อังกฤษเผยรัสเซียวางแผนโค่นรัฐบาลยูเครน

รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ ระบุรัฐบาลรัสเซียกำลังทำทุกวิถีทางที่จะโค่นล้มรัฐบาลยูเครน เพื่อให้มีรัฐบาลใหม่ที่เป็นมิตรกับรัสเซีย

อังกฤษกล่าวหารัสเซียหาทางตั้งผู้นำในยูเครน

ลอนดอน 23 ม.ค.- อังกฤษกล่าวหารัสเซียว่า กำลังหาทางตั้งผู้นำในยูเครนที่ฝักใฝ่รัสเซีย และให้หน่วยข่าวกรองติดต่อกับอดีตนักการเมืองยูเครนหลายคนหวังรุกรานยูเครน กระทรวงต่างประเทศอังกฤษแถลงเมื่อวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่นว่า มีหลักฐานว่ารัฐบาลรัสเซียกำลังคิดวางตัวนายเยฟเฮน มูราเยฟ นักการเมืองและเจ้าของสื่อยูเครนวัย 45 ปี เป็นผู้นำยูเครนที่สนับสนุนรัสเซีย นายมูราเยฟเคยอ้างว่าประชาคมโลกให้การรับรองเรื่องที่รัสเซียผนวกคาบสมุทรไครเมียของยูเครนเมื่อปี 2557 เขามีคะแนนนิยมเป็นอันดับ 7 ในบรรดาผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดียูเครนปี 2567 นางลิซ ทรัสส์ รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษทวีตผ่านทวิตเตอร์ว่า อังกฤษจะไม่ยอมทนต่อแผนการของรัสเซียที่จะตั้งผู้นำยูเครนฝักใฝ่รัสเซีย รัฐบาลรัสเซียรู้ดีว่า การใช้กำลังทหารรุกรานยูเครนจะเป็นความผิดพลาดทางยุทธศาสตร์ครั้งใหญ่ เพราะสหราชอาณาจักรและหุ้นส่วนจะทำให้รัสเซียต้องรับผลอย่างร้ายแรง กระทรวงต่างประเทศอังกฤษไม่ยอมเปิดเผยหลักฐานตามที่กล่าวอ้าง ขณะที่แหล่งข่าวระบุว่า ปกติแล้วจะไม่มีการเปิดเผยข้อมูลข่าวกรอง และจะมีการเปิดเผยในรายละเอียดต่อเมื่อพิจารณาอย่างถี่ถ้วนแล้วว่า จะเป็นไปเพื่อสกัดการรุกรานของรัสเซีย ด้านกระทรวงต่างประเทศรัสเซียโพสต์เฟซบุ๊กปฏิเสธถ้อยแถลงของอังกฤษว่า เป็นข้อมูลบิดเบือน ขอให้กระทรวงต่างประเทศอังกฤษยุติการกระทำยั่วยุ ยุติการเผยแพร่สิ่งไร้สาระ และตั้งใจศึกษาประวัติศาสตร์สมัยมองโกลรุกรานรัสเซียดีกว่า พร้อมกับกล่าวหาอังกฤษและองค์การสนธิสัญญาแอตแลนตกเหนือหรือนาโตว่า ทำให้สถานการณ์ในยูเครนตึงเครียดมากยิ่งขึ้น อังกฤษอ้างเรื่องนี้หนึ่งวันหลังจากนักการทูตสหรัฐและรัสเซียไม่สามารถบรรลุข้อตกลงในการเจรจาแก้ไขวิกฤตยูเครน ทั้งสองฝ่ายตกลงจะเดินหน้าเจรจาต่อไป ชาติตะวันตกกังวลเรื่องที่รัสเซียระดมกำลังพลใกล้ชายแดนยูเครนตั้งแต่ปลายปีก่อน รัสเซียยืนยันว่า เป็นการเพียงการป้องกันประเทศ ไม่ใช่การรุกราน และเรียกร้องให้นาโตยุติการแผ่อิทธิพลไปทางตะวันออก รวมทั้งรับปากว่าจะไม่รับยูเครนเข้าเป็นสมาชิก.-สำนักข่าวไทย

อังกฤษเตือน “ปูติน-สี จิ้นผิง” ว่าจะยืนหยัดต้านเผด็จการ

ซิดนีย์ 21 ม.ค. – อังกฤษเตือนประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย กับประธานาธิบดีสี จิ้นผิ้ง ของจีน ว่า อังกฤษและชาติพันธมิตรจะยืนหยัดร่วมกันต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย และต่อต้านระบอบเผด็จการที่กำลังแผ่ขยายอำนาจมากที่สุดในช่วงนี้นับตั้งแต่ช่วงหลังสงครามเย็น นางลิซ ทรัสส์ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของอังกฤษ กล่าวในการประชุมระดับรัฐมนตรีของออสเตรเลียกับอังกฤษ (AUKMIN) ที่จัดขึ้นทุกปีในวันนี้ที่นครซิดนีย์ของออสเตรเลียว่า อังกฤษและชาติพันธมิตรในโลกเสรีต้องตอบโต้ภัยคุกคามระดับโลกร่วมกัน เสริมสร้างระบอบประชาธิปไตยในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก และต่อต้านผู้รุกรานรายใหญ่ที่ใช้นโยบายพึ่งพาทางเศรษฐกิจเพื่อให้ได้ในสิ่งที่ต้องการ ทั้งยังเตือนประธานาธิบดีปูตินให้สั่งยุติและถอยพลทหารออกจากยูเครนก่อนที่เขาจะทำผิดพลาดเชิงกลยุทธ์ครั้งใหญ่ นางทรัสส์ ซึ่งเข้าร่วมการประชุมพร้อมด้วยนายเบน วอลเลซ รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมอังกฤษ ยังระบุว่า ผู้รุกรานรายใหญ่ของโลกกำลังแผ่ขยายอำนาจเผด็จการไปทั่วโลก จนเป็นเหตุให้ประเทศต่าง ๆ เช่น เบลารุส เกาหลีเหนือ และเมียนมา กลายเป็นชาติพันธมิตรที่มีสายสัมพันธ์แนบแน่นกับรัฐบาลรัสเซียและจีน อังกฤษจะต้องร่วมมือกับชาติพันธมิตร เช่น ออสเตรเลีย อิสราเอล อินเดีย ญี่ปุ่น และอินโดนีเซีย เพื่อต่อต้านผู้รุกรานเหล่านี้โดยเฉพาะในภูมิภาคแปซิฟิก เธอยังกล่าวด้วยว่า การที่จีนใช้มาตรการบีบบังคับทางเศรษฐกิจต่อออสเตรเลียเป็นสัญญาณเตือนอังกฤษให้รู้ว่ารัฐบาลจีนกำลังใช้อำนาจทางเศรษฐกิจเพื่อควบคุมประเทศอื่น ๆ ในขณะเดียวกัน นายปีเตอร์ ดัทตัน รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของออสเตรเลีย กล่าวว่า ออสเตรเลียยังไม่มีแผนที่จะให้มีการสร้างฐานทัพอังกฤษในออสเตรเลียในขณะที่กองทัพเรืออังกฤษเข้ามามีบทบาทมากขึ้นในภูมิภาคแปซิฟิก โดยที่ทั้งสองประเทศได้ลงนามในข้อตกลงเพื่อจัดหาเงินทุนสนับสนุนระบบโครงสร้างพื้นฐานในภูมิภาคดังกล่าวเพื่อคานอำนาจที่เพิ่มมากขึ้นของจีน นอกจากนี้ […]

“ไบเดน” ชี้ “ปูติน” จะสั่งเคลื่อนทหารบุกยูเครน

วอชิงตัน 20 ม.ค. – ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ คาดการณ์ว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย จะสั่งเคลื่อนกำลังทหารบุกยูเครน แต่คงไม่ใช่การทำสงครามอย่างเต็มรูปแบบ ประธานาธิบดีไบเดนตอบคำถามผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบขาวเกี่ยวกับประเด็นภัยคุกคามจากการรุกรานของรัสเซียว่า เขาคิดว่าประธานาธิบดีปูตินจะสั่งเคลื่อนกำลังทหารบุกยูเครน และต้องทำอะไรบางอย่างเป็นแน่ พร้อมทั้งกล่าวเตือนผู้นำรัสเซียว่าจะต้องชดใช้อย่างหนักจากการลองดีกับชาติตะวันตก อย่างไรก็ดี รัฐบาลรัสเซียได้ออกมาปฏิเสธเกี่ยวกับแผนการจู่โจมหรือบุกรุกว่าไม่เป็นความจริง แต่ยอมรับว่าได้วางกำลังทหารราว 100,000 นายไว้ที่ชายแดนของยูเครน ทำเนียบขาวสหรัฐได้ออกแถลงการณ์ชี้แจงจุดยืนของสหรัฐในเวลาต่อมา หลังมีผู้สื่อข่าวจำนวนหนึ่งถามประธานาธิบดีไบเดนว่า สหรัฐจะยอมให้เกิดการบุกรุกขนาดเล็กในยูเครนหรือไม่ นางเจน ซากี โฆษกทำเนียบขาวสหรัฐ ระบุในแถลงการณ์ดังกล่าวที่ได้รับการเผยแพร่เมื่อช่วงค่ำวันพุธตามเวลาท้องถิ่นว่า หากกองกำลังทหารรัสเซียเคลื่อนพลข้ามพรมแดนของยูเครน ก็ถือเป็นการบุกรุก และจะต้องเผชิญกับการตอบโต้อย่างรวดเร็ว รุนแรง และเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันจากสหรัฐและชาติพันธมิตร ก่อนหน้านี้ รัสเซียได้ออกมาเรียกร้องต่อรัฐบาลชาติตะวันตกไม่ให้ยูเครนเข้าร่วมองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือนาโต และว่ากิจกรรมทางทหารเพื่อป้องกันประเทศของกลุ่มพันธมิตรดังกล่าวควรถูกจำกัดอยู่ในกลุ่มประเทศสมาชิกเท่านั้น ขณะที่การเจรจาระหว่างชาติตะวันตกกับรัสเซียประสบความล้มเหลวในการหาทางออกร่วมกันเมื่อสัปดาห์ก่อน โดยที่ข้อเรียกร้องบางส่วนของรัสเซียถูกปัดตกไป.-สำนักข่าวไทย

รัสเซียเลื่อนมาตรการสู้โควิดออกไปอีก

รัฐบาลรัสเซียตัดสินใจเลื่อนการประกาศห้ามผู้ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนไปในที่สาธารณะออกไปอีก เนื่องจากมาตรการดังกล่าวยังมีผู้ไม่เห็นด้วยเป็นจำนวนมาก ทั้งที่การแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยเฉพาะสายพันธุ์โอไมครอน ยังเป็นไปอย่างรวดเร็ว และคาดว่าสัปดาห์หน้าอาจมีมาตรการใหม่ออกมาแทนที่

สหรัฐและยุโรปจะเจรจากับรัสเซียเรื่องยูเครนวันนี้

บรัสเซลส์ 12 ม.ค.- สหรัฐและพันธมิตรยุโรปที่เป็นสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือหรือนาโต เตรียมตัวเจรจากับรัสเซียเรื่องความตึงเครียดบริเวณพรมแดนยูเครนที่สำนักงานใหญ่นาโตในกรุงบรัสเซลส์ ของเบลเยียมในวันนี้ นางเวนดี เชอร์แมน รัฐมนตรีช่วยต่างประเทศสหรัฐในฐานะผู้เจรจาของสหรัฐประชุมสรุปกับพันธมิตรยุโรปเมื่อวานนี้ โดยได้แจ้งให้นายเยนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการนาโตทราบผลการเจรจากับนายเซอร์เก เรียบคอฟ รัฐมนตรีช่วยต่างประเทศรัสเซียเมื่อวันจันทร์ จากนั้นได้หารือกับเอกอัครราชทูตของสมาชิกนาโต เธอย้ำว่า สหรัฐมุ่งมั่นที่จะทำงานร่วมกับพันธมิตรอย่างใกล้ชิดเพื่อคลี่คลายความตึงเครียดและรับมือกับวิกฤตความมั่นคงที่เกิดจากรัสเซีย ด้านนายอเล็กซานเดอร์ กรูชโค รัฐมนตรีช่วยต่างประเทศรัสเซียที่จะเป็นผู้แทนเจรจากับนาโตกล่าวว่า การหารือวันนี้เป็นช่วงเวลาที่ความสัมพันธ์รัสเซียกับนาโตจะต้อง “เผชิญหน้ากับความเป็นจริง” รัสเซียต้องการให้ชาติตะวันตกยุติการรุกคืบประชิดชายแดน และขอให้นาโตรับประกันอย่างเป็นรูปธรรมว่า จะไม่ให้ยูเครนเป็นสมาชิกนาโต แต่นาโตยืนกรานว่า ประเทศอธิปไตยมีสิทธิตัดสินใจเองเรื่องป็นสมาชิกนาโต และย้ำอีกครั้งว่ายังคงนโยบายเปิดกว้างการรับสมาชิก รวมทั้งขู่จะคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจและการเงินครั้งใหญ่กับรัสเซีย หากรัสเซียรุกรานยูเครนครั้งใหม่ รัสเซียได้ระดมกำลังพลบริเวณชายแดนด้านติดกับยูเครนตั้งแต่ปลายปีก่อน ทำให้สหรัฐต้องเข้ามาเกี่ยวข้อง เพราะเกรงว่าความขัดแย้งจะบานปลายเป็นการเผชิญหน้าทางการทหาร แต่การเจรจาระหว่างสหรัฐ-รัสเซียที่นครเจนีวาของสวิตเซอร์แลนด์นาน 7 ชั่วโมงเมื่อวันจันทร์ไม่ได้ข้อสรุปแน่ชัด ต่อมาประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ ซาเลนสกีของยูเครนย้ำข้อเรียกร้องเมื่อวานนี้ให้ฝรั่งเศสและเยอรมนีเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอด 4 ฝ่ายภายในสิ้นเดือนมกราคม โดยมียูเครนและรัสเซียเข้าร่วมด้วยเพื่อยุติความขัดแย้ง.-สำนักข่าวไทย

คาซัคสถานระบุสถานที่สำคัญทางยุทธศาสตร์ได้รับการดูแลแล้ว

ทำเนียบประธานาธิบดีคาซัคสถานกล่าววันนี้ว่า สถานที่สำคัญทางยุทธศาสตร์ของประเทศหลาย ๆ แห่งในคาซัคสถานได้รับการปกป้องดูและจากกองกำลังพันธมิตรที่มีรัสเซียเป็นแกนนำที่ได้รับเชิญให้เข้ามาช่วยฟื้นฟูความสงบเรียบร้อยภายในประเทศ

คาซัคสถานรวบอดีตนายกฯ ข้อหากบฏ

อัลมาตี 8 ม.ค.- คณะกรรมการความมั่นคงแห่งชาติของคาซัคสถานแถลงว่า ทางการได้ควบคุมตัวนายคาริม มาสซิมอฟ อดีตนายกรัฐมนตรีและอดีตประธานคณะกรรมการความมั่นคงแห่งชาติฐานต้องสงสัยเป็นกบฏ คณะกรรมการความมั่นคงแห่งชาติแถลงเพียงสั้น ๆ ว่า นายมาสซิมอฟ วัย 56 ปี ถูกควบคุมตัวพร้อมกับเจ้าหน้าที่หลายคน เขาเพิ่งถูกปลดจากตำแหน่งประธานคณะกรรมการความมั่นคงแห่งชาติคนที่ 13 เมื่อวันที่ 5 มกราคม หลังเกิดเหตุประท้วงทั่วประเทศที่มีคนเสียชีวิตจำนวนหนึ่ง อาคารต่าง ๆ ถูกเผาทำลาย เป็นเหตุรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่คาซัคสถานประกาศตัวเป็นเอกราชจากอดีตสหภาพโซเวียตในเดือนธันวาคม 2534 นายมาสซิมอฟเป็นคนสนิท และเป็นนายกรัฐมนตรี 2 สมัยในปี 2550-2555 และปี 2557-2559 ของนายนูร์สุลต่าน นาซาร์บาเยฟ ประธานาธิบดีคนแรกของประเทศที่ปกครองมาตั้งแต่ปี 2534-2562 เชื่อกันว่าตระกูลนาซาร์บาเยฟยังคงมีอิทธิพลในกรุงนูร์สุลต่าน เมืองหลวงที่ตั้งตามชื่ออดีตประธานาธิบดีวัย 81 ปีผู้นี้ ประธานาธิบดีคาซีม-โยมาร์ต โตคาเยฟที่รับตำแหน่งต่อจากนายนาซาร์บาเยฟ เผยเมื่อวันศุกร์ว่า สามารถควบคุมสถานการณ์ในเมืองอัลมาตีที่เป็นเมืองใหญ่ที่สุดของประเทศได้แล้ว และได้ออกคำสั่งให้ยิงทิ้งเพื่อจัดการกับเหตุวุ่นวายจากกลุ่มคนที่เขาเรียกว่า “โจร” และ “ผู้ก่อการร้าย” ขณะเดียวกันกองกำลังพันธมิตรที่มีรัสเซียเป็นแกนนำได้มาประจำการในคาซัคสถานแล้วตามคำขอของคาซัคสถาน.-สำนักข่าวไทย

เผยกองกำลังคาซัคสถานสังหารผู้ประท้วงหลายสิบราย

อัลมาตี 6 ม.ค. – ตำรวจคาซัคสถานเผยวันนี้ว่า กองกำลังรักษาความมั่นคงได้สังหารผู้ประท้วงหลายสิบรายที่พยายามบุกเข้าไปในที่ทำการของรัฐบาลเมื่อคืนวันพุธ ขณะที่องค์การสนธิสัญญาความมั่นคงร่วมกัน หรือซีเอสทีโอ ซึ่งมีรัสเซียเป็นแกนนำ ตกลงที่จะส่งกองกำลังช่วยเหลือคาซัคสถานควบคุมเหตุประท้วงรุนแรง สำนักข่าวอินเตอร์แฟ็กซ์-คาซัคสถาน สำนักข่าวทาสส์ และสำนักข่าวอาร์ไอเอ โนวอสตีของรัสเซีย ต่างรายงานอ้างคำพูดของโฆษกสำนักงานตำรวจคาซัคสถานว่า กองกำลังที่มีแนวคิดสุดโต่งได้พยายามโจมตีที่ทำการของรัฐ สำนักงานตำรวจของเมืองอัลมาตี รวมถึงสถานีตำรวจท้องถิ่นเมื่อคืนวันพุธ จนทำให้กองกำลังรักษาความปลอดภัยของคาซัคสถานสังหารผู้ประท้วงไปหลายสิบราย ขณะที่คลิปวิดีโอที่เผยแพร่ในสื่อโซเชียลมีเดียวันนี้แสดงให้เห็นภาพร้านค้าที่ถูกปล้น อาคารที่ถูกวางเพลิง เสียงยิงปืนบนท้องถนน และเสียงกรีดร้องของประชาชนด้วยความหวาดกลัว ในขณะเดียวกัน ซีเอสทีโอ เผยวันนี้ว่า รัสเซียได้ส่งกองทหารพลร่มเข้าไปยังคาซัคสถานเพื่อช่วยปราบปรามเหตุประท้วงรุนแรงในครั้งนี้แล้ว ส่วนสำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า รถขนส่งเจ้าหน้าที่ติดอาวุธหลายคันและกองกำลังทหารจำนวนมากได้ลงพื้นที่ประจำการในจัตุรัสสำคัญของเมืองอัลมาตีเมื่อช่วงเช้าวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งเป็นสถานที่ที่มีผู้ประท้วงหลายร้อยคนชุมนุมต่อต้านรัฐบาลคาซัคสถานติดต่อกันเป็นวันที่สาม เนื่องจากปัญหาน้ำมันแพงที่เกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงหลังปีใหม่.-สำนักข่าวไทย

คาซัคสถานวอนกลุ่มพันธมิตรรัสเซียช่วยคุมประท้วงเดือด

อัสตานา 6 ม.ค. – ประธานาธิบดีคาซีม-โยมาร์ต โตคาเยฟ ของคาซัคสถาน ระบุว่า เขาได้ขอให้องค์การสนธิสัญญาความมั่นคงร่วมกัน หรือซีเอสทีโอ ซึ่งมีรัสเซียเป็นแกนนำ ช่วยเหลือคาซัคสถานหลังรัฐบาลไม่สามารถควบคุมเหตุประท้วงรุนแรงติดต่อกันหลายวันจนทำให้ที่ทำการรัฐหลายแห่งถูกวางเพลิงและมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเสียชีวิต 8 นาย ประธานาธิบดีโตคาเยฟแถลงผ่านโทรทัศน์เมื่อช่วงเช้าวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่นว่า เขาขอให้บรรดาผู้นำของกลุ่มซีเอสทีโอยื่นมือช่วยเหลือคาซัคสถานเพื่อกำจัดภัยคุกคามจากการก่อการร้ายในครั้งนี้ อันที่จริงแล้ว เขามองว่าเหตุดังกล่าวไม่ใช่ภัยคุกคามอีกต่อไป แต่เป็นการบ่อนทำลายประเทศ กลุ่มก่อการร้ายที่ได้รับการฝึกเป็นอย่างดีจากต่างชาติ กำลังสร้างความโกลาหลไปทั่วประเทศ คนกลุ่มนี้ได้เข้ายึดอาคารและระบบโครงสร้างพื้นฐานหลายแห่ง รวมถึงยึดสถานที่ที่จัดเก็บอาวุธขนาดเล็กและเครื่องบิน 5 ลำที่ท่าอากาศยานขนาดใหญ่ที่สุดของคาซัคสถานในเมืองอัลมาตี ประธานาธิบดีโตคาเยฟยังระบุว่า ขณะนี้ ยังคงมีการสู้รบที่ยืดเยื้อระหว่างกลุ่มดังกล่าวกับกองทัพอากาศของกระทรวงกลาโหมคาซัคสถานในพื้นที่ใกล้เมืองอัลมาตี อย่างไรก็ดี รองนายกเทศมนตรีเมืองอัลมาตีระบุในเวลาต่อมาว่า ท่าอากาศยานของเมืองอัลมาตีปลอดผู้ประท้วงแล้ว และกลับมาเปิดบริการได้ตามปกติ ทั้งนี้ กลุ่มซีเอสทีโอเป็นกลุ่มพันธมิตรทางทหารระหว่างรัฐบาลของประเทศสมาชิก 6 ประเทศ ได้แก่ รัสเซีย อาร์เมเนีย เบลารุส คีร์กีซสถาน ทาจิกิสถาน และคาซัคสถาน ในขณะเดียวกัน กระทรวงมหาดไทยของคาซัคสถานเผยว่า มีตำรวจและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยชีวิตแล้ว 8 นายจากเหตุประท้วงรุนแรงทั่วประเทศ และมีเจ้าหน้าที่อีกกว่า 300 นายได้รับบาดเจ็บ แต่ไม่ได้รายงานตัวเลขพลเรือนที่เสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บ ก่อนหน้านี้ สื่อท้องถิ่นของคาซัคสถานรายงานว่า กลุ่มผู้ประท้วงในเมืองอัลมาตีได้บุกเข้าไปวางเพลิงที่สำนักประธานาธิบดีและที่ทำการนายกเทศมนตรีเมืองอัลมาตีเมื่อวันพุธ […]

“ไบเดน” จะตอบโต้เด็ดขาดถ้ารัสเซียบุกยูเครน

วอชิงตัน 3 ม.ค.- ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐแจ้งกับประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกีของยูเครนว่า สหรัฐและพันธมิตรจะตอบโต้อย่างเด็ดขาด หากรัสเซียรุกรานยูเครน โฆษกทำเนียบขาวสหรัฐอ่านถ้อยคำสนทนาทางโทรศัพท์ระหว่างผู้นำสหรัฐและยูเครนว่า ประธานาธิบดีไบเดนได้ประกาศชัดเจนว่า สหรัฐและพันธมิตรรวมทั้งหุ้นส่วนจะตอบโต้อย่างเด็ดขาด หากรัสเซียเดินหน้ารุกรานยูเครน สหรัฐมีพันธกรณีที่จะปกป้องอธิปไตยและบูรณาการทางดินแดนของยูเครน พร้อมกับถือโอกาสนี้สนับสนุนความพยายามทางการทูต รวมถึงการเจรจาเจ้าหน้าที่ระดับสูงสหรัฐและรัสเซียที่นครเจนีวาของสวิตเซอร์แลนด์วันที่ 9-10 มกราคมนี้ ก่อนหน้านี้ไม่กี่วันผู้นำสหรัฐเพิ่งเตือนประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียว่า จะต้องเผชิญกับผลร้ายแรง หากรัสเซียรุกรานยูเครนที่เคยเป็นบริวารสหภาพโซเวียต สหรัฐและพันธมิตรยุโรปกล่าวหารัสเซียว่า เตรียมจะรุกรานยูเครนครั้งใหม่จากการที่ระดมกำลังพล 100,000 นายไปใกล้ชายแดนด้านยูเครน หลังจากที่รัสเซียเคยยึดคาบสมุทรไครเมียของยูเครนในปี 2557 และสนับสนุนสงครามแยกดินแดนฝักใฝ่รัสเซียทางตะวันออกของยูเครน ขณะที่รัสเซียยืนยันว่า ระดมกำลังพลเพื่อป้องกันการแผ่อิทธิพลขององค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกหรือนาโต แม้ว่านาโตไม่ได้เสนอให้ยูเครนเข้าเป็นสมาชิกก็ตาม.-สำนักข่าวไทย

“ไบเดน” จะพูดคุยกับ “ปูติน” ในวันพฤหัสบดี

ทำเนียบขาวของสหรัฐกล่าวว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ และประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย จะพูดคุยกันในวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่นในสหรัฐ ในขณะที่รัฐบาลวอชิงตันกำลังวางแนวทางร่วมกับประเทศพันธมิตรในยุโรปเกี่ยวกับการรับมือกับการเสริมกำลังกองทัพของรัสเซียที่บริเวณติดกับยูเครน

1 174 175 176 177 178 278
...