เคียฟ 3 มี.ค. – องค์การสหประชาชาติ หรือยูเอ็น ระบุว่า มีประชาชนอย่างน้อย 1 ล้านคนอพยพออกจากยูเครนนับตั้งแต่รัสเซียนำกำลังทหารบุกโจมตียูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ พร้อมเตือนว่าคลื่นผู้อพยพในระดับนี้อาจทำให้เกิดปัญหาวิกฤติผู้ลี้ภัยครั้งใหญ่ที่สุดในรอบศตวรรษ
สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติเผยว่า มีประชาชนอย่างน้อย 1 ล้านคนอพยพออกจากยูเครนตั้งแต่เมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 2 จากประชากรทั้งหมด 44 ล้านคนของยูเครน และเกิดขึ้นภายในระยะเวลาเพียง 7 วัน ทั้งยังคาดการณ์ว่าคลื่นผู้อพยพจะพุ่งขึ้นเป็น 4 ล้านคน และอาจมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นมากกว่านั้น ขณะที่เจ้าหน้าที่ของยูเอ็นและหน่วยงานอื่น ๆ กล่าวชื่นชมประเทศเพื่อนบ้านของยูเครนในการเตรียมความพร้อมรองรับคลื่นผู้อพยพระลอกใหม่ด้วยการให้ที่พักพิงในบ้านเรือน โรงกีฬา และอาคารต่าง ๆ
ในขณะเดียวกัน โฆษกสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ กล่าวว่า คลื่นผู้อพยพจากยูเครนที่มีจำนวนสูงในระดับนี้อาจทำให้เกิดปัญหาวิกฤตผู้ลี้ภัยครั้งใหญ่ที่สุดในรอบศตวรรษ ข้อมูลของยูเอ็นยังระบุว่า มีชาวยูเครนกว่า 500,000 คนที่อพยพไปยังโปแลนด์ ตามมาด้วยฮังการี 116,000 คน มอลโดวา 79,000 คน และสโลวะเกีย 71,200 คน.-สำนักข่าวไทย