UNSC จะประชุมเรื่องสถานการณ์ยูเครนเป็นครั้งแรก

สหประชาชาติ 31 ม.ค.- คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติหรือยูเอ็นเอสซี (UNSC) จะประชุมกันในวันนี้ เพื่อหารือเป็นครั้งแรกเรื่องสถานการณ์ความตึงเครียดในยูเครน จากการที่รัสเซียระดมกำลังพลใกล้พรมแดน คาดว่าประเทศที่เกี่ยวข้องจะโต้เถียงกันอย่างเผ็ดร้อน การหารือดังกล่าวเป็นไปตามคำขอของสหรัฐ นางลินดา โทมัส-กรีนฟิลด์ เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำยูเอ็นประกาศข่าวการประชุมเมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้วว่า การกระทำของรัสเซียเป็นภัยคุกคามชัดเจนต่อสันติภาพและเสถียรภาพสากล และต่อกฎบัตรยูเอ็น สมาชิกยูเอ็นเอสซีจะต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างตรงไปตรงมา และพิจารณาผลประโยชน์ของยูเครน รัสเซีย ยุโรป รวมไปถึงระเบียบและหลักการสำคัญของระเบียบสากล ในกรณีที่รัสเซียเดินหน้ารุกรานยูเครน ด้านนายดมิทรี โปเลียนสกี รองเอกอัครราชทูตรัสเซียประจำยูเอ็นตอบโต้อย่างไม่พอใจด้วยการทวีตผ่านทวิตเตอร์ว่า เขาจำไม่ได้ว่าเคยมีสมาชิกยูเอ็นเอสซีประเทศใดเสนอให้หารือข้อกล่าวหาและสมมติฐานไร้มูลของตัวเองว่า เป็นภัยคุกคามระเบียบสากล หวังว่าสมาชิกยูเอ็นเอสซีประเทศอื่น ๆ จะไม่สนับสนุนการประชาสัมพันธ์อย่างโจ่งแจ้งที่น่าละอายสำหรับชื่อเสียงของยูเอ็นเอสซี ท่าทีของนายโปเลียนสกีบ่งชี้ว่า รัสเซียอาจขอให้ที่ประชุมลงมติตั้งแต่เปิดการประชุมว่า ควรเดินหน้าประชุมต่อไปหรือไม่ รัสเซียต้องได้เสียงสนับสนุน 9 ใน 15 เสียงจึงจะสามารถคว่ำการประชุมได้ ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐเผยว่า สหรัฐได้หารือกับสมาชิกยูเอ็นเอสซีอย่างสม่ำเสมออยู่แล้ว จึงมั่นใจว่าจะได้รับเสียงสนับสนุนมากเกินพอให้เปิดการประชุมต่อไป ทั้งนี้หากยูเอ็นเอสซีมีมติเห็นชอบ ที่ประชุมจะเริ่มด้วยการฟังรายงานสรุปจากเจ้าหน้าที่ยูเอ็น ตามด้วยถ้อยแถลงของ 15 ชาติสมาชิก และจะให้ยูเครนในฐานะประเทศที่เกี่ยวข้องได้แถลงด้วย.-สำนักข่าวไทย

ยูเครนขอให้ตะวันตกคุยกับรัสเซียอย่างระวังและหนักแน่น

เคียฟ 30 ม.ค.- ยูเครนขอให้ชาติตะวันตกใช้ความระมัดระวังและหนักแน่นในการเจรจากับรัสเซียที่ระดมกำลังพลและยุทโธปกรณ์จำนวนมากไว้บริเวณพรมแดนติดกับยูเครน หลังจากชาติตะวันตกพร้อมใจกันเคลื่อนไหวอย่างหนัก ยูเครนแถลงว่า นายดมิโตร คูเลบา รัฐมนตรีต่างประเทศยูเครนได้ย้ำในการสนทนากับนายอีฟส์ เลอ ดริยง รัฐมนตรีต่างประเทศฝรั่งเศสเมื่อวันเสาร์ว่า ขอให้ชาติตะวันตกคงความระมัดระวังและหนักแน่นในการเจรจากับรัสเซีย หลีกเลี่ยงการกระทำใด ๆ ที่จะทำให้ชาวยูเครนเกิดความกังวล และสั่นคลอนเสถียรภาพทางการเงินของยูเครน ส่วนเมื่อวันศุกร์ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกีของยูเครนเรียกร้องชาติตะวันตกหลีกเลี่ยงการปลุกเร้าความหวาดวิตกเรื่องที่รัสเซียส่งกำลังพลสู้รบมากกว่า 100,000 นายและยุทโธปกรณ์ไปประจำการบริเวณพรมแดนยูเครนตั้งแต่เดือนตุลาคมปีก่อน และเมื่อไม่นานมานี้ได้ส่งไปยังเบลารุสที่ติดกับพรมแดนทางเหนือของยูเครน รัฐมนตรีต่างประเทศฝรั่งเศสและรัฐมนตรีต่างประเทศเยอรมนีจะเดินทางไปยูเครนพร้อมกันในวันที่ 7-8 กุมภาพันธ์ ขณะที่นายกรัฐมนตรีโปแลนด์จะไปพบหารือกับประธานาธิบดีและนายกรัฐมนตรียูเครนในวันอังคารนี้ ส่วนคนสนิทของประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครงของฝรั่งเศสเผยว่า ประธานาธิบดีได้สนทนาทางโทรศัพท์นานกว่า 1 ชั่วโมงกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซีย และเห็นพ้องกันว่าจำเป็นต้องหาทางลดความตึงเครียด ผู้นำรัสเซียย้ำว่า ไม่มีแผนการรุกรานยูเครน อย่างไรก็ดี ฝรั่งเศสเตรียมส่งทหารไปยังโรมาเนีย ประเทศในยุโรปตะวันออกที่เป็นสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือหรือนาโต ตามที่ประธานาธิบดีมาครงประกาศไว้ครั้งแรกเมื่อต้นเดือน ด้านประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐยืนยันว่า จะส่งทหารกลุ่มเล็กไปเสริมกำลังพลของนาโตในยุโรปตะวันออก เนื่องจากพรมแดนยูเครน-รัสเซียยังมีความตึงเครียด ขณะที่อังกฤษจะเสนอต่อนาโตในสัปดาห์หน้าว่า จะเสริมกำลังพลเป็น 2 เท่าจากที่ประจำการอยู่ในยุโรปตะวันออก 1,150 คน และจะส่งอาวุธในการป้องกันให้แก่เอสโตเนียด้วย เพื่อส่งสารชัดเจนไปยังรัสเซียว่า จะไม่ยอมทนต่อการเคลื่อนไหวที่จะสั่นคลอนเสถียรภาพในภูมิภาค และพร้อมเคียงข้างพันธมิตรในนาโต ซึ่งมีทั้งหมด 30 […]

สหรัฐฯ เริ่มส่งอาวุธยุทโธปกรณ์ให้ยูเครนเเล้ว

สหรัฐฯ เริ่มขนส่งอาวุธและกระสุนจำนวนมากให้ยูเครนแล้ว ขณะที่กระทรวงกลาโหมสหรัฐประกาศว่าทหารสหรัฐ 8,500 นาย เตรียมตัวเดินทางไปยังยุโรป เพื่อสนับสนุนยูเครนซึ่งกำลังมีปัญหากับรัสเซียในขณะนี้ 

วิเคราะห์วิกฤตรัสเซีย-ยูเครนจะจบอย่างไร

กรุงเทพฯ 28 ม.ค. – สถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างรัสเซีย-ยูเครน กลายเป็นจุดสนใจของชาวโลก จนเป็นที่วิตกกันว่าจะบานปลายจนกลายเป็นสงครามใหญ่หรือไม่ วิกฤตรัสเซีย-ยูเครน เกิดขึ้นได้อย่างไร และจะจบลงตรงไหน ไทยเราจะได้รับผลกระทบหรือไม่ ติดตามการสัมภาษณ์พิเศษ อาจารย์ ดร.กัณฐัศศา พงษ์หิรัญ อาจารย์ประจำโครงการรัสเซียศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยคุณวัชรินทร์ เศรษฐกุดั่น หัวหน้ากองข่าวต่างประเทศ. – สำนักข่าวไทย

สหรัฐขอให้จีนช่วยคุยรัสเซียแก้ปัญหายูเครน

วอชิงตัน 28 ม.ค. – สหรัฐเรียกร้องให้จีนใช้อิทธิพลที่มีต่อรัสเซียเพื่อกระตุ้นให้เกิดการแก้ปัญหาด้วยวีถีการทูตต่อสถานการณ์วิกฤตในยูเครน นางวิกตอเรีย นูแลนด์ เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงต่างประเทศสหรัฐ แถลงเมื่อวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่นว่า สหรัฐขอเรียกร้องให้จีนใช้อิทธิพลที่มีต่อรัสเซียเพื่อกระตุ้นให้เกิดการแก้ปัญหาด้วยการทูตต่อสถานการณ์วิกฤตในยูเครน เพราะถ้าเกิดความขัดแย้งขึ้นในยูเครน ก็จะไม่เป็นผลดีต่อจีนเช่นกัน รวมถึงผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อเศรษฐกิจโลกและอุตสาหกรรมด้านพลังงาน ก่อนหน้านี้ นายหวัง อี้ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศจีน ได้ต่อสายคุยกับนายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศสหรัฐเมื่อวันพุธ โดยระบุว่า จีนต้องการให้ทุกฝ่ายใจเย็น รวมถึงงดการกระทำที่เพิ่มความตึงเครียดและปลุกเร้าวิกฤต ขณะที่นายบลิงเคนได้เน้นย้ำว่า ทุกฝ่ายควรช่วยกันลดความตึงเครียดในยูเครน และเตือนว่าอาจเกิดความเสี่ยงทางเศรษฐกิจและความมั่นคงหากรัสเซียบุกยูเครน ขณะนี้ รัสเซียได้วางกองกำลังทหารตามแนวพรมแดนยูเครนมาเป็นเวลาหลายเดือนแล้ว และได้เรียกร้องให้องค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือนาโต ถอนกำลังทหารและอาวุธออกจากภูมิภาคยุโรปตะวันออก รวมถึงการสั่งห้ามยูเครน ซึ่งเคยเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพโซเวียต เข้าร่วมเป็นพันธมิตรทางทหารที่นำโดยสหรัฐอย่างเด็ดขาด อย่างไรก็ดี นาโตได้ปฏิเสธข้อเรียกร้องดังกล่าวของรัสเซีย แต่ระบุว่าพร้อมหารือเกี่ยวกับมาตรการควบคุมอาวุธและการสร้างความเชื่อมั่น.-สำนักข่าวไทย

สหรัฐพร้อมส่งทหารเข้าร่วมกองกำลังนาโต้

โฆษกกลาโหมสหรัฐ เผยทหารสหรัฐราว 8,500 นาย เตรียมพร้อมเข้าร่วมกับองค์การนาโต้ เพื่อปฏิบัติการโพ้นทะเลได้ในทันที จากความตึงเครียดระหว่าง ยูเครนกับรัสเซีย

จีนบอกสหรัฐอยากให้ทุกฝ่ายใจเย็นเรื่องยูเครน

ปักกิ่ง 27 ม.ค.- จีนแจ้งกับสหรัฐว่า อยากให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ยูเครนใช้ความใจเย็นและหลีกเลี่ยงการเพิ่มความตึงเครียด กระทรวงต่างประเทศจีนแถลงวันนี้ว่า นายหวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศจีนได้กล่าวกับนายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐระหว่างการสนทนาทางโทรศัพท์เมื่อเย็นวันพุธว่า จีนขอให้ทุกฝ่ายใจเย็นต่อไปและงดการกระทำใด ๆ ที่จะเพิ่มความตึงเครียดและปลุกเร้าวิกฤต จีนเห็นว่า ความมั่นคงของประเทศหนึ่งไม่ควรกระทบความมั่นคงของประเทศอื่น และไม่ควรรับประกันความมั่นคงของภูมิภาคด้วยการเสริมสร้างหรือแม้แต่ขยายกลุ่มทางการทหาร นายหวังกล่าวด้วยว่า การแก้ไขประเด็นยูเครนจะต้องกลับไปยังจุดเริ่มต้นคือ ข้อตกลงมินสก์ฉบับใหม่ เพราะเป็นข้อตกลงที่ได้รับความเห็นชอบจากคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ เป็นเอกสารพื้นฐานทางการเมืองที่ได้รับการรับรองจากทุกฝ่าย และควรได้รับการปฏิบัติอย่างเห็นผล จีนจะสนับสนุนความพยายามใดก็ตามที่เป็นไปตามทิศทางและเจตนาของข้อตกลงนี้ ด้านกระทรวงต่างประเทศสหรัฐแถลงว่า เนื้อหาหลักในการสนทนาคือเรื่องเสถียรภาพโลกและความเสี่ยงทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการที่รัสเซียจะเดินหน้ารุกรานยูเครน นายบลิงเคนกล่าวกับรัฐมนตรีต่างประเทศจีนว่า การลดความตึงเครียดและการใช้วิถีทางการทูตคือหนทางมุ่งไปข้างหน้าอย่างมีความรับผิดชอบ สหรัฐเตือนรัสเซียอย่ารุกรานยูเครน และเรียกร้องให้ทั้งรัสเซียและยูเครนกลับไปยึดมั่นตามข้อตกลงมินสก์ฉบับที่ 1 และฉบับที่ 2 ที่ลงนามในปี 2557 และ 2558 ตามลำดับ เพื่อยุติสงครามแยกดินแดนของกลุ่มชาวยูเครนพูดภาษารัสเซียที่อยู่ทางตะวันออกของยูเครน อย่างไรก็ดี จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการปฏิบัติตามข้อตกลงมินสก์ฉบับที่ 2 เนื่องจากรัสเซียยืนกรานว่า ไม่ได้เป็นคู่ความขัดแย้งในยูเครน จึงไม่จำเป็นต้องปฏิบัติตาม.-สำนักข่าวไทย

ทูตยูเครนหวังญี่ปุ่นร่วมคลี่คลายความตึงเครียดทางทหาร

โตเกียว 26 ม.ค.- เอกอัครราชทูตยูเครนประจำญี่ปุ่นคาดหวังว่า ญี่ปุ่นจะแสดงบทบาทร่วมกับนานาชาติมากขึ้นเรื่องการหาทางคลี่คลายความตึงเครียดทางทหารระหว่างยูเครนกับรัสเซีย และไม่คิดว่าความตึงเครียดนี้จะบานปลายกลายเป็นสงครามเต็มรูปแบบ นายเซอร์กี คอร์ซันสกี เอกอัครราชทูตยูเครนประจำญี่ปุ่นกล่าวที่สโมสรผู้สื่อข่าวต่างประเทศแห่งญี่ปุ่นในกรุงโตเกียววันนี้ว่า เขาคาดหวังว่าญี่ปุ่นจะร่วมกับสมาชิกชาติอื่น ๆ ในกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำหรือจี 7 (G7) หาทางแก้ไขความตึงเครียดดังกล่าวเพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าทางทหารและสนับสนุนการพัฒนาระบอบประชาธิปไตยในยูเครนอย่างสันติ เขาเชื่อว่า ญี่ปุ่นสามารถมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่ง เพราะเป็นสมาชิกจี 7 ชาติเดียวที่อยู่ในเอเชีย และเป็นประเทศเดียวในเอเชียที่คว่ำบาตรรัสเซีย หลังจากรัสเซียผนวกคาบสมุทรไครเมียของยูเครนเป็นของตนในปี 2557 นอกจากนี้ยังเป็นที่น่ายินดีที่นายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะ ของญี่ปุ่นและประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐได้หยิบยกสถานการณ์ยูเครนขึ้นหารือระหว่างการประชุมสุดยอดแบบเสมือนจริงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เอกอัครราชทูตยูเครนประจำญี่ปุ่นกล่าวด้วยว่า ไม่น่าจะมีความเป็นไปได้ว่ายูเครนและรัสเซียจะทำสงครามกันเต็มรูปแบบ แต่อาจมีความขัดแย้งระดับท้องถิ่นหลายครั้ง ขอย้ำว่ายูเครนไม่คุกคามใคร และไม่เคยคิดโจมตีรัสเซีย ยูเครนยึดมั่นอย่างเต็มเปี่ยมต่อการหาทางออกทางการทูต แต่ขณะเดียวกันชาวยูเครนก็มีความเด็ดเดี่ยวที่จะต่อสู้กับรัสเซียหากจำเป็น.-สำนักข่าวไทย

ธุรกิจเตือนสหรัฐเรื่องจะคว่ำบาตรรัสเซีย

วอชิงตัน 26 ม.ค.- บริษัทขนาดใหญ่และกลุ่มธุรกิจเตือนรัฐบาลและสมาชิกสภาสหรัฐให้มีความรอบคอบ หลังจากประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐขู่จะใช้มาตรการคว่ำบาตรก่อผลเสียหายร้ายแรงต่อรัสเซีย หากประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซียรุกรานยูเครน นายเจค โคลวิน ประธานสภาการค้าต่างประเทศแห่งชาติของสหรัฐซึ่งเป็นตัวแทนบรรษัทใหญ่ของสหรัฐที่ทำธุรกิจในรัสเซียกล่าวว่า รัฐบาลและรัฐสภาจะต้องมีรายละเอียดข้อมูลที่ถูกต้อง ในกรณีที่ต้องทำตามคำขู่เรื่องคว่ำบาตรรัสเซีย รายละเอียดดังกล่าวครอบคลุมเรื่องการพิจารณาถึงหลักการข้อยกเว้นความรับผิดและช่วงเวลาทยอยปิดตัว เพื่อให้ธุรกิจสามารถทำตามสัญญาและระเบียบที่มีอยู่ และการยกเว้นการคว่ำบาตรต่อเวชภัณฑ์ช่วยชีวิตและสิ่งจำเป็นด้านมนุษยธรรมอื่น ๆ ที่สอดคล้องกับนโยบายที่มีมายาวนานของสหรัฐ ที่ปรึกษาสมาชิกรัฐสภาสหรัฐคนหนึ่งเผยว่า บริษัทพลังงานหลายแห่งได้เข้าพบสมาชิกรัฐสภาโดยตรง เรียกร้องให้มีช่วงเวลาทยอยปิดตัว เพื่อไม่ให้ทรัพย์สินของบริษัทต้องถูกริบ ในกรณีที่ไม่สามารถปฏิบัติตามข้อตกลงทางธุรกิจในรัสเซีย นายวิลเลียม ไรนช์ อดีตเจ้าหน้าที่ระดับสูงในกระทรวงพาณิชย์สหรัฐอธิบายว่า ปกติแล้วการคว่ำบาตรการส่งออกจะทยอยทำเป็นขั้นตอนเพื่อให้ธุรกิจมีเวลาปิดตัว หรือแน่ใจว่าสินค้าส่งออกไปถึงที่หมายแล้ว แต่ในกรณีนี้สหรัฐอาจทำแบบกะทันหันเพราะกำลังอยู่ท่ามกลางวิกฤต ส่วนหลักการข้อยกเว้นความรับผิดที่จะคุ้มครองธุรกิจไม่ให้ต้องรับผิดทางกฎหมายหากละเมิดมาตรการคว่ำบาตรนั้น จะเป็นไปได้ต่อเมื่อเข้าเกณฑ์บางอย่าง  เช่น ยืนยันว่าสินค้าถูกขนส่งไปยังประเทศที่ถูกคว่ำบาตรโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยอาจส่งจากประเทศที่สาม ข้อมูลของสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐระบุว่า สหรัฐมีการค้าสินค้าและบริการกับรัสเซียมูลค่าราว 34,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.15 ล้านล้านบาท) ในปี 2562.-สำนักข่าวไทย

“ไบเดน” ว่าสหรัฐอาจคว่ำบาตร “ปูติน” หากรัสเซียบุกยูเครน

วอชิงตัน 26 ม.ค. – ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ ระบุว่า เขาจะพิจารณาใช้มาตรการคว่ำบาตรรายบุคคลต่อประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย หากรัสเซียบุกยูเครน ประธานาธิบดีไบเดนตอบคำถามผู้สื่อข่าวว่า เขาจะใช้มาตรการคว่ำบาตรรายบุคคลต่อประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ หากรัสเซียบุกรุกยูเครน การบุกข้ามพรมแดนยูเครนจะทำให้เกิดผลกระทบใหญ่หลวง และอาจเป็นการบุกรุกครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง แต่เน้นย้ำว่าสหรัฐไม่มีแผนส่งกองทหารไปยังยูเครนด้วยตัวเอง ทั้งนี้ การแสดงความเห็นของประธานาธิบดีไบเดนมีขึ้นในขณะที่ผู้นำชาติตะวันตกได้ย้ำเตือนว่ารัสเซียจะต้องชดใช้อย่างหนักหากบุกยูเครน ก่อนหน้านี้ รัสเซียได้กล่าวหาสหรัฐและกลุ่มชาติตะวันตกว่าทำให้สถานการณ์ตึงเครียดทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นเกี่ยวกับประเด็นระหว่างรัสเซียกับยูเครน และปฏิเสธว่ารัสเซียไม่ได้วางแผนบุกรุกยูเครน อย่างไรก็ดี รัฐบาลรัสเซียกลับส่งกองทหารกว่า 100,000 นายไปประจำการที่พรมแดนที่ติดกับยูเครนในขณะนี้.-สำนักข่าวไทย

ไอร์แลนด์ไม่ยินดีที่รัสเซียจะซ้อมรบใกล้ฝั่งไอร์แลนด์

บรัสเซลส์ 24 ม.ค.- รัฐมนตรีต่างประเทศไอร์แลนด์เผยว่า ไอร์แลนด์ไม่ยินดีที่รัสเซียจะซ้อมรบใกล้ชายฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ของไอร์แลนด์ ในช่วงที่สถานการณ์การเมืองโลกอยู่ในภาวะตึงเครียดจากเรื่องที่รัสเซียถูกกล่าวหาว่ามีแผนรุกรานยูเครน นายไซมอน โคฟนีย์ รัฐมนตรีต่างประเทศไอร์แลนด์เผยกับสื่อขณะเดินทางมาร่วมการประชุมเรื่องสถานการณ์รัสเซีย-ยูเครนกับรัฐมนตรีต่างประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปหรืออียูที่กรุงบรัสเซลส์ของเบลเยียมว่า รัสเซียเตรียมซ้อมรบในน่านน้ำสากลห่างจากชายฝั่งไอร์แลนด์ 240 กิโลเมตร แต่ยังอยู่ในเขตเศรษฐกิจจำเพาะ 200 ไมล์ทะเลของไอร์แลนด์ รัสเซียมีสิทธิจัดการซ้อมรบในน่านน้ำสากล และไอร์แลนด์ไม่มีอำนาจไปยับยั้ง แต่ได้แจ้งให้เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำไอร์แลนด์ทราบชัดเจนแล้วว่า เป็นเรื่องที่ไอร์แลนด์ไม่ยินดี เพราะไม่ใช่เวลาที่จะเพิ่มกิจกรรมทางทหารและความตึงเครียดในขณะที่กำลังมีสถานการณ์ในยูเครน อีกทั้งยังเป็นการซ้อมรบใกล้พรมแดนอียู และนอกชายฝั่งไอร์แลนด์ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไอร์แลนด์ไม่ยินดีและไม่ต้องการให้เกิดขึ้น ด้านนายโจเซฟ บอร์เรลล์ หัวหน้านโยบายต่างประเทศของอียูกล่าวว่า สมาชิกอียูกำลังแสดงความเป็นเอกภาพอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนในเรื่องสถานการณ์ในยูเครน และมีการประสานงานอย่างเข้มแข็งกับสหรัฐ ต่อข้อถามเรื่องอียูจะสั่งให้ครอบครัวเจ้าหน้าที่สถานทูตในยูเครนกลับประเทศตามอย่างสหรัฐหรือไม่ นายบอร์เรลล์ตอบว่า อียูยังไม่อยากทำเช่นนั้น และอยากฟังเหตุผลจากนายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐที่จะร่วมประชุมแบบออนไลน์ในวันนี้.-สำนักข่าวไทย

สหรัฐสั่งให้ครอบครัว จนท. สถานทูตเดินทางออกจากยูเครน

วอชิงตัน 24 ม.ค. – สหรัฐสั่งให้ครอบครัวของเจ้าหน้าที่สถานทูตสหรัฐประจำยูเครนเดินทางออกจากยูเครน และแจ้งเตือนพลเมืองไม่ให้เดินทางไปยูเครนกับรัสเซีย ในขณะที่ยูเครนกำลังตกอยู่ในสถานการณ์ตึงเครียดที่เพิ่มขึ้น หลังมีรายงานว่ารัสเซียกำลังวางแผนใช้ปฏิบัติการทหารต่อยูเครน กระทรวงต่างประเทศของสหรัฐระบุในแถลงการณ์ว่า ทางการได้สั่งให้ครอบครัวของเจ้าหน้าที่สถานทูตสหรัฐประจำยูเครนเดินทางออกนอกประเทศ อนุญาตให้เจ้าหน้าที่ที่ไม่มีภารกิจจำเป็นของสถานทูตสหรัฐประจำยูเครนทำเรื่องเดินทางกลับสหรัฐได้ และประกาศแจ้งเตือนให้พลเมืองสหรัฐที่อาศัยอยู่ในยูเครนพิจารณาการเดินทางออกนอกประเทศ เนื่องจากได้รับรายงานว่ารัสเซียกำลังวางแผนใช้กำลังทหารต่อยูเครน อย่างไรก็ดี รัสเซียได้ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าวว่าไม่เป็นความจริง และรัสเซียไม่ได้วางแผนบุกยูเครน แถลงการณ์ดังกล่าวยังระบุว่า กระทรวงต่างประเทศสหรัฐได้แจ้งเตือนพลเมืองไม่ให้เดินทางไปยูเครนกับรัสเซีย เนื่องจากสถานการณ์ตึงเครียดที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและอาจทำให้เกิดภัยคุกคามต่อพลเมืองสหรัฐ ขณะที่เจ้าหน้าที่กระทรวงต่างประเทศสหรัฐเผยว่า สถานทูตสหรัฐประจำยูเครนยังคงเปิดทำการตามปกติ แต่ได้เน้นย้ำถึงประกาศเตือนจากทำเนียบขาวสหรัฐว่า การบุกรุกของรัสเซียอาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา และรัฐบาลสหรัฐไม่สามารถที่จะอพยพพลเมืองออกจากยูเครนได้ในสถานการณ์เช่นนี้. -สำนักข่าวไทย

1 173 174 175 176 177 278
...