“ไบเดน” เตือนพลเมืองอเมริกันให้ออกจากยูเครนทันที

วอชิงตัน 11 ก.พ. – ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ เตือนว่า พลเมืองอเมริกันทุกคนที่อยู่ในยูเครนควรเดินทางออกจากประเทศทันที เนื่องจากรัสเซียยังคงข่มขู่ว่าจะบุกรุกยูเครนในเร็ว ๆ นี้ ประธานาธิบดีไบเดนให้สัมภาษณ์ในรายการข่าว ‘เอ็นบีซี นิวส์’ เมื่อวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่นว่า พลเมืองอเมริกันที่อาศัยอยู่ในยูเครนควรเดินทางออกจากประเทศทันที สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในตอนนี้ไม่ใช่การรับมือกับกลุ่มก่อการร้าย แต่เป็นประเทศหนึ่งที่มีกองทัพขนาดใหญ่ที่สุดของโลก และสถานการณ์อาจพลิกผันได้อย่างรวดเร็ว ผู้นำสหรัฐยังระบุว่า สหรัฐจะไม่ส่งกองทัพเข้าไปช่วยอพยพลเมืองอเมริกันออกจากยูเครน เพราะการกระทำเช่นนั้นจะมีขึ้นก็ต่อเมื่อเกิดสงครามโลกโดยที่สหรัฐหรือรัสเซียเริ่มเปิดฉากยิงฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เขากล่าวด้วยว่า โลกปัจจุบันนั้นแตกต่างจากอดีตที่เคยเป็น ในขณะเดียวกัน กระทรวงต่างประเทศสหรัฐระบุในแถลงการณ์แยกอีกฉบับที่ระบุว่า สหรัฐไม่สามารถช่วยอพยพพลเมืองอเมริกันที่อยู่ในยูเครนภายใต้สถานการณ์ที่คาดว่ารัสเซียจะส่งกองทัพบุกยูเครนได้ พร้อมทั้งเตือนว่า งานบริการด้านสถานกงสุลในยูเครน เช่น การช่วยเหลือพลเมืองสหรัฐให้เดินทางออกนอกประเทศ จะได้รับผลกระทบอย่างหนัก ทั้งนี้ กองทัพสหรัฐและหน่วยข่าวกรองสหรัฐระบุว่า กองทัพรัสเซียอาจเปิดฉากบุกรุกยูเครนอย่างเต็มรูปแบบภายใน 48 ชั่วโมง ด้วยการใช้รถถังที่สามารถเดินทางถึงกรุงเคียฟของยูเครนได้.-สำนักข่าวไทย

ญี่ปุ่นจะส่งแอลเอ็นจีบางส่วนให้ยุโรป

โตเกียว 9 ก.พ.- แหล่งข่าวรัฐบาลญี่ปุ่นเผยว่า ญี่ปุ่นจะจัดส่งก๊าซธรรมชาติเหลวหรือแอลเอ็นจี (LNG) สำรองบางส่วนให้แก่ยุโรป เนื่องจากความตึงเครียดระหว่างรัสเซียกับตะวันตกเรื่องยูเครน ทำให้เกิดความกังวลต่อความมั่นคงด้านพลังงานในยุโรป แหล่งข่าวเผยว่า ญี่ปุ่นซึ่งเป็นผู้นำเข้าแอลเอ็นจีรายใหญ่จะต้องมีแอลเอ็นจีเพียงพอต่อการใช้งานในประเทศก่อน จึงจะช่วยเหลือประเทศในยุโรปที่นำเข้าแอลเอ็นจีจากรัสเซียถึงร้อยละ 40 และเสี่ยงถูกกระทบในกรณีที่รัสเซียรุกรานยูเครน รัฐบาลอาจจะขอความร่วมมือจากบริษัทญี่ปุ่นที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับแอลเอ็นจี ในระหว่างที่กำลังหารือเรื่องปริมาณและกรอบเวลาจัดส่งแอลเอ็นจีให้แก่ยุโรป ด้านแหล่งข่าวในอุตสาหกรรมพลังงานชี้ว่า แม้ญี่ปุ่นจะมีแอลเอ็นจีสำรองในฤดูหนาวปีนี้มากกว่าฤดูหนาวปีก่อน แต่คงยากที่จะจัดส่งให้ยุโรปได้ในเดือนกุมภาพันธ์ เพราะเป็นช่วงที่มักมีความต้องการใช้งานมากกว่าปริมาณสำรอง แหล่งข่าวเผยเรื่องนี้หลังจากสหรัฐขอให้ญี่ปุ่นเพิ่มการช่วยเหลือเพื่อให้ยุโรปมีพลังงานใช้อย่างเพียงพอในช่วงฤดูหนาว และเตือนว่า จะใช้มาตรการลงโทษรัสเซียหากรุกรานยูเครน ทำให้เกิดความวิตกว่ารัสเซียอาจจำกัดการส่งออกแอลเอ็นจีให้ยุโรป เพื่อตอบโต้ที่ถูกตะวันตกลงโทษ นายโจเซฟ บอร์เรลล์ หัวหน้านโยบายต่างประเทศของสหภาพยุโรปหรืออียู (EU) กล่าวในการประชุมด้านพลังงานกับสหรัฐเมื่อไม่กี่วันก่อนว่า เชื่อว่ารัสเซียไม่ลังเลที่จะใช้การส่งออกแอลเอ็นจีให้ยุโรปเป็นอาวุธเพื่อให้ได้เปรียบทางภูมิรัฐศาสตร์ เพราะราคาพลังงานทั่วโลกกำลังปรับสูงขึ้น ขณะที่นายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐเผยว่า บริษัทของรัฐในรัสเซียกำลังกักตุนแอลเอ็นจีเอาไว้.-สำนักข่าวไทย

“มาครง” เยือนรัสเซียหารือ “ปูติน” แก้วิกฤตยูเครน

มอสโก 8 ก.พ. – ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส ระบุว่า เขาหวังว่าจะเริ่มต้นกระบวนการเพื่อลดความตึงเครียดในยูเครนได้ ในขณะที่ผู้นำฝรั่งเศสเดินทางเยือนกรุงมอสโกเพื่อหารือกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย เมื่อวันจันทร์ ประธานาธิบดีมาครงและประธานาธิบดีปูตินได้นั่งหารือร่วมกันบนโต๊ะยาวโดยที่ทั้งสองผู้นำนั่งอยู่กันคนละฟาก ประธานาธิบดีมาครง กล่าวว่า การหารือในครั้งนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นในทิศทางที่ฝรั่งเศสต้องการ ซึ่งก็คือการลดความตึงเครียดในยูเครน ผู้นำฝรั่งเศสยังเรียกร้องถึงคำตอบที่เป็นประโยชน์ต่อรัสเซียและประเทศอื่น ๆ ในทวีปยุโรปอีกด้วย ในขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีปูตินได้กล่าวต้อนรับประธานาธิบดีมาครงด้วยท่าทีเป็นมิตร โดยระบุว่า รัสเซียกับฝรั่งเศสมีข้อวิตกกังวลที่ตรงกันเกี่ยวกับประเด็นด้านความมั่นคงในยุโรป และกล่าวชื่นชมความเป็นผู้นำของฝรั่งเศสในการพยายามแก้ปัญหาดังกล่าว ทั้งนี้ ประธานาธิบดีมาครงถือเป็นผู้นำจากชาติตะวันตกคนแรกที่เดินทางเข้าพบประธานาธิบดีปูตินนับตั้งแต่เกิดสถานการณ์ตึงเครียดในยูเครน โดยที่รัสเซียได้สั่งกองทหารหลายหมื่นนายไปประจำการอยู่บริเวณพรมแดนติดยูเครน ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีมาครง ซึ่งมีกำหนดเดินทางเยือนกรุงเคียฟของยูเครนในวันนี้ต่อจากรัสเซียเพื่อหารือกับประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน เผยกับผู้สื่อข่าวก่อนเดินทางออกจากฝรั่งเศสว่า เขาคาดว่าการเจรจากับผู้นำของรัสเซียและยูเครนจะเป็นไปในทิศทางที่ดี แต่ไม่ได้หวังว่าการแก้ปัญหานี้จะจบลงภายในเวลาอันสั้น.-สำนักข่าวไทย

อินเดียอนุมัติใช้วัคซีนโควิดเข็มเดียวของรัสเซีย

นิวเดลี 7 ก.พ.- อินเดียอนุมัติให้ใช้สปุตนิกไลท์ (Sputnik Light) ซึ่งเป็นวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 แบบฉีดเข็มเดียวของรัสเซียเป็นกรณีฉุกเฉินแล้ว สปุตนิกไลท์เป็นวัคซีนขนานที่ 9 ที่อินเดียอนุมัติให้ใช้ ในจำนวนนี้ 3 ขนานพัฒนาเองโดยบริษัทยาอินเดีย สปุตนิกไลท์มีส่วนประกอบที่อยู่ในวัคซีนเข็มแรกของสปุตนิกวี (Sputnik V) ซึ่งเป็นวัคซีนที่อินเดียอนุมัติให้ใช้เมื่อปีก่อน และพัฒนาโดยสถาบันกามาเลยาของรัสเซีย แต่เกิดกระแสถกเถียง เพราะรัสเซียแจกจ่ายสปุตนิกวีทั้งที่ยังไม่เปิดเผยข้อมูลการทดลองทางคลินิกระยะสุดท้าย สปุตนิกวีนำเชื้อไวรัสไข้หวัดมาทำให้ไม่เป็นอันตรายเพื่อเป็นพาหะนำส่วนเล็ก ๆ ของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เข้าไปในร่างกาย กระตุ้นให้ร่างกายผลิตแอนติบอดีสร้างภูมิคุ้มกันต่อเชื้อไวรัสนี้ ผู้ผลิตสปุตนิกไลท์อ้างว่า วัคซีนขนานนี้มีประสิทธิภาพสูง สามารถใช้เป็นเข็มกระตุ้นภูมิคุ้มกัน และมีประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตาใกล้เคียงกับการฉีดสปุตนิกวี 2 เข็ม อินเดียฉีดวัคซีนไปแล้วเกือบ 1,700 ล้านเข็ม ผู้ใหญ่ร้อยละ 76 ฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว และมากกว่าร้อยละ 99 ฉีดเข็มแรกแล้ว นอกจากนี้ยังได้เริ่มฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้แก่บุคลากรทางการแพทย์ คนทำงานแนวหน้า และผู้มีอายุ 60 ปีขึ้นไปที่มีโรคประจำตัวมาตั้งแต่วันที่ 10 มกราคม ขณะที่ยอดติดเชื้อสะสมมากกว่า 42 ล้าน 2 […]

ผู้นำฝรั่งเศสเดินสายรัสเซีย-ยูเครนหวังคลี่คลายสถานการณ์

ปารีส 7 ก.พ.- ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครงของฝรั่งเศสเดินทางไปกรุงมอสโกของรัสเซียในวันนี้ ก่อนจะเดินทางต่อไปยังยูเครนในวันรุ่งขึ้น หวังใช้วิถีทางการทูตแก้ไขสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างสองประเทศที่ชาติตะวันตกกังวลว่ารัสเซียเตรียมบุกยูเครน ประธานาธิบดีมาครงใช้เวลาตลอดทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมาต่อสายสนทนากับผู้นำพันธมิตรตะวันตก รัสเซีย และยูเครน แหล่งข่าวใกล้ชิดประธานาธิบดีเผยว่า จุดประสงค์หนึ่งของการไปรัสเซียคือเพื่อซื้อเวลาและยื้อสถานการณ์ไว้หลายเดือน อย่างน้อยจนถึงเดือนเมษายนที่ยุโรปจะมีการเลือกตั้งในหลายประเทศทั้งในฮังการี สโลวีเนีย และฝรั่งเศส ที่ปรึกษาทางการเมืองของเขามองว่า เป็นโอกาสที่มาครงจะได้แสดงความเป็นผู้นำในยุโรป แม้ว่าเขายังไม่ประกาศตัวว่าจะลงเลือกตั้งเป็นสมัยที่ 2 ก็ตาม เว็บไซต์ฟรองซ์แวงต์กัตร์ (France24) ของฝรั่งเศสระบุว่า ประธานาธิบดีมาครง วัย 44 ปี ดำเนินความพยายามทางการทูตกับรัสเซียมาโดยตลอด เขาเชิญประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียมาเยือน หลังจากตนเองรับตำแหน่งในปี 2560 ได้ไม่นาน และเชิญมาพบที่บ้านพักประธานาธิบดีในอีก 2 ปีถัดมา ประเทศยุโรปตะวันออกที่เคยเป็นรัฐบริวารอดีตสหภาพโซเวียตวิจารณ์จุดยืนของมาครง ทำให้เขาต้องหารือกับผู้นำตะวันตกหลายครั้งก่อนไปเยือนรัสเซียในวันนี้.-สำนักข่าวไทย

สหรัฐคาดรัสเซียอาจโจมตียูเครนได้ทุกเมื่อ

วอชิงตัน 7 ก.พ. – ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐ ระบุว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย อาจสั่งโจมตียูเครนได้ทุกเมื่อ ในขณะที่สหรัฐและชาติพันธมิตรในทวีปยุโรปยังคงพยายามหาทางใช้วิถีการทูตในการเจรจากับผู้นำรัสเซียเพื่อแก้ไขวิกฤตการณ์ดังกล่าว นายเจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐ ให้สัมภาษณ์ในรายการข่าว ‘ฟ็อกซ์ นิวส์ ซันเดย์’ เมื่อวันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่นว่า รัสเซียอาจส่งกองทหารโจมตียูเครนได้ทุกเมื่อ หรืออาจเกิดขึ้นภายในอีกไม่กี่สัปดาห์ต่อจากนี้ หรือรัสเซียอาจเลือกใช้การเจรจาทางการทูตแทนก็ได้ ทั้งนี้ การแสดงความเห็นดังกล่าวของนายซัลลิแวนมีขึ้นหลังเจ้าหน้าที่ 2 คนของสหรัฐระบุเมื่อวันเสาร์ว่า รัสเซีย ซึ่งผนวกดินแดนไครเมียของยูเครนในปี 2557 ได้วางกองกำลังทหารที่บริเวณชายแดนติดยูเครนแล้วร้อยละ 70 ของจำนวนทหารที่จำเป็นต้องใช้สำหรับการโจมตียูเครนอย่างเต็มรูปแบบ ด้านรัสเซียซึ่งได้ระดมกำลังทหารกว่า 100,000 นายในพื้นที่ดังกล่าวปฏิเสธว่าไม่ได้วางแผนโจมตียูเครน แต่อาจใช้ปฏิบัติการทางทหารบางอย่าง หากข้อเรียกร้องด้านความมั่นคงของรัสเซียถูกปัดตก เช่น การให้องค์การสนธิสัญญาแอตเลนติกเหนือ หรือนาโต ให้คำมั่นว่าจะไม่รับยูเครนเป็นสมาชิก ในขณะเดียวกัน ทำเนียบขาวสหรัฐเผยว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ ได้พูดคุยทางโทรศัพท์เป็นเวลา 40 นาทีกับประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศสเมื่อวันอาทิตย์ ก่อนที่ผู้นำฝรั่งเศสมีกำหนดเดินทางเยือนกรุงมอสโกของรัสเซียในวันจันทร์เพื่อเป็นตัวกลางในการเจรจาเพื่อลดความตึงเครียดระหว่างรัสเซียกับยูเครน ด้านแหล่งข่าวใกล้ชิดสำนักประธานาธิบดีฝรั่งเศสระบุว่า การหารือทางโทรศัพท์ร่วมกันของประธานาธิบดีไบเดนและประธานาธิบดีมาครงเป็นประเด็นเกี่ยวกับความร่วมมือของทั้งสองประเทศก่อนที่ผู้นำฝรั่งเศสจะเดินทางเยือนรัสเซีย. -สำนักข่าวไทย

สหรัฐอ้างรัสเซียเตรียมรุกรานยูเครนเต็มกำลัง

วอชิงตัน 6 ก.พ.- เจ้าหน้าที่สหรัฐอ้างการประเมินของหน่วยข่าวกรองว่า รัสเซียได้เพิ่มการเตรียมพร้อมเพื่อรุกรานยูเครนเต็มกำลัง แต่ยังไม่ชัดเจนว่ารัสเซียได้ตัดสินใจจะรุกรานแล้วหรือไม่ คณะเจ้าหน้าที่สหรัฐชี้แจงต่อสมาชิกรัฐสภาสหรัฐและพันธมิตรยุโรปเมื่อไม่นานมานี้ว่า รัสเซียได้ระดมกำลังพล 110,000 นายตามแนวพรมแดนด้านติดกับยูเครนและกำลังเพิ่มขึ้นในอัตราที่จะทำให้ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียสามารถรุกรานยูเครนได้เต็มรูปแบบด้วยกำลังพล 150,000 คนภายในกลางเดือนกุมภาพันธ์ พร้อมเตือนว่าผู้นำรัสเซียต้องการมีทางเลือกไว้ทุกอย่าง ตั้งแต่บุกเฉพาะภูมิภาคดอนบาส ทางตะวันออกเฉียงใต้ของยูเครนที่ฝักใฝ่รัสเซีย ไปจนถึงรุกรานยุเครนอย่างเต็มกำลัง หากเลือกอย่างหลัง กองกำลังรัสเซียจะสามารถบุกยึดกรุงเคียฟและโค่นประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกีของยูเครนได้ภายใน 48 ชั่วโมง อาจมีพลเรือนล้มตาย 25,000-50,000 คน ทหารยูเครน 5,000-25,000 นาย และทหารรัสเซีย 3,000-10,000 นายถูกสังหาร เกิดคลื่นผู้อพยพ 1-5 ล้านคน  ส่วนใหญ่จะหลั่งไหลเข้าไปในโปแลนด์ คณะเจ้าหน้าที่กล่าวว่า หน่วยข่าวกรองสหรัฐได้ข้อสรุปว่า รัสเซียกำลังเดินหน้ารวบรวมกำลังพลบริเวณพรมแดนด้านยูเครน เพราะช่วง 2 สัปดาห์ก่อนมีทหาร 60 กองพันประจำการทางตอนเหนือ ตะวันออก และทางใต้ของยูเครน โดยเฉพาะบริเวณคาบสมุทรไครเมียที่รัสเซียผนวกเป็นส่วนหนึ่งในปี 2557 แต่เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา กำลังพลดังกล่าวเพิ่มเป็น 80 กองพัน และมีอีก 14 กองพันกำลังเดินทางมาสมทบ นอกจากนี้ทั้งยังพบว่าหน่วยปฏิบัติการพิเศษสเปซนาซของรัสเซียราว […]

สหรัฐส่งทหาร 3,000 นายไปยุโรปตะวันออกต้านรัสเซีย

วอชิงตัน 3 ก.พ. – สหรัฐจะส่งกองกำลังทหารพิเศษเกือบ 3,000 นายไปยังโปแลนด์และโรมาเนียเพื่อป้องกันภูมิภาคยุโรปตะวันออกที่อาจได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ที่รัสเซียระดมกำลังทหารกว่า 100,000 นายไปประจำการใกล้พรมแดนติดยูเครน กระทรวงกลาโหมของสหรัฐเผยเมื่อวันพุธตามเวลาท้องถิ่นว่า สหรัฐจะส่งกองกำลังทหารพร้อมรถลำเลียงพลหุ้มเกราะราว 1,000 นายที่ประจำการอยู่ที่เมืองวิลเซ็คของเยอรมนีไปยังโรมาเนีย และจะส่งกองทหารราว 1,700 นายจากเมืองฟอร์ตแบรกก์ในรัฐนอร์ทแคโรไลนาของสหรัฐไปยังโปแลนด์ รวมถึงส่งทหารอีก 300 นายจากเมืองฟอร์ตแบรกก์ไปยังเยอรมนี ขณะที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ ระบุว่า การส่งกองกำลังทหารของสหรัฐสอดคล้องกับสิ่งที่เขาเคยกล่าวกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซียไว้ว่า ตราบใดที่ผู้นำรัสเซียยังมีท่าทีก้าวร้าว สหรัฐจะกระทำการที่สร้างความมั่นใจให้แก่พันธมิตรขององค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือนาโต และยุโรปตะวันออกว่า สหรัฐพร้อมยื่นมือเข้าช่วยเหลือ ในขณะเดียวกัน นายจอห์น เคอร์บี โฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐ กล่าวว่า การส่งกองทหารของสหรัฐมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งสัญญาณเตือนประธานาธิบดีปูตินและทั่วโลกว่า นาโตมีความสำคัญต่อสหรัฐและชาติพันธมิตร ก่อนหน้านี้ รัสเซียได้นำกำลังทหารกว่า 100,000 นายไปประจำการบริเวณพรมแดนติดยูเครน และจะใช้มาตรการทางทหารที่ไม่เปิดเผยรายละเอียด หากข้อเรียกร้องของรัสเซียถูกปัดตก ซึ่งรวมถึงข้อเรียกร้องให้นาโตไม่รับยูเครนเป็นพันธมิตร ทั้งนี้ รัสเซียปฏิเสธมาโดยตลอดว่าไม่มีแผนที่จะบุกยูเครน แต่กลับส่งสัญญาณว่าจะไม่ยอมใช้แนวทางประนีประนอม.-สำนักข่าวไทย

“ปูติน” กล่าวหาตะวันตกล่อลวงให้ทำสงครามในยูเครน

มอสโก 2 ก.พ.- ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียกล่าวหาตะวันตกว่า จงใจจัดฉากเพื่อล่อลวงให้รัสเซียทำสงครามในยูเครน และเพิกเฉยต่อการที่รัสเซียกังวลเรื่องความมั่นคงเกี่ยวกับยูเครน ประธานาธิบดีปูตินแสดงความเห็นต่อสาธารณะเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่เกิดวิกฤตขึ้นเมื่อเกือบ 6 สัปดาห์ก่อน โดยใช้การแถลงข่าวร่วมกับนายกรัฐมนตรีฮังการีที่มาเยือนว่า เป็นที่ชัดเจนแล้วว่าความกังวลพื้นฐานของรัสเซียถูกเพิกเฉย ขอให้นึกถึงสิ่งที่อาจเป็นไปได้ในอนาคตเมื่อยูเครนเข้าเป็นสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือหรือนาโต แล้วเริ่มใช้ปฏิบัติการทางทหารเพื่อหาทางยึดคืนคาบสมุทรไครเมียที่รัสเซียผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งในปี 2557 เท่ากับว่ารัสเซียจะต้องทำสงครามกับนาโตทั้งกลุ่ม มีใครคิดถึงเรื่องนี้หรือไม่ สำหรับเขาแล้ว ดูเหมือนว่าจะไม่มี ผู้นำรัสเซียซึ่งไม่ได้พูดถึงวิกฤตยูเครนต่อสาธารณะเลยนับตั้งแต่วันที่ 23 ธันวาคมปีก่อน ไม่แสดงท่าทีส่วนตัวใด ๆ โดยปล่อยให้นักการทูตของรัสเซียและตะวันตกเจรจากันหลายรอบ เขากล่าวว่า ความกังวลหลักของสหรัฐไม่ใช่ความมั่นคงของยูเครน แต่เป็นการล้อมกรอบรัสเซียโดยใช้ยูเครนเป็นเครื่องมือ จากนั้นอาจจะดึงรัสเซียให้พัวพันกับความขัดแย้งทางอาวุธ และใช้มาตรการคว่ำบาตรรัสเซียอย่างรุนแรงโดยได้รับความช่วยเหลือจากพันธมิตรในยุโรป ด้านนายกรัฐมนตรีวิกตอร์ ออร์บานของฮังการีกล่าวว่า หลังจากที่ได้พูดคุยกับผู้นำรัสเซียแล้วเขามีความมั่นใจว่า จุดยืนที่แตกต่างกันอยู่ในขณะนี้สามารถประนีประนอมกันได้ และมีความเป็นไปได้ที่จะลงนามข้อตกลงที่จะรับรองสันติภาพ รับรองความมั่นคงของรัสเซีย และเป็นที่ยอมรับของสมาชิกนาโตที่ฮังการีรวมอยู่ด้วย.-สำนักข่าวไทย

จีนขอให้แก้ปัญหายูเครนด้วยการทูตแบบเงียบ ๆ

สหประชาชาติ 1 ก.พ.- เอกอัครราชทูตจีนประจำสหประชาชาติหรือยูเอ็น ขอให้ทุกฝ่ายใช้การทูตแบบเงียบ ๆ แทนการทูตแบบป่าวประกาศในการแก้ไขสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างยูเครนกับรัสเซีย เว็บไซต์ซีจีทีเอ็น (CGTN) ของทางการจีนรายงานว่า จีนและรัสเซียลงมติเมื่อวันจันทร์ตามเวลาสหรัฐ คัดค้านการเดินหน้าประชุมคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็นหรือยูเอ็นเอสซี (UNSC) ว่าด้วยเรื่องยูเครนตามคำขอของสหรัฐ แต่สมาชิกอีก 10 ชาติจากทั้งหมด 15 ชาติลงมติให้ประชุมต่อไป นายจาง จุน ผู้แทนถาวรจีนประจำยูเอ็นกล่าวว่า ในขณะที่ทุกฝ่ายกำลังให้ความสนใจว่าอะไรเป็นสาเหตุที่แท้จริงที่ทำให้เกิดความตึงเครียดเรื่องยูเครน แต่บางประเทศนำโดยสหรัฐกลับกล่าวอ้างว่า กำลังจะเกิดสงครามในยูเครน ทั้งที่รัสเซียย้ำมาโดยตลอดว่า ไม่คิดจะใช้ปฏิบัติการทางทหาร และยูเครนก็ประกาศชัดเจนว่า ไม่ต้องการให้เกิดสงคราม แล้วเหตุใดประเทศเหล่านั้นจึงยืนกรานว่าจะเกิดสงคราม ผู้แทนจีนกล่าวว่า สหรัฐ ยูเครน และประเทศยุโรปที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือหรือนาโต มีการติดต่อทางการทูตหลากหลายรูปแบบกับรัสเซีย จึงควรมุ่งมั่นแก้ไขความเห็นต่างผ่านการเจรจา สิ่งจำเป็นเร่งด่วนในขณะนี้คือ การทูตแบบเงียบ ๆ ไม่ใช่การทูตแบบป่าวประกาศ จีนยังคงยืนหยัดจุดยืนเดิมในเรื่องยูเครน นั่นคือ การกลับไปยังจุดเริ่มต้นเรื่องการปฏิบัติตามข้อตกลงมินสก์ฉบับใหม่ เพราะยูเอ็นเอสซีได้ให้การรับรองแล้ว จึงถือเป็นเอกสารทางการเมืองพื้นฐานที่มีผลผูกพันเพราะได้รับการยอมรับจากทุกฝ่าย.-สำนักข่าวไทย

ยูเครนจับคนเตรียมก่อจลาจลตามเมืองใหญ่

เคียฟ 31 ม.ค.- ตำรวจยูเครนควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยเตรียมก่อเหตุจลาจลในกรุงเคียฟและเมืองใหญ่หลายแห่ง หวังสร้างภาวะไร้เสถียรภาพในช่วงที่สถานการณ์ของยูเครนทวีความตึงเครียดจากเรื่องรัสเซียระดมกำลังพลใกล้ชายแดน นายเดนิส โมนาสตีร์สกี รัฐมนตรีมหาดไทยยูเครนแถลงทางโทรทัศน์ในวันนี้ว่า ทางการสันนิษฐานว่าจะมีคนประมาณ 5,000 คนเข้าร่วมก่อเหตุจลาจลและปะทะกับตำรวจใน 5 เมืองใหญ่ทางตอนเหนือและตอนกลางของประเทศ การกระทำดังกล่าวที่มีการเตรียมการล่วงหน้ามีเจตนาทำให้เกิดเหตุรุนแรงและเหตุจลาจล ไม่ใช่การประท้วงอย่างสันติแต่อย่างใด เป็นเจตนาอย่างชัดเจนว่าต้องการสั่นคลอนและทำให้ยูเครนไร้เสถียรภาพ อย่างไรก็ดี รัฐมนตรียูเครนไม่ได้เปิดเผยจำนวนผู้ถูกจับกุม หรือผู้อยู่เบื้องหลังแผนการนี้ รัสเซียระดมกำลังพลมากกว่า 100,000 นายและยุทโธปกรณ์ไว้ใกล้พรมแดนยูเครนตั้งแต่ปลายปีก่อน ทำให้สหรัฐและชาติตะวันตกเกรงว่า รัสเซียอาจรุกรานรัสเซียอีกครั้ง หลังจากผนวกคาบสมุทรไครเมียของยูเครนไว้เป็นดินแดนของตนในปี 2557 รัสเซียยืนกรานปฏิเสธว่า ไม่มีแผนรุกราน แต่เป็นการเตรียมการเพื่อปกป้องประเทศเท่านั้น.-สำนักข่าวไทย

1 172 173 174 175 176 278
...