นิวเดลี 2 พ.ค.- ความต้องการใช้ไฟฟ้าในอินเดียทำสถิติสูงสุดเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา เนื่องจากรัฐทางเหนือเผชิญสภาพอากาศช่วงก่อนฤดูร้อนที่ร้อนที่สุดในรอบหลายทศวรรษมาหลายเดือนแล้ว
ความต้องการใช้เครื่องปรับอากาศที่เพิ่มขึ้นมากทำให้อินเดียเผชิญวิกฤตไฟฟ้าร้ายแรงที่สุดนับจากเดือนตุลาคม 2558 ปริมาณไฟฟ้าที่ผลิตได้มีน้อยกว่าความต้องการใช้ถึง 2,410 ล้านหน่วย หรือร้อยละ 1.8 ข้อมูลของรัฐบาลอินเดียระบุว่า ความต้องการใช้ไฟฟ้าในเดือนเมษายนเพิ่มขึ้นร้อยละ 13.2 เป็น 135,400 ล้านกิโลวัตต์ชั่วโมง เนื่องจากความต้องการใช้ไฟฟ้าในรัฐทางเหนือเพิ่มขึ้นร้อยละ 16-75 เช่น เดลีเพิ่มขึ้นร้อยละ 42 รัฐปัญจาบเพิ่มขึ้นร้อยละ 36 รัฐราชสถานเพิ่มขึ้นร้อยละ 28 รัฐสิกขิมเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 74.7
คาดว่าความต้องการใช้ไฟฟ้าในอินเดียจะเพิ่มขึ้นอีก เพราะสำนักอุตุนิยมวิทยาอินเดียพยากรณ์ว่า พื้นที่ส่วนใหญ่ทางตอนกลางค่อนไปตะวันตก ตะวันตกเฉียงเหนือ ตอนเหนือ และตะวันออกเฉียงเหนือจะมีอุณหภูมิสูงกว่าอุณหภูมิสูงสุดปกติ รายงานระบุว่า มี 7 รัฐ รวมไปถึงรัฐอานธรประเทศที่อยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ต้องใช้มาตรการดับไฟฟ้าครั้งใหญ่ที่สุดในรอบกว่า 6 ปี นอกจากนี้ยังมีแนวโน้มที่จะต้องดับไฟฟ้าเพิ่มขึ้นอีก เนื่องจากปริมาณถ่านหินคงคลังลดลงร้อยละ 13 ไปแตะระดับช่วงก่อนฤดูร้อนที่ต่ำที่สุดในรอบ 9 ปี แม้ว่าโคลอินเดีย (Coal India) บริษัทของรัฐที่ผลิตถ่านหินร้อยละ 80 ของประเทศเร่งเพิ่มกำลังผลิตมากกว่าร้อยละ 27 แล้วก็ตาม.-สำนักข่าวไทย