เคียฟ 28 ก.ย.- กรุงเคียฟ นครหลวงของยูเครน เผชิญกับการระดมโจมตีด้วยโดรนและขีปนาวุธอย่างหนักในช่วงเช้าวันอาทิตย์ ซึ่งผู้สังเกตการณ์อิสระระบุว่า เป็นหนึ่งในการโจมตีครั้งใหญ่ที่สุดของรัสเซียต่อเมืองหลวงของยูเครนและภูมิภาคโดยรอบ นับตั้งแต่สงครามเต็มรูปแบบเริ่มต้นขึ้น
ไทมูร์ ทคาเชนโก (Tymur Tkachenko) หัวหน้าฝ่ายบริหารทางการทหารของกรุงเคียฟ กล่าวบนแอปพลิเคชัน “เทเลแกรม” (Telegram) ว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 3 ราย และบาดเจ็บประมาณ 10 ราย ในนครหลวง โดยหนึ่งในผู้เสียชีวิตได้รับการยืนยันว่าเป็นเด็กหญิงวัย 12 ปี แม้ว่าข้อมูลนี้จะยังไม่ได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการก็ตาม
ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน กล่าววันอาทิตย์ว่า รัสเซียได้เปิดฉากโจมตียูเครนตลอดคืนด้วยการใช้โดรนประมาณ 500 ลำ และขีปนาวุธกว่า 40 ลูก ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 4 ราย และโครงสร้างพื้นฐานของพลเรือนได้รับความเสียหาย
นายเซเลนสกีกล่าวบนแอปพลิเคชัน “เทเลแกรม” (Telegram) ว่า รัสเซียต้องการสู้รบและสังหารประชาชนต่อไป และสมควรถูกกดดันอย่างรุนแรงที่สุดจากประชาคมโลก
นายอันดรี ซีบีฮา (Andrii Sybiha) รัฐมนตรีต่างประเทศยูเครนกล่าวว่า รัสเซียได้เปิดฉากโจมตีทางอากาศ “ครั้งใหญ่” ต่อยูเครนด้วยการใช้ขีปนาวุธและโดรนหลายร้อยลูก เขาระบุว่า การโจมตีครั้งนี้เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรลงโทษรัสเซียให้เข้มงวดขึ้น เพื่อบีบให้รัสเซียยุติการรุกราน
ภูมิภาคอื่น ๆ ก็ได้รับผลกระทบจากการโจมตีครั้งนี้ด้วย โดยทางการยูเครนกล่าวว่า มีผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 16 ราย ในเมืองซาโปริซเซีย (Zaporizhzhia) ทางตอนใต้ ซึ่งในจำนวนนี้เป็นเด็ก 3 คน ภาพวิดีโอที่เผยแพร่ทางโซเชียลมีเดียในพื้นที่แสดงให้เห็นว่าอาคารหลายแห่งได้รับความเสียหายและเกิดเพลิงไหม้ในเมืองซาโปริซเซีย ส่วนที่กรุงเคียฟ ผู้เห็นเหตุการณ์ของรอยเตอร์รายงานว่า มีโดรนบินอยู่เหนือเมือง และเสียงปืนต่อต้านอากาศยานดังสนั่นเป็นเวลาหลายชั่วโมง นอกจากนี้ยังได้ยินเสียงระเบิดอีกด้วย
นา วิตาลี คลิทช์โก (Vitali Klitschko) นายกเทศมนตรีกรุงเคียฟ กล่าวว่า เกิดเพลิงไหม้ที่โรงพยาบาลโรคหัวใจของรัฐแห่งหนึ่งอันเป็นผลมาจากการโจมตี
โปแลนด์ซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้าน ได้สั่งปิดน่านฟ้าใกล้กับเมืองทางตะวันออกเฉียงใต้สองแห่ง และกองทัพอากาศได้สั่งเครื่องบินขับไล่ออกปฏิบัติการรับมือกับเหตุการณ์นี้.-813.-สำนักข่าวไทย