สงครามยูเครน : รัสเซียรุกหนักเข้าเมืองใหญ่อันดับสองของยูเครน

ยูเครน 2 มี.ค. – ทหารรัสเซียบุกเข้าถึงเมืองคาร์คีฟ เมืองใหญ่อันดับสองของยูเครนแล้ว และประกาศยึดเมืองใหญ่ทางใต้ได้สำเร็จ ส่วนกรุงเคียฟยังคงถูกปิดล้อมและโจมตีอย่างต่อเนื่อง


ตลอด 6 วันที่ผ่านมา ทหารรัสเซียได้รุมล้อมเมืองคาร์คีฟ ซึ่งเป็นเมืองใหญ่ของยูเครน ที่อยู่ใกล้พรมแดนของรัสเซีย มีการโจมตีอาคารที่ทำการฝ่ายบริหารท้องถิ่นและพื้นที่ชุมชนหลายแห่ง จนช่วงเช้ามืดเข้าสู่วันที่ 7 ในวันนี้ได้ระดมกำลังโจมตีด้วยจรวดอย่างหนัก นำกำลังพลร่มเข้าไปยังใจกลางเมือง แต่ยังไม่แน่ชัดว่ารัสเซียยึดเมืองนี้ไปได้อย่างเบ็ดเสร็จแล้วหรือยัง ฝ่ายรัฐบาลยูเครนแจ้งว่า ยังคงเกิดการสู้รบรุนแรงอยู่และมีการโจมตีสถานพยาบาลของทหารด้วย ที่เมืองคาร์คีฟนี้เอง ที่ยูเครนได้แสดงหลักฐานมากมายว่า รัสเซียก่ออาชญากรรมสงครามและโจมตีพลเรือน เพราะได้ทำลายสถานที่สาธารณะที่ไม่ใช่เป้าหมายทางการทหาร เช่น จตุรัสเสรีภาพ จตุรัสที่ใหญ่ที่สุดในยูเครน

ขณะเดียวกันมีหลายเมืองทางใต้ที่ถูกรัสเซียเข้ายึดครองแล้ว โดยเมื่อไม่กี่ชั่วโมงมานี้ นาย อิกอร์ โคนาเชนโก โฆษกของกระทรวงกลาโหมรัสเซีย ได้ประกาศว่า เข้ายึดเมืองแคซอน เมืองท่าทางใต้แล้ว ซึ่งหากเป็นจริงถือว่าเป็นเมืองใหญ่ที่สุดที่รัสเซียเข้ายึดได้ ก่อนหน้านี้มีรายงานการสู้รบอย่างหนักมีผู้เสียชีวิต 200 คน เขายังแถลงสรุปว่า ทหารรัสเซียได้ยึดพื้นที่ชายฝั่งทะเลอาซอฟทางใต้ของยูเครนได้แล้ว และปิดกั้นทางออกทะเลด้านนี้ของยูเครน ผ่านมาตั้งแต่วันแรกรัสเซียได้ทำลายเป้าหมายทางการทหารในยูเครน 1,325 แห่ง ทำลายรถถังและยานเกราะกว่า 500 คัน และระบบจรวดและขีปนาวุธมากมาย อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้พูดถึงการสูญเสียกำลังพลรัสเซียที่อาจสูงถึง 6,000 นาย


อย่างไรก็ตามมีรายงานข่าวกรองของรัฐบาลอังกฤษ ว่า รัสเซียกำลังมุ่งโจมตีอีกหลายเมือง แต่ก็กำลังประสบปัญหาด้านการส่งกำลังบำรุง ขาดแคลนอาหารและเชื้อเพลิง โดยเฉพาะกองทหารรัสเซียจำนวนมากที่ระดมมายังตอนเหนือของกรุงเคียฟในช่วง 2 วันที่ผ่านมา ยังไม่สามารถรุกคืบโจมตีระลอกใหม่ได้มากนัก แต่เมื่อคืนที่ผ่านมา รัสเซียได้ถล่มเมืองเล็กๆ ทางเหนือของกรุงเคียฟ ชื่อเมือง ซีโตเมียร์ ทำให้มีผู้เสียชีวิตทันทีอย่างน้อย 4 คน บ้านเรือนประชาชนพังเสียหายหลายสิบหลัง ก่อนนั้นช่วงบ่ายวานนี้ (1 มี.ค.) รัสเซียโจมตีเสาส่งสัญญาณโทรทัศน์ในกรุงเคียฟ ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 5 คน บริเวณนั้นเป็นที่ตั้งอนุสรณ์สถานรำลึกการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของนาซี ที่สังหารชาวยิวกว่า 30,000 คน ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองด้วย

เรื่องนี้ทำให้ นาย โวโลดีเมียร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดีของยูเครนได้แถลงล่าสุด ประณามรัสเซียว่ามุ่งทำลายขวัญและโจมตีทางมนุษยธรรม ทหารรัสเซียได้รับคำสั่งให้ลบทิ้งประวัติศาสตร์ ความเป็นชาติ และ ประชาชนยูเครน ในวันนี้มีกำหนดที่รัฐบาลยูเครนจะส่งตัวแทนไปเจรจากับรัสเซียอีกครั้ง หลังจากครั้งแรกเมื่อวันจันทร์ผ่านไปอย่างไร้ข้อตกลง นาย เซเลนสกี้ โจมตีรัสเซียว่า ระหว่างเจรจากลับรุกหนักไปพร้อมกันด้วย ครั้งนี้เขาจึงยื่นเงือนไขให้รัสเซียหยุดยิงก่อนร่วมโต้ะประชุม

สำหรับความเคลื่อนไหวนอกยูเครนนั้น ล่าสุดธนาคารโลก และไอเอ็มเอฟ ได้ประกาศสัญญาจัดหาเงินช่วยเหลือยูเครนหลายพันล้านดอลลาร์ ในทางตรงกันข้าม รัสเซียยังคงเผชิญกับแรงต่อต้านเพิ่มขึ้นจากหลายทาง หลายบริษัทระดับโลกที่ระงับการดำเนินกิจการหรือระงับการติดต่อค้าขายในรัสเซีย ไม่ว่าจะเป็น แอปเปิล จะยกเลิกการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของตนในรัสเซีย และปรับเปลี่ยนแอปพลิเคชันแผนที่ เพื่อปกป้องชาวยูเครน ส่วนฟอร์ดระงับโครงการร่วมทุน 3 แห่งรัสเซีย ฮาร์ลีย์-เดวิดสีน ก็งดส่งรถจักรยานยนต์ไปยังรัสเซีย และกูเกิลก็ได้ยกเลิกเสนอรายงานข่าวจากสำนักข่าวของรัฐบาลรัสเซีย ยิ่งไปกว่านั้น ด้านกิจการพลังงาน หลังจากที่ บีพี และ เชลล์ ได้ตัดลดการดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับรัสเซียแล้ว ล่าสุด เอ็กซอน โมบิล ประกาศยุติกิจการและยกเลิกการลงทุนทุกชนิดในรัสเซียด้วย


ส่วนที่สหรัฐ เพิ่งมีเหตุการณ์สำคัญทางการเมือง คือ การแถลงนโยบายประจำปีต่อรัฐสภา โดยปกติจะเป็นการสรุปผลงานและเสนอแนวนโยบาย แต่ครั้งนี้ นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐ ใช้โอกาสนี้เริ่มแถลงด้วยกรณียูเครนและประณามนายปูติน เขากล่าวว่า ในประวัติศาสตร์เราได้เห็นแล้วว่า เมื่อเผด็จการทำสิ่งชั่วร้ายแล้วไม่ถูกลงโทษ พวกเขาต่างก่อกรรมเพิ่มขึ้นอีก นายปูตินได้ใช้ความรุนแรงสร้างความวุ่นวายที่อาจกำลังรุกคืบในสงครามอยู่ แต่ในที่สุดแล้วเขาจะต้องถูกลงโทษและชดใช้อย่างหนัก ด้วยมาตรการที่มุ่งลงโทษชนชั้นปกครอง และคนวงในของรัฐบาลรัสเซีย นายไบเดนยังได้ประกาศเป็นครั้งแรกว่า เขาได้สั่งห้ามเครื่องบินและสายการบินสัญชาติรัสเซียเข้าไปในน่านฟ้าของสหรัฐด้วย

ในการแถลงครั้งนี้ นางอ็อกซานา มากาโรวา ทูตยูเครนประจำสหรัฐ ได้รับเชิญเข้าร่วมด้วยและได้รับกำลังใจอย่างอบอุ่น จากบรรดาส.ส. และ ส.ว. หลายคนที่อยู่ในห้องประชุมได้ประดับธงชาติ หรือสวมใส่ชุดสีเดียวกับธงชาติยูเครน .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พปชร.เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา

พปชร. เปิดตัวทัพใหญ่ ว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา เผยเลือดไหลเข้าพรรคพร้อมรับใช้ประชาชนอีกมาก

สาวถูกงูเห่ากัดใช้เบตาดีนทา สุดท้ายถูกหามเข้า ICU

อุทาหรณ์ สาวโพสต์โดนงูเห่ากัดตอนตี 5 ล้างแผล ทาเบตาดีนสู้พิษงู ลุกไปเข้าเวรเช้าต่อ ก่อนภาพตัด ถูกหามเข้าไอซียู

ตร.ไซเบอร์บุกค้น 9 จุด รวบรอบ 2 “มินนี่” เจ้าแม่เว็บพนัน

ตำรวจ บช.สอท. นำกำลังพร้อมหมายค้น ปูพรม 9 จุด ทั้งในกรุงเทพฯ จังหวัดเลย และจังหวัดใกล้เคียง จับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายพนันออนไลน์ “มินนี่” กว่า 30 หมายจับ

เตือนพายุฤดูร้อนไทยตอนบน ฉ.1 มีผล 6-8 มี.ค.นี้

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน ฉบับที่ 1 มีผลกระทบช่วงวันที่ 6-8 มี.ค.68 เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง

ข่าวแนะนำ

ครู-ผู้ปกครอง ห่วงยกเลิก “ทรงผมนักเรียน” กระทบระเบียบวินัย

ครูและผู้ปกครองใน จ.ขอนแก่น แสดงความกังวล หลังศาลปกครองสูงสุด สั่งยกเลิกกฎกระทรวง ข้อกำหนด “ผมทรงนักเรียน” ห่วงการปล่อยเสรีอาจกระทบต่อระเบียบวินัยและความเรียบร้อยของนักเรียน ขณะที่นักเรียนจำนวนมากพอใจคำตัดสินดังกล่าว

อากาศร้อนจัด หนุ่มขับเก๋งย่องขโมยแอร์ครบชุด

อากาศร้อนจัด หนุ่มขับเก๋งย่องขโมยแอร์ครบชุดจากร้านแอร์ กลางเมืองสมุทรสงคราม เชื่อคนร้ายมีความรู้เรื่องแอร์ เพราะเลือกหยิบชุดเดียวกัน

นายกฯ ชูซอฟต์พาวเวอร์ไทย บนเวที “ITB Berlin 2025”

นายกฯ ชู soft power ไทย บนเวทีท่องเที่ยวโลก “ITB Berlin 2025” ผลักดันเมืองน่าเที่ยว 18 จังหวัด มุ่งขับเคลื่อนให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวระดับโลก ตั้งเป้าสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว 3.5 ล้านล้านบาท

Trudeau tells Trump that tariffs are 'very dumb,' says Canada striking back

ประเทศคู่ค้าตอบโต้กำแพงภาษีสหรัฐ

ออตตาวา 5 มี.ค.- ประเทศคู่ค้าขนาดใหญ่ของสหรัฐ ทั้งแคนาดา เม็กซิโก และจีน ออกมาตรการด้านภาษีและมาตรการอื่น ๆ ตอบโต้มาตรการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ ทั้งนี้หลังจากมาตรการของสหรัฐที่เก็บภาษีสินค้านำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโกเป็นร้อยละ 25 มีผลตั้งแต่วันที่ 4 มีนาคม นายจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดาแถลงในอีกไม่กี่ชั่วโมงต่อมาว่า เป็นมาตรการที่โง่เขลาอย่างยิ่ง และแคนาดาได้มีมาตรการโต้กลับด้วยการเก็บภาษีในอัตราร้อยละ 25 ทันทีกับสินค้าของสหรัฐมูลค่า 30,000 ล้านดอลลาร์แคนาดา (ราว 701,115 ล้านบาท) และจะเก็บในอีก 21 วันกับสินค้าสหรัฐมูลค่า 125,000 ล้านดอลลาร์แคนาดา (ราว 2.9 ล้านล้านบาท)   ขณะที่ร้านจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ขนาดใหญ่ในแคนาดาต่างพร้อมใจกันเก็บเหล้าและไวน์ที่นำเข้าจากสหรัฐออกจากชั้นวางและยังเชิญชวนให้ผู้บริโภคหันไปซื้อสินค้าที่ผลิตเองในประเทศแทน  ผู้ผลิตคราฟต์เบียร์รายหนึ่งเปิดเผยว่า จะเพิ่มการใช้วัตถุดิบในประเทศเป็นหลัก แทนวัตถุดิบที่เคยนำเข้าจากสหรัฐ  แต่วัตถุดิบจำเป็นบางอย่างต้องนำเข้าจากเยอรมนี ส่วนกระป๋องอลูมิเนียมสำหรับบรรจุเบียร์ที่เคยนำเข้าจากสหรัฐเพราะแคนาดาไม่ได้ผลิตนั้น จะเปลี่ยนไปซื้อจากจีนแทนซึ่งมีราคาถูกกว่า ด้านเม็กซิโก ประธานาธิบดีคลอเดีย เชนบามแถลงว่า การขึ้นภาษีของสหรัฐไม่มีความชอบธรรม เพราะที่ผ่านมาเม็กซิโกให้ความร่วมมือกับสหรัฐมาโดยตลอดในการแก้ปัญหาต่าง ๆ ทั้งเรื่องผู้อพยพและยาเสพติด ดังนั้นรัฐบาลเม็กซิโกจะมีมาตรการตอบโต้สหรัฐด้วยมาตรการด้านภาษีและมาตรการอื่น ๆ  โดยจะมีการแถลงรายละเอียดเกี่ยวกับมาตรการตอบโต้อีกครั้งในวันที่ 9 […]