สงครามยูเครน : รัสเซียรุกหนักพลเรือนเสียชีวิตจำนวนมาก

ยูเครน 1 มี.ค. – หลังจากรัสเซียกับยูเครนเปิดเจรจากัน โดยไม่สามารถตกลงอะไรกันได้ ในพื้นที่ยังคงเกิดการสู้รบอย่างหนักหลายพื้นที่ ขณะที่มีหลักฐานการโจมตีพลเรือนอย่างต่อเนื่อง


วันนี้เป็นวันที่ 6 แล้วที่รัสเซียเริ่มทำสงครามรุกรานยูเครน หลังจากเมื่อวานทั้งสองฝ่ายส่งตัวแทนเจรจากันที่พรมแดนของเบลารุสเมื่อวานนี้ (28 ก.พ.) แต่ก็ล้มเหลวไปมีเพียงแต่ตกลงว่าจะเจรจากันอีกครั้งในสัปดาห์นี้ พร้อมๆไปกับการเจรจานั้น รัสเซียได้โจมตีอย่างหนักหน่วงหลายพื้นที่ โดยเฉพาะที่เมืองคาร์คิฟ เมืองใหญ่อันดับสองของยูเครนใกล้พรมแดนรัสเซีย ซึ่งไม่มีที่มั่นทางการทหารใดๆ เลย แต่ทหารรัสเซียได้โจมตีเข้าใส่ชุมชนที่อยู่อาศัย ไม่ว่าจะเป็นอาคารอพาร์ตเมนต์ และซูเปอร์มาร์เก็ต ทำให้มีพลเรือนเสียชีวิตนับสิบคน รวมถึงเด็ก 3 คน และที่สำคัญรัสเซียใช้อาวุธร้ายแรงที่เรียกว่า thermobaric (เทอร์โมบาริก) หรือ ระเบิดสูญญากาศกับพลเรือน

ภาพล่าสุดจากเมืองคาร์คิฟ เป็นภาพอาคารที่ทำการของรัฐบาลท้องถิ่นซึ่งถูกจรวดยิงถล่ม และเกิดระเบิดอย่างรุนแรง โดยภายในมีเจ้าหน้าที่พลเรือนทำงานอยู่จำนวนมาก และตามถนนหนทางก็มีประชาชนสัญจรไปมา ขณะนี้ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่ามีผู้เสียชีวิตกี่คน ทางรัฐบาลยูเครนประณามรัสเซียว่านี่เป็นการก่ออาชญากรรมสงครามกับพลเรือน ในประเด็นนี้บรรดานักวิเคราะห์เห็นว่า นายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีของรัสเซียจงใจให้เกิดความสูญเสียและโกลาหลในหมู่ประชาชน เพื่อให้หันไปต่อต้านและกดดันรัฐบาลยูเครน


นายโวโลดีเมียร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน ได้แถลงล่าสุดว่า รัสเซียเสแสร้งว่าต้องการเปิดเจรจาเพื่อยุติสงคราม แล้วฉวยโอกาสโจมตียูเครนไปพร้อมกัน และถือว่าเป็นอาชญากสงคราม เข่นฆ่าประชาชน ดังนั้นรัสเซียจึงควรถูกตัดขาดจากโลกและแหล่งรายได้จากการค้าที่นำไปใช้เข่นฆ่าประชาชน ขณะนี้ยูเครนได้เข้าพึ่งกระบวนการทางกฎหมายด้วย โดยเพิ่งยื่นคำร้องให้ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือ ICJ ที่กรุงเฮก ของเนเธอร์แลนด์ เพื่อดำเนินคดีกับรัสเซีย ที่ได้ยกข้ออ้างผิดๆ ว่ารัฐบาลยูเครนฆ่าล้างเผ่าพันธุ์เพื่อสร้างความชอบธรรมในการรุกรานยูเครน นอกจากนั้นศาลอาชญากรรมระหว่างประเทศ ที่กรุงเฮก ได้เริ่มกระบวนการสืบสวนแล้วว่า รัสเซียได้ก่ออาชญากรรมสงคราม ซึ่งมีหลายชาติได้ผลักดันให้ดำเนินคดีจากหลักฐานชัดเจนว่า รัสเซียโจมตีพลเรือนอย่างไม่เลือกหน้า รายงานของสหประชาชาติระบุว่า มีพลเรือนเสียชีวิตแล้วกว่า 400 คน

นอกจากนั้นยังมีความเคลื่อนไหวสำคัญในการสู้รบอีกด้าน คือ การระดมกำลังทหารของรัสเซียเข้าไปจากประเทศเบลารุส ทางเหนือของยูเครน ภาพถ่ายดาวเทียมนี้เป็นภาพของกองรถทหารที่มีความยาวถึง 60 กิโลเมตร เคลื่อนตัวทางเหนือของกรุงเคียฟ ซึ่งน่าจะเป็นการเสริมกำลัง หรือ เปิดการโจมตีระลอกใหม่มุ่งเข้ายึดให้ได้ หลังจากที่ผ่านมา 5 วันแล้ว ทหารและชาวยูเครนที่จับอาวุธยังสามารถยืนหยัด ปกป้องเมืองหลวงไว้ได้ มีรายงานบางกระแสที่ชี้ว่า รัสเซียจะใช้กลยุทธ์ปิดล้อมและปิดกั้นไม่ให้ขนส่งอาหารและปัจจัยต่างๆ เข้าไปยังกรุงเคียฟ

แม้ว่าจะเสียเปรียบด้านอาวุธ แต่ยูเครนสามารถปกป้องเมืองใหญ่ๆ เอาไว้ได้ ด้วยกำลังใจและความช่วยเหลือจากต่างชาติที่หลั่งไหลไปยังยูเครน ในระดับประชาชนนั้น มีบุคคลทั่วไปในหลายบางประเทศ เช่น จอร์เจีย ซี่งเคยอยู่ร่วมในสหภาพโซเวียตเช่นเดียวกับยูเครน มีประชาชนหลายสิบคนเดินทางไปที่สถานทูตยูเครนในกรุงทบิลิซี เพื่อขอให้เกณฑ์พวกเขาเข้าร่วมกองทหารเพื่อไปช่วยรบในยูเครน บางคนเป็นชาวรัสเซียที่ไม่เห็นด้วยกับรัฐบาล ก็ต้องการช่วยเหลือยูเครนที่เป็นเพื่อนของพวกเขาเช่นกัน


ที่อังกฤษก็มีคนไปยังสถานทูตยูเครนในกรุงลอนดอน เสนอตัวไปช่วยรบกับรัสเซีย บางคนเป็นทหารผ่านศึก บางคนเป็นผู้สูงอายุ ต่างบอกว่า ต้องการช่วยเท่าที่จะทำได้ หลังจากถูกรัสเซียรุกราน รัฐบาลยูเครนได้ยกเลิกข้อกำหนดวีซ่าสำหรับชาวต่างชาติชั่วคราว เปิดทางให้ชาวต่างชาติเข้าร่วมสู้รบได้

ส่วนในระดับรัฐบาลนั้น แคนาดาประกาศว่าจะส่งอาวุธไปช่วยเหลือยูเครน มีทั้งจรวดต่อต้านรถถังและเครื่องกระสุน ส่วนออสเตรเลีย จะมอบความช่วยเหลือทางการทหารมูลค่า 50 ล้านดออลาร์สหรัฐให้ มีทั้งจรวดและกระสุน รวมทั้งความช่วยเหลือเพื่อมนุษยธรรมอีก 35 ล้านดอลลาร์ ด้านเนเธอร์แลนด์ รัฐบาลเพิ่งส่งจรวดหลายร้อยลูก และอาวุธต่อต้านรถถังไปยังยูเครน พร้อมกับเรียกร้องประเทศต่างๆ ให้ช่วยกันยุติการรุกรานของรัสเซีย

ด้านรัสเซียต้องรับมือผลกระทบทางเศรษฐกิจจากมาตรการลงโทษของชาติตะวันตก ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนทั่วไปเริ่มวิกฤติ ขณะนี้ธนาคารและสถาบันการเงินของรัสเซียหลายแห่งถูกตัดออกจากระบบสื่อสารด้านการเงินระหว่างธนาคารที่เรียกว่า ระบบ SWIFT อัตราแลกเปลี่ยนเงินรูเบิลของรัสเซียลดฮวบ นอกจากนั้นเมื่อแหล่งรายได้สำคัญของรัสเซียอยู่ในภาคพลังงาน ทำให้ขณะนี้มีบริษัทน้ำมันหลายแห่งเริ่มเคลื่อนไหวต่อต้าน หลังจากทีเมื่อวานนี้ (28 ก.พ.) บริษัทบีพีของอังกฤษ ได้ขายทิ้งหุ้น 20 เปอร์เซ็นต์ ของบริษัท รอสเนฟ ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันของรัฐบาลรัสเซีย วันนี้บริษัทน้ำมันเชลล์ ก็ได้ถอนตัวจากการเป็นหุ้นส่วนในหลายโครงการที่ร่วมทุน ร่วมกับบริษัทก๊าซปรอมของรัสเซีย มูลค่ารวม 3,000 ล้านดอลลาร์ รวมทั้งถอนตัวจากโครงการท่อส่งก๊าซ นอร์ดสตรีม 2 ที่ได้ร่วมถือหุ้นอยู่ 10 เปอร์เซ็นต์ ด้วย .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย”

รัฐสภา 3 ก.ย.-พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย” ก๊วน “สุชาติ-ธรรมนัส-สันติ” ร่วมด้วย ด้านงูเห่า “เพื่อไทย-ปชป.” โผล่โชว์ตัว บรรยากาศการประชุมพรรคภูมิใจไทย ภายหลังพรรคประชาชนมีมติโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต่างทยอยเดินทางมาเพื่อรอแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลในเวลา 11:00 น. โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.รวมไทยสร้างชาติ นำกลุ่ม 18 สส. เดินทางมาเป็นกลุ่มแรก อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามี สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ของกลุ่มนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาร่วมแต่อย่างใด ขณะที่ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตามมาด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่นำ สส.เพชรบูรณ์ มาร่วมด้วย จากนั้น พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมแกนนำพรรค เช่น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายไผ่ […]

“ทักษิณ” รับผิดไว้ใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ยอมรับผิด ไว้วางใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอดูพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อเรื่องรู้ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาด ด้วย โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณ พูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส. ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่านายทักษิณ โดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวง ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณ ยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณ ได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก พร้อมกันนี้ สส. […]

เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย ส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย เข้าชื่อส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ แต่ยังปฏิบัติหน้าที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 20 สส.เพื่อไทย นำโดย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 วินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2568 ซึ่งเป็นวันวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป แทน นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง ดังนั้น เมื่อได้รับทราบถึงการมีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายสราวุธ แทนนายปัญญา ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว จึงไม่ควรที่จะให้ นายปัญญา […]

ข่าวแนะนำ

“เท้ง” เมินออปชันสุดท้ายเพื่อไทย มั่นใจ สส.ปชน.ไม่แตกแถว ย้ำไม่มีฟรีโหวต

รัฐสภา 4 ก.ย.- “เท้ง” ลั่น ไม่เสียดาย-ไม่ทบทวนมติโหวต “อนุทิน” นั่งนายกฯ เมินออปชันสุดท้ายเพื่อไทย ซัดไม่จริงใจ-ปล่อยข่าวชิงการเมือง มั่นใจ สส.พรรคประชาชน ไม่แตกแถว-ไม่มีฟรีโหวต นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ปฏิเสธกรณีที่มีกระแสข่าวความเห็นต่างภายในพรรคฯ ต่อการลงมติเลือกนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็นนายกรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้ (5 ก.ย.) ว่า ไม่ได้มีความเห็นที่แตกต่างกันภายในพรรค และเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา จนถึงตลอดทั้งวัน ก็มีความชัดเจนแล้วว่า พรรคเพื่อไทย ยุติกระบวนการยุบสภา และเดินหน้าเสนอชื่อนายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ให้ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร พิจารณาเป็นนายกรัฐมนตรี พร้อมย้ำว่า กระบวนการตัดสินใจของพรรคประชาชน สิ้นสุดลงตั้งแต่คณะกรรมการบริหารพรรคฯ แถลงข่าว และลงนามร่วมกับพรรคภูมิใจไทยแล้ว ส่วนข้อเสนอไพ่ใบสุดท้ายของพรรคเพื่อไทย ที่จะยุบสภาทันทีหากนายชัยเกษม ได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภานั้น หัวหน้าพรรคประชาชน ระบุว่า ถ้ามีการเสนอมาก่อนหน้านี้ และมีการพูดคุยอย่างเป็นทางการ ก่อนพรรคฯ จะมีมติ ตนเชื่อว่า ตน และสส.ภายในพรรค จะรับไว้พิจารณา แต่กระบวนการที่ผ่านมา ยังคงมีการให้ข่าวกลับไป […]

ทบ.ชี้กัมพูชายั่วยุละเมิดข้อตกลง เกณฑ์คนประท้วงบ้านหนองจาน

4 ก.ย.- ทบ. เผยกรณีชาวกัมพูชาประท้วงที่บ้านหนองจาน ชี้เป็นการยั่วยุละเมิดข้อตกลงหยุดยิง กองกำลังบูรพาพร้อมตำรวจควบคุมฝูงชนเตรียมกำลังเพื่อป้องกันอธิปไตยและการกระทำผิดกฎหมาย วันนี้ (4 ก.ย.68) กองทัพบกได้รับรายงานจากศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 1 ว่าพบประชาชนชาวกัมพูชาประมาณ 150 คน เข้ามารวมตัวประท้วงแสดงความไม่พอใจในบริเวณใกล้กับหลักเขตแดนที่ 46 บ้านหนองจาน อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ยังอยู่ในพื้นที่อ้างสิทธิ์ โดยพบว่าประชาชนบางส่วนมีลักษณะพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม แสดงท่าทียั่วยุเจ้าหน้าที่ พกพาไม้เป็นอาวุธ และบางรายมีลักษณะเป็นแกนนำของมวลชน ซึ่งสังเกตได้จากการใช้และพกพาวิทยุสื่อสารประจำตัว พร้อมพบว่ามีทหารกัมพูชาคอยสังเกตการณ์และร่วมอยู่ในกลุ่มมวลชนชาวกัมพูชาด้วย ซึ่งตั้งแต่เกิดเหตุ ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 1 โดยกองกำลังบูรพา ได้จัดกำลังพลร่วมกับชุดควบคุมฝูงชนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจภูธรสระแก้ว เข้าควบคุมสถานการณ์ พร้อมเตรียมดำเนินการกับกลุ่มผู้ประท้วง หากพบว่ามีการรุกล้ำอธิปไตยไทยและกระทำผิดกฎหมายในทันที ล่าสุด พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวว่าเมื่อเวลา 13.30 น. กองกำลังบูรพาได้รายงานเพิ่มเติมว่าทางกัมพูชามีการเกณฑ์ประชาชน ทั้งจากนอกพื้นที่ และที่สัญจรผ่านไปมา เข้ามาร่วมประท้วงและแสดงท่าทียั่วยุต่อทหารไทยในพื้นที่เพิ่มเติม ซึ่งการกระทำในครั้งนี้ ถือเป็นการละเมิดต่อข้อตกลงหยุดยิงที่ทั้งไทยและกัมพูชาได้มีมติเห็นพ้องร่วมกันในการดำเนินการ จากการประชุม GBC และ RBC ที่ผ่านมา รวมทั้งโฆษกกองทัพบกได้ย้ำว่า […]

“ภูมิธรรม” โพสต์แจง 2 ฉบับ ย้ำเจตนารมณ์รัฐบาลคืนอำนาจให้ ปชช.

กทม. 4 ก.ย.- “ภูมิธรรม” โพสต์ข้อความชี้แจง 2 ฉบับ “เพื่อความกระจ่างชัดเรื่องการยุบสภา – เดินหน้าตามครรลองประชาธิปไตย” นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี โพสต์เฟซบุ๊กชี้แจง 2 ฉบับ “เพื่อความกระจ่างชัดเรื่องการยุบสภา – เดินหน้าตามครรลองประชาธิปไตย” โดยฉบับที่ 1 ระบุว่า “เพื่อความกระจ่างชัดเรื่องการยุบสภา” ในช่วงที่การเมืองยังสับสน ผมขอเรียนชี้แจงให้เกิดความกระจ่างชัดในประเด็นร่างพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎรดังนี้ รัฐบาลได้ดำเนินการจัดทำร่างพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร และส่งให้สำนักงานองคมนตรีพิจารณาแล้วเมื่อเย็นวันที่ 2 กันยายน 2568 ต่อมาได้รับแจ้งจากสำนักงานองคมนตรี ว่ายังมีประเด็นข้อกฎหมายที่มีการโต้แย้งและยังไม่เป็นข้อยุติ โดยเฉพาะประเด็นอำนาจของรองนายกรัฐมนตรีผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรีในการถวายคำแนะนำ จึงยังไม่เห็นสมควรนำร่างพระราชกฤษฎีกาขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายในเวลานี้ รัฐบาลเคารพในขั้นตอนและหลักนิติธรรมทุกประการ และจะนำกลับมาทบทวนและพิจารณาเพื่อให้เกิดความเหมาะสมถูกต้อง แต่ขอย้ำชัดว่า เจตนารมณ์ของรัฐบาลคือการคืนอำนาจให้ประชาชนโดยเร็วที่สุด จากนั้นได้โพสต์ ฉบับที่ 2 “เดินหน้าตามครรลองประชาธิปไตย” ระบุ เมื่อพรรคประชาชนได้แสดงจุดยืนชัดเจนว่าจะโหวตสนับสนุนพรรคภูมิใจไทย และมีการบรรจุวาระเลือกนายกรัฐมนตรีแล้ว ทุกพรรคการเมืองต้องแสดงความรับผิดชอบต่อการตัดสินใจของตน ให้ประชาชนได้เห็นว่ากลไกสภายังคงทำงานตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ สำหรับพรรคเพื่อไทย เราพร้อมเสนอชื่อศาสตราจารย์ชัยเกษม นิติสิริ เป็นนายกรัฐมนตรี และขอยืนยันต่อประชาชนว่า หากเราได้รับเสียงสนับสนุน […]

ชาวกัมพูชาลุกฮือประชิดชายแดนบ้านหนองจาน

4 ก.ย. – สระแก้วตึงเครียด! ชาวกัมพูชาลุกฮือประชิดชายแดนบ้านหนองจาน หลังไทยปักป้ายประกาศให้ออกจากพื้นที่ ขณะที่จังหวัดสุรินทร์ เจ้าหน้าที่พบหลักฐานชิ้นสำคัญลูกเหล็กสะเก็ดระเบิด “Ball Bearing” ในบ้านประชาชนเหยื่อจรวด BM-21 สถานการณ์ล่าสุดบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา บ้านหนองจาน ตำบลโนนหมากมุ่น อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว หลังจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทย นำโดยกำลังทหาร กรมป่าไม้ ตำรวจตระเวนชายแดน และฝ่ายปกครองในพื้นที่ ได้ร่วมกันติดตั้งป้ายประกาศ 3 ภาษา (ไทย–อังกฤษ–เขมร) เพื่อแจ้งเตือนให้ชาวกัมพูชาที่บุกรุกเข้ามาในพื้นที่เขตไทย ออกจากบริเวณดังกล่าวโดยทันที หากฝ่าฝืนจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากกระทำในพื้นที่เกินกว่า 25 ไร่ ต้องระวางโทษจำคุก ตั้งแต่ 2 ปี ถึง 15 ปี และปรับตั้งแต่ 10,000 ถึง 100,000 บาท ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป การติดตั้งป้ายดังกล่าว ทำให้กลุ่มชาวกัมพูชาที่อาศัยอยู่บริเวณแนวชายแดนไม่พอใจ และได้รวมตัวกันจำนวนหนึ่ง เคลื่อนเข้ามาใกล้แนวชายแดนฝั่งไทย […]