัติในหลักการให้ภารัตไบโอเทคทำการศึกษาข้อดีระยะที่ 3 และศึกษาการเป็นวัคซีนกระตุ้นภูมิคุ้มกันระยะที่ 3 กับวัคซีนป้องกันโควิดแบบพ่นจมูก หลังจากภารัตไบโอเทคได้ยื่นขออนุมัติจากสำนักงานควบคุมยาเมื่อเดือนธันวาคม โดยให้เหตุผลว่า การใช้วัคซีนแบบพ่นจมูกกระตุ้นภูมิคุ้มกันจะเอื้อให้การรณรงค์รับวัคซีนขนานใหญ่ทำได้ง่ายขึ้น อินเดียได้อนุมัติให้ฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นภูมิคุ้มกันเมื่อวันคริสต์มาส เพื่อเป็นการป้องกันล่วงหน้าเนื่องจากมีผู้ติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอไมครอนเพิ่มขึ้นทั่วประเทศ โดยจะฉีดให้แก่บุคลากรทางการแพทย์และคนทำงานแนวหน้าตั้งแต่วันที่ 10 มกราคม แต่ยังไม่อนุมัติให้ใช้บีบีวี 154 (BBV154) ซึ่งเป็นวัคซีนแบบพ่นจมูกของภารัตไบโอเทคที่ได้รับอนุมัติเมื่อเดือนสิงหาคมให้ทดลองระยะที่ 2 ไปจนถึงระยะที่ 3 สื่ออินเดียรายงานว่า การทดลองระยะที่ 2 เสร็จสิ้นไปแล้ว วัคซีนป้องกันโควิดที่อินเดียใช้อยู่ในขณะนี้ส่วนใหญ่เป็นวัคซีนแบบฉีดคือ โควิชีลด์ (Covishield) ซึ่งเป็นวัคซีนของแอสตราเซเนกาที่ผลิตโดยสถาบันเซรุ่มแห่งอินเดีย และโควาซิน (Covaxin) ที่ผลิตโดยภารัต ไบโอเทค อินเดียมีผู้ฉีดวัคซีนครบโดสแล้วร้อยละ 44.3 และพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในวันนี้ 58,097 คน เพิ่มขึ้น 2 เท่าจาก 4 วันก่อน ทำให้ยอดติดเชื้อสะสมเกิน […]