รัสเซียชี้สัมพันธ์กับสหรัฐยังคง “ตกต่ำ”

มอสโก 14 ก.พ.- รัฐบาลรัสเซียระบุว่า ความสัมพันธ์กับสหรัฐยังคง “ตกต่ำ” แม้ผู้นำสองประเทศเจรจากันเมื่อไม่กี่วันก่อน ขณะเดียวกันรัสเซียกำลังซ้อมรบครั้งใหญ่ในหลายพื้นที่ นายดมิทรี เปสคอฟ โฆษกรัฐบาลรัสเซียให้สัมภาษณ์สำนักข่าวเรียโนวอสตีว่า มีช่องทางเจรจาอยู่บ้าง หนึ่งในนั้นคือการที่ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียและประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐสนทนาทางโทรศัพท์กันเมื่อวันเสาร์ ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี เพราะหลายปีมานี้ไม่มีการเจรจากันเลย และไม่มีการติดต่อใด ๆ เลย แต่น่าเสียดายว่า ความสัมพันธ์ทวิภาคีในด้านอื่น ๆ เหลือล้วนแต่เป็นเรื่องไม่ดี และอยู่ในจุดที่ตกต่ำจริง ๆ สหรัฐอ้างเมื่อวานนี้ว่า รัสเซียอาจรุกรานยูเครนได้ทุกเมื่อ และอาจหาข้ออ้างเพื่อโจมตียูเครน ขณะที่รัสเซียยืนกรานมาตลอดว่า การระดมกำลังพลกว่า 100,000 นายใกล้พรมแดนยูเครน ไม่ใช่การเตรียมรุกราน และกล่าวหาตะวันตกว่าเป็นโรคหวาดผวา ล่าสุดกระทรวงกลาโหมรัสเซียแถลงวันนี้ว่า กำลังซ้อมรบร่วมกับเบลาลุสที่อยู่ทางเหนือของยูเครน ด้วยการให้ฝูงบินขับไล่ซูคอย ซู-30 ร่วมกันลาดตระเวนบริเวณพรมแดนสองประเทศ ส่วนฝูงบินเฮลิคอปเตอร์ลำเลียงและโจมตีมากกว่า 30 ลำกำลังซ้อมรบทางยุทธวิธีอยู่ทางตอนใต้ของประเทศ ขณะที่กองเรือมากกว่า 30 ลำเริ่มการซ้อมรบใกล้คาบสมุทรไครเมียตั้งแต่วันเสาร์ และจะส่งกองเรือติดขีปนาวุธไปยังทะเลดำและทะเลเมดิเตอร์เรเนียนด้วย.-สำนักข่าวไทย

ญี่ปุ่นอพยพ จนท.ส่วนใหญ่ออกจากสถานทูตในยูเครน

โตเกียว 14 ก.พ.- สถานทูตญี่ปุ่นในกรุงเคียฟของยูเครนเผยเมื่อวันอาทิตย์ว่า เจ้าหน้าที่ส่วนใหญ่จะเดินทางออกจากยูเครน เนื่องจากสถานการณ์ตึงเครียดขึ้นอย่างรวดเร็วจากเรื่องที่รัสเซียอาจรุกรานยูเครนหลังจากระดมกำลังพลไว้ใกล้ชายแดน สถานทูตญี่ปุ่นในกรุงเคียฟได้ส่งอีเมลแจ้งพลเรือนชาวญี่ปุ่นตั้งแต่วันศุกร์ให้เร่งเดินทางออกจากยูเครนโดยทันที และแจ้งว่าสถานทูตจะให้บริการอย่างจำกัดตั้งแต่วันจันทร์ เนื่องจากจะเหลือเจ้าหน้าที่ไว้เพียงจำนวนน้อยเท่านั้น ขณะที่นายโยชิมาสะ ฮายาชิ รัฐมนตรีต่างประเทศญี่ปุ่นเผยกับสื่อเมื่อวันเสาร์หลังการเจรจา 3 ฝ่ายกับสหรัฐและเกาหลีใต้ว่า ทางการได้ขอให้ชาวญี่ปุ่นในยูเครนเร่งอพยพอย่างปลอดภัยโดยทันที ด้านเจ้าหน้าที่รัฐบาลญี่ปุ่นเผยในวันนี้ว่า คาดว่าจำนวนเจ้าหน้าที่สถานทูตญี่ปุ่นในกรุงเคียฟจะเหลือไม่ถึง 10 คน โดยมีเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นรวมอยู่ด้วย เว็บไซต์สำนักข่าวเกียวโดนิวส์รายงานว่า สถานทูตญี่ปุ่นในยูเครนอ้างถึงรายงานข่าวที่อ้างอิงความเห็นของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐว่า รัสเซียอาจเริ่มรุกรานยูเครนในขณะที่กำลังมีการแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาวปักกิ่ง 2022 อยู่ในขณะนี้ และว่ารัฐบาลสหรัฐได้สั่งให้พลเรือนอเมริกันอพยพออกจากยูเครนแล้ว.-สำนักข่าวไทย

ยูเครนเร่งหาทางจัดประชุมกับรัสเซียใน 48 ชม.

เคียฟ 14 ก.พ. – ยูเครนเรียกร้องให้จัดการประชุมกับรัสเซียและประเทศสมาชิกหลักของกลุ่มความมั่นคงทวีปยุโรปเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดบริเวณพรมแดนรัสเซียกับยูเครน นายดมิทโตร คูเลบา รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของยูเครน กล่าวว่า รัสเซียได้ปฏิเสธคำร้องขออย่างเป็นทางการจากยูเครนที่ขอให้อธิบายสาเหตุของการวางกำลังพลบริเวณพรมแดนรัสเซียที่ติดกับยูเครน ขั้นต่อไปยูเครนกำลังขอจัดการประชุมภายใน 48 ชั่วโมงกับรัสเซียเพื่อให้ทราบถึงความโปร่งใสเกี่ยวกับแผนวางกำลังพลดังกล่าว นายคูเลบายังระบุว่า ยูเครนได้เรียกร้องคำตอบจากรัสเซียเกี่ยวกับเจตนาของรัสเซียภายใต้ข้อกำหนดของเอกสารเวียนนา (Vienna Document) ซึ่งเป็นข้อตกลงเกี่ยวกับประเด็นด้านความมั่นคงที่รับรองโดยประเทศสมาชิกขององค์การเพื่อความมั่นคงและความร่วมมือในยุโรป หรือโอเอสซีอี ที่รัสเซียเป็นสมาชิกด้วย ทั้งนี้ หากรัสเซียให้ความสำคัญเรื่องความมั่นคงภายใต้กรอบโอเอสซีอี ก็ต้องปฏิบัติตามพันธสัญญาเกี่ยวกับความโปร่งใสทางทหารเพื่อบรรเทาสถานการณ์ตึงเครียดและส่งเสริมความมั่นคงต่อทุกประเทศ อย่างไรก็ดี ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ซึ่งเคยติงว่าอาจเกิดความตระหนกในวงกว้างจากข้อกล่าวหาเรื่องรัสเซียอาจบุกยูเครน กล่าวว่า เขายังไม่เห็นหลักฐานที่ชี้ว่ารัสเซียกำลังวางแผนบุกยูเครนในเร็ว ๆ นี้ ขณะที่บรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียงอังกฤษ หรือบีบีซี รายงานว่า ประธานาธิบดีเซเลนสกีได้พูดคุยทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ เมื่อวันอาทิตย์เป็นเวลาเกือบ 1 ชั่วโมง โดยที่ผู้นำสหรัฐได้เน้นย้ำว่า สหรัฐพร้อมให้การสนับสนุนยูเครน และผู้นำของทั้งสองประเทศเห็นพ้องต้องกันในประเด็นเกี่ยวกับความสำคัญของการเดินหน้าทางการทูตและการป้องปรามต่อไป ทั้งนี้ ประธานาธิบดีเซเลนสกีได้กล่าวขอบคุณสหรัฐสำหรับการสนับสนุนที่ไม่เปลี่ยนแปลง พร้อมทั้งกล่าวเชิญประธานาธิบดีไบเดนเดินทางเยือนยูเครนอีกด้วย.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ เยอรมนีไปยูเครน-รัสเซียหวังคลี่คลายสถานการณ์

เบอร์ลิน 13 ก.พ.- นายกรัฐมนตรีโอลาฟ ชอลซ์ ของเยอรมนีออกเดินทางไปยูเครนและรัสเซียแล้ว หวังช่วยคลี่คลายสถานการณ์ความตึงเครียด หลังจากเจ้าหน้าที่ข่าวกรองของตะวันตกเตือนว่า รัสเซียเตรียมบุกยูเครนในเร็ว ๆ นี้ นายกรัฐมนตรีชอลซ์จะเดินทางถึงกรุงเคียฟของยูเครนในวันจันทร์และกรุงมอสโกของรัสเซียในวันอังคารเพื่อพบกับผู้นำของทั้งสองประเทศ อย่างไรก็ดี ก่อนออกเดินทางเขาได้เตือนรัสเซียด้วยการแถลงต่อวุฒิสภาเยอรมนีเมื่อวันศุกร์ว่า เยอรมนีมีหน้าที่สร้างความมั่นใจว่าจะสามารถป้องกันการเกิดสงครามในยุโรป จึงได้ส่งสารชัดเจนไปยังรัสเซียแล้วว่า การรุกรานทางทหารใด ๆ จะมีผลใหญ่หลวงต่อรัสเซีย เยอรมนีมีความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกับพันธมิตร และขณะเดียวกันก็จะใช้โอกาสทั้งหมดเพื่อการเจรจาและทำให้เกิดความคืบหน้า นายกรัฐมนตรีชอลซ์ย้ำมาโดยตลอดเรื่องรัสเซียจะต้อง “จ่ายราคาแพง” หากรุกรานยูเครน แต่รัฐบาลของเขาปฏิเสธคำขอให้ส่งอาวุธร้ายแรงไปยังยูเครน และไม่เคยระบุชัดเจนว่าจะสนับสนุนมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียในเรื่องใด ทำให้ถูกวิจารณ์ทั้งในและต่างประเทศว่ามีความมุ่งมั่นที่จะเผชิญหน้ากับรัสเซียหรือไม่ ผู้เชี่ยวชาญมองว่า ความลังเลของเยอรมนีส่วนหนึ่งอาจมาจากบทเรียนเมื่อครั้งเยอรมนีรุกรานยุโรปในสงครามโลกทั้งสองครั้ง ทำให้ผู้นำเยอรมนีหลังสงครามทุกคนเลือกใช้การตอบโต้ทางทหารเป็นทางเลือกสุดท้าย นอกจากนี้เยอรมนียังมีท่อส่งก๊าซนอร์ดสตรีม 2 เป็นเดิมพันสำคัญ เพราะสหรัฐขู่เมื่อสัปดาห์ก่อนว่า หากรัสเซียรุกรานยูเครน รัสเซียจะไม่สามารถส่งออกก๊าซธรรมชาติผ่านท่อนี้ที่ก่อสร้างแล้วเสร็จแต่ยังไม่เปิดดำเนินการ มาตรการนี้จะทำให้รัสเซียสูญเสียทางเศรษฐกิจ และจะทำให้เยอรมนีขาดแคลนก๊าซไปด้วย ขณะที่ประเทศอื่นในยุโรปไม่ได้รับผลกระทบมากนักเพราะมีแหล่งก๊าซจากที่อื่น.-สำนักข่าวไทย

ผู้นำบราซิลจะเยือนรัสเซียอังคารนี้

รีโอเดจาเนโร 13 ก.พ.- ประธานาธิบดีฌาอีร์ โบลโซนารูของบราซิลจะเดินทางเยือนรัสเซียอย่างเป็นทางการในวันอังคารนี้ ซึ่งเป็นช่วงที่รัสเซียกำลังมีความตึงเครียดกับชาติตะวันตกเรื่องยูเครน ประธานาธิบดีโบลโซนารูตัดสินใจไปพบประธานาธิบดีวาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซีย โดยให้เหตุผลว่าไปสร้างสัมพันธ์ทางการค้า เขาจะพบหารือกับประธานาธิบดีปูตินในวันพุธ จากนั้นจะเดินทางต่อไปยังฮังการีในวันพฤหัสบดีเพื่อพบกับประธานาธิบดีวิกตอร์ ออร์บาน ที่เป็นผู้นำขวาจัดเช่นเดียวกับเขา โดยไม่สนใจเสียงคัดค้านของสหรัฐและคนในคณะรัฐมนตรีบราซิลที่เกรงว่า ผู้นำรัสเซียอาจใช้การเยือนนี้อ้างว่า บราซิลซึ่งเป็นประเทศใหญ่ที่สุดในลาตินอเมริกาและเป็นสมาชิกไม่ถาวรในคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติหรือยูเอ็นเอสซี (UNSC) สนับสนุนรัสเซียในเรื่องยูเครน รัสเซียเชิญผู้นำบราซิลตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปีก่อน ซึ่งเป็นช่วงที่ความตึงเครียดกำลังก่อตัว เพราะรัสเซียเริ่มระดมกำลังพลและยุทโธปกรณ์ไปประชิดพรมแดนยูเครน นักวิเคราะห์การเมืองในบราซิลมองว่า เป็นการเยือนในช่วงเวลาที่ยุ่งยาก และไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เพราะสถานการณ์บริเวรพรมแดนรัสเซีย-ยูเครนกำลังทวีความตึงเครียด สหรัฐกดดันให้บราซิลยกเลิกการเยือน แต่หากทำตามบราซิลก็จะกลายเป็นหุ่นเชิดของสหรัฐ และอาจทำให้รัสเซียไม่พอใจ อย่างไรก็ดี ดูเหมือนว่า เหตุผลหลักที่ประธานาธิบดีโบลโซนารู วัย 66 ปี ตัดสินใจไปเยือนรัสเซียเป็นเรื่องการเมืองในประเทศ เพราะคะแนนนิยมของเขาตกต่ำแตะระดับต่ำที่สุด ตามหลังอดีตประธานาธิบดีลูอิซ อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวา วัย 76 ปี ที่จะลงเลือกตั้งประธานาธิบดีแข่งกับเขาในเดือนตุลาคมปีนี้.-สำนักข่าวไทย

ออสเตรเลียอพยพคนออกจากสถานทูตในยูเครน

แคนเบอร์รา 13 ก.พ.- ออสเตรเลียเผยว่ากำลังอพยพคนออกจากสถานทูตในกรุงเคียฟของยูเครน เนื่องจากสถานการณ์บริเวณพรมแดนยูเครน-รัสเซียตึงเครียดขึ้นอย่างรวดเร็ว และเรียกร้องจีนอย่านิ่งเงียบต่อวิกฤตนี้ นางมารีส เพย์น รัฐมนตรีต่างประเทศออสเตรเลียแถลงวันนี้ว่า เจ้าหน้าที่สถานทูตออสเตรเลียในกรุงเคียฟได้รับคำสั่งให้ย้ายไปยังสำนักงานชั่วคราวในเมืองลวิฟ ทางตะวันตกของยูเครนที่อยู่ห่างจากพรมแดนด้านโปแลนด์ประมาณ 70 กิโลเมตร ส่วนพลเรือนชาวออสเตรเลีย กระทรวงขอให้เดินทางออกจากยูเครนด้วยยานพาหนะทางพาณิชย์โดยทันที ด้านนายกรัฐมนตรีสกอตต์ มอร์ริสันของออสเตรเลียแถลงว่า สถานการณ์ในขณะนี้ถึงจุดที่อันตรายอย่างยิ่งแล้ว การกระทำเผด็จการแต่ฝ่ายเดียวของรัสเซียที่กำลังข่มขู่และรังแกยูเครนเป็นสิ่งที่ไม่สามารถยอมรับได้อย่างสิ้นเชิงและอย่างเด็ดขาด ออสเตรเลียขอเรียกร้องให้จีนแสดงตัวเพื่อยูเครน เพราะจีนวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลออสเตรเลียเรื่องรัฐมนตรีต่างประเทศออสเตรเลีย สหรัฐ ญี่ปุ่นและอินเดียประชุมหารือที่ออสเตรเลียเมื่อสัปดาห์ก่อน แต่กลับยังคงนิ่งเงียบต่อเรื่องที่รัสเซียระดมกำลังพลบริเวณชายแดนยูเครน พร้อมกับยืนยันว่า ออสเตรเลียไม่เคยนิ่งเฉยต่อพันธมิตรเผด็จการที่หาทางรังแกประเทศอื่น.-สำนักข่าวไทย

สหรัฐจะส่งทหารอีก 3,000 นายไปยังโปแลนด์

รัฐมนตรีกลาโหมโปแลนด์กล่าวยืนยันวานนี้ว่า สหรัฐจะส่งทหารอีก 3,000 นาย ไปยังโปแลนด์ ในขณะที่รัสเซียจัดการซ้อมรบทั้งในเบลารุส ทะเลดำและคาบสมุทรไครเมีย หลังจากระดมกำลังทหารจำนวนมากใกล้ชายแดนติดกับยูเครน

ออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์ประกาศให้พลเมืองรีบเดินทางออกจากยูเครน

นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย ออกประกาศให้พลเมืองออสเตรเลียรีบเดินทางออกจากยูเครนโดยเร็วที่สุด เนื่องจากสถานการณ์ในยูเครนส่อเค้ารุนแรง ขณะเดียวกันกระทรวงต่างประเทศนิวซีแลนด์ประกาศให้ชาวนิวซีแลนด์ในยูเครนรีบเดินทางออกจากยูเครนโดยเร็วเช่นกัน

“ไบเดน” และ “ปูติน” จะคุยกันกรณียูเครน

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐและประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซียน จะพุดคุยกันในวันนี้ ในขณะที่หลายชาติตะวันตกเตือนว่า สงครามในยูเครนสามารถเกิดขึ้นได้ทุกเวลา

สหรัฐและประเทศพันธมิตรแจ้งพลเมืองให้ออกจากยูเครน

สหรัฐและบรรดาประเทศพันธมิตร เรียกร้องให้พลเมืองของตนเดินทางออกจากยูเครนในทันที เพื่อหลีกเลี่ยงสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นเมื่อรัสเซียบุกยูเครน ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าจะมีการโจมตีทางอากาศ ในยูเครนที่ทางรัฐบาลวอชิงตันกล่าวในวันศุกร์ว่า อาจจะเกิดขึ้นได้ทุกเวลาในขณะนี้

เผย “มาครง” ไม่ให้รัสเซียตรวจโควิดเพราะหวั่นขโมย DNA

ปารีส 11 ก.พ. – แหล่งข่าวที่อยู่ในคณะผู้ติดตามประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส เผยว่า ผู้นำฝรั่งเศสไม่ยอมเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิดตามคำขอของทางการรัสเซียในขณะที่เดินทางเข้าพบประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซียเมื่อวันจันทร์ เพื่อป้องกันไม่ให้รัสเซียได้ข้อมูลดีเอ็นเอของประธานาธิบดีมาครง แหล่งข่าวใกล้ชิดด้านข้อกำหนดทางสุขภาพของประธานาธิบดีมาครงเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์สว่า ผู้นำฝรั่งเศสมี 2 ทางเลือก คือ ยอมเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิดแบบซีพีอาร์ของทางการรัสเซียเพื่อให้ได้รับอนุญาตเข้าใกล้ประธานาธิบดีปูติน หรือปฏิเสธการตรวจหาเชื้อโควิดและต้องเว้นระยะห่างทางสังคมกับผู้นำรัสเซีย ทั้งยังระบุว่า ฝรั่งเศสทราบดีว่าการเดินทางเยือนรัสเซียของประธานาธิบดีมาครงในครั้งนี้จะไม่มีภาพการจับมือระหว่างผู้นำทั้งสองประเทศและต้องมีการใช้โต๊ะยาว เพราะฝรั่งเศสไม่ยอมให้รัสเซียได้ข้อมูลดีเอ็นเอของประธานาธิบดีมาครงอย่างแน่นอน ในขณะเดียวกัน แหล่งข่าวที่อยู่ในคณะผู้ติดตามประธานาธิบดีมาครงยืนยันว่า ผู้นำฝรั่งเศสได้ปฏิเสธเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิดแบบพีซีอาร์โดยแพทย์ชาวรัสเซียจริง โดยเลือกตรวจหาเชื้อโควิดแบบพีซีอาร์ที่ฝรั่งเศสก่อนออกเดินทางไปรัสเซียและให้แพทย์ประจำตัวที่เป็นชาวฝรั่งเศสเป็นผู้ตรวจหาเชื้อโควิดอีกครั้งเมื่อเดินทางถึงรัสเซีย สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตามคำบอกเล่าของแหล่งข่าวใกล้ชิดเป็นเหตุให้ประธานาธิบดีมาครงต้องรักษาระยะห่างทางสังคมกับประธานาธิบดีปูตินในระหว่างการเดินทางเยือนรัสเซียเพื่อหารือเกี่ยวกับปัญหาวิกฤตการณ์ในยูเครน ขณะที่นักวิเคราะห์และนักการทูตหลายรายตั้งข้อสังเกตว่า ภาพถ่ายที่มีประธานาธิบดีปูตินนั่งหารือกับประธานาธิบดีมาครงบนโต๊ะยาว 4 เมตรเมื่อวันจันทร์อาจสะท้อนให้เห็นว่า ผู้นำรัสเซียต้องการส่งสารแสดงท่าทีทางการทูตบางอย่าง.-สำนักข่าวไทย

สหรัฐฯ ส่งมอบอาวุธให้ ยูเครน

สหรัฐฯ ส่งมอบอาวุธมูลค่า 200 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ไปยังยูเครน ด้านรัสเซียปฏิเสธข้อกล่าวหาจากชาติตะวันตกที่ว่ารัสเซียอาจมีแผนบุกยูเครน

1 171 172 173 174 175 278
...