fbpx

โนวาแวกซ์ ทดสอบวัคซีนโควิดในเด็ก 12-17 ปี มีประสิทธิภาพ 80%

โนวาแวกซ์ ทดสอบวัคซีนต้านโควิด-19 ในเด็กอายุ 12-17 ปี พบว่าปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ 80% เตรียมทดสอบในเด็กเล็กปลายปีนี้

เร่งรณรงค์วัคซีนเข็มกระตุ้น

กอ.รมน. วันนี้  ( 11 ก.พ.)     กอ.รมน. ห่วงใยประชาชน  ลงพื้นที่สร้างการรับรู้ รณรงค์ฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น พร้อมร่วมจัดตั้งหมู่บ้านสีฟ้า ชุมชนปลอดโควิด ตามนโยบายรัฐบาล

โคแวกซ์ปรับลดปริมาณวัคซีนโควิดที่จะส่งให้เกาหลีเหนือ

เปียงยาง 10 ก.พ. – โครงการโคแวกซ์ ซึ่งเป็นโครงการจัดสรรวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ขององค์การอนามัยโลก ได้ปรับลดจำนวนวัคซีนโควิดที่จะส่งไปให้เกาหลีเหนือในปีนี้เหลือเพียง 1.54 ล้านโดส ลดลงจาก 8.11 ล้านโดสเมื่อปีก่อน เนื่องจากเกาหลีเหนือยังคงไม่ยอมติดต่อประสานงานเกี่ยวกับการส่งมอบวัคซีน ข้อมูลจากเว็บไซต์ของกองทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ หรือยูนิเซฟ ระบุว่า โครงการโคแวกซ์ได้ปรับลดจำนวนวัคซีนโควิดที่จะส่งให้เกาหลีเหนือในปีนี้เหลือเพียง 1.54 ล้านโดส ลดลงจาก 8.11 ล้านโดสเมื่อปีก่อน ขณะที่โฆษกขององค์กรพันธมิตรเพื่อวัคซีน “กาวี” (Gavi) ที่ร่วมมือกับองค์การอนามัยโลกในโครงการโคแวกซ์ กล่าวว่า โคแวกซ์ได้ปรับเปลี่ยนนโยบายจัดสรรวัคซีนโควิดตามความต้องการของแต่ละประเทศ และจะไม่นำวัคซีนที่เก็บสะสมไว้เมื่อปีก่อนสำหรับเกาหลีเหนือมารวมไว้ในการจัดสรรปีนี้ สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า ยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัดว่าเกาหลีเหนือได้สั่งซื้อวัคซีนป้องกันโรคโควิดขนานใดมาใช้ในประเทศหรือไม่ แม้สื่อหลายแห่งระบุว่า มีเจ้าหน้าที่ตำแหน่งสำคัญของเกาหลีเหนือจำนวนหนึ่ง เช่น เจ้าหน้าที่ควบคุมพื้นที่ชายแดน ที่อาจได้รับการฉีดวัคซีนโควิดแล้ว ก่อนหน้านี้ มีรายงานว่า เกาหลีเหนือเคยปฏิเสธไม่รับวัคซีนโควิดของแอสตราเซเนกาที่ได้รับผ่านโครงการโคแวกซ์ เนื่องจากวิตกกังวลเกี่ยวกับผลข้างเคียงหลังฉีดวัคซีน รวมถึงการไม่รับวัคซีนซิโนแวกของจีน 3 ล้านโดสเมื่อปีก่อน ทั้งนี้ เกาหลีเหนือยืนยันว่ายังไม่พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดแม้แต่รายเดียวในประเทศ ขณะที่เจ้าหน้าที่ของเกาหลีใต้และสหรัฐต่างตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับคำกล่าวอ้างดังกล่าว.-สำนักข่าวไทย

แนะหลังพาบุตรหลานไปฉีดวัคซีน ควรงดออกกำลังกาย 7 วัน

อธิบดีกรมควบคุมโรค แนะผู้ปกครอง หลังพาบุตรหลานไปฉีดวัคซีนโควิด-19 ควรให้เด็กงดออกกำลังกาย 7 วัน เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อน

อินเดียอนุมัติใช้วัคซีนโควิดเข็มเดียวของรัสเซีย

นิวเดลี 7 ก.พ.- อินเดียอนุมัติให้ใช้สปุตนิกไลท์ (Sputnik Light) ซึ่งเป็นวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 แบบฉีดเข็มเดียวของรัสเซียเป็นกรณีฉุกเฉินแล้ว สปุตนิกไลท์เป็นวัคซีนขนานที่ 9 ที่อินเดียอนุมัติให้ใช้ ในจำนวนนี้ 3 ขนานพัฒนาเองโดยบริษัทยาอินเดีย สปุตนิกไลท์มีส่วนประกอบที่อยู่ในวัคซีนเข็มแรกของสปุตนิกวี (Sputnik V) ซึ่งเป็นวัคซีนที่อินเดียอนุมัติให้ใช้เมื่อปีก่อน และพัฒนาโดยสถาบันกามาเลยาของรัสเซีย แต่เกิดกระแสถกเถียง เพราะรัสเซียแจกจ่ายสปุตนิกวีทั้งที่ยังไม่เปิดเผยข้อมูลการทดลองทางคลินิกระยะสุดท้าย สปุตนิกวีนำเชื้อไวรัสไข้หวัดมาทำให้ไม่เป็นอันตรายเพื่อเป็นพาหะนำส่วนเล็ก ๆ ของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เข้าไปในร่างกาย กระตุ้นให้ร่างกายผลิตแอนติบอดีสร้างภูมิคุ้มกันต่อเชื้อไวรัสนี้ ผู้ผลิตสปุตนิกไลท์อ้างว่า วัคซีนขนานนี้มีประสิทธิภาพสูง สามารถใช้เป็นเข็มกระตุ้นภูมิคุ้มกัน และมีประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตาใกล้เคียงกับการฉีดสปุตนิกวี 2 เข็ม อินเดียฉีดวัคซีนไปแล้วเกือบ 1,700 ล้านเข็ม ผู้ใหญ่ร้อยละ 76 ฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว และมากกว่าร้อยละ 99 ฉีดเข็มแรกแล้ว นอกจากนี้ยังได้เริ่มฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้แก่บุคลากรทางการแพทย์ คนทำงานแนวหน้า และผู้มีอายุ 60 ปีขึ้นไปที่มีโรคประจำตัวมาตั้งแต่วันที่ 10 มกราคม ขณะที่ยอดติดเชื้อสะสมมากกว่า 42 ล้าน 2 […]

จีนเตือนผ่อนคลายจำกัดโควิดอาจมีตายปีละ 2 ล้านคน

คณะนักวิจัยจีนระบุว่า การให้คนกลับมาเดินทางตามปกติในพื้นที่ที่ควบคุมยอดผู้ติดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ให้เป็นศูนย์อย่างจีน อาจจะทำให้มีคนเสียชีวิตปีละ 2 ล้านคน สิ่งสำคัญที่จะควบคุมการระบาดได้คือพัฒนาวัคซีนที่ป้องกันการติดเชื้อได้ดียิ่งขึ้น

ฉีดวัคซีนไฟเซอร์ สูตรฝาส้ม เด็ก 5-11 ปี

ผู้ปกครองนำบุตรหลานเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่หน่วยฉีดวัคซีน ชั้น 3 อาคารภูมิพิพัฒ์ โรงพยาบาลราชพิพัฒน์ เขตบางแค ซึ่งเปิดบริการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ สูตรฝาสีส้ม ให้กับเด็กอายุ 5-11 ปี

ไฟเซอร์ยื่นขออนุมัติใช้วัคซีนโควิดในเด็กต่ำกว่า 5 ปี

วอชิงตัน 2 ก.พ. – ไฟเซอร์/ไบออนเทค เผยว่า ได้ยื่นเอกสารเพื่อขออนุมัติใช้วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ในกลุ่มเด็กอายุ 6 เดือนถึงไม่เกิน 5 ปีต่อสำนักงานอาหารและยาของสหรัฐ หรือเอฟดีเอแล้ว ไฟเซอร์/ไบออนเทค ระบุในแถลงการณ์เมื่อวันอังคารตามเวลาท้องถิ่นว่า ได้ยื่นเอกสารอย่างเป็นทางการเพื่อขออนุมัติใช้วัคซีนป้องกันโรคโควิด ซึ่งเป็นไปตามคำร้องขอจากเอฟดีเอ ที่มีแนวโน้มว่าต้องการให้ขั้นตอนอนุมัติเป็นไปอย่างรวดเร็ว ขณะที่นายอัลเบิร์ต บัวร์ลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือซีอีโอ ของไฟเซอร์ กล่าวว่า ทั้งสองบริษัทจะยื่นขออนุมัติใช้วัคซีนโควิดแบบสองโดส แต่เชื่อว่าวัคซีนโดสที่สามมีความจำเป็นในการกระตุ้นภูมิต้านทานระดับสูงต่อเชื้อโควิดสายพันธุ์ที่กำลังระบาดอยู่ในตอนนี้ รวมถึงสายพันธุ์ที่อาจเกิดขึ้นใหม่ในอนาคต ทั้งนี้ ไฟเซอร์ระบุว่า จะลดปริมาณวัคซีนที่ใช้ในเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปีเหลือเพียงโดสละ 3 ไมโครกรัม ซึ่งลดลงอย่างมากจากโดสละ 30 ไมโครกรัมในเด็กอายุ 12 ปีขึ้นไป และโดสละ 10 ไมโครกรัมในเด็กอายุ 5-11 ปี เพื่อป้องกันผลข้างเคียงหลังฉีดวัคซีนในกลุ่มเด็กดังกล่าว ในขณะเดียวกัน เอฟดีเอได้ระบุผ่านทวิตเตอร์ว่า จะจัดการประชุมเพื่อพิจารณาเกี่ยวกับอนุมัติการใช้วัคซีนโควิดในกลุ่มเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปีในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ เอฟดีเอให้ความสำคัญต่อการใช้วัคซีนโควิดที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในกลุ่มเด็กช่วงอายุดังกล่าว ทั้งยังระบุว่า เอฟดีเอได้ขอให้ไฟเซอร์/ไบออนเทค […]

ไฟเซอร์เริ่มทดลองวัคซีนสูตรต้านโอไมครอนโดยเฉพาะแล้ว

นิวยอร์ก 26 ม.ค. – ไฟเซอร์/ไบออนเทค เผยว่า ได้เริ่มการทดลองทางคลินิกของวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ที่ปรับปรุงใหม่เพื่อต้านเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนโดยเฉพาะ เนื่องจากสายพันธุ์ดังกล่าวสามารถหลบหลีกภูมิคุ้มกันบางส่วนของวัคซีนสองโดสที่เป็นสูตรดั้งเดิมได้ ไฟเซอร์/ไบออนเทคระบุในแถลงการณ์เมื่อวันอังคารตามเวลาท้องถิ่นว่า บริษัทได้วางแผนทดสอบการฉีดวัคซีนโควิดสูตรต้านสายพันธุ์โอไมครอนไว้สองแบบ คือ การฉีดวัคซีนดังกล่าว 3 เข็มในกลุ่มผู้ที่ไม่เคยได้รับการฉีดวัคซีน และการฉีดเป็นเข็มกระตุ้นภูมิคุ้มกันในกลุ่มผู้ที่ได้รับวัคซีนสูตรดั้งเดิมครบสองโดสแล้ว นอกจากนี้ ไฟเซอร์/ไบออนเทค กำลังทดสอบการฉีดวัคซีนสูตรดั้งเดิมเข็มที่สี่กับวัคซีนสูตรต้านโอไมครอนในกลุ่มผู้ที่ได้รับวัคซีนครบสามเข็มเป็นเวลา 3-6 เดือน ทั้งนี้ ทั้งสองบริษัทได้วางแผนศึกษาด้านความปลอดภัยและประสิทธิภาพของวัคซีนในกลุ่มอาสาสมัครกว่า 1,400 คน แคทธริน เจนเซน หัวหน้าฝ่ายวิจัยและพัฒนาวัคซีนของไฟเซอร์ ระบุในแถลงการณ์ว่า แม้ผลวิจัยและข้อมูลที่มีอยู่ในตอนนี้ชี้ว่า วัคซีนเข็มกระตุ้นยังคงมีประสิทธิภาพสูงในการป้องกันอาการป่วยรุนแรงและการเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลในกลุ่มผู้ป่วยติดเชื้อโอไมครอน แต่ไฟเซอร์ตระหนักถึงความจำเป็นในการเตรียมพร้อมจากกรณีที่วัคซีนสูตรดั้งเดิมมีประสิทธิภาพลดลงเมื่อเวลาผ่านไป การรับมือกับเชื้อโอไมครอน รวมถึงเชื้อโควิดสายพันธุ์ใหม่ ๆ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต.-สำนักข่าวไทย

เผย บ. ยาอินเดียกำลังพัฒนาวัคซีนโควิดต้านโอไมครอน

นิวเดลี 17 ม.ค. – เจนโนวา ไบโอฟาร์มาซูติคัลส์ บริษัทเวชภัณฑ์ของอินเดีย กำลังพัฒนาวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เพื่อป้องกันเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนโดยเฉพาะ โดยคาดว่าวัคซีนขนานดังกล่าวอาจพร้อมใช้ภายใน 1-2 เดือนหน้า แหล่งข่าวใกล้ชิดที่ไม่เผยนามกล่าวกับสำนักข่าวรอยเตอร์สว่า เจนโนวากำลังพัฒนาวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เพื่อป้องกันเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนโดยเฉพาะ และอาจจำเป็นต้องผ่านการทดลองวัคซีนในกลุ่มอาสาสมัครขนาดเล็กก่อนยื่นขออนุมัติใช้วัคซีนเพื่อใช้เป็นเข็มกระตุ้นหรือวัคซีนเข็มเดี่ยว นอกจากนี้เจนโนวายังได้ยื่นข้อมูลผลการทดลองทางคลินิกระยะที่สองของวัคซีนชนิดเอ็มอาร์เอ็นเอสูตรดั้งเดิมที่พัฒนาขึ้นเองต่อหน่วยงานกำกับดูแลยาของอินเดียเมื่อวันศุกร์ หากได้รับการอนุมัติให้ใช้เป็นการฉุกเฉินก็จะเป็นวัคซีนชนิดเอ็มอาร์เอ็มเอที่อินเดียพัฒนาเองขนานแรก ขณะที่รัฐบาลอินเดียเผยเมื่อปีก่อนว่า ผลการศึกษาเบื้องต้นชี้ว่าวัคซีนขนานดังกล่าวปลอดภัย มีประสิทธิภาพค่อนข้างดี และสร้างภูมิต้านทานได้ อย่างไรก็ดี ตัวแทนของเจนโนวา ซึ่งอยู่ในเครือเอ็มเคียว ฟาร์มาซูติคัลส์ บริษัทเวชภัณฑ์รายใหญ่ของอินเดียและมีสำนักงานในกว่า 70 ประเทศทั่วโลก ยังไม่ได้ออกมายืนยันเกี่ยวกับรายงานดังกล่าว ก่อนหน้านี้ ไฟเซอร์ อิงค์ บริษัทเวชภัณฑ์ของสหรัฐ เผยว่า วัคซีนป้องกันโรคโควิดที่ได้รับการปรับปรุงใหม่เพื่อให้มีประสิทธิภาพต้านทานเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนอาจพร้อมใช้ภายในเดือนมีนาคม. -สำนักข่าวไทย

ผู้เสียชีวิตจากโควิดในสิงคโปร์ฉีดวัคซีนครบแล้วถึง 30%

สิงคโปร์ 10 ม.ค. – นายออง ยี คัง รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขสิงคโปร์ เผยวันนี้ว่า ในจำนวนผู้ที่เสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิด-19 ในสิงคโปร์ทั้งหมด 802 คนในปี 2564 มีร้อยละ 30 เป็นผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิดครบสองโดส นายอองกล่าวในที่ประชุมรัฐสภาสิงคโปร์ว่า สิงคโปร์มีผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ในปี 2564 ทั้งหมด 802 คน ในจำนวนนี้ มีผู้เสียชีวิตที่ฉีดวัคซีนโควิดครบสองโดส 247 ราย หรือคิดเป็นร้อยละ 30 และมีผู้เสียชีวิต 555 รายที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนครบสองโดส ขณะที่ข้อมูลอัตราผู้เสียชีวิตในเบื้องต้นชี้ว่า ผู้เสียชีวิตที่ฉีดวัคซีนครบสองโดสส่วนใหญ่เป็นผู้ที่ไม่ได้รับวัคซีนชนิดเอ็มอาร์เอ็นเอ ข้อมูลดังกล่าวยังระบุว่า มีผู้เสียชีวิตสูงสุด 11 รายต่อประชากร 100,000 คนที่ได้รับวัคซีนของซิโนแวค ตามมาด้วยซิโนฟาร์ม 7.8 ราย ไฟเซอร์ 6.2 ราย และโมเดอร์นา 1 ราย อย่างไรก็ดี นายอองได้ย้ำเตือนว่า ข้อมูลนี้เป็นการคำนวณจากกลุ่มตัวอย่างที่เสียชีวิตเพียง 247 ราย […]

1 3 4 5 6 7 49
...